“น้องแนท” แฮปปี้หย่าผัวฝรั่ง เอาคนแก่ไม่ลง บอกตรงๆ ถึงสัมพันธ์ “โอ๊ค” อีกฝ่ายขอไลน์ก่อน มากกว่ากิ๊ก ยิ่งกว่าแฟน ห่วงใยซึ่งกันและกัน

“แนท เกศริน” แฮปปี้ ผัวฝรั่งขอหย่า ไม่หวังเรื่องสินสมรส บอกที่ผ่านมานับถือเหมือนคุณอา คุณลุง เป็นผู้มีพระคุณ เป็นผู้อุปถัมภ์ ลั่นตั้งแต่แต่งงานกันไม่เคยนอนด้วย เพราะทำใจไม่ได้ ฟุ้งซุ่มคุยผู้ชายคนใหม่แล้ว แจงสัมพันธ์ “โอ๊ค พานทองแท้” ไม่เคยมาจีบ แต่รู้จักกันมานานกว่า 10 ปี คุยกันได้ทุกเรื่อง เกินคำว่ากิ๊กหรือแฟน ก่อนโว รู้จักคนทุกระดับนะจ๊ะ แย้มเตรียมหวนเล่นหนัง พร้อมแก้ผ้า

มีข่าวแต่ละทีก็สร้างความฮือฮาได้ตลอด สำหรับดาวนู้ด “แนท เกศริน ชัยเฉลิมพล” ที่ออกมาเปิดเผยตั้งแต่ช่วงปีที่แล้วว่าจะหย่าขาดจากสามีฝรั่ง จนล่าสุดมามีข่าวว่าสนิทสนมกับ “โอ๊ค พานทองแท้ ชินวัตร” บุตรชายของอดีตนายกฯ “ทักษิณ ชินวัตร” ที่ล่าสุดมีการคอมเมนต์ข้อความหากันในไอจี ทำเอาคนสงสัยว่าคู่นี้ไปสนิทสนมกันตั้งแต่เมื่อไหร่ ซึ่งพอได้เจอตัวสาวแนทในงานแถลงข่าวเปิดตัวภาพยนตร์เรื่อง สายลับเกมส์โปม่อน 008 ณ ร้านอาหาร Water Side ถนนเกษตรนวมินทร์ สาวแนทก็เผยว่ากำลังดำเนินเรื่องการหย่ากับสามีอยู่ และครั้งนี้ก็เป็นฝ่ายสามีที่ตัดสินใจจะหย่าเอง

“ตอนนี้กำลังทำเรื่องหย่าอยู่ค่ะ ใกล้แล้ว จริงๆ เพิ่งคุยกันจริงๆ จังๆ เมื่อต้นเดือนที่ผ่านมานี่เองค่ะ เพิ่งเริ่มคุยกัน เขาก็ยังเฮิร์ตๆ อยู่ค่ะ ทั้งๆ ที่เขาเป็นฝ่ายขอหย่าเองนะคะ แต่ก็คงทำใจอยู่ค่ะ ต้องให้เวลานิดหนึ่ง เพราะเขาเป็นผู้ใหญ่ด้วย ถ้าถามถึงสาเหตุว่าทำไมถึงหย่า เป็นเพราะว่าเขาคงสงสารเราด้วยค่ะ เพราะรู้อยู่แล้วว่าสถานะเราคงไม่ใช่ที่เขาต้องการ คือมันอยู่ด้วยกันยาก เพราะเราอยู่กันคนละที่ด้วย ที่สำคัญคือมันไม่ได้ใช้ชีวิตอยู่ด้วยกัน และเขาเองก็มีครอบครัวที่เขาจะต้องดูแล และตัวเราเองก็เป็นเหมือนคนที่คอยสนับสนุนอยู่เบื้องหลัง แล้วเราไม่ได้ใช้ชีวิตคู่เหมือนสามีภรรยาทั่วไป”

