พ่อ - แม่ “เอมี่” รุดเยี่ยมลูกสาวตั้งแต่เช้า นำอาหารเครื่องดื่มมาให้เอมี่ ด้านแม่ใจสลายเห็นภาพลูกอยู่ในห้องขัง ถึงกับร่ำไห้ สะเทือนใจ
ยังอยู่ในความสนใจของสังคม กรณีนักแสดงสาว “เอมี่ อาเมเรีย จาคอป” ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจ 191 บุกจับพร้อมแฟนหนุ่ม “นายปุญยวัจน์ หิรัณย์เตชะ” พร้อมยึดของกลางยาไอซ์ 70 กรัม และยาอี 16 เม็ด เครื่องชั่งน้ำหนัก 1 เครื่อง อุปกรณ์ในการเสพ ก่อนถูกควบคุมตัวมายัง สน.นครบาลสายไหม เพื่อดำเนินคดี
โดยความเคลื่อนไหวในช่วงเช้าวันนี้ (21 ก.ย.) เวลา 09.00 น. “นายฮันนาส จาคอป - นางลำดวน จาคอป” คุณพ่อและคุณแม่เอมี่ ได้เดินทางมายัง สน.นครบาลสายไหม เพื่อนำอาหารเครื่องดื่มมาเข้าเยี่ยมลูกสาวที่ห้องฝากขัง ซึ่งในระหว่างพูดคุยผู้เป็นแม่ได้ร้องไห้โฮออกมาตลอดเวลา จากนั้นเวลา 10.30 น. นายฮันนาส และ นางลำดวน พ่อและแม่ของเอมี่ได้เดินทางกลับ โดยไม่ได้ให้สัมภาษณ์ใดๆ อย่างไรก็ตาม ทางด้านของคนใกล้ชิดของเอมี่ที่เดินทางมาด้วยได้เผยสั้นๆ ว่า คุณแม่ไม่สะดวกให้สัมภาษณ์
ต่อมาทางด้านของ “นายชัยวัฒน์ เดชปทุม” ทนายความส่วนตัวของ “นายปุญยวัจน์ หิรัณย์เตชะ” แฟนหนุ่มของเอมี่ เดินทางมาร่วมฟังการสอบปากคำผู้ต้องหาเพิ่มเติม จากการสอบถามเจ้าหน้าที่ตำรวจคาดว่าจะส่งตัวเอมี่และแฟนหนุ่มไปยังศาลจังหวัดมีนบุรี ในช่วงบ่ายของวันนี้
อย่างไรก็ตาม ทนายความของ “นายปุณยวัจน์” 1 ในผู้ต้องหา ได้เดินทางมาร่วมฟังการสอบปากคำ และได้เปิดเผยถึงกรณีที่มีกระแสข่าวว่า ผู้ต้องหาทั้ง 2 คนได้พยายามมีการโยนความผิดถึงในเรื่องของกลางที่พบ ให้ตกเป็นของคนใดคนหนึ่งนั้น ทราบว่าขณะนี้นายปุณยวัจน์ยังไม่ได้โยนความผิดไปให้ใครทั้งสิ้น เบื้องต้นทางนายปุณยวัจน์ ยังคงปฏิเสธถึงในเรื่องการเป็นผู้จำหน่ายยาเสพติด รวมถึงปฏิเสธในความเป็นเจ้าของยาเสพติดที่พบภายในบ้านพัก เพียงแต่นายปุณยวัจน์ ยอมรับว่าเป็นผู้เสพยาไอซ์เท่านั้น
ส่วนของกลาง (ยาเสพติด) ที่พบอยู่ภายในบ้านพัก ยังไม่สามารถตอบได้ว่าเป็นของใคร เนื่องจากเกรงจะส่งผลกระทบต่อรูปคดี และเรื่องอุปกรณ์ตาชั่งดิจิตอลที่พบในที่เกิดเหตุ ขณะนี้ได้ปฏิเสธไปเป็นที่เรียบร้อย ซึ่งหลังจากนี้ ตนเองในฐานะทนายความส่วนตัวของนายปุญยวัจน์ ก็ได้วางแนวทางการต่อสู้ในเรื่องของคดีไว้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว อาทิ ทั้งในเรื่องของกลาง (ยาเสพติด) ที่พบในบ้านพักไม่ใช่ของนายปุณยวัจน์ สำหรับกรณีการกลับคำให้การของนายปุณยวัจน์ ที่ได้ให้การในตอนแรกกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าเป็นผู้จำหน่ายนั้น ส่วนตัวคิดว่าจะไม่ส่งผลต่อรูปคดีในชั้นศาลอย่างแน่นอน ซึ่งตนเองคิดว่าในบันทึกจับกุมทางตำรวจจะเขียนขึ้นมาในลักษณะไหนก็ย่อมได้
นอกจากนี้ นายชัยวัฒน์ ยังกล่าวด้วยว่า รู้สึกมั่นใจถึงลักษณะของรูปคดีว่านายปุณยวัจน์ ซึ่งเป็นลูกความของตนเองไม่ได้กระทำผิด และตนเองจะไม่ยื่นหลักทรัพย์ขอปล่อยตัวชั่วคราวเพราะของกลางมีจำนวนมากกว่าที่กฎหมายกำหนด พร้อมจะมีการหารือร่วมกับทีมทนายความของเอมี่ เพื่อให้การต่อสู้คดีเป็นไปในทิศทางเดียวกัน
อย่างไรก็ตาม ในช่วงบ่ายของวันนี้ ทางพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจนครบาลสายไหม จะควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้งสองคนไปขออำนาจศาลจังหวัดมีนบุรีฝากขังเป็นผลัดแรกต่อไป