“แต้ว ณฐพร” เห็นใจทุกฝ่ายขอให้สู้ๆ โต้พูดไม่ตรง “มิว นิษฐา” เรื่องเข้าห้องน้ำ บอกแค่เล่าความจริงจากสิ่งที่เห็น ยันเห็นคนมุงแต่ไม่เห็นการ์ดรุมตื้บลูกนายพล ไม่ช่วยห้าม เพราะไม่เห็นเหตุการณ์ และไม่ใช่เรื่องของตน ส่วนกลับก่อนไม่ได้หนี ด้าน “อุ้ม ลักขณา” โทร.มาขอโทษ ชี้ อีกฝ่ายงงๆ จับต้นชนปลายไม่ถูก ถ้า ตร. เรียกสอบยินดีให้ความร่วมมือ
ยังเป็นประเด็นร้อนเลยทีเดียว สำหรับกรณีการ์ด 4 คน ร้านมาลิน สกาย เชียงใหม่ ก่อเหตุรุมทำร้าย “นายอิศราชนุวัฒภ์ วรรคาวิสันต์” หรือ “เจมส์บอนด์” ลูกชาย “พล.ต.วิทยา วรรคาวิสันต์" ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 38 จังหวัดน่าน จนเลือดอาบ โดยในวันดังกล่าวมีแก๊งดาราร่วมด้วย ทั้ง แต้ว ณฐพร เตมีรักษ์, มิว นิษฐา จิรยั่งยืน, หมาก ปริญ สุภารัตน์, โบว์ เบญจศิริ วัฒนา, อุ้ม ลักขณา วัธนวงศ์สิริ ในฐานะแฟนสาวของ “บอล กฤษณะ” ซึ่งถูกระบุว่าเป็นเจ้าของมาลิน สกาย แต่เจ้าตัวอ้างว่าไม่ใช่
ล่าสุด ผู้สื่อข่าวได้เปิดใจ “แต้ว ณฐพร” ซึ่งมาร่วมงาน Year end lighten up together ณ ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลเวิลด์ และถูกจับผิดว่าพูดไม่ตรงกันกับสาวมิว กรณีเข้าห้องน้ำ
“ในความหมายที่แต้วจะพูด ก็คือ แต้วเล่าทุกอย่างเท่าที่แต้วเห็น พอเราไปเราก็ไม่ได้มีการต่อคิวอะไร แต่คิดว่าที่มิวหมายถึงแล้วมาถามแต้วว่าทำไมถึงพูดไม่ตรงกัน เพราะว่าแต้วไม่ได้คุยกับมิว ณ ตอนนี้ แต่เข้าใจว่ามิวคงจะหมายถึงไม่ได้มีใครมาต่อคิวจากเรา หรือว่าจะต้องมีการเข้าคิวหรือต่อรองว่าใครจะต้องเข้าก่อนใคร และตอนแต้วไปถึง คือ มีคนออกมาจากห้องน้ำพอดี และเราก็เข้าต่อ แต่ไม่ได้หมายถึงว่าต้องไปยืนรอน่ะค่ะ คิดว่ามิวคงหมายความว่าไม่ได้มีใครต้องมาขอว่าใครเข้าก่อนใครหรืออะไรอย่างนั้น ความหมายคือไม่ได้มีปัญหาอะไรค่ะ”
