แทบขาดใจ “สีดา” เผยวินาทีเห็น “อ๊อฟ อภิชาติ” เสียชีวิตตรงหน้า ช็อกลูกจากไปกะทันหันไม่ทันได้บอกลากัน เล่าเหตุการณ์ชวนขนลุก อ๊อฟมาหาในสภาพไม่มีเสื้อผ้าใส่ บอกลูกหนาวเหลือเกิน สุดรันทดไม่มีเงินไปทำบุญให้ลูกจนต้องเอาพระไปขาย ตอนนี้ตกงานไม่มีเงินมีแต่หนี้ พ้อเป็นวิบากกรรม พร้อมโต้เอาดรามาลูกตายมาหากิน
แม้ลูกชาย “อ๊อฟ อภิชาติ พัวพิมล” จะจากไปนานกว่า 11 ปี แต่ไม่มีวันไหนที่ “สีดา พัวพิมล” จะไม่คิดถึงลูกชายสุดที่รัก ล่าสุดเจ้าตัวได้มาเปิดใจในรายการ “คุยเช้าShow” ออกอากาศทางช่อง one 31 เผยว่าทุกวันนี้ยังร้องไห้ ทุกครั้งที่ท้อแท้จะนั่งคุยกับภาพถ่ายอ๊อฟเหมือนคนบ้า เชื่อลูกยังไม่ไปเกิด สุดสะเทือนใจบอกวิญญาณอ๊อฟเคยมาหาในสภาพไม่มีเสื้อผ้าใส่ แต่ไม่มีเงินไปทำบุญให้ลูกจนต้องเอาพระไปขาย พร้อมเล่าย้อนวินาทีเปิดห้องไปเจอลูกตายตรงหน้า
“ก็ยังร้องไห้คิดถึงเขาอยู่แต่ไม่ได้ร้องทุกวัน แต่เวลาเลิกงานบางทีเรามีความทุกข์และในห้องนอนเรา รูปเขาใหญ่มาก ก็จะคุยกับอ๊อฟช่วยปกปักคุ้มครองแม่ดาด้วยนะ มีรูปใหญ่ที่ติดในห้องเราก็นั่งคุยกับเขานะ เพราะไม่รู้ว่าจะทำอะไร ก็นั่งหันหน้าแล้วคุยกับเขา มันเหมือนคนบ้ามั้ยล่ะ แต่เราไม่ได้บ้าเรายังมีสตินะ เราก็คุยของเราคนเดียว เขาก็ไม่ได้ตอบนะ”
“หลายคนก็บอกนะ ว่าการพูดแบบนี้ทำให้เขาไม่ไปไหน(การบอกอ๊อฟปกปักคุ้มครองแม่ด้วย อย่าไปไหน) เหมือนเราก็รู้สึกได้ว่าเขายังอยู่กับเราที่ที่เราอยู่ทุกวันนี้ เราก็เอาที่นอนเขามาด้วยนะ วันดีคืนดีที่นอนมันเขย่าได้ยังไงเพราะไม่มีรถวิ่งผ่าน เราก็รู้นะว่าเขามาหา แต่ไม่ได้กลัว เราไม่ได้มโนนะ รู้ว่าเป็นเขาเพราะที่นอนที่มันเขย่านั้นเป็นที่นอนที่เขานอนตายอยู่และเราเอามาด้วย ก็เชื่อค่ะว่าเขายังห่วงเราอยู่ เพราะหลายคนบอกแบบนี้ ตราบใดที่แม่ยังลำบากอยู่เขาก็ยังอยู่ตรงนี้ แล้วก็มีกลิ่นน้ำหอมผู้ชายอ่อนๆ โชยมา เราก็ถาม มาหาแม่ดาเหรอ เราก็ขอ 3 ตัว จะได้สบาย(หัวเราะ) แต่เขาไม่เคยให้เพราะรู้ว่าแม่ชอบทำงาน จริงๆ แล้วเราอยากให้เขาไปเกิดนะ เราอยู่คนเดียวมาหลายปีแล้วมันไม่มีใครไงคะ แล้วเราก็คิดนั่นนี่คุยกับรูปเขาให้ช่วยดลใจให้มีงานที่เรารักเข้ามาช่วยแม่ดาด้วย พอมีเงินจะได้ไปสร้างพระให้อ๊อฟจะได้บุญด้วย เราก็พูดอย่างนี้ ใครจะว่าเราบ้า เราไม่ได้บ้า”