“ที่ไม่ได้อยู่ด้วยกันก็เพราะเขาต้องดูแลครอบครัวเขาที่อเมริกา เราเองก็อยู่ที่นี่ เป็นแบบนี้มาตั้งแต่จดทะเบียนแล้วค่ะ ไม่ได้อยู่ด้วยกันตั้งแต่แรก ที่แนทไม่ได้ไปอยู่กับเขาที่นั่นเพราะกรีนการ์ดไม่ได้ค่ะ เพราะมันค่อนข้างยากเรื่องนี้ และที่สำคัญคือเขาไม่ได้มีเวลาถึงขนาดจะดำเนินเรื่องให้เราตลอด เขาก็อายุเยอะแล้ว และลูกหลานเขาก็มีเยอะพอสมควร เฉพาะลูกเขาก็ 4 - 5 คนแล้วค่ะ และหลานเขาก็ยั้วเยี้ยยังเด็กอยู่เลย”

“ตั้งแต่แต่งมาก็แยกกันตลอดเลยค่ะ เหมือนจดทะเบียนกันเฉยๆ จดปุ๊บก็ต่างคนต่างอยู่บ้านใครบ้านมัน คือเพราะเราไม่ได้มีความสัมพันธ์ตั้งแต่แรกแล้วค่ะ แต่ช่วงจดทะเบียน 1 - 2 ปีแรกยังได้เจอกันบ้างค่ะ ปีละ 1-2 ครั้ง แต่นี่ก็ไม่ได้เจอมาปีกว่าแล้ว ไม่ได้บินมาหาเลย และด้วยธุระอาชีพงานของเรามันไม่ตรงกัน เพราะถ้าเขามาเราต้องไม่รับงาน เพราะว่าเขาก็จะไม่มีเพื่อนอยู่ด้วย”

“จริงๆ เรื่องหย่าแนทตัดสินใจมาก่อนหน้านี้นานแล้ว หลายครั้งแล้ว ก็คุยกับเขามาตลอด แต่เขายังทำใจไม่ได้ แต่ครั้งนี้เขาเป็นคนตัดสินใจเอง แนทก็บอกเขาไปว่าถ้าคุณพร้อมเมื่อไหร่คุณก็ส่งเอกสารมา เพราะถ้าเขามาพร้อมเอกสารเขาก็ต้องมาอยู่กับเรานานขึ้น เพราะเอกสารมันต้องดำเนินเรื่อง ต้องใช้ระยะเวลาหลายวันในการแปล ก็ต้องหาพยานคนไทยเหมือนตอนที่จดทะเบียนเลยค่ะ ทุกอย่างไม่ใช่มาถึงหย่าได้เลย มันก็ต้องเอาเอกสารทั้งหมดที่เป็นภาษาอังกฤษมาเป็นภาษาไทย และหาพยานบุคคลไปยืนยันในการหย่า”

เผยไม่หวังเรื่องทรัพย์สินหลังหย่า เพราะไม่มีอะไรมาตั้งแต่แรก
“เรื่องทรัพย์สินอย่าพูดเลยดีกว่าค่ะ เพราะเราไม่ได้จดทะเบียนโดยการเรียกสินสอด คือเราจดทะเบียนกันเฉยๆ สินสมรสไม่มีนะคะ เอาง่ายๆ ว่าเราไม่ได้เรียกร้องและที่อยู่กันเหมือนเขาก็อุปถัมภ์ชุบเลี้ยงเรา มีค่าใช้จ่ายให้ในแต่ละเดือน ไม่ได้มีทรัพย์สินให้ไม่ว่าจะเป็นบ้าน เป็นรถ ไม่มีค่ะ ทุกอย่างที่แนทมีก็ซัปพอร์ตตัวเองตลอด แต่ทุกเดือนที่ผ่านมาเขาก็ส่งเงินมาให้ค่ะ ก็เป็นหน้าที่ที่เขาต้องรับผิดชอบ ด้วยการที่เขาบอกเราว่ามันเป็นสิ่งที่เขาควรจะดูแลเรา แต่เราบอกเลยว่าถ้าเขาไม่มีงานก็ไม่ต้องส่งมานะ หรือถ้าคุณมีน้อยหรือไม่มีเราสามารถทำงานหาเงินเลี้ยงตัวเองได้นะ เพราะล่าสุดที่ผ่านมาแนทก็ไม่ได้รับเงินเดือนเท่าที่เคยรับ เพราะเขาเอาลูกอีกคนที่อยู่ฟิลิปปินส์ไปเลี้ยง เพราะฉะนั้นแนทก็บอกเลยว่าถึงคุณอยากจะส่งมาคุณก็ส่งมาแค่ส่วนหนึ่งก็แล้วกัน ไม่ถึงกับต้องได้เหมือนทุกครั้งที่ได้ เพราะคุณก็มีภาระต้องเลี้ยงลูกอยู่”

