ย้อนรอยวันที่ “ดอนนี เยน” โกอินเตอร์

การปรากฏตัวในหนัง Star Wars ของ ดอนนี เยน ในบทที่โดดเด่นไม่แพ้ใคร อาจจะเป็นเรื่องปกติของหนังฮอลลีวูดในยุคนี้ไปแล้ว ที่มักจะเลือกใช้ดาราจีนมาเป็นส่วนประกอบ เพื่อสร้างสีสัน และเพิ่มจุดขายให้กับหนังเพื่อดึงดูดเงินหยวนโดยเฉพาะ

หนังฮอลลีวูดหลายเรื่อง มักจะมีดาราจีนร่วมแสดงในบทที่ทั้งสำคัญ และไม่สำคัญ เพราะตลาดหนังจีนแทบจะกลายเป็นตลาดหนังที่สำคัญสำหรับฮอลลีวูดเท่ากับสหรัฐอเมริกาไปแล้ว การได้เล่นหนังฮอลลีวูดของดาราจีนในยุคนี้ดูจะเป็นเรื่องง่ายดายมาก แตกต่างโดยสิ้นเชิงกับดาราในยุคก่อน

ดอนนี เยน ก็เป็นอีกคนที่พยายามไต่เต้าทำงานในฮอลลีวูดมานาน หลังในกลางๆ ยุค 90s เส้นทางในวงการหนังฮ่องกงของ ดอนนี เยน เริ่มจะตันๆ ลงทุนทำหนังเองก็ล้มเหลวโดยสิ้นเชิง ดอนนี เยน ที่โตมาในอเมริกา จึงตัดสินใจกลับไปลองเริ่มต้นนับหนึ่งที่นั่นดูอีกครั้ง เพราะอย่างน้อยเขาก็พูดภาษาอังกฤษได้คล่องกว่าดาราฮ่องกงโดยทั่วไป

ดอนนี เยน เริ่มเล่นหนังฮอลลีวูดเรื่องแรกคือ Highlander: Endgame ภาค 4 ของหนังที่ว่าด้วยมนุษย์อมตะแห่งตระกูล แม็คคราวด์ แต่หนังก็เป็นแค่งานนะดับเกรดบีทุนกลางๆ เท่านั้น อย่างไรก็ตาม บทตัวร้ายของ ดอนนี เยน ก็ได้รับคำชมว่าเป็นส่วนดีอย่างหนึ่งของหนัง แต่ความสำเร็จที่แท้จริงของเขาก็คือการทำหน้าที่กำกับคิวบู๊ให้กับหนังเรื่องนี้ จนได้เริ่มทำงานสายนี้อย่างจริงๆ จังๆ ทันที

ในช่วงนั้น ดอนนี เยน เริ่มทำงานกำกับคิวบู๊อย่างต่อเนื่อง และยังได้ไปกำกับคิวบู๊ให้กับหนังฮีโร่แวมไพร์ Blade ภาค 2 เพราะ เวสลี สไนป์ ชอบหนังของเขามาก จนได้เล่นเป็นตัวละครเท่ห์ที่ชื่อว่า สโนว์แมน ในหนังเรื่องนี้ด้วย แม้จะมีบทไม่ค่อยมากนักก็ตาม

หลังจากนั้นก็อย่างที่ทุกคนทราบกัน ดอนนี เยน ได้ร่วมงานกับ ผกก. วิลสัน ยิป ในหนังฮิตทั้ง SPL และทำให้ชื่อของ ยิปมัน กลายเป็นของฮิตสุดๆ ในวงการหนังฮ่องกง ส่งให้ ดอนนี เยน ก็ขึ้นแท่นดาราบู๊แห่งยุค ด้วยวัย 40 เศษๆ มาจนถึงปัจจุบัน

การหวนคืนสู่ฮอลลีวูดอีกครั้งของ ดอนนี เยน จึงไม่ใช่ในฐานะดาราบู๊เกรดบีเหมือนในยุค 90s อีกแล้ว แต่เป็นดาราแอ็กชั่นที่ดังที่สุดคนหนึ่งของวงการหนังจีน ตอนนี้มีดาราจีนมากมายที่ได้ตบเท้าไปรับงานหนังฮอลลีวูด ได้ไปร่วมงานใหญ่ประจำปี กันอย่างง่ายดาย แต่คงไม่มีใครรู้ถึงความยากลำบากของคำว่าโกอินเตอร์ เท่ากับดารารุ่นก่อนอย่างดอนนี เยน อย่างแน่นอน