“พวกนี้เป็นสิ่งเร้นลับที่คนเขาไม่เชื่อ แต่เราเจอกับตัวเราก็เชื่อ ถ้ามาหาตัวเป็นๆ มีตอนที่เราทุกข์มากๆ เขาก็มายืนอยู่ตรงปลายเท้าเราเลย ตอนที่เขาตายใหม่ๆ เราจะไม่กล้านอนข้างบนเพราะเขาตายบนบ้าน เราก็ครึ่งหลับครึ่งตื่น เห็นเขาก็ถามว่ามาหาแม่ดาเหรอลูก ทำไมเสื้อผ้าไม่ใส่ เขาก็บอกแม่ดาครับ อ๊อฟหนาวเหลือเกิน เพราะตอนนั้น พี่ตุ๊ก เดือนเต็ม เขาก็เอาเสื้อผ้าใส่ไปให้ในโลงเยอะเลย ตอนนั้นเราก็ไม่รู้จะทำไงเพราะเราไม่มีเงิน เลยบอกให้ทนนิดนึงนะ แม่ดาจะหาอะไรไปขายแล้วจะไปทำบุญให้อ๊อฟนะ เราก็มีพระเอาไปขาย ได้แค่ 3,000 บาทเองนะ ไปทำบุญให้อ๊อฟ ค่ารถไปกลับก็หมดแล้ว ก็ไปทำบุญ ให้พระสวด ไปวัดที่เราเคยไปบวชที่เมืองกาญจน์ ก็เอารูปเขาไปไว้ด้วย พอจะกลับ แม่ชีบอกว่า โยมสีดา ลูกชายเดินพล่านอยู่ในวัด เราก็เลยถามแม่ชีว่าใส่เสื้อแบบไหน เขาก็บอกใส่เสื้อลายกางเกงที่อ๊อฟชอบใส่และใส่รองเท้าแตะ จริงๆ นะ ไปถามแม่ชีท่านอื่นได้ อยู่ 10 คนเห็นกันหมดเลย”
หัวใจแม่แตกสลายลูกจากไปทั้งที่ยังไม่ได้บอกลากัน พร้อมเผยคำพูดสุดท้ายที่คุยกัน
“ไม่มีใครได้บอกลาใครเพราะเช้าขึ้นมาเรายังคุยกันอยู่เลยค่ะ แล้วอยู่ๆ เที่ยงลูกเราตายแล้ว จะบอกลาทันมั้ยล่ะ (ประโยคสุดท้ายที่เราคุยกับอ๊อฟก่อนที่จะตาย?) ตอนนั้นแม่ไม่ได้นอนเพราะบ้างานมาก ทำงานยันเช้าจำได้ว่า อ๊อฟ เขาจะเสียงดังมากทำตึงตังเป็นปกติ วันนั้นก็ตะหงิดๆ เลยถามเป็นอะไร หอบรึเปล่า เขาก็บอก เปล่าครับ อ๊อฟฝัน เราก็ถามจะเอาข้าวมั้ย หรือจะนอนต่อ เขาก็บอก ยังครับ เดี๋ยวอ๊อฟเรียก เราก็ไปนอน ตื่นมาเที่ยงสิบห้า เราก็ถามแม่บ้าน อ๊อฟทานอะไรหรือยัง แม่บ้านบอกยังไม่ทาน เราก็งง นี่เที่ยงแล้ว ทำไมยังไม่เรียก เลยให้แม่บ้านขึ้นไปเรียก ก็ไม่มีเสียงตอบรับ แม่เลยขึ้นไปทุบห้อง ก็ไม่มีเสียงตอบ เลยเอาเท้าลอดใต้ประตู เย็นฉ่ำมาก คือตอนนั้นเขาตายแล้ว เลยโทรเรียก รปภ. ให้มาพังประตูเปิดไปเจอเขานั่งตายอยู่ ตรงหัวเขามีรอยช้ำเขียว แสดงว่าเขาต้องล้มฟาดแล้วพยายามพยุงตัวเองไปนั่งเก้าอี้หน้าคอมพ์ แล้วหลับ นั่นคือภาพสุดท้าย แม่ไม่ร้องไห้เลยนะ แต่ช็อกมาก เชื่อมั้ยว่าแม่ยืนนิ่งเลย ไม่ได้มาร้องฟูมฟายแบบงงอยู่เลยว่าตายได้ยังไง”
หลังลูกเสียต้องอยู่อย่างโดดเดี่ยว ปลงคงเป็นวิบากกรรม เคยอยู่บ้านหลังใหญ่แต่ตอนนี้ต้องอยู่ห้องเช่าเล็กเท่ารูหนู
“ห้องก็เล็กค่ะ คือในภาพนี้(โชว์ภาพห้องที่อยู่ปัจจุบัน)ห้องจะมืดหน่อยนะ เพราะหลอดไฟขาด เราปีนเปลี่ยนไม่ถึง แล้วก็ไม่กล้าให้ใครเปลี่ยนให้เพราะห้องมันรกมาก ที่ต้องมาอยู่แบบนี้ก็พยายามไม่คิดมากค่ะ คิดว่ามันคือวิบากกรรมไม่รู้ว่าชาติที่แล้วเราอาจเคยทำอะไรไว้มั้ง ชาตินี้เลยเจอแบบนี้ ตอนนี้ก็คิดดีทำดี มีน้ำใจกับคนอื่น ชาตินี้เราเลยไม่พยายามทำอะไรที่ส่อถึงคนอื่น ก็เข้าวัด ทำบุญ แต่ชาติที่แล้วเราไม่สามารถทำอะไรได้”