“แต่ละเดือนเขาก็ให้หลักแสนค่ะ แต่พอเขามีลูกมา แนทก็บอกให้เขาส่งมาแค่ไม่กี่หมื่นก็พอต่อเดือนจากหลักแสน ก็ได้แสนมาตลอดตั้งแต่แต่งงานมา แต่บางเดือนช่วงที่แนทไปเรียนแนทก็ไม่ได้รับเงินจากเขานะคะ เพราะแนททำงานหาเงินเลี้ยงตัวเอง ก็บอกเขาเลยว่าไม่ต้องส่ง และหลังจากที่แนทเลิกเรียนแล้วก็มาทำงาน เขาก็ส่งให้อีกได้ประมาณ 1 ปี หลังจากนั้นแนทก็ให้เขาส่งมาไม่กี่หมื่น เพื่อที่จะให้เขาเอาเงินไปดูแลลูกเขา แต่ก็บอกเขาว่าจริงๆ คุณไม่ต้องส่งมาก็ได้ แต่เขาบอกมันคือหน้าที่เพราะเขาคือสามี”

“แต่งมาตั้งแต่ปี 55 ตอนนี้ก็ 6 ปีเข้าปีที่ 7 แล้วค่ะ 4-5 ปีแรกก็ได้เงินเดือนละแสนทุกเดือนค่ะ แต่บางเดือนก็ไม่ได้นะคะ ไม่ได้มา 1 - 2 ปี เพราะแนททำงานหาเงินเอง หลังจากหย่าเขาก็คงไม่ได้ให้อะไรค่ะ เพราะเขาเองก็ยังต้องทำงานดูแลลูก และแนทก็ไม่ได้เรียกร้องในส่วนที่แนทจะต้องรับด้วย ถ้าสมมติเขามีครอบครัวใหม่ก็อยากให้เขาเอาเงินไปดูแลตรงนั้นมากกว่า”

รับว่ามีหนุ่มคนใหม่ เป็นหมอ และสามีก็รู้มาตลอด แต่ไม่ใช่สาเหตุของการหย่า
“ที่เลิกไม่ใช่ว่าแนทมีคนใหม่ค่ะ ไม่เกี่ยวกับมือที่สามหรือเกี่ยวกับใคร มันเป็นสิ่งที่เขาเองตัดสินใจ เพราะแนทบอกเลยว่าแนทจะไม่ขอหย่าก่อน และแนทไม่ได้ไปควงคนใหม่เปิดตัวให้เขาเห็น คือเขาก็ทราบนะคะ แต่ว่าการที่เขาไม่หย่าแล้วแนทต้องประชดด้วยการควงคนใหม่ให้เขาเห็น ทำร้ายจิตใจเขามันก็ไม่ใช่ เพราะฉะนั้นแนทก็คบในส่วนของแนท แนทยังให้เกียรติเขาอยู่โดยการที่ไม่ทำร้ายจิตใจเขามากเกินไป”

“แต่เขาก็ทราบค่ะ เพราะการที่เขาไม่หย่าแล้วแนทไปควงอีกคนหนึ่งให้เขาเห็นโดยที่ทำร้ายจิตใจเขา ทั้งๆ ที่เขาไม่อยากหย่าเนี่ย มันก็ดูเกินไป แนทเองก็ไม่รู้ว่าเขามีใครที่อเมริกาหรือเปล่า เพราะเราไม่ได้ไปอยู่ตรงนั้น ถึงเราจะเห็นอะไรบางอย่างที่ผิดปกติ เราก็ไม่ได้ไปจับผิดอะไรเขาขนาดนั้น และแนทก็พูดไม่ได้ว่าเขามีหรือไม่มี เพราะอยู่กันคนละที่ แต่เราเหมือนแฟร์กันมากกว่าทั้งสองฝ่าย ก็ในเมื่อเขาตัดสินใจอย่างนี้แนทก็โอเคนะ เพราะแนทเองก็ต้องการอย่างนี้มาตั้งหลายปีแล้ว”

