ปราจีนบุรี - “ดาวอินคา” พืชสมุนไพรดูแลสุขภาพ ปลูกง่าย โตไวที่กำลังมาแรง ขายได้ราคาทั้งต้น และใบ สรรพคุณเพียบ สร้างรายได้ให้แก่สมาชิกกลุ่มแม่บ้านดงบัง ปราจีนฯ เดือนละนับหมื่นบาทต่อคน
ในปัจจุบัน หากจะมีใครเอ่ยถึง “ดาวอินคา” หรือ “ถั่วดาวอินคา” คงจะไม่มีใครปฏิเสธว่าไม่รู้จัก เพราะขณะนี้ “ดาวอินคา” พืชตระกูลองุ่น จากถิ่นประเทศเปรู กำลังเป็นพืชสมุนไพรยอดฮิตในด้านดูแลสุขภาพ จนแพร่หลายทั้งในรูปแบบน้ำมันบรรจุเป็นแคปซูล และชาชง ด้วยเพราะมีสรรพคุณมากมายจนเกินบรรยาย จึงทำให้ใครต่อใครที่กำลังมองหาสมุนไพรดูแลสุขภาพต่างสรรหามารับประทาน ด้วยราคาที่ไม่แพงจนเกินไปนัก
กลุ่มแม่บ้านดงบัง หมู่ 7 ต.ดงบัง อ.ประจันตคาม จ.ปราจีนบุรี ที่มี นางสมจิตต์ ยังดี อดีตพยาบาลวิชาชีพ วัย 55 ปี จากโรงพยาบาลแห่งหนึ่งที่ขอเกษียณก่อนกำหนดมาเป็นหัวหน้ากลุ่ม จึงใช้วิชาความรู้ด้านสาธารณสุขที่ได้ร่ำเรียนมาผสมผสานกับการปลูกพืชผักปลอดสารพิษเพื่อดูแลสุขภาพผู้บริโภค จนเป็นที่รู้จักของตลาดใกล้เคียง
พร้อมทั้งมีความคิดต่อยอดเรื่องสุขภาพจนได้มีการศึกษาเรื่องการดูแลสุขภาพจากพืชผักสมุนไพร เห็นว่า “ดาวอินคา” หรือ “ถั่วดาวอินคา” สมุนไพรจากเปรู กำลังเป็นที่นิยมของผู้รักสุขภาพ จึงได้ศึกษาหาข้อมูล และเมล็ดพันธุ์เพื่อที่จะนำมาปลูกในพื้นที่ของกลุ่ม สุดท้ายตัดสินใจเลือกสายพันธ์ เชียงราย 2 ซึ่งมีต้นทุนต่อเมล็ดราคาถูก และดูแลง่าย ไม่เสี่ยงต่อการลงทุน หากเกิดการผิดพลาด
หลังได้เมล็ดพันธุ์แล้ว ได้เตรียมการปรับพื้นดิน ตั้งเสา โดยใช้เสาปูน หรือท่อปูน หรือจะทำเป็นตาข่ายก็ได้เพื่อให้เถาดาวอินคาเกาะเลื้อยเป็นการพยุงตัว เพราะดาวอินคา เป็นไม้เลื้อย ทิ้งช่วงห่างระยะ 3 คูณ 3 เมตร ช่วงนี้จะต้องดูแลใส่ปุ๋ยคอก
นางสมจิตต์ บอกว่า ที่นี่เน้นเกษตรอินทรีย์ คือ ไม่ใช้สารเคมีใดๆ ทั้งนี้ เพื่อความปลอดภัยของผู้บริโภค หลังจากต้นดาวอินคาเจริญเติบโตได้อายุประมาณ 6 เดือน ก็จะเริ่มติดดอกออกผล เป็นรูปดาว 4 แฉก ถึง 7 แฉก รอจนกว่าจะแก่จัด และแห้งจึงเก็บมาทำความสะอาดตากแดด
ก่อนที่จะนำมากะเทาะเปลือกเมล็ดเอาแต่เม็ดในคล้ายกับเมล็ดอัลมอนสีน้ำตาลเข้ม ที่อยู่ตามแฉกๆ มานึ่งให้สุกแล้วผึ่งลมให้เย็น ก่อนที่จะนำไปอบอีกครั้งก่อนที่จะบรรจุถุงออกจำหน่าย หรือส่งลูกค้าที่สั่งเข้ามา สนนราคาเม็ดดาวอินคาที่อบแล้วจะขายในราคากิโลละ 1,000 บาท หากไม่กะเทาะคือ ขายทั้งเปลือก กิโลกรัมละ 350 บาท
แต่ที่กลุ่มเน้นขายบรรจุถุงๆ ละ 50 บาท ลูกค้าส่วนใหญ่จะซื้อไปกินเล่นเหมือนเม็ดแตงโม หรือเม็ดทานตะวัน เดือนๆ หนึ่งสามารถทำรายได้ให้สมาชิกต่อคนเดือนละ 1.5-2 หมื่นบาท
นางสมจิตต์ ยังบอกด้วยว่า เปลือกที่กะเทาะเม็ดออกแล้วยังสามารถนำไปเป็นชาชงสมุนไพรรักษาสุขภาพได้อีกต่างหาก คือ ทั้งต้น ดอก และใบ รวมทั้งเปลือกของเมล็ดสามารถนำไปใช้เป็นชาสมุนไพรได้ทั้งหมด ยกเว้นแค่รากที่เป็นรากฝอยเท่านั้นที่ไม่ได้นำมามาใช้
นางสมจิตต์ ยังฝากบอกมายังผู้ที่สนใจให้หามาปลูกไว้เหมือนพืชข้างรั้ว เพราะนอกจากจะนำมารับประทานเพื่อสุขภาพแล้ว ยังสามารถนำมาขายได้ เพราะดาวอินคา เป็นพืชสมุนไพรที่ดูแลง่ายไม่ต่างจากตำลึง คือ ปลูกแล้วปลูกเลย อายุยืนยาวนานหลายสิบปี