“น้ำหวาน เดอะเฟส” สละโสดเรียบง่าย ไม่มีเพื่อนเจ้าสาว อุบตอบแหวนเพชร สินสอดเป็นของชิ้นใหญ่ที่เจ้าสาวอยากได้มาตั้งแต่เกิด บอกพบรักในรายการทางช่อง 3 คบกัน 5 ปี รักๆ เลิกๆ มาตลอด เผยคำสัญญาน้ำตาซึม จะอยู่เคียงข้างกันไม่จากไปไหน อีก 4 ปีลุยปั๊มทายาท แพลนฮันนีมูนยุโรป
เป็นงานวิวาห์ที่เรียบง่ายจริงๆ สำหรับ “น้ำหวาน เดอะเฟส” หรือ “รักษ์ณภัค วงศ์ธนทัศน์” ซึ่งเมื่อช่วงบ่ายวันนี้ (8 พ.ค.) เข้าประตูวิวาห์กับเจ้าบ่าว “ดร.ณัฐวุฒิ ม้าแก้ว” หรือ “ณัฐ” นักธุรกิจเต็นท์รถซุเปอร์คาร์ ณ BENEDICT STUDIO โดยทั้งคู่จูงมือให้สัมภาษณ์ว่าการแต่งงานในวันนี้ไม่มีเพื่อนเจ้าสาว และไม่มีเพื่อนเจ้าบ่าว ไม่มีพิธีอะไรมากมาย อยากให้อบอุ่นและเป็นกันเอง
น้ำหวาน : “เป็นธีม Rose Gold, Pink Gold, Gold ค่ะ งานในวันนี้ไม่มีเพื่อนเจ้าสาวและไม่มีเพื่อนเจ้าบ่าว เพราะเราคุยกันแล้วว่าเราอยากจัดงานแต่งที่เรียบง่าย ไม่ต้องมีพิธีอะไรเยอะ อยากให้ทุกคนมางานแล้วสนุก อบอุ่นเป็นกันเองมากกว่าค่ะ ตอนพี่เขาขอแต่งงานก็มีครอบครัวด้วยค่ะ มีไปนัดกินข้าวกัน ไปคุยกันส่วนตัว”
ณัฐ : “สองครอบครัวครับ”
อุบตอบตัวเลขสินสอด เจ้าบ่าวบอกให้ของชิ้นใหญ่ที่เจ้าสาวอยากได้ตั้งแต่เกิด ทั้งชีวิตที่หาได้คือสินสอดที่จะให้
น้ำหวาน : “พี่เขาก็ให้มาแล้วแหละ แต่ขอไม่บอกเป็นตัวเลข”
ณัฐ : “คือไม่ได้บอกเป็นตัวเลข แต่ให้เป็นของชิ้นใหญ่ที่เจ้าสาวอยากได้มาตั้งแต่เกิด และผมไม่ได้มองว่าสินสอดจะต้องเป็นจำนวนเท่าไหร่ มองว่าทั้งชีวิตที่เราหามาได้นั่นคือสินสอดที่ผมต้องการจะให้เขา เรื่องเรือนหอจริงๆ แล้วผมก็มีบ้านของตัวเอง พอแต่งงานไปก็อยากให้เขาเข้ามาอยู่ที่บ้าน แต่ก็มีแพลนว่าจะสร้างบ้านให้เขาเพิ่มด้วย ก็เป็นเรื่องของอนาคตครับ”
น้ำหวาน : “หลังแต่งงาน จริงๆ เราก็ใช้ชีวิตปกติอย่างที่เคยใช้มา หลังแต่งงานเราก็วางแพลนไว้ว่าจะมีไปฮันนีมูนกันที่ยุโรป คิดว่าประมาณ 2 อาทิตย์ค่ะ แต่ช่วงเดือนไหนต้องดูคิวอีกทีค่ะ (หัวเราะ)”
ณัฐ : “คิวหลักๆ น่าจะเป็นที่เจ้าสาวมากกว่า เจ้าสาวคิวแน่น”
ไม่ห้ามเรื่องภาพเซ็กซี่
น้ำหวาน : “ไม่ค่ะ จริงๆ หนูก็รับงานปกติ ส่วนในเรื่องของเซ็กซี่เวลาไปออกงานเราก็เซ็กซี่อยู่แล้ว พี่เขาก็ไม่ติด ใช่มั้ย (หัวเราะ)”