“กับคนที่คุยใหม่นี่จริงๆ รู้จักกันมา 10 กว่าปีแล้วค่ะ แต่เพิ่งคิดที่จะมาคุยกัน คบกันค่ะ แต่ยังไม่ได้คิดว่าจะเปิดเผยอะไรขนาดนั้น เพราะเราเพิ่งเริ่มเรียนรู้กันค่ะ แต่ช่วงที่คุยกับคนนี้เราก็บอกสามีตลอดนะคะว่าเราไปกินข้าวไปไหนมาไหนกัน เขาก็จะทราบตลอดค่ะ คนนี้เป็นคนไทยค่ะ เป็นคุณหมอค่ะ แต่จะสานสัมพันธ์กันต่อได้ขนาดไหนยังตอบไม่ได้เลย เพราะนี่ก็ยังมีปัญหาทะเลาะกันตลอดเลย ทะเลาะกันทุกเดือนเลยค่ะ เพราะทั้งเขาทั้งเราก็ขี้หึงทั้งคู่ด้วยค่ะ และมันเป็นช่วงที่ต่างคนต่างไม่มีเวลาให้กันมากกว่าค่ะ”

บอกแฟนใหม่หึงเพราะตนมีข่าวกับหนุ่มๆ หลายคน
“เขาทราบค่ะว่าเรายังไม่ได้หย่า แต่ถามว่าเขางอนเรื่องนี้มั้ย เขาก็ไม่ได้พูดอะไรนะคะ เขาให้เกียรติคนของเราค่ะ อีกอย่างคือเราไม่ได้คบกันแบบเสียหาย เราแค่คุยกัน แล้วก็รู้กันทุกเรื่อง มีการปรึกษาชีวิตกันมากกว่าค่ะ ที่บอกว่าเขาหึงนี่ไม่เกี่ยวกับการทำงานเลยค่ะ เกี่ยวกับที่เราเป็นข่าวกับหนุ่มๆ หลายๆ คนนี่แหละ (หัวเราะ) แต่เรื่องงานเขาไม่ว่าเลยค่ะ เซ็กซี่ได้หมด เขาเข้าใจ เขาสมัยใหม่ค่ะ แต่เรื่องหนุ่มๆ นี่แนทก็ไม่ได้ต้องไปอธิบายอะไรนะคะ เพราะจริงๆ เขารู้ก่อนที่ข่าวจะออกอีก แต่บางทีเหมือนเขาจะรับได้นะ แต่จริงๆ เขารับไม่ได้หรอกค่ะ เพราะว่าข่าวมันเยอะมาก แล้วข่าวมันแรงขึ้นๆ เขาก็มีหลุดๆ บ้าง”

“เขารู้ทุกอย่างอยู่แล้วก่อนที่ข่าวจะออก บางอย่างมันก็เหมือนไปทำร้ายจิตใจเขา คือมีคนมารายล้อมแนทเยอะค่ะ เขาก็ทราบ ทุกคนที่เข้ามาก็ทราบว่าแนทคุยกับคนนี้อยู่ แนทไม่เคยปิดค่ะ ใครจะมาจีบแนทก็บอกหมดว่าแนทมีนะ แต่เหมือนเขาก็รอ แนทก็ไม่เข้าใจว่าทำไมเขารอ แต่คนที่มาจีบแนทนี่ไม่ใช่เพิ่งมารู้จักกันนะคะ แต่ละคนรู้จักมานานแล้ว เพราะฉะนั้นก็อาจจะเป็นความดีของเราที่เขาเห็นถึงได้รอเราก็ได้ ถามว่าคนที่คุยนี่ใช่เบอร์หนึ่งหรือยัง เอาง่ายๆ ว่าคนนี้คุยกันทุกเรื่องแล้วค่ะ คุยกันทุกเรื่องจริงๆ คนนี้คือคนที่แนทบอกทุกเรื่อง กับคนอื่นๆ ก็ยังผิวเผินเพราะยังไม่ได้เปิดใจอะไรขนาดนั้น”

บอกสัมพันธ์กับ “โอ๊ค พานทองแท้” ไม่มีอะไร สนิทมานาน เกินคำว่ากิ๊กหรือแฟน แจงอีกฝ่ายไม่ได้มาจีบ และตนไม่คิดเทียบเป็นพี่น้อง
“กับพี่โอ๊คแนทไม่ขอเอามาเป็นประเด็นได้มั้ยคะ เพราะแนทกับเขารู้จักกันมานาน มันเกินกว่าจะใช้คำว่ากิ๊กหรือแฟน มันมีความเป็นห่วงกันมากกว่า แต่เพราะความที่เขาเป็นคนที่ดังมาก เราก็เป็นแค่คนที่คนรู้จัก สื่อรู้จัก และอีกอย่างพี่เขาก็ไม่ได้ไปแซวใครในไอจี มีแต่เราคนเดียว ทุกคนก็ไปโยงว่าพี่โอ๊คมาจีบเรา ที่เห็นแซวกันสนิทสนมก็เพราะรู้จักกันมา 10 กว่าปีนะ การที่พูดคุยกันอย่างนี้มันก็เป็นเรื่องปกติ มันไม่ใช่เพิ่งรู้จักแล้วมาคุยกันอย่างนี้ แต่เพราะไม่มีใครรู้มากกว่า จริงๆ รู้จักกันมานาน แต่ด้วยการที่แนทเพิ่งไปฟอลโลว์ไอจีเขา เพราะปกติเราคุยกันทางไลน์ พอเราไปฟอลโลว์ไอจีแล้วไปทักเขาก็เลยกลายเป็นประเด็น แต่จริงๆ เรารู้จักเขามานานแล้วค่ะ”

ไถามว่าคุยกันบ่อยมั้ย ก่อนหน้านี้คุยบ้างห่างบ้าง แต่พักหลังๆ ก่อนวันวาเลนไทน์ไม่กี่วันก็มาคุยกันทุกวัน จนก่อนหน้านี้เขาไปขอไลน์แนทจากผู้จัดการแนท เพราะแนทเปลี่ยนโทรศัพท์บ่อย ตอนที่แนทไปเรียนต่อก็ยังคุยกันนะคะ ไม่ใช่ไม่คุย เพียงแต่ว่าเราเปลี่ยนโทรศัพท์บ่อย การสื่อสารการติดต่อมันยาก แต่ที่คนสงสัยว่าทำไมคนระดับพี่โอ๊คถึงมาสนิมสนมกับแนทได้ แนทเคยบอกไปในหลายๆ รายการกับหลายๆ สื่อว่าแนทไม่ได้คบคนแค่ระดับนางแบบด้วยกันทั้งหมด แนทรู้จักคนในสังคมเยอะค่ะ เพียงแต่ว่าแนทไม่ได้บอกใครว่าแนทรู้จักใคร เพราะการที่คนหลายๆ สังคมหรือผู้ใหญ่หลายๆ ท่านรู้จักแนทมันก็ไม่ใช่เรื่องแปลก เพียงแต่แนทจำเป็นต้องป่าวประกาศเหรอว่าแนทรู้จัก แนทไม่เคยคิด ไม่เคยสนใจว่าใครจะมองว่าแนทจับเขาหรืออะไร เพราะเรารู้สึกว่าคบกัน คุยกันเราบริสุทธิ์ใจ”

“ก็ขาดการติดต่อไปพักหนึ่งเพราะแนทเปลี่ยนเบอร์ เปลี่ยนโทรศัพท์บ่อยมากค่ะ พี่โอ๊คเขาก็เลยมาขอไลน์ใหม่จากผู้จัดการไป บอกตรงๆ ว่าแนทเป็นคนที่ไม่ค่อยคอนเนคกับใครง่ายๆ แต่พี่เขาคงอยากคุย คุยกันแล้วสบายใจ และเราก็รู้จักกัน เราเองก็ไม่ใช่คนเลวร้าย การันตีเลยว่าเราไม่ใช่คนเลวร้าย เราก็เป็นคนที่จริงใจคนหนึ่ง เขาก็คงอยากคุยค่ะ เพราะเวลาเขาคุยอะไรกับเรา เราไม่เคยเอาไปพูดต่ออยู่แล้วด้วยค่ะ ถ้าเป็นสิ่งที่ทำให้เขาไม่สบายใจเราฟังได้ทุกเรื่อง”

“เขาจีบมั้ยเหรอ ไม่น่าจีบหรอกค่ะ (ยิ้ม) จริงๆ คำว่าพี่น้องแนทไม่กล้าใช้ด้วยซ้ำ แต่แนทคิดว่าเขาไม่จีบแนทอยู่แล้ว และคำว่ากิ๊กก็ใช้กันไม่ได้ด้วย ถามว่าจะพัฒนาไปได้มั้ย เขาไม่ได้มาขอเราแต่งงานหรือไม่ได้มาขอเราคบ เพราะฉะนั้นแนทคิดว่าความสัมพันธ์มันยังไม่ได้ไปถึงขั้นนั้นน่ะค่ะ เหมือนเราไว้ใจใครคนหนึ่งแล้วอยากคุยด้วยแค่นั้นเอง แต่ถามว่าพี่โอ๊คใช่สเปกมั้ย แนทไม่ได้มองตรงนั้นเลย แนทไม่เคยคิดด้วย ก็เหมือนพี่คนหนึ่งคุยกับเรา แต่ไม่ได้มองถึงว่าคนนี้คือคนพิเศษที่เรารู้สึกว่าเขาดังแล้วเราจะต้องคุย เราจะต้องให้ความพิเศษกับเขา ไม่ใช่ค่ะ”

“กับคนที่คุยอยู่เขาก็ทราบค่ะว่าคุยกับพี่โอ๊ค เพราะก็บอกเขาหมดว่าเราจะไปไหนมาไหนบ้าง แต่มันก็มีปัญหาหลายๆ เรื่องนี่แหละค่ะ เขาก็ไม่ถึงกับตามมาเฝ้านะคะ แต่บางทีอารมณ์เนอะ ก็ยังมีความหึงอยู่ดีค่ะ จะบอกว่าเราสวยก็คงไม่ใช่ แต่เราเป็นคนเด็ดขาด เป็นคนจริงจัง พอไม่เข้าใจ เลิกกัน ประชดกัน แนทก็ขาดเหมือนกัน พอขาดก็มีการมาง้อเรา”

บอกสาเหตุที่ไม่อยากมีลูกกับสามีฝรั่ง เพราะทำใจให้นอนด้วยกันไม่ได้
“แต่ถามว่าอยากแต่งงานอีกครั้งหรืออยากมีลูกมั้ย ยังค่ะ เมื่อก่อนสมัยที่แฟนฝรั่งอยากมีลูกเราคิดว่าจะทำกิ๊ฟต์ เราไม่ได้นอนกับเขาอยู่แล้ว แต่เราคุยกันว่าจะทำกิ๊ฟต์ แนทถึงอยากมี แต่พอเขาไปแก้หมันปุ๊บแนทก็ไม่อยากมีแล้ว เพราะเราไม่ได้อยู่ด้วยกันแบบคู่สมรสน่ะ และการที่จะให้แนทไปนอนกับเขาเพื่อที่จะมีลูกมันก็ไม่ได้ แต่โดยการที่เขาไปแก้หมันแล้วเขาไม่บอกเรา ก็ไหนว่าจะทำกิ๊ฟต์ ก็เลยทำให้เรารู้สึกว่าไม่อยากมีลูกแล้ว ไม่มีดีกว่า”

