“อาเล็ก ธีรเดช” รู้สึกผิด ลาก “เต้ย จรินทร์พร” มาให้โซเชียลถล่ม ทั้งที่อีกฝ่ายไม่เคยโดนอะไรแบบนี้มาก่อน ฝากบอกชาวเน็ตอยากด่าอยากว่าขอให้ลงที่ตนเพราะตนเป็นคนเริ่ม เผยสถานะเพิ่งเริ่มศึกษา ยังไม่ใช่แฟน พ้ออึดอัดอยากใช้ชีวิต รับดูทุกคลิปที่ “อเล็กซ์” ตอบ ยกนิ้วให้อีกฝ่ายปกป้องเต้ย ชื่นชมเป็นลูกผู้ชาย เสียดายพลาดโอกาสดีๆ ชวดเล่นละครกรงกรรม ยันคิวไม่ว่างเอง
หน้าตาก็ลั้ลลาอยู่ดีๆ แต่พอถูกถามเรื่องความรักกับ “เต้ย จรินทร์พร จุนเกียรติ” พระเอกหนุ่ม “อาเล็ก ธีรเดช เมธาวรายุทธ” ก็หน้าเครียดอย่างเห็นได้ชัด โดยเจ้าตัวยอมรับในงานเปิด the dazzling celebration ณ โซนอีเดน เซ็นทรัลเวิลด์ ว่าทำใจอยู่แล้วว่าต้องโดน แต่คาดไม่ถึงว่าจะโดนหนักและรุนแรงขนาดนี้ สงสารฝ่ายหญิงไม่เคยโดนมาก่อน
“ต้องพูดตรงๆ ว่าที่ผ่านมาก็หนักเหมือนกัน ตั้งแต่เล็กออกมาพูดไป ครั้งนี้เป็นครั้งที่ 2 เองที่เล็กได้ออกมาพูดอีกครั้ง เต้ยเขาก็เครียด คืออยากให้ทุกคนมองอีกด้าน ถ้าเกิดทุกคนมองว่าพูดถึงเต้ย จรินทร์พรก็จะคิดถึงความน่ารัก สดใส ซึ่งเขาก็เป็นคนแบบนั้นจริงๆ ช่วงที่ผ่านมาก็ต้องบอกว่าเราทั้งคู่เจอกันหนัก อยากจะบอกว่าเต้ยเขาไม่ได้ทำอะไร ถ้าจะว่าใครให้มาว่าเราดีกว่า เพราะตัวเล็กเองเป็นคนที่เริ่มต้นทุกอย่าง คราวที่แล้วเล็กก็บอกไปแล้วว่าพร้อมกับสิ่งที่จะตามมา นั่นแหละอย่าไปว่าเขาเลย ซึ่งช่วงที่ผ่านมาก็ลดลง เงียบลงไปแล้ว”
“เราก็ต้องห่วงความรู้สึกเขาอยู่แล้ว อย่างที่บอกว่าทุกอย่างเริ่มที่ตัวผม โดยปกติผมไม่ค่อยอ่านข่าวของตัวเองสักเท่าไหร่ แต่พอมีคนอื่นเขามาเกี่ยวข้องด้วย มีเขาเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย มีหลายคนเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย เราเลยค่อนข้างจะติดตามมากๆ แล้วก็มีทั้งคอมเมนต์ที่ดีและไม่ดีกับตัวพวกเรา แต่คือสิ่งที่เล็กให้ความสำคัญมากๆ คือคอมเมนต์ถึงเขาในด้านไม่ดี ก็ถือว่าเราต้องผ่านไปให้ได้”
เตือนเต้ยไม่ให้อ่านคอมเมนต์ บอกเดี๋ยวตนจะอ่านเอง รับไม่คิดว่าจะโดนหนักและรุนแรงขนาดนี้ รู้สึกผิดเพราะอีกฝ่ายไม่เคยมีข่าวที่ไม่ดี
“ผมบอกเขาว่าอย่าไปอ่าน เดี๋ยวเล็กอ่านเอง เพราะว่ามันมีด้านไม่ดีก็จะมีด้านดีๆ เหมือนกันด้วย ที่ผ่านมาก็เห็นคอมเมนต์ให้กำลังใจเขาเยอะมากๆ ก็ถือว่าเป็นเรื่องที่ดี ตอนที่เราออกมาบอกก็คิดว่ามันมีอยู่แล้ว แต่ไม่ได้คิดว่ามันจะรุนแรงขนาดนี้ คือเราก็เตรียมตัวมาว่าต้องโดนระดับหนึ่งอยู่แล้ว แต่ว่าอยากให้ทุกคนเข้าใจว่าเป็นเรื่องของความรู้สึกจริงๆ เราก็รู้สึกผิดที่แบบว่าเขาไม่เคยมีข่าวไม่ดีเลย แล้วพอเล็กออกมาพูดก็มีข่าวไม่ดีกับเขา คือเวลาทุกคนเสพข่าวก็ไม่อยากให้อ่านแค่พาดหัว เพราะว่าจริงๆ เนื้อข่าวมีอะไรมากกว่านั้น ถ้าเกิดให้ดีที่สุดคือฟังจากพวกเราเอง หรือดูคลิปสัมภาษณ์เลยจะชัดเจนที่สุด”
