xs
xsm
sm
md
lg

ตำรวจ สภ.ช้างเผือกยืนยันไม่ได้เป็นหุ้นส่วน และถอดกล้องวงจรปิด “มาลิน สกาย”

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - นายตำรวจ สภ.ช้างเผือกที่ถูกโลกโซเชียลเผยแพร่ภาพและระบุเป็นหุ้นส่วนของร้าน “มาลิน สกาย” ที่เกิดเหตุรุมทำร้ายลูกชาย ผบ.มทบ.38 และเป็นคนถอดกล้องวงจรปิดของร้านออกไปหลังเกิดเหตุ ยืนยันไม่เป็นความจริง แต่ถูกใส่ร้ายและรู้ตัวคนที่เผยแพร่ภาพแล้ว เตรียมดำเนินคดีตามกฎหมาย

จากกรณีที่ นายอิศราชนุวัฒภ์ วรรคาวิสันต์ อายุ 23 ปี นักศึกษาปี 4 คณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยพายัพ ซึ่งเป็นลูกชายของ พล.ต.วิทยา วรรคาวิสันต์ ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 38 จังหวัดน่าน ถูกกลุ่มการ์ดที่ดูแลร้านอาหารชื่อ มาลิน สกาย ตำบลช้างเผือก อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ ทำร้ายเมื่อคืนวันที่ 25 พ.ย. 59 ที่ผ่านมาจนได้รับบาดเจ็บสาหัส ทั้งดั้งจมูกหัก, เยื่อหูฉีก, ฟันแตก 2 ซี่, กรามร้าว, สมองกระทบกระเทือน และตาซ้ายมีปัญหามองไม่เห็นต้องรอผลการตรวจให้แน่ชัดอีกครั้ง

โดยมีการพาดพิงไปถึงกลุ่มดารานักแสดง และไฮโซที่อยู่ในเหตุการณ์ว่าอาจจะมีส่วนเกี่ยวข้องด้วย

ขณะเดียวกันเพจเฟซบุ๊ก “ปฏิรูปตำรวจ” และสังคมออนไลน์ได้เผยแพร่และแชร์ภาพของนายตำรวจสถานีตำรวจภูธรช้างเผือก ระบุว่าเป็นหุ้นส่วนของร้านมาลิน สกาย และเป็นผู้ที่ทำการถอดกล้องวงจรปิดออกไปจากทางร้านนั้น

พ.ต.ต.สถิตชัย นิตยวัน พนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรช้างเผือก ซึ่งเป็นนายตำรวจที่พาดพิง ชี้แจงว่า ภาพที่มีการเผยแพร่ออกไปนั้นเป็นภาพเก่าตั้งแต่ปี 2558 ที่ทำคดีเกี่ยวกับการค้ามนุษย์ และไม่รู้ว่าผู้ใดที่เป็นคนถ่ายภาพไว้ กระทั่งมีการนำมาเผยแพร่ เบื้องต้นตรวจสอบพบว่าผู้ที่นำภาพไปเผยแพร่เป็นคนที่เคยถูกตัวเองจับกุมคดีหมิ่นประมาทเมื่อหลายปีที่แล้ว เชื่อว่าน่าจะมีความแค้นส่วนตัว ทั้งนี้ไม่ขอแก้ตัว และจะดำเนินการตามกฎหมายฐานทำให้ตัวเองเสียชื่อเสียง

นอกจากนี้ พ.ต.ต.สถิตชัยยืนยันว่าไม่ได้รู้จักกับ นายกฤษณะ อมิตรสูญ หรือบอล และ นายธนิน เลิศอำรุงกุล อายุ 33 ปี เจ้าของร้านมาลิน สกาย เป็นการส่วนตัวแต่อย่างใด แต่เคยจับกุมนายธนินในข้อหาเปิดสถานบริการโดยไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งเป็นร้านที่อยู่ชั้นล่างของร้านมาลิน สกาย โดยยึดกล้องวงจรปิดของร้านส่งดำเนินคดีและมีความเห็นส่งฟ้อง โดยคดีอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาล ส่วนกล้องวงจรปิดของร้านมาลิน สกาย ที่หายไปหลังเกิดเหตