“บุ๋ม” ไม่เล่นการเมือง ขอเป็นอีดาราที่กล้าพูด! เฉ่งอาหารกลางวันเด็กงี่เง่า อยากรื้อระบบกระทรวงศึกษาฯ

“บุ๋ม ปนัดดา” เผยภาพที่สวยงาม “เอก” บวช 12 วัน ดูนิ่งขึ้น ยอมรับอยากมีชีวิตที่สงบ อยากบวชบ้าง แต่ภาระหน้าที่ที่สร้างขึ้นมาทิ้งไม่ได้ เดินหน้ารณรงค์ข่มขืน = ประหาร อัดเดนทรชนข่มขืนศพ “กิ๊ฟ” โรคจิต อำมหิต จะเก็บไว้เพื่อ! อยากรื้อระบบกระทรวงศึกษาฯ อาหารกลางวันเด็กงี่เง่า ครูจน แต่ผอ. ขับเบนซ์ ไม่เล่นการเมือง ขอเป็นอีดาราที่กล้าพูด ดีกว่าถูกปิดปาก

สามี “เอก เอกริน นิลเศรษฐี” ซุ่มบวชเงียบ 12 วัน งานนี้ศรีภรรยา “บุ๋ม ปนัดดา วงศ์ผู้ดี” เผยว่าทำให้ได้เห็นภาพที่สวยงาม นิ่งขึ้น ไม่ติดเกม ในขณะที่ตนก็อยากบวชบ้าง แต่ทิ้งภาระที่สร้างไม่ได้

“เขาอายุ 35 ปีแล้ว ที่ผ่านมายังไม่เคยบวช เพราะติดปัญหาหลายๆ อย่าง แต่ตอนนี้ทุกอย่างนิ่งแล้ว ก็ถึงเวลาบวชแบบเงียบๆ ที่วัดในจังหวัดเชียงราย โดยมีพระอาจารย์ ว. วชิรเมธี ให้ความเมตตาในการขลิบผมและอวยพรให้ ก่อนจะเดินมาจังหวัดนครศรีธรรมราช เพื่อให้คุณยายอายุ 93 ปีได้ตักบาตร บวชทั้งหมด 12 วัน รวมถือศีลปฏิบัติธรรมด้วย ได้ฤกษ์สึกวันที่ 8 มิ.ย.นี้”

“บุ๋มมีโอกาสไปแสวงบุญบ่อย จนมีความรู้สึกอยากจะบวช เพราะอยากมีชีวิตที่นิ่ง แต่ด้วยภาระหน้าที่ สังคมที่สร้างขึ้นมา เราไม่สามารถทิ้งได้ เวลามีใครจะบวชเราเลยรู้สึกอนุโมทนาบุญด้วย กับคุณเอกก็เช่นกัน ได้แต่บอกให้เขาบวชให้เต็มที่ จัดแจงจองตั๋วเครื่องบินให้ครอบครัวเขา อำนวยความสะดวก สนับสนุนเขาเต็มที่ เพราะเราไม่มีลูกชาย เขาคือผู้ชายใกล้ตัวเราที่สุดที่ได้บวช วันที่เขาบวชเราแจกทานด้วยหนังสือธรรมะ เห็นชาวบ้านมารับแล้วรู้สึกสงบ สวยงามมาก ตัวคุณเอกเองก็ดูนิ่งขึ้น ไม่ติดเกมมากเหมือนสมัยก่อน ถือว่าเขาเป็นคนที่มีจิตใจแน่วแน่นมาก”

อัดเดนทรชนข่มขืน “กิ๊ฟ” โรคจิต อำมหิต อยากให้ประหาร ไม่เข้าใจ จะเก็บไว้เพื่ออะไร
“คือเคสนี้บุ๋มรู้สึกว่ามันรุนแรงเกินไป ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไรก็ตามที่คุณไปข่มขืนน้องเขา คือจะหาเหตุผลว่าคุณไปข่มขืนเพราะน้องเขาเมาจัดเหรอ มันก็ไม่ควร เขาเมาจัดก็ต้องพาไปส่งที่ปลอดภัยที่สถานีตำรวจหรือโรงพยาบาลก็ได้ แต่ไม่ใช่ลากไปข่มขืน สองต่อให้จะทวงหนี้คุณก็ไม่มีสิทธิ์ทำอย่างนั้น สามข่มขืนศพอันนั้นก็คือโรคจิตดีๆ นี่เองที่คิดไตร่ตรองขนาดนี้คุณไม่ใช่โรคจิต คุณคือคนอำมหิต ดังนั้นต่อให้ชั้นตายแล้วคุณก็ไม่มีสิทธิ์มาข่มขืนร่างชั้น นี่คือความรู้สึกของบุ๋ม น่ากลัวเกินไปค่ะ”