“ที่เขาแก้หมันเพราะอยากจะมีลูกกับแนทค่ะ แต่เราไม่อยากมีแล้ว ถ้ามีแล้วต้องนอนด้วยกันไม่เอาดีกว่า แต่ถ้าบอกว่าทำกิ๊ฟต์ปุ๊บหูผึ่งเลย (ยิ้ม) อย่างนั้นโอเค เราไม่ต้องไปนอนกับเขาและมีลูกอันนี้ชอบ บอกตรงๆ ว่าตั้งแต่แต่งงานมาเราไม่เคยมีอะไรกันเลย คือไม่ใช่ว่าไม่พยายามนะคะ พยายามจะนอน แต่ว่าความรู้สึกมันทำใจไม่ได้ เพราะว่าความรักของเรามันมาใช่แบบนั้นน่ะ มันเหมือนแนทนับถือคุณเป็นอา เป็นลุง แล้วต้องนอนกับอาตัวเอง ลุงตัวเองเหรอ มันไม่ใช่ไงคะ พยายามหลายครั้งนะ แต่มันไม่สำเร็จ ทุกครั้งเลยจะรู้สึกว่ามันทำร้ายจิตใจตัวเราเอง คือยังไม่ได้ทำอะไรกันเลย แค่เขากอดมันก็ไม่ใช่แล้วล่ะ ทีนี้พอเขามาหาเราก็นอนกันคนละเตียงเลย คุณนอนเตียง ฉันนอนโซฟาไป (ยิ้ม) ทำใจไม่ได้จริงๆ ค่ะ บางทีเรานอนโซฟาไม่ไหว ก็รอให้เขาหลับไปก่อน พอเขาหลับแล้วเราค่อยแอบไปนอนเตียงข้างๆ เขา นอนคนละมุมเลย”

“ตอนนี้เรื่องลูกยังไม่คิดเลยค่ะ ถึงจะกับถ้ามีครอบครัวใหม่ก็ตาม มันยังไม่ได้คิดเลยค่ะ เขาก็ต้องทำงาน และเราเองก็ต้องการความมั่นคงสร้างอนาคตให้ตัวเองอยู่ เพราะถ้ามีตอนนี้ลำบากค่ะ เพราะด้วยเศรษฐกิจตอนนี้และด้วยเรื่องของเด็กสมัยนี้ที่โตมาเราก็เห็นเยอะแยะ มันหลายปัจจัย”

เตรียมเล่นหนังเรื่องนางพญางู ปัดกลับมาทวงบัลลังก์ ลั่นแก้เป็นแก้ น่าจะเรียกกระแสได้พอสมควร
“เพิ่งมีงานถ่ายแบบให้กับเว็บไซต์ของฟิลิปปินส์เพิ่งถ่ายเสร็จไป เป็นแนวบอดี้เพ้นท์ ถ่ายคู่กับนางแบบเวียดนามกับจีนค่ะ แต่ไม่ได้เซ็กซี่อะไรมากมาย รวมถึงจะมีผลงานภาพยนตร์เรื่องนางพญางู ค่ะ ก็เป็นการที่จะทำให้แนทกลับมาอีกครั้ง น่าจะเรียกกระแสได้พอสมควร เห็นว่าชุดในหนังก็เซ็กซี่พอสมควรค่ะ เซ็กซี่เลยแหละ เป็นเกาะอกที่หน้าอกล้นเลย (ยิ้ม) เลิฟซีนก็น่าจะมีนะคะ แต่แนทยังไม่มั่นใจว่าบทจะออกมาประมาณไหน จะมีการแก้หรือเปล่า เพราะตอนนี้ยังไม่ได้มีการถ่าย ยังไม่ได้เปิดกล้องเลยค่ะ เรื่องเลิฟซีนถ้ามีก็เต็มที่นะคะ แนทบอกเลยว่าอยากให้แนททำอะไรแนทก็โอเคหมด แต่ไม่ใช่ว่าแนทอยากจะต้องเล่นแล้วให้เรากลับมาเปรี้ยงอีกครั้ง แต่เขาให้บทอะไรมาเราก็เล่นให้เต็มที่มากกว่า หนังน่าจะได้เปิดกล้องสิ้นเดือนเมษายนนี้ค่ะ แต่แนทเต็มที่แน่นอนนานๆ จะได้กลับมาเล่นหนังที”

(ติดตามทุกข่าวสารในแวดวงบันเทิงทั้งหมดได้ที่ https://mgronline.com/entertainment)