“การต้องใช้ชีวิตคนเดียวกลัวจนเลิกกลัวแล้ว ที่ผ่านมาเราไม่เคยอยู่คนเดียว อยู่ที่บ้านก็มีคนอยู่ด้วยเยอะ มีบริวารชีวิตไม่เคยจะต้องเจอปัญหาที่เราต้องเจอในทุกวันนี้ มีความรู้สึกว่าชีวิตเจอแต่ความโดดเดี่ยว ต้องกลายมาเป็นอยู่ในห้องเล็กๆ แคบๆ คนที่เคยอยู่ด้วยเราก็ไม่มีเงินจ้างเขา”
เผยตอนนี้ตกงานอยู่
“ยังไม่ได้ทำค่ะ ก่อนหน้านี้เป็นผู้จัดการร้านอาหารค่ะ ไปคุมเรื่องเงินทองให้เขา ที่ออกมาก็พอดีเปลี่ยนงานไปเป็นประชาสัมพันธ์ให้ช่อง 6 ค่ะ แต่ตอนนี้อยู่ในช่วงที่ตัดสินใจอยู่ว่าจะออกมาทำอะไรเป็นของตัวเอง ส่วนงานแสดงก็มีนะคะ แต่ด้วยตาเราไปผ่ามา เราไม่อยากจำบทแล้ว ด้วยเรามีปัญหาทางสมอง จำบทยากเลยไม่อยากไปเป็นภาระเขา แต่มีติดต่อมานะคะ เราก็รับนะ แต่ถ้าบทยาวๆ ไม่อยากไปเป็นภาระให้เขา ตาเราเพิ่งไปผ่าตัดมา ยังโดนแสงมากไม่ได้ ไม่ได้เรื่องเยอะนะ เราก็ไม่มีจะกิน”
บอกไม่มีเงินเก็บมีแต่หนี้ พร้อมลั่นไม่เคยใช้เงินลูกชาย “อ๊อฟ อภิชาติ”
“ไม่นะ เราไม่เคยใช้เงินของอ๊อฟนะ คือเงินเก็บ สมุดบัญชี บัตรเอทีเอ็มของอ๊อฟ แม่ไม่รู้อยู่ไหนด้วยความสัตย์จริงสาบานต่อหน้าไฟเลย เงินเก็บเราไม่มีค่ะ เราเป็นคนมีหนี้มีสินเงินที่เราเคยได้จากออกรายการต่างๆ ก็จะทยอยๆ ใช้คืนเขา อย่างน้อยจะค่อยๆ ได้หมดไปเรื่อยๆ ถามว่าหนี้เหลือเยอะไหม ถ้าเรามีเงินมันไม่เยอะหรอกค่ะ แต่ตอนนี้มันไม่มีเงินไง มันก็เยอะเหมือนกันนะ แต่คนเขาเมตตาเลยไม่ได้มาอะไรเรา”
“เคยน้อยใจกับโชคชะตาเหมือนกัน จะไม่คิดก็คงไม่ใช่ ถ้าเกิดปัญหาอะไรเราต้องแก้มัน พยายามขวนขวายทำอะไรก็ได้ที่จะให้หมดหนี้ แต่ไม่เคยคิดจะตายตามลูกค่ะ ไม่เคยคิดค่ะ เรายังมีลูกอีกคนและมีหลานด้วย ไม่ใช่ไม่รักอ๊อฟนะ รักค่ะ ถ้าเกิดเราจะคิดตายตามเขา แล้วลูกอีกคนล่ะ”
แจงลูกสาวอีกคนให้เงินใช้บ้าง แต่ตนไม่อยากไปรบกวนลูกมากนัก
“ลูกสาวเขาก็ให้นะ ให้ทุกเดือน เพียงแต่ว่าอาจจะไม่ได้ให้มาก เขามีครอบครัว มีลูกเราก็ไม่ได้อยากจะไปรบกวนลูกหรอกเพราะเราเป็นแม่เรายังมีชีวิต มีกำลังแรงกายอยู่และเราก็ไม่ได้มีปัญหากับลูกสาวนะคะ เขายังดูแลเราอยู่ แต่ไม่ได้มากเท่านั้นเอง จากนี้แม่ก็อยากจะทำอะไรที่ชัดเจนและถนัด ทำออกมาได้ดีอยากอยู่ในวงการนั่นแหล่ะ แต่ต้องดูว่าจะออกมาแบบไหน”
ยันไม่ได้เอาดรามาลูกตายมาหากิน
“เราไปห้ามคำพูดคนไม่ได้ แล้วแต่มุมมองคน มีสิทธิ์ที่จะคิด เราจะไปเอาคนตายมาเพื่ออะไร แล้วจะทำให้เรารวยขึ้นเหรอ ไปออกรายการไม่รู้ตั้งกี่ครั้งก็ไม่เห็นจะรวยเลย”