หากเอ่ยชื่อของ “ดีใจ ดีดีดี” บางคนอาจจะไม่คุ้นหูมากนักแต่ถ้าบอกว่าเธอคนนี้มีชื่อเล่นว่า "ผัดไท" หรือ “นิลุบล อมรวิทวัส” สาววัยเลข 5 ร้องอ๋อกันแน่นอน เป็นนักแสดงคิวทองทีเดียวที่ผู้จัดส่งเทียบเชิญและจัดสรรเวลาให้นักแสดงมากความสามารถคนนี้ได้ร่วมงานละครในแต่ละเรื่อง ถึงแม้จะเข้าสู่วัยมนุษย์ป้าแต่ก็ถือว่าเป็น “ป้า” อย่างมีคุณค่า “ใช้คุ้ม ไม่ฟุ่มเฟือย” สโลแกนดี๊ดีที่ทำให้เธอคนนี้แฮปปี้ไม่มีปัญหาการเงินในบั้นปลาย
“ความพอเพียงสำหรับผัดไท มันขึ้นอยู่กับว่าเป็นวัยไหนของชีวิต เราเริ่มทำงานตั้งแต่เด็กๆ อายุ 13 ปี เราก็ได้ถ่ายโฆษณาแล้ว ครั้งนึ่งเราเคยอยากมากๆ อยากหลายสิ่งๆ ในชีวิต เราก็จะตอบสนองความอยากตัวเอง เพราะมันเป็นสิ่งที่เราผ่านมาหมดแล้ว ทุกวันนี้ก็ 50 ปีแล้ว แต่ตอนช่วงอายุ 28 - 35 ปี ตอนนั้นใช้เงินแบบไม่รู้เรื่อง อยากทำอะไร อยากกินอะไรก็กิน เมื่อก่อน เห็นคนขับรถเบนซ์ บีเอ็ม ก็อยากจะมีเหมือนเขา ก็เปลี่ยนรถเป็นว่าเล่น พออายุมากขึ้น เราพยายามไปเพื่ออะไร สู้เราใช้รถที่ราคาไม่แพงมาก แล้วมีเงินเหลือเอาไปทำอย่างอื่นดีกว่า ก็เลยลดปริมาณลง เมื่อก่อนพี่เป็นแบบนี้แหละ แต่พอตอนนี้เราคิดได้ล่ะ”
“ซึ่งเราต้องเข้าใจว่าทุกอย่างมันจอมปลอม ไม่นานพวกนี้ก็จะหายมลายไปหมด ถึงได้บอกว่าต้องขึ้นอยู่ว่าเป็นช่วงวัยไหน เราต้อเข้าใจและเรียนรู้ไปทีละสเต็ป อย่างเราจะเอาความเข้าใจของเราเองไปบอกเด็กวัยรุ่นเขาไม่ฟังหรอก เด็กๆ ก็มีเรื่องที่อยากจะทำ อยากจะมี เหมือนวัยรุ่นทั่วไป แต่ถ้าเรารู้จักเรียนรู้ความพอเพียง อาทิ ทำอะไรก็ได้แล้วได้เงินตอบแทนมา เราจะรู้สึกหวงแหนและเสียดายเงินที่หามาได้ ซึ่งเมื่อเราทำได้ คิดได้ เราก็จะลดการเป็นหนี้บ้าๆ บอๆ”
“เรารักในหลวงมาก ความพอเพียงในแบบในหลวง เราคิดว่าใช้ได้จริง สิ่งที่พระเจ้าอยู่หัวตรัส เหมือนกับพระอาทิตย์ที่ขึ้นตอนเช้าและตกตอนเย็น เพียงแต่จะขึ้นเร็วหรือช้า ขึ้นอยู่กับฤดูกาล ใครเข้าใจได้เร็วได้ช้าก็อยู่ที่เวลา ทุกอย่างอยู่ที่เวลา ใครที่เข้าใจง่าย ก็ดีไป ใครที่ช้าก็ต้องรอต่อไป เหมือนเราอยากจะปลูกข้าวโพด เรารู้วิธีว่าต้องปลูกอย่างไร แต่เราก็ทำเป็นช้า ปล่อยเวลาไปเรื่อย กับอีกคนเขาปลูกเลย เขาก็มีโอกาสได้กินผลก่อน กับอีกคนที่ยังไม่ได้เริ่ม เราต้องรู้ตัวเอง อันนี้สำคัญนะคะ”
