เจ็บช้ำจากความสูญเสีย “แม่ - ป้า” ปล่อยโฮลั่น ยกมือกราบขอวิงวอนทุกสื่อยุติการประโคมข่าว “น้องอิน” หยุดแชร์ทุกอย่าง อยากให้เห็นถึงคุณงามความดีในวาระสุดท้ายของชีวิต ยันเป็นเด็กกตัญญูจนวาระสุดท้ายของชีวิต ป้าฝากเป็นสังคมเมืองพุทธ ทำไมมองแต่เรื่องเล็กๆ น้อยๆ ที่ไม่ควรเห็น
หลังจากที่ “น้องอิน ณัฐนิชา เชิดชูบุพการี” อดีตดาราเด็กเกิดอุบัติเหตุขับรถยนต์ส่วนตัวชนต้นไม้จนเสียชีวิต ต่อมาก็มีการพูดถึงกรณีที่ดาราสาวยอดกตัญญูบึ่งรถจากพัทยาไป จ.อยุธยา เป็นการเร่งด่วน ว่า เกิดจากเหตุผลอะไร ฝ่ายเพื่อนบอกว่าไปหาคุณพ่อ แต่ “บิณฑ์ บรรลือฤทธิ์” ก็ออกมาเผยว่าไปหาแฟนสาวหล่อจนกลายเป็นประเด็นดรามาทางสังคม ล่าสุด “ลัดดา เชิดชูบุพการี” คุณแม่น้องอิน และ “อัจฉา โคจรสวัสดิ์” ป้าน้องอิน ซึ่งบินมาจากเชียงใหม่ นัดสื่อมวลชนเพื่อเปิดใจถึงกรณีดังกล่าวเป็นครั้งสุดท้าย โดยระหว่างให้สัมภาษณ์ทั้งคู่ได้ร้องไห้ตลอดเวลา พร้อมยกมือขอวิงวอนให้ยุตินำเสนอข่าวน้องอิน อยากให้นึกถึงคุณงามความดีน้องอินมากกว่า
คุณแม่ : “วันนี้ขอชี้แจงเรื่องที่เป็นประเด็นก่อน ก่อนอื่นต้องขอขอบคุณสื่อมวลชนที่มากันวันนี้ สาเหตุที่ต้องออกมาแถลงข่าว เนื่องจากในขณะนี้ได้มีกระแสข่าวของน้องอินในหลายประเด็นและหลายช่องทาง ซึ่งมีทั้งข่าวลบและบวก เราในฐานะผู้สูญเสียจึงอยากขอเปิดใจในการให้สัมภาษณ์กับสื่อทุกช่องทุกทาง ซึ่งการชี้แจงในครั้งนี้จะเป็นครั้งสุดท้ายที่จะพูด จึงอยากขอความเห็นใจจากทุกท่านอยากขอให้จบเรื่องที่เป็นกระแสข่าว ณ ปัจจุบันนี้ซึ่งมีทั้งจริงบ้างไม่จริงบ้าง”
“อยากให้น้องจากไปอย่างสงบ เพราะตนเหลือเวลาอยู่กับน้องอินอีกแค่ 2 วันเท่านั้น วันพุธนี้น้องอินก็จะต้องจากเราไปตลอดชีวิตแล้ว (เสียงสั่นเครือและร้องไห้) จึงอยากขอร้องให้ทุกสื่อช่วยยุติการประโคมข่าวทุกเรื่องของน้องอินและยุติการแชร์ในทุกสื่อทั้งหมด รวมถึงอยากให้สังคมเห็นใจและเห็นถึงคุณงามความดีของน้องอินมากกว่า เพื่อให้น้องอินจากไปอย่างสงบที่สุดในวาระสุดท้ายของชีวิต”
ปล่อยโฮสนั่น ยันน้องอินเป็นเด็กกตัญญู วอนนึกถึงจุดที่ดีๆ ทำไมต้องนึกถึงจุดเล็กๆ น้อยๆ ของวัยรุ่น