“วันนั้นก็เป็นการไปทานข้าวปกติเลยค่ะ แล้วก็นั่งทานที่โต๊ะ คือ กลุ่มแต้วไปกัน 8 คน แล้วก็มีทางพี่อุ้มอีก 4 คน นั่งทานข้าวกัน แล้วแต้วก็จะไปเข้าห้องน้ำกับมิว ก็มีพี่จากทางร้านพาไปว่าห้องน้ำอยู่ทางไหน ไปถึงก็มีคนออกมาจากห้องน้ำพอดี มีห้องน้ำที่เป็นห้องปัสสาวะของผู้หญิง 2 ห้องว่างพอดี แต้วกับมิวก็เข้าไป ออกมาก็มีคนอำนวยความสะดวกให้ หรือจะมีคนมาขอถ่ายรูปเราก็ให้ถ่ายรูป แล้วก็ขึ้นมานั่งที่โต๊ะปกติ นั่งอยู่ที่นั่นน่าจะใช้เวลาตั้งแต่เข้าร้านประมาณเกือบๆ 2 ชม. ค่ะ ตั้งแต่ประมาณ 4 ทุ่ม ถึงกี่โมงไม่แน่ใจ ไม่ได้ดูเวลา”
ยันเห็นคนมุงแต่ไม่เห็นความรุนแรง กลับก่อนไม่ได้หนี ไม่พูดถึงเพราะเป็นเหตุการณ์ที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกัน
“เสร็จแล้วสักพักหนึ่งเหมือนเราก็เห็นคนมุงๆ กันอยู่ แต่ไม่ได้มีการใช้คำพูดที่รุนแรง หรือใช้กำลังอะไรกันเลย แล้วคนที่โต๊ะก็บอกว่าถ้างั้นเรากลับกันเถอะ ไม่ใช่หนีอะไรด้วย แต่หมายถึงเรานั่งกันอยู่นานแล้ว และไม่ทราบว่ามีวัยรุ่นทะเลาะอะไรกันหรือเปล่า แล้วพรุ่งนี้เช้าเราก็มีงานที่ต้องรับผิดชอบไปถ่ายละครกันแต่เช้า ก็เลยถือโอกาสตรงนั้นกลับ แล้วก็ลงลิฟต์กลับโรงแรม วันรุ่งขึ้นก็ไม่ได้มีการพูดถึงเหตุการณ์นี้เลย เพราะรู้สึกว่าไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับเรา แล้วก็ไม่ได้เป็นเหตุการณ์ที่ต้องพูดอะไรกัน เราก็ทำงานกันปกติ”
“ณ ตอนที่แต้วอยู่ไม่มีเหตุการณ์รุนแรงเลยค่ะ ไม่ได้มีการทำอะไรเป็นที่สังเกต นอกจากมีคนยืนๆ กัน แล้วทำให้เราหันไปมองแค่นั้นเองค่ะ ส่วนเรื่องการ์ดแต้วไม่ทราบว่าเขาชื่ออะไรหรือว่าเขาทำหน้าที่อะไร รู้แต่ว่าเขาเป็นคนที่มาดูแล ไม่รู้ว่าเป็นเด็กเสิร์ฟหรืออะไรด้วยซ้ำ คือ มีหลายคน จำหน้าไม่ได้แล้วค่ะ”
บอกเข้าห้องน้ำปกติ ไม่มีอภิสิทธิ์
“ทุกอย่างที่เล่าก็คือแบบนั้นน่ะค่ะ คือ ไม่ได้มีใครมาบอกว่าออกมาๆ จากห้องน้ำอะไรแบบนั้นค่ะ (หัวเราะ) เราไปถึงเขาก็ออกมาจากห้องน้ำ เราก็เข้าไปปกติค่ะ ตอนออกมาจากห้องน้ำก็มีคนมายืนอยู่ตรงนั้น ซึ่งก็ไม่แน่ใจว่าเขาจะเข้าห้องน้ ำหรือเขาจะขอถ่ายรูปกับเรา แต่ว่าก็มีคนขอถ่ายรูปบ้าง เราก็ให้ถ่ายรูป”
ปัด ตร.เรียกสอบ บอกถ้าติดต่อมาพร้อมให้ความร่วมมือ
