“เกรท วรินทร” ไม่กลัวรถไฟชนกัน อ้างไม่ได้เชิญคนพิเศษ บอกไม่ต้องโฟกัสคนถือหมอนไม่ต้องลุ้น “พรีม รณิดา” เพราะให้น้องสาวถือ ออกตัวไม่ได้บวชเพราะอยากเบียด ดี๊ด๊าน้องชายบินมาร่วมงานบวชด้วย อาสาเป็นเด็กวัด
ใกล้จะมีงานมงคลบวชทดแทนพระคุณบิดามารดา แต่ล่าสุด “เกรท วรินทร ปัญหกาญจน์” ก็ออกมารับงานอีเวนต์งานสุดท้ายก่อนจะบวช ในงาน “คอฟฟี่ ครีมมี่ โฉมใหม่” จัดขึ้นที่ “ไทยเฟ็กซ์” World of Food Asia 2017 อาคารชาแลนเจอร์ ฮอล์ล 3 เมืองทองธานี บอกถือเป็นอีเวนต์สั่งลาทิ้งทวน
“สั่งลาทิ้งทวนก่อนจะบวชสักเดือนสองเดือน ก็ถือว่าเป็นอีเวนต์ล่าสุดส่งท้ายก่อนบวช แต่จริงๆ ยังมีงานอยู่แต่ไม่ใช่อีเวนต์ เดี๋ยวผมจะเข้าวัดวันที่ 8 มิ.ย. วันนั้นจะนอนอยู่ที่วัดแล้วครับ ตอนนี้ก็คนทักผมเยอะมากว่าท่องได้หรือยัง อันนี้ผมพูดตามความจริงเลยว่ากลัวมาก พอคนทักมากๆ ยาวนะ ต้องตั้งใจนะ ด้วยความกลัวของเราเราก็รีบท่อง ท่องได้นานแล้วและให้พระพี่เลี้ยงช่วยดูให้ แต่ตอนนี้ช่วงสองอาทิตย์ที่ผ่านมาคนถามเยอะมากจนรู้สึกว่าท่องไม่ครบหรือเปล่านะ แต่จริงๆ โอเคแล้วครับ สบายใจได้ ถ้าพูดถึงจริงๆ ความกังวลในเรื่องของการบวช รู้สึกกับตัวเองได้คุยกับตัวเองทุกๆ วัน ได้อยู่กับตัวเองทุกวันเพื่อเตรียมตัว ผมไม่กังวลเรื่องที่ต้องเข้าไปอยู่ในวัดเลย ไหนๆ เราตั้งใจบวชแล้ว ไม่ว่าจะเป็นกฎระเบียบอะไรก็แล้วแต่ ก็ต้องทำให้ได้ ทำให้เต็มที่ อาจจะมีเรื่องกินบ้างที่ไม่เหมือนเดิม ก็ต้องไปรอดูเอาด้านหน้าว่ายังไง ถ้าใจเราสู้ใจเราพร้อมผมก็ไม่กลัวอะไร”
“พร้อมมากครับ แต่ตอนนี้พูดจริงๆ ว่า กังวลเรื่องเดียวคือที่วัดสถานที่จะเล็กมาก ก็กังวลเรื่องแขกทุกท่านที่จะไปร่วมงาน ผมคิดว่าคนน่าจะเยอะประมาณหนึ่ง อยากจะบอกทุกคนที่ไปให้จิตเป็นกุศล พอไปถึงบางคนอาจจะไม่ได้เข้าร่วมพิธีทุกคน เพราะพิธีปลงผมจะเป็นเฉพาะของญาติ ผู้ใหญ่ที่เป็นภายใน และพี่ๆ สื่อมวลชนให้เก็บภาพได้ แต่แฟนๆ ที่มากันจะมีสถานที่จัดไว้ให้และมีของกินเผื่อหิว แต่ทุกคนอาจจะไม่ได้มาเดินรอบโบสถ์ พอผมเป็นนาคแล้วจะเดินมาหาแฟนๆ แน่นอน”
บอกขำๆ ใครอยากถือหมอนให้เอามาจากบ้าน ไม่ได้บวชเพราะจะเบียด