คุณป้า : “ในนามของป้านะคะ ป้าเป็นป้าของน้องอินมาตลอดระยะเวลา 20 กว่าปี น้องอินโตมา เขาต้องเริ่มทำงานตั้งแต่เด็ก เขาเป็นเด็กที่มีความกตัญญู หนักเอา เบาสู้ สารพัดทุกเรื่องที่จะทำ สังคมไทยเราทำไมไม่นึกถึงจุดที่ดี ทำไมจะต้องไปนึกถึงจุดเล็กๆ น้อยๆ ที่น้องเขาเป็นวัยรุ่นทั่วไป ป้าขอนะคะ (ยกมือไหว้พร้อมปล่อยโฮหนัก) ขอไปถึงทุกๆ คน ให้เห็นใจครอบครัวเรา ที่เราต้องสูญเสียครั้งนี้ น้องอายุแค่นี้ เป็นเรื่องธรรมดามากด้วย ถ้าเกิดขึ้นกับครอบครัวไหนเราไม่รู้ว่าพวกคุณจะทนสภาพกับครอบครัวนี้ไปได้นานแค่ไหน”
“ทุกคนรู้มั้ยคะ ตลอดระยะเวลาที่น้องมีชีวิตอยู่ น้องต้องดูแลแม่ตามลำพัง ทั้งๆ ที่เราเป็นพี่ ป้าน้า อา ทำได้แค่คอยดูแลเขาอยู่ห่างๆ แต่เมื่อเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น ทำไมสังคมบ้านเราซึ่งเป็นสังคมพุทธจะต้องมองเห็นในจุดที่ไม่ควรจะมองเห็น ทำไมไม่ดูสิ่งที่น้องทำมาหากิน ลำบากตั้งแต่อายุ 4 ขวบ จนถึงปัจจุบัน แล้วน้องเขายังทำงานจนถึงวาระสุดท้าย”
“ป้าและครอบครัวขอความเห็นใจกับทุกๆ สังคมไทย ทุกๆ สื่อ ขอให้น้องอินไปดี เจอแต่สิ่งดีๆ พูดถึงเขาในเรื่องที่ดีๆ ได้มั้ยคะ ครอบครัวเราขอร้องนะคะ (ยกมือไหว้) ขอร้องไปถึงทุกๆ คนเลยค่ะ (ปล่อยโฮหนัก)”
ไม่มีอะไรจะพูดถึง “บิณฑ์ บรรลือฤทธิ์” เจ็บช้ำจากความสูญเสีย
“เราไม่มีอะไรจะพูดมากไปกว่านี้แล้วค่ะ เพราะเราสูญเสียเกินกว่าที่พวกคุณจะเข้าใจว่าเราสูญเสียลูกหลานไปในครั้งนี้ ในขณะที่เขาอายุยังน้อยมันเจ็บช้ำแค่ไหน ถ้าเกิดว่าพวกคุณทุกคนมายืนในจุดที่เรายืนอยู่ คุณจะรู้ว่าเราเจ็บช้ำทางร่างกายและจิตใจขนาดไหน เราขอนะคะ ถ้าจะพูดถึงน้องอิน ขอให้พูดถึงแต่เรื่องคุณงามความดี ที่เขาเป็นเด็กกตัญญูเลี้ยงดูแม่มาจนกระทั่งวาระสุดท้ายของชีวิต เราขอนะคะ (ยกมือไหว้) ขอบคุณมากจริงๆ ค่ะ”
กับกรณีที่ผู้สื่อข่าวถามถึงสาเหตุของการเกิดอุบัติเหตุในเรื่องของถนนหนทาง แม่และป้าได้กล่าวพร้อมกันว่า “ขอบคุณมากค่ะ” และก็เดินจากไป
(ติดตามทุกข่าวสารในแวดวงบันเทิงทั้งหมดได้ที่ https://mgronline.com/entertainment)