“ก็ได้ยินแต่ข่าวค่ะ แต่ที่จะมาหาเราโดยตรงว่าคุณต้องไป ชื่อนี้นามสกุลนี้ยังไม่มี ติดต่อผ่านผู้จัดการก็ยังไม่มีนะคะ ถ้าติดต่อมาก็ไปได้ค่ะ เพราะแต้วไม่สามารถเล่าอะไรได้นอกจากที่เล่าไปทั้งหมด เพราะนอกจากนั้นแล้ว เราไม่รู้ที่มา หรือไม่ทราบความเป็นไปหลังจากนั้นเลย ก็เลยจะเล่าได้เท่านี้ โดนโยงด้วยก็รู้สึกตกใจในตอนแรก เพราะว่าข่าวมันค่อนข้างชี้เป้ามาเหมือนกัน เราก็ตกใจนิดหนึ่ง”
“อุ้ม ลักขณา” โทร. มาขอโทษ ชี้อีกฝ่ายยังงงจับต้นชนปลายไม่ถูก
“เคยคุยตั้งแต่แรกๆ แล้วค่ะ ช่วงวันที่เป็นข่าวเยอะๆ ก็เป็นแค่การขอโทษในเรื่องของการที่ทำให้เราต้องมาเกี่ยวพันกับเรื่องนี้ด้วย หลังจากนั้น ไม่ได้คุยเลยค่ะ เพราะตอนนั้นพี่เขาโทร.มาคุยว่าขอโทษนะ แต้วเองว่าเขาก็คงงงไม่ต่างกับเรา เพราะนั่งอยู่ด้วยกัน เขาก็คงจับต้นชนปลายไม่ถูกพอๆ กัน ตอนที่ไปก็ได้รับการชวนจากพี่อุ้มค่ะ ผ่านทีมงานที่ทำงานด้วยกันในกองละคร เพราะเคยร่วมงานด้วยกันตั้งแต่ละครเรื่องที่แล้วค่ะ”
บอกไม่เข้าไปห้าม เพราะไม่เห็นเหตุการณ์ที่ต้องห้าม และไม่ใช่เรื่องตนจะเข้าไปห้ามทำไม
“ก็ไม่อยู่น่ะค่ะ (หัวเราะ) คือ เราไม่รู้ว่าเขาทะเลาะกันเพราะอะไร ถ้าเกิดเหตุการณ์ตรงหน้ามันก็อาจจะรับรู้อะไรได้บ้าง แต่นี่เรารู้สึกว่าเป็นคนหนึ่งที่ไปทานข้าว แล้วก็มีธุระต้องทำ เหมือนกับไม่ใช่เรื่องของเราน่ะ พูดง่ายๆ ก็ไม่รู้จะเข้าไปทำไม แล้วเราก็ไม่ได้เห็นเหตุการณ์อะไรที่มันจะต้องห้ามด้วยซ้ำ เพราะเราก็แค่เห็นคนยืนๆ มุงอยู่ (ข่าวบอกว่าบอลตะโกนบอกว่าเป็นเจ้าของที่นี่?) ไม่ได้ยินเลยค่ะ”
ไม่รู้คนอื่นจะโดนเรียกสอบหรือเปล่า แต่ถ้าเรียกตนก็ยินดีที่จะช่วย เห็นใจทุกฝ่าย ขอให้สู้ๆ
“มีได้คุยอัปเดตข่าวกับมิวค่ะ แบบใครรู้อะไรก็เล่าให้ฟังบ้างนะ คือ งง เรื่องโดนเรียกสอบคือแต้วยังไม่ทราบเลยค่ะ เพราะว่าแต้วยังไม่มีใครเรียก แต่คนอื่นไม่แน่ใจค่ะ แต่ถ้าเขาเรียกเราก็ยินดี ถ้าเกิดพอจะช่วยอะไรได้ก็ยินดีค่ะ”
“สำหรับแต้วเองไม่ได้อะไรนะคะ มันก็เป็นข่าวที่ทุกคนพยายามหาความจริงกันอยู่ มันก็มีความเป็นไปได้ที่จะมีการเข้าใจผิดอะไรเกิดขึ้น ก็เห็นใจทุกฝ่ายค่ะ ยังไงก็สู้ๆ ค่ะ (หัวเราะ) หลังจากนี้ ก็คงต้องระวังนิดหนึ่งเหมือนกันค่ะ จริงๆ วันนั้นเราจะทำงานวันรุ่งขึ้นก็ไม่คิดจะไปด้วยซ้ำตั้งแต่แรก แต่ด้วยเหตุผลอะไรก็ตามมันเกิดขึ้นแล้ว ก็เห็นใจทุกคนค่ะ”