“ใหม่ - ต้น” พิสูจน์รักแท้แม้ในวันป่วยหนักหวิดเป็นอัมพาต รับปีหน้าสละโสด สินสอดไม่บอกจำนวน ฝ่ายหญิงลั่นพี่ต้องให้ค่ามงฯ ที่อยู่บนหัว ไม่เคยทำตัวเสเพล ฝ่ายชายยันถึงจะแพงแต่ก็สู้
“ใหม่” เผยเรื่องซึ้ง ตราตรึงรัก “ต้น” ที่มากกว่าช่วงโปรโมชั่น อยู่เคียงข้างดูแลกัน แม้ในวันที่ป่วยหนักหวิดเป็นอัมพาต
ป่วยหนักจากอาการพังผืดกล้ามเนื้ออักเสบขั้นรุนแรง จนหวิดเป็นอัมพฤกษ์ อัมพาต สำหรับสาวเซ็กซี่ “ใหม่ สุคนธวา เกิดนิมิต” ล่าสุด เจ้าตัวควงแขนมาเล่าเรื่องราวดีๆ กับหวานใจ “ต้น สรพงษ์ จิตต์สุนทร” เพราะถึงแม้จะป่วยหนักแต่ฝ่ายชายก็ยังดูแลเคียงข้าง จนเอ่ยปากว่านอกจากพ่อแม่ก็มีผู้ชายคนนี้ ปีหน้าลุ้นข่าวดีสละโสด
ใหม่ : “ตอนนี้อาการค่อนข้างเกือบ 100% คือ หายประมาณ 90% แล้ว รวมถึงต้องฝากแก้ข่าวด้วยว่าไม่ได้เป็นอัมพฤกษ์หรืออัมพาต เพราะว่าพอมีข่าวออกไปแบบนี้กลัวว่าคนจะไม่จ้างและกลัวงานหดเงินหาย ใหม่ยังทำงานได้ปกติเหมือนเดิม ซึ่งโชคดีที่มีพี่ต้นคอยดูแลค่ะ”
ต้น : “การรักษาก็คือมีการทำเอ็มอาร์ไอ เอกซเรย์ปอด แล้วก็เช็กโครงสร้างทั้งหมดที่เขามีปัญหาอยู่ รวมถึงเช็กเรื่องของเนื้องอกที่เขากังวล ใช้เวลาทั้งหมดคือนอนอยู่โรงพยาบาลสองวัน หลังจากนั้นก็กลับมาพักฟื้นที่บ้านอีกสองสัปดาห์ แล้วถึงจะกลับมาทำงานได้ปกติ”
ใหม่ : “จริงๆ แล้วที่ใหม่ป่วย คือ มันเป็นเรื่องของพังผืดกล้ามเนื้ออักเสบขั้นรุนแรง ซึ่งคุณหมอบอกว่าค่อนข้างหนักมาก ถ้าไม่มาทำกายภาพและไม่ทำเลเซอร์มันก็อาจจะเป็นอัมพฤกษ์ได้ แต่พอดีว่าใหม่ไหวตัวทันก็เลยไม่ได้เป็น เพียงแต่ว่าต้องรักษาตัวค่อนข้างหนัก จริงๆ มีคนเข้ามาขอบคุณใหม่เยอะมาก อย่างดาราหลายคนก็แอบเป็น แต่ไม่เคยรู้มาก่อนว่าตัวเองเป็นโรคอะไร พอใหม่บอกไปแบบนี้และมีอาการคล้ายเขา เลยได้รู้จักโรคนี้จากใหม่”
“สำหรับสาเหตุคุณหมอบอกว่าเกิดจากความเครียดสะสม อาจจะทำงานหนักและพักผ่อนน้อย รวมถึงเรื่องที่ตัวเราเคยออกกำลังกายมาตอนแข่งรถ แล้วอยู่ดีๆ พอหยุดออกมันก็อาจจะเกิดอาฟเตอร์ช็อกหรือเปล่าก็ไม่รู้ แต่ว่าตอนนี้ก็โอเคแล้วหายห่วงค่ะ ตอนช่วงที่ก่อนจะวินิจฉัยโรคใหม่ก็ค่อนข้างลุ้นเหมือนกัน เพราะตอนนั้นพอถึงช่วงห้าทุ่มเที่ยงคืนก็จะปวดหัวตลอด จนคิดว่าต้องเป็นอะไรในหัวแน่ๆ และก็คิดไปเองว่าเป็นมะเร็งหรือเนื้องอกหรือเปล่า เพราะไม่เคยปวดขนาดนี้ ปวดจนน้ำตาไหลและตาแดง ซึ่งก็ต้องไปทำเอ็มอาร์ไอคืนนั้นเลย”
“ต้น” พิสูจน์รัก ดูแลทุกเคียงข้างทุกวินาทีในยามเจ็บป่วย ใหม่เผยนอกจากพ่อแม่ก็มีผู้ชายคนนี้