“ทุกวันนี้เทคโนโลยีต่างๆ มีมากขึ้น แอปพลิเคชั่นก็เป็นเครื่องมือ เป็นเหมือนตัวช่วย แต่ถ้าคุณมีวินัยในการใช้เงินแบบไหน ใครที่ตื่นรู้ รู้ว่าตัวเองทำอะไร ก็จะสามารถใช้ชีวิตได้แบบพอเพียง สร้างความพอเพียงให้เกิดขึ้นในใจเรา ในสมองในความคิดเราได้ แต่ตรงกันข้ามถ้าเราไม่มีความพอในใจ ยังอยากได้อยากมี ปล่อยให้กิเลสหนา ต่อให้ใช้แอปฯ อะไรก็ไม่สามารถช่วยได้ ซึ่งก็แล้วแต่คนด้วย บางคนเค้าอาจจะคิดว่าการมีแอปฯ ช่วยให้ชีวิตเค้าดีขึ้นได้ อันนั้นก็โอเค”
อีกหนึ่งความภูมิใจของแม่ ลูกสาวคนสวยของพี่ผัดไท “น้องเจอาร์” สอบเข้าเรียนเป็นนักศึกษาแพทย์ที่มหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้ ต้องถามความรู้สึกแล้วล่ะว่า คุณแม่คนเก่งภูมิใจอย่างไร และได้ปลูกฝังความพอเพียงให้ลูกสาวคนเดียวอย่างไรบ้าง
“เราไม่ได้ปลูกฝังให้ลูกเรียนเก่ง เขาตั้งใจเรียนเอง แต่ก่อนที่เขาจะเป็นอย่างนั้น เขาจะต้องทำความเข้าใจก่อนว่าทำไมต้องเรียนหนังสือ ตั้งแต่เด็กไม่เคยบังคับหรือถามว่าทำไมไม่ไปโรงเรียน แต่เราจะเหมือนอาวุธ ที่จะออกไปสู้กับคนอื่นๆ เรามีพ่อมีแม่ มีญาติพี่น้องคอยช่วย คอยให้ทำไมต้องไปเรียนหนังสือ เรียนเพื่ออะไร แต่พ่อแม่ไม่ได้อยู่กับเธอตลอดชีวิต ญาติพี่น้องก็ไม่ได้อยู่กับเธอตลอดชีวิต ถ้าวันหนึ่งแม่ตาย เธอจะอยู่กับใคร”
“เด็กเล็กๆ บางคนถามว่าทำไมพูดกับลูกแบบนี้ ลูกจะรู้สึกว่าไม่มีความมั่นคง เราก็จะบอกว่าทำไมฉันพูดความจริง ให้เขาได้รับรู้ว่า ชีวิตเขาต้องต่อสู้ ชีวิตเขาต้องมีสิ่งที่จะปกป้องชีวิตเขานั้นคือ วิชาความรู้ ถ้าเธอไม่ให้ความสำคัญกับการศึกษาต่อไปแม่ตายเธอจะเอาอาวุธที่ไหนไปทำมาหากิน เราจะไม่เลี้ยงลูกให้เป็นเด็กที่ไม่รู้จักโต เพราะมันจะทำให้เขารู้สึกว่าชีวิตของเขาไม่เดินไปข้างหน้า ลูกต้องโต โอเคมีชีวิตเป็นเด็กแม่ไม่ว่า แต่พอโตแล้ว ก็ต้องรู้จักหน้าที่ของตัวเอง เรียนให้เต็มที่ เล่นให้สนุก เด็กคนอื่นๆ ก็เหมือนกัน ต้องรู้สึกหน้าที่ตัวเอง แบ่งเวลาให้เป็น ทำอะไรไร้สาระได้ แต่ก็ต้องไม่ลืมหน้าที่ตัวเองคือ การเรียน”
ติดตามเรื่องราวดีๆ จาก แอปพลิเคชั่น “พอดี” จะช่วยกระตุกต่อมความพอดีในตัวคุณ ให้รู้จักคิด รู้จักใช้ และรู้จักความพอดีในชีวิต เพียงกรอกข้อมูลบัญชีบุคคลตามขั้นตอน จากนั้นแอพฯ จะทำการประมวลผลความพอดีในตัวคุณออกมา แน่นอนว่าชีวิตที่มี “ความพอดี” ก็จะมี “ความสุข” และถ้าคนหนึ่งคนทำได้ คนหลายคนก็น่าจะเป็นจุดเริ่มต้นของ “ความพอดี” ให้สังคมได้ไม่ยาก สามารถดาวน์โหลด แอพพลิเคชั่น “พอดี” ได้แล้ววันนี้ ทั้งระบบ Android และ iOS ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.sukeecompany.com และ FB: sukeecompany