“ทุกๆ อย่างตอนนี้ก็เงียบๆ ไปแล้ว หลังจากนี้เวลาทำอะไรไม่ได้มีแค่ชื่อเราแล้ว ก็ต้องมีชื่อของคนอื่นเข้ามาพาดพิงด้วย เพราะฉะนั้นการทำอะไร คือเล็กก็ค่อนข้างมั่นใจว่าเราโตขึ้น ทำอะไรคิดมากขึ้น พอมีข่าวแบบนี้เราก็ต้องคิดก่อนที่จะทำอะไร จะพูดอะไรก็คิดให้ดีขึ้น เป็นประสบการณ์ที่ทำให้โตขึ้นจริงๆ”
ย้ำไม่เสียใจที่เปิดตัว บอกเรายังไม่ได้ตกลงที่จะเป็นแฟนกัน เดินหน้าศึกษากันเรื่อยๆ
“เสียใจมั้ยไม่ได้เสียใจ เพราะเล็กกับเต้ยเองเป็นคนค่อนข้างใช้ชีวิต เราไม่ได้อยากจะปิด แต่ต้องบอกอีกครั้งว่าอย่าอ่านแค่พาดหัวข่าว คนก็จะเข้าใจผิดว่าคบกันแล้ว เรากำลังคุยๆ กันอยู่กำลังศึกษากันอยู่ อย่างที่เต้ยให้สัมภาษณ์ไปเมื่อคราวที่แล้วยังไม่ได้ตกลงกันว่าจะเป็นแฟนกัน ตอนนี้ก็เดินหน้าไปเรื่อยๆ เรียกว่าเหตุการณ์ที่ผ่านมาทำให้เรารู้จักกันมากขึ้นและเห็นตัวตนของกันและกันมากขึ้น ถามว่าทำให้มันแข็งแรงขึ้นมั้ย ก็เรียกว่ารู้จักกันมากขึ้นดีกว่าครับ”
บอกหลังไมค์ไม่มีใครดรามา ชื่นชม “อเล็กซ์ เรนเดล” เป็นลูกผู้ชายและเป็นคนดี รับดูทุกคลิป
“คือบุคคลที่มีชื่อในข่าวทุกคนไม่มีใครมีดรามาอะไรเลยจริงๆ ครับ จะดรามาก็ตรงข่าวนี่แหละ(หัวเราะ) ก็อยากให้เข้าใจพวกเราครับ (มีการพาดพิงอเล็กซ์ เรนเดล ได้คุยกันมั้ย?) คือก่อนหน้านั้นเราก็มีคุยกันบ้างครับ ก็คือเราก็ต้องขอบคุณเขามากๆ คือต้องบอกว่าอเล็กซ์ เขาเป็นผู้ชายจริงๆ เป็นคนดีมากจริงๆ คือเราดูทุกคลิปสัมภาษณ์ครับ เขาไม่ได้ปกป้องแค่เต้ย เขาพูดถึงเราในแง่ที่ดีด้วยครับ ซึ่งก็ต้องขอบคุณอเล็กซ์ด้วยครับ”
“เรื่องความสนิทก็ตามที่เขาบอกเลยครับ ก็คือทุกคนที่ออกมาพูดคือพวกเราไม่ได้โกหกอะไรอยู่แล้ว เราไม่ได้ปิดบังอะไรเลย คือทุกคนที่ออกมาพูด พูดจากใจของทุกคนล้วนๆ ครับ ทุกคนให้สัมภาษณ์ได้ชัดเจนมาก ทุกอย่างมันเป็นเรื่องจริงมากๆ ครับ กับเขาเราไม่ได้เคยร่วมงานอะไรกันจริงๆ จังๆ จะมีก็คือคอนเสิร์ตช่องที่ผ่านมาครับ จะรู้จักกันประมาณนั้น ยืนยันว่าไม่มีปัญหากันเลยครับ แล้วก็ไม่มีปัญหากับทุกคนไม่ใช่แค่กับเรนเดล”
ย้ำแก๊งตั๊กไลฟ์ยังไม่แตก
