“ธามไท” เชื่อใจ “โฟร์” โผล่จับมือ “กอล์ฟ” ที่เกาหลี บอกถึงฝ่ายหญิงจะอยู่กับกอล์ฟทุกวัน แต่ก็คุยกับตนตลอด คบ 4 ปีไม่ระบุสถานะ แต่โฟร์ก็น่าจะรู้ว่าพิเศษ โอเคถ้าทุกคนจะเรียกว่าแฟน ลั่นหวังว่าอีกฝ่ายจะคุยกับตนแค่คนเดียว
ที่ผ่านมาเหมือนยังกั๊กๆ ความสัมพันธ์ ระหว่าง “ธามไท แพลงศิลป์” กับ “โฟร์ ศกลรัตน์ วรอุไร” ล่าสุดพอมีภาพสาวโฟร์ จับมือ “กอล์ฟ พิชญะ นิธิไพศาลกุล” ที่เกาหลี งานนี้หนุ่มธามไทเลยเผยความชัดเจนในความสัมพันธ์ ยันถึงไม่เรียกว่าแฟน แต่ถ้าใครจะเรียกก็โอเค คบมา 4 ปีหวังว่าอีกฝ่ายจะรู้ว่าเป็นคนพิเศษ และหวังว่าอีกฝ่ายจะคุยกับตนแค่คนเดียวเท่านั้น
“ก็ดีอยู่เรื่อยๆ ครับ (มีภาพสนิทกอล์ฟ?) เขาสนิทกันมานานแล้ว ผมไม่ได้อะไร เราก็คุยกัน มีคนส่งรูปมาให้ดูว่าเหมือนเขาจับมือกัน ผมเลยรู้สึกว่ามันควรจะเป็นผมที่จับมือพี่กอล์ฟมากกว่า(หัวเราะ) เขาบอกว่าเขาเจ็บเท้าผมก็เข้าใจครับว่ามันเป็นการทำงาน ผมไม่ได้อะไร ผมว่าผมอยู่ในจุดที่เลยเรื่องของความหึงหวงมาแล้วก็เลยรู้สึกว่ามันโอเค ตอนที่เขาอยู่เกาหลีเราก็คุยกันทุกวัน ก็ไม่ได้รู้สึกว่ามันมีอะไรผิดปกติ ก็เชื่อใจเขาว่าไม่มีอะไร เราไม่เคยมีปัญหาอะไรกันเลย”
ไม่ได้กั๊กสัมพันธ์ แค่คบกันไม่ได้ฉูดฉาด ไม่อยากให้ฉาบฉวย
“เราคบกันเราก็อยากจะมีพื้นที่ส่วนตัว มันทำให้เรารู้สึกสบายๆ มันทำให้เราคุยกันได้นานขึ้น ไม่ฉูดฉาด ไม่ต้องให้ใครมารู้อะไรมากเรื่องของเรา เราก็คุยปกติ ถ้ามีอะไรผมก็พูดตรงๆ อยู่แล้ว ไม่ได้กั๊กความสัมพันธ์อะไร ผมก็ทำเต็มที่ของผมนะ บางทีคนก็ไม่ได้มาถาม ผมเลยไม่ได้พูดอะไร ผมไม่อยากให้มันฉาบฉวย มันจะอยู่ได้ไม่นาน ผมเป็นตัวเองของผมแบบนี้ไปเรื่อยๆ ดีกว่า”
“รูปคู่มีถ่ายกันตลอดครับ แต่ผมเขินๆ ที่จะลง แต่เราคุยกันทุกวัน ไปเที่ยวด้วยกันตลอด แบบนี้ผมว่ามันสบายใจกว่า ความจริงมีรูปเยอะนะ แต่ผมไม่ได้ลง ไม่ได้คิดเรื่องนี้เลย ผมว่าสิ่งที่เราเป็นอยู่ตอนนี้เราสบายใจแล้ว เราไม่ได้คุยกันเรื่องลงรูปคู่ แต่เราเลือกที่จะลงอะไรในแบบที่เราชอบเวลาที่เราไปเที่ยวด้วยกัน มันก็จะมีอะไรที่คล้ายๆ กันอยู่”
มองว่าแฟนก็โอเค เชื่อคบ 4 ปี โฟร์ต้องรู้ว่ามีอะไรพิเศษ คิดว่าอีกฝ่ายจะคุยกับตนแค่คนเดียว
“เขาก็โอเคนะ เราไม่มีสถานะเรียกกัน ผมก็คุยกับเขาอยู่คนเดียว แล้วคิดว่าเขาก็น่าจะคุยกับผมอยู่คนเดียวเหมือนกัน เหมือนเราก็รู้กันว่ามันพิเศษ นี่ก็ 4 ปีมาแล้วนะ จะไม่รู้ได้ยังไง ตัวผมเคยอยู่โรงเรียนชายล้วนมาตลอด ผมไม่เคยมีเพื่อนผู้หญิงเลย ผมก็ไม่รู้ว่าจะคุยยังไง ผมรู้สึกว่าพี่โฟร์เขาเข้าใจเรา แล้วเขาก็โตแล้ว เขาทำงานสายนี้มานานกว่าเรา คอยให้คำปรึกษา เขาไม่ได้เป็นผู้หญิงจ๋าอะไรขนาดนั้น เวลาคุยกับเขาผมรู้สึกว่าไว้ใจเขาได้ ถ้าคนจะมองว่าเราเป็นแฟนกันผมก็โอเคครับ แต่ตัวผมสองคนเราไม่ได้ระบุเรียกสถานะอะไรกันแบบนั้น ไม่ได้มีชื่อเรียก ไม่มีคำนิยามอะไรกัน”
“ห่างกัน 10 ปีผมเรียกเขาว่าเจ๊ เขาเรียกผมว่าธาม ไม่ก็ไอ้ธาม ต้องบอกว่าผมเป็นคนไม่ได้สวีตอะไรขนาดนั้น เวลาไปไหนเราไม่เคยปิด เรารู้สึกว่าเราเป็นตัวเองสบายใจกว่า”
(ติดตามทุกข่าวสารในแวดวงบันเทิงทั้งหมดได้ที่ https://mgronline.com/entertainment)