ต้น : “ผมเคยบอกเขาว่าเวลาสวยๆ ให้ไปยืนข้างคนอื่นได้เลย แต่เวลาที่เจ็บไข้หรือต้องการใครให้หันมามองผม”
ใหม่ : “ต้องบอกเลยว่าการป่วยครั้งนี้มันทำให้ใหม่ได้เห็นในสิ่งดีๆ ของเขา ซึ่งตัวเราก็รับรู้มาโดยตลอด ยังไงก็ต้องขอบคุณที่ดูแลใหม่ทุกวินาทีแทนคุณพ่อคุณแม่ แต่ก็ต้องพิสูจน์กันไป เพราะเหมือนกับที่มีคนเคยบอกว่ายามทุกข์เราจะเห็นว่าใครที่อยู่ข้างๆ และรักเราที่สุด นอกจากคุณพ่อคุณแม่แล้วก็ยังมีผู้ชายคนนี้อยู่ แต่ว่าสุดท้ายก็ต้องใช้กาลเวลาพิสูจน์ บางทีอาจจะดีช่วงแรกๆ ก็ได้”
เรียกแฟนได้เต็มปาก ไม่ห้ามเรื่องภาพเซ็กซี่แต่จะคอยเซฟให้
ต้น : “เรียกแฟนได้เลยครับ”
ใหม่ : “เขาเป็นคนขี้หวง ขี้หึง และขี้น้อยใจ”
ต้น : “อย่างเรื่องที่เขาแต่งตัวเซ็กซี่ผมก็มีแอบหวงบ้าง แต่ว่าเขาเป็นแบบนี้มาอยู่แล้วคือเป็นไอคอนนิดของเซ็กซี่สตาร์ในที่ทำงาน ผมก็จะรู้ว่าในวงการนี้มีอยู่ไม่กี่คน ซึ่งการที่เขาอยู่ได้ยาวขนาดนี้ก็ต้องมาจากเรื่องของผลงานด้วยส่วนหนึ่ง เรื่องแต่งตัวเซ็กซี่คงห้ามไม่ได้แต่ก็จะคอยเซฟให้เขามากกว่าเวลาที่ไปงานต่างๆ”
ประกาศสละโสดปีหน้า ใหม่รับฝ่ายชายเอ่ยปากขอแต่งทุกวัน อ้อนสินสอดไม่ต้องแพง ย้ำต้องให้ค่ามงกฎที่อยู่บนหัว ไม่เคยทำตัวเสเพล
ต้น : “ปีหน้าเลยครับ”
ใหม่ : “จริงๆ แล้วต้องบอกว่าเขาพูดขอแต่งงานทุกวันเลย แต่มันก็จะมีบางวันที่พิเศษที่ขอแต่งงาน ตอนนี้ก็วางแผนกันอยู่ แต่ใหม่ก็ยังไม่ได้ให้คำตอบคือยังต้องพิสูจน์ต่อไป ตัวเขาอยากแต่งปีนี้กับปีหน้า โมเมนต์การขอแต่งงานไม่มีอะไรเลยเพราะว่าเขาแอบไปคุยกับคุณพ่อคุณแม่ของใหม่เอง โดยบอกกับคุณแม่ว่าผมรักใหม่จริงๆ นะครับ อย่าเรียกสินสอดผมแพงนะครับ (หัวเราะ)”
ต้น : “ตอนแรกแพลนไว้ว่าจะเป็นปีนี้ แต่พอไม่เปิดตัวเลขเรื่องสินสอดมาผมก็เลยต้องขอเลื่อนไปเป็นปีหน้าแทน (หัวเราะ)”
ใหม่ : “ไม่ขอบอกเป็นจำนวนแล้วกันนะคะว่าเท่าไหร่ แต่ว่ามันก็ต้องให้คุณค่ากับตัวเอง พี่ๆ ก็จะรู้จักนิสัยของใหม่ดีว่าไม่ได้เป็นผู้หญิงที่เที่ยวหรือว่าทำตัวเสเพลเกเร ค่อนข้างจะเป็นเด็กเรียน ตั้งใจเรียน ตั้งใจทำงาน และรักครอบครัว ฉะนั้น ก็ต้องให้ค่ามงกุฎที่อยู่บนหัวด้วยค่ะ”
ต้น : “ถามว่าสู้มั้ย สู้ครับ ความรักมักทำได้ทุกสิ่งอยู่แล้ว คือ ผมขอเขาแต่งงานปีนี้และอยากแต่งปีหน้า แต่ว่าทุกอย่างก็ต้องอยู่ที่เวลา และก็ต้องมีการจัดสรรให้ดีที่สุดสำหรับเขา เพราะเรื่องแต่งงานเป็นเรื่องสำคัญ อีกอย่างอายุของเราสองคนก็เริ่มโตมากแล้ว ผมคิดว่าถ้าแต่งก็จะเที่ยวซัก 1 - 2 ปีแล้วก็อยากจะมีน้องเร็วๆ”