“คือเรื่องข่มขืนแล้วฆ่า สนับสนุนให้ประหารอยู่แล้ว เพียงแต่ว่า ณ ตอนนี้ อย่าง เกม วันชัย เขาก็ไม่ประหาร บุ๋มก็ไม่เข้าใจ แต่เราไม่ใช่คนโหดนะคะแต่แค่ถามว่าเก็บไว้เพื่อ แล้วทำไมไม่เอางบประมาณที่เลี้ยงคนพวกนั้นมาให้เด็กๆ กำพร้า เด็กยากจนที่เขาอยากจะมาเรียนหนังสือไม่ดีกว่าเหรอ บางทีเราไม่สามารถดูแลประชากรได้ทั้งหมด เราควรจะเลือกประชากรที่มีคุณภาพ”

กฎหมายเมืองไทยอ่อน เดินหน้าต่อให้เรื่องไม่เงียบ
“กฎหมายบ้านเราไม่อ่อน แต่เราไม่ทำให้ชัดเจน แต่อย่างกฎหมายที่อ่อนก็คือเรื่องของสัตว์ บุ๋มก็รณรงค์ต่อเนื่องเรื่องข่มขืนเท่ากับประหาร อย่างคำพูดบุ๋มมีบางสื่อเอาไปใช้ก็ยินดีค่ะเพื่อให้เป็นพลัง ให้เรื่องไม่เงียบ และเป็นพลังของผู้หญิงที่สำคัญยินดีที่จะเป็นเสียงใหญ่ให้สาวๆ ทุกคน เพราะว่ากฎหมายที่บุ๋มทำปี 57 แต่ก่อนโทษปรับข่มขืน คือ 8,000 บาท ตอนนี้เราได้มา 80,000 - 400,000 แล้ว แต่ยกเลิกอภัยโทษปี 58 สำหรับข่มขืนแล้วฆ่า หรือเคสพวกนี้ไม่รอด”

“อันนี้เราขอได้แล้วนะคะ จะไม่มีเคสสำหรับข่มขืนแล้วฆ่า ข่มขืนด้วยความรุนแรง ข่มขืนในสันดานเช่นตาข่มขืนหลาน พ่อข่มขืนลูก เคสอย่างนี้จะไม่ได้รับการอภัยโทษ สิ่งสำคัญเราไม่ได้ต้องการลงโทษเขาเพิ่ม เพราะคุณได้รับโทษตามจำนวนปีที่ศาลท่านสั่งอยู่แล้ว แต่ว่าขอเวลาให้กับคนที่เรียกว่าเหยื่อได้มีการปรับสุขภาพจิต หนีได้ทัน ไม่ใช่ 4 ปี สารภาพเหลือ 2 ปี ออกมาได้แล้ว ดังนั้น ก็จะพยายามสู้ต่อไปแล้วก็เท่าที่จะทำได้ แล้วก็ถ้าผู้ใหญ่ท่านเปิดใจมากกว่านี้ยินดีเข้าไปประชุม ยินดีที่จะใช้เวลาจากงานของเรา ถ้า ณ วันนี้บุ๋มยังใช้พลังของบุ๋มได้แล้วทำเพื่อสังคมได้ บุ๋มยินดีค่ะ”