“คนถามเยอะมากเรื่องถือหมอน ถ้าอยากถือก็เอากันมาเองจากบ้าน (หัวเราะ) คือ น้องสาวเป็นคนถือครับ บวชรอบนี้ไม่ได้บวชเพื่อจะเบียดแน่นอนนะครับ (หัวเราะ) ก็ชวน น้องพรีม (รณิดา เตชสิทธิ์) ครับ ชวนทุกคนนะ ไม่ว่าจะเป็นใครก็แล้วแต่ ที่เราเจอที่งานล่าสุด เราก็ชวนทุกคน เราอยากให้ทุกคนมาร่วมงาน มีรุ่นพี่รุ่นน้องที่เคยทำงานด้วยกันมา เราก็จะบอกทุกคนนะว่าถ้าทุกคนติดงานหรือมาไม่ได้จริงๆ ก็ไม่เป็นไร แต่ถ้าเกิดว่างก็อยากให้มา”
“กับน้องพรีมไม่ได้ชวนมาถือหมอน ชวนมางานบุญ ทำไมต้องจะต้องระบุเจาะจง ก็ลุ้นครับลุ้นทุกคน แต่ว่าก็ชวนทุกคนอย่างที่บอกไปว่าถือหมอนคือน้องสาวของผม สาวๆ พิเศษไม่ได้เชิญครับ หลอกเล่นๆ (หัวเราะ) ก็ไม่รู้ คนพิเศษยังไม่มีไง แต่สาวๆ มีแน่นอน ไม่กลัวมาชนกัน ไม่มีแน่นอนครับ”
เผยเป็นงานใหญ่ในชีวิต ตื่นเต้นชีวิตกำลังจะเปลี่ยน
“เป็นงานใหญ่สำหรับผมนะ ใหญ่ที่สุดในชีวิตผมเราก็พยายามตั้งแต่ตั้งใจทำงานมา คิดว่างานนี้มันเหมือนเป็นงานใหญ่งานหนึ่งที่รอเราอยู่ ทุกวันนี้คิดตลอดเวลาว่าใกล้ถึงเข้าไปทุกทีๆ แล้วว่า อีก 1 เดือนชีวิตเราจะเปลี่ยนไปในอีกทางหนึ่ง เราต้องตัดทุกอย่างจากทางนี้ เราก็ก็ถือว่าท้าทายสำหรับเรา และรู้สึกว่าผมจะตั้งใจทำให้ได้ แพลนทุกอย่างยังเหมือนเดิมคืออยู่วัดบวร 15 วันและอยู่ที่บ้านที่เพชรบูรณ์ ใกล้คุณพ่อ คุณแม่ คุณยาย อีก 15 วัน”
“แผนต้องรอคิ้วขึ้นครับ คิ้วขึ้นเมื่อไหร่ลุยงานเมื่อนั้นครับ ที่กองก็เตรียมและรอถ่ายอีกประมาณ 30% ก็รอคิ้วขึ้น ถ้ามีงานอะไรก็จัดมาเหมือนเดิมครับ ก็ต้องขอบคุณทางกองนะครับ ผมกะไว้ว่าจะปิดกล้องก่อน แต่ด้วยเหตุอะไรหลายอย่างทำให้ปิดกล้องไม่ทัน แต่ไม่กล้าเลื่อนบวชแล้ว เพราะจบก็จะมีละครเรื่องใหม่อีก เดี๋ยวจะไม่ได้บวช ก็ต้องขอบคุณชลลัมพีมากที่ให้ผมได้มาบวช ทีมงานก็เหนื่อยช่วยจัดการทุกอย่างให้ถ่ายทำได้ต่อหลังจากผมสึก”
น้องชายบินมาร่วมงานบวชอาสาเป็นเด็กวัด
“กู๊ด (ชยพล ปัญหกาญจน์) เรียนจบและจะรับปริญญาแล้ว แล้วกู๊ดจะพยายามกลับมาให้ทัน น้องชายผมจะกลับมาทันงานบวชผมแน่นอน เขาน่าจะมาถึงวันที่ 8 เขาเคลียร์เรื่องทุกอย่างทางนั้นเรียบร้อยแล้ว ดีใจมากครับ คือจริงๆ ไม่ได้บังคับเขาหรอก แค่รู้สึกว่าถ้ามีเขาอยู่ในงานด้วยก็คงจะดี แต่ก็เข้าใจเขานะ พอรู้ว่าเขาเคลียร์ทุกอย่างและจะกลับมาก็ดีใจ กู๊ดที่เขาอยากมาเพราะอยากมาเป็นลูกศิษย์วัดด้วย เขาเห็นผมตั้งใจ เขาก็อยากจะมาดูว่าสงบจิตสงบใจเป็นยังไง เพราะผมเตือนเขาเสมอว่าให้สติสตังค์อยู่กับตัวบ้าง น้องเลยอยากมาอยู่ดู ผมเองก็ต้องเข้าไปเจออะไรที่ท้าทายในเรื่องของความรู้สึกครับ”