“ไม่ได้แตก คือช่วงแรกๆ มันเป็นช่วงจบคอนเสิร์ต ก็เลยยังอยากจะคุยกันต่อ ซึ่งในช่วงหลังๆ ตอนนี้ก็ยังคุยกันก็มีเรื่องมาอัปเดตกันตลอด อย่างพรุ่งนี้หมาก ปริญจะบวชเราก็คุยกัน ไม่แตกหรอกครับ ยังเหมือนเดิม ไม่มีใครออกครับ คือคนกลุ่มนี้เวลามีเรื่องซีเรียสจะไม่มีใครยุ่งครับ จะปล่อยให้เป็นเรื่องของเรา เราเองก็มีปรึกษาบ้าง แต่ก็ไม่ได้ปรึกษาในกรุ๊ปนะครับ ปรึกษาแยกคนไป”
ปรับตัวเข้าหาเต้ย คำว่าแฟนขอเป็นเรื่องอนาคต
“ก็คุยกันเรื่อยๆ ถามว่าต้องมีปรับจูนกันบ้างมั้ย คนสองคนเวลาศึกษากันก็ต้องดูกันไปเรื่อยๆ เวลาที่ผ่านมามันไม่สามารถทำให้เรารู้จักทุกอย่างในชีวิตของแต่ละคนได้ เราเองก็ต้องปรับตัวในหลายๆ เรื่อง คือมันต้องค่อยๆ ปรับจูนเข้าหากัน แต่ก็ยังยืนยันครับว่ากำลังศึกษากันอยู่เฉยๆ แนวโน้มการใช้คำว่าแฟนก็เป็นอนาคต เราก็มีเจอกันบ้าง งานยุ่งกันทั้งคู่ด้วย”
ปัดส่งช่อดอกไม้สีขาวให้เต้ย อึดอัดอยากใช้ชีวิต
“ไม่ใช่เล็กครับ (ยิ้ม) แต่เป็นแฟนคลับ เรื่องดอกไม้ให้เขาก็ค่อยๆ แล้วกันครับ ก็ต้องพูดตรงๆ ว่ามันเป็นข่าวที่ดี แต่กระแสมันก็มีทั้งบวกและลบ การออกไปไหนมาไหนก็อย่างที่บอกว่าพวกเราก็ต้องคิดก่อนทำ ก่อนพูด ก่อนอะไรทุกอย่าง ณ วันนี้ความสัมพันธ์ก็เป็นเรื่องดีๆ ครับผม”
“เรื่องนี้ผมไม่ได้ท้อครับ แต่สิ่งที่รู้สึกเยอะๆ ก็คือ หนึ่งเป็นห่วงเขา สองเป็นห่วงคนที่โดนพาดพิง สามรู้สึกผิดกับการที่เรา (นิ่ง) ก็อย่างที่บอกครับ แต่เราก็ค่อยๆ ให้กำลังใจกันไป ช่วงแรกๆ ก็มีอึดอัดครับ ช่วงที่ข่าวค่อนข้างแรง พูดตรงๆ พวกเราอยากจะใช้ชีวิต”
พ้อเปิดก็โดน ปิดก็โดน ยันศึกษากันไม่ได้ทำให้ใครเดือดร้อน
“เล็กว่าอาจจะไม่ใช่แค่เล็กกับเต้ย แต่เล็กว่าก็ทุกๆ คนแหละ คือเดี๋ยวนี้คนอ่านนิดๆ หน่อยๆ ก็จะตีความไป เหมือนเปิดก็โดน ปิดก็โดน แต่ไม่ใช่เรื่องซีเรียสนะครับ อย่างที่บอกว่าเราก็อยากจะใช้ชีวิตของเราไปเรื่อยๆ เรามั่นใจว่าเราสองคนคุยกัน ศึกษากัน เราไม่ได้ทำอะไรให้ใครเดือดร้อนเลย แล้วก็ไม่ได้ทำอะไรที่ผิดเลย เราพยายามจะชักชวนกันทำแต่เรื่องดีๆ ด้วยซ้ำครับ คำว่าแฟนเป็นเรื่องอนาคตครับ ตอนนี้ขอเก็บตัวก่อน (หัวเราะ)”
สารภาพตรงๆ คิวไม่ได้เลยถูกถอด บอกเสียดายพลาดโอกาสสำคัญ ชวดเล่นกรงกรรม
“คือมันเป็นเรื่องของคิวล้วนๆ ครับ เล็กก็ต้องเปิดกล้องวัยแสบสาแหรกขาด ซึ่งเรื่องนั้นมันเปลี่ยนไม่ได้ มันเป็นภาค 2 แล้วเป็นคิวเดียวกัน ก็ถือว่าพลาดโอกาสดีๆ ไป ก็เสียดายเหมือนกันครับ แต่อะไรที่มันไม่ใช่ของเรามันก็คงไม่ใช่ของเรา ก็อยากดูเหมือนกันนะครับเพราะได้มีโอกาสฟังพล็อตมาบ้างน่าดูครับ คิวไม่ได้ก็เลยถูกถอดครับตรงๆ (หัวเราะ)”