ต้องแก้ทั้งระบบ ปลงตกคำเดียวที่ทำอะไรไม่ได้ คือไม่มีงบ
“ถามว่ามีผู้ใหญ่ยื่นมือมาช่วยมั้ย เอางี้ตอนนี้บุ๋มก็เข้าไปแม้แต่เรือนจำ คือเข้าไปศึกษาระบบใหม่ทั้งหมดเลยคนที่รับโทษแล้วเป็นยังไงอยู่ตรงไหน เรือนจำบอกเขาทำอะไรไม่ได้ เขาไม่ได้อยากเก็บนะนักโทษเขาก็ล้นอยู่ แค่ไม่ได้รับคำสั่งจากข้างบนลงมาเท่านั้นเอง มันต้องแก้กันทั้งระบบ ที่ผ่านมารัฐบาลไทยหรือการจัดการต่างคนต่างดูแลกันเองและตัวเอง แล้วเราไม่คุยกัน แล้วคำเดียวที่ทำอะไรไม่ได้เลยคืองบจำกัด งบหมด งบไม่มี”

ไม่เล่นการเมือง อยากอยู่อย่างสงบ บอกระบบพัฒนายาก ถ้าคนกลุ่มเดิมยังบริหาร แต่อยากเข้าไปดูแลเรื่องการศึกษา อัดอาหารกลางวันเด็กงี่เง่า งบครูน้อย แต่ผอ. ขับเบนซ์ ขำๆ คงโดนตั้งแต่ 3 วันแรก
“ให้ดิฉันเข้าไปอยู่ในสภา 3 วัน แล้วดิฉันจะรีบออกมา (หัวเราะ) ดิฉันจะให้ทุกอย่างผ่านโดยเร็วที่สุด เรื่องเล่นการเมืองคงไม่ ปล่อยดิฉันอยู่อย่างสงบสุขดีกว่ามั้ยคะ คือเราเคยเป็นนักวิชาการในรัฐบาลหลายๆ รัฐบาลมาแล้ว ทุกขั้ว ในนามของนักวิชาการ เพราะอุตส่าห์เรียนจบดอกเตอร์ ปริญญาโทตั้ง 2 ใบ เซอร์ 8 ใบ เพียงแต่ว่าเราก็ไม่ได้อยากจบปริญญาเอกอย่างเดียว เราอยากใช้ความรู้ของเราพัฒนาประเทศชาติ พอเข้าไปปุ๊บเราเห็นอะไรหลายๆ อย่างว่าพัฒนาไปได้ยากมากถ้ายังเป็นคนกลุ่มเดิมๆ บริหารอยู่ ดิฉันพูดแรงไปมั้ย แต่ถ้าให้ไปลงเลือกตั้งไปยืนเป็นวอลเปเปอร์ไม่ไปค่ะ แต่ถ้าให้ไปแล้วบุ๋มมีอำนาจหน้าที่บริหารงานชั้นจะไปดูแลเรื่องการศึกษาไทย ทำไมอาหารกลางวันเด็กงี่เง่าขนาดนี้ งบครูมันน้อยมากค่ะ ผอ. บางคนขับเบนซ์อ่ะ ดิฉันคงโดนยิงตั้งแต่ 3 วันแรก (หัวเราะ)”

“อยากเข้าไปกระทรวงศึกษาฯก่อน แต่ว่าเรารู้ว่านี่คือพื้นฐานของประเทศไทยแล้วเราเห็นอะไรอีกเยอะว่าเรายังไปไม่ถูกทาง โดยเฉพาะลูกบุ๋มขึ้น ม.1 แล้วรู้เลย เรียนอัดทุกวิชา มันใช่เหรอ เด็กแต่ละคนมันไม่เก่งทุกด้านหรอก ไม่มีทางเป็นไปได้ ทำไมเราไม่ค้นหาตัวตนของเด็กตั้งแต่เขายังเล็กๆ แล้วเราดันให้ถูกทาง แล้วอย่าปลูกฝังค่านิยมให้ทุกคนต้องจบปริญญาตรี”

“คนติดต่อมามีเยอะค่ะ แต่ปฏิเสธหมดค่ะ เพราะว่าอยากเป็นที่รักของประชาชนอย่างนี้ดีกว่าค่ะ อยากพูดอะไรแล้วเต็มปากเต็มคำ ว่าไม่เห็นด้วย เป็นเสียงให้ประชาชน เป็นอีดาราที่กล้าพูดดีกว่า แต่ถ้าอยู่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งปุ๊บปากมันจะโดนปิดทันที”

(ติดตามทุกข่าวสารในแวดวงบันเทิงทั้งหมดได้ที่https://mgronline.com/entertainment)