ณัฐ : “ทำใจมาตั้งแต่แรกอยู่แล้ว ทำใจตั้งแต่เข้าวงการตั้งแต่แรกสุดเลย”
น้ำหวาน : “เรื่องเซ็กซี่ก็คงปกติเหมือนตั้งแต่แรก แต่ถ้ามีในส่วนของชุดว่ายน้ำก็อาจจะต้องมีคุยกันบ้าง (หัวเราะ) แต่ปกติพี่เขาก็ไม่ได้ว่าอะไรค่ะ”
ไม่วางแพลนเรื่องทายาท แต่คาดอีก 4 ปีค่อยมีทายาท
น้ำหวาน : “ยังค่ะ หนูเพิ่งเข้าวงการ อยากจะทำงานตรงนี้หาประสบการณ์ตรงนี้ก่อน เพราะโอกาสช่วงนี้มันเข้ามาแล้ว หนูก็อยากจะทำตรงนี้ให้มันดี ก็คุยกันไว้ว่าน่าจะอีกประมาณ 4 ปีค่ะ”
ณัฐ : “สักพักครับ เอาให้ทุกอย่างลงตัวก่อนก็น่าจะโอเค”
รักๆ เลิกๆ เป็นเวลา 5 ปี ตั้งแต่เจ้าสาวประกวดรายการทางช่อง 3 ประทับใจเลิก 2 ครั้ง กลับมาคบกันฝ่ายหญิงแก้ไขข้อเสีย เป็นผู้ใหญ่ทีละก้าว จนรู้สึกว่าถึงเวลาที่จะใช้ชีวิตคู่ด้วยกัน
ณัฐ : “ผมกับน้ำหวานคบกันมาประมาณ 5 ปี ก็มีทั้งคบทั้งเลิกในช่วงเวลานั้น ผมเจอน้ำหวานครั้งแรกตอนเขาไปประกวดรายการหนึ่งทางช่อง 3 วันแรกที่เขาประกวดก็เหมือนเด็กคนหนึ่งที่เข้าไปเทรนด์ เราเจอแล้วรู้สึกว่าน้องคนนี้น่ารัก ผมก็ให้ทีมงานเข้าไปคุยให้ก็เลยได้คุยกันเป็นเพื่อนกันและสานต่อกันมาเรื่อยๆ สิ่งที่ทำให้ตัดสินใจแต่งงาน มันถึงจุดนั้นแล้วแหละ”
น้ำหวาน : “มันถึงจุดด้วยและพี่เขาทำให้เรารู้ว่าคนนี้แหละที่จะมาดูแลปกป้องเราได้ ไม่ใช่แค่ด้วยคำพูดว่าฉันจะดูแลเธอ จะปกป้องเธอ แต่พี่เขาทำทุกอย่างให้เราเห็นว่าเขาพร้อมแล้วที่จะปกป้องเรา ที่จะดูแลครอบครัวเราด้วย เราเคยเลิกกันไป 2 รอบ”
ณัฐ : “ก็คงคล้ายหลายๆ คู่ที่วันหนึ่งเราเจอปัญหาแล้วตัดสินปัญหาด้วยการเลิกกัน สุดท้ายคนที่ต้องคู่กันก็ต้องกลับมาคู่กันอีก ก็จะมีเหตุการณ์ที่ทำให้เรากลับมาคู่กันอีก สิ่งที่ประทับใจในตัวเขาทำให้ตัดสินใจแต่งงาน คือทุกครั้งที่เลิกกันจะมีข้อเสียทำให้เราเลิก แต่ทุกครั้งที่กลับมาข้อเสียต่างๆ โดนแก้ไข ทุกครั้งที่กลับมาคุยเขาเป็นผู้ใหญ่ขึ้นก้าวไปแต่ละก้าวด้วยกันจนวันนี้เรารู้สึกว่าถึงเวลาแล้วที่จะใช้ชีวิตด้วยกัน”
น้ำหวาน : “เรื่องลดภาพเซ็กซี่ เราคุยกันแล้วและคุยกับผู้ใหญ่ด้วย พี่เขาก็ไม่ติดอะไร ถ้ามาคุยในฝั่งของหนูเราเพิ่งเข้าวงการ เราจะแต่งงานเลย ละครก็ยังถ่ายอยู่แรกๆ เราก็กังวลว่าจะเป็นปัญหามั้ย แต่เราก็ไปปรึกษาผู้จัดการส่วนตัวว่าถ้าเราจะแต่งงาน จะติดอะไรมั้ย ผู้จัดการก็บอกว่าไม่มีปัญหาอะไรเลย การแต่งงานมันคือชีวิตของเรา มันคืออีกก้าวหนึ่งของเราที่ต้องก้าวต่อไป ซึ่งหลังจากนี้ก็มีคิดจะทำโปรเจกต์หนึ่ง คุยกันไว้แล้ว เป็นโปรเจกต์ระยะยาวที่ทำไว้เพื่อลูกหลานของเราด้วย”
ผู้ใหญ่สองฝ่ายไม่มีปัญหา ถึงเวลาก็ยินดีกับการสร้างครอบครัว
ณัฐ : “ที่บ้านก็โอเค ทุกครั้งที่มีแฟนก็จะเล่าให้ที่บ้านฟัง พอเจอคนนี้ก็เล่าให้ฟัง ใช้ช่วงเวลาหลายปีให้ครอบครัวทำความรู้จักกับเขาว่าเป็นคนยังไง เวลาเราไปที่บ้านครอบครัวฝ่ายหญิงก็แนะนำตัวเข้าหาผู้ใหญ่ ทั้งสองครอบครัวก็ไม่มีปัญหา สองบ้านก็ไม่ได้เยอะถึงเวลาที่เราจะสร้างครอบครัว เลี้ยงตัวเองและครอบครัวได้ก็ยินดีกับเราทั้งคู่ เรื่องหลานเขาบอกว่าเอาเป็นเรื่องของธรรมชาติ ถ้ามันต้องมีครับ”
เจ้าสาวน้ำตาซึม สัญญาจะอยู่ข้างๆ ไม่ไปไหน
ณัฐ : “จริงๆ คำว่าสัญญามันคงคล้ายๆ กับคนรักหลายๆ คน ถือว่าวันนี้เป็นวันสำคัญที่สุดวันหนึ่งในชีวิตที่เอาผู้หญิงคนหนึ่งเข้ามาในชีวิตเรา เราก็แค่สัญญาว่าจะดูแลเขาให้ดีที่สุด เป้าหมายของผมคือทำให้คนรอบข้างที่เรารักมีความสุขมากที่สุด ก็จะต้องมีทั้งแฟน คนครอบครัวเรา และคนในครอบครัวเขา”
น้ำหวาน : “จริงๆ คำมั่นสัญญาก็ไม่ได้มีอะไร แต่ก็จะบอกพี่เขาเสมอว่าเวลาที่เขามีปัญหาหรือไม่สบายใจหรืออะไรก็ตาม หนูก็จะอยู่ข้างๆ ตรงนี้ ไม่ไปไหนแล้ว (น้ำตาซึม และหันไปมองณัฐที่น้ำตาซึมอยู่ข้างๆ เช่นกัน) ไม่เคยพูดเลย มันเหมือนที่ผ่านมาเราคบกันแบบเพื่อนพี่น้อง คือเราไม่ได้คบกันแบบฉันเป็นแฟนเธอ วันนี้เธอห้ามออกจากบ้าน คือถ้าเธออยากไปเที่ยวก็ไป จะไม่ห้าม เราคบกันแล้วสบายใจ คุยได้ทุกเรื่อง พอมาวันนี้ไม่เคยต้องมานั่งพูด แต่อย่างที่บอกไปว่าหนูกับพี่เขาผ่านอะไรด้วยกันมาเยอะมากแล้ว พอมาถึงวันนี้ที่พี่เขาและหนูยืนอยู่ตรงนี้ มันเป็นช่วงเวลาที่ดีแล้วสำหรับวันนี้ค่ะ”
อุบตอบแหวนเพชรกี่กะรัต เป็นแหวนที่คุณพ่อฝ่ายชายให้คุณแม่
น้ำหวาน : “ไม่รู้ค่ะ แต่ว่าแหวนวงนี้”
ณัฐ : “เป็นแหวนที่คุณพ่อให้คุณแม่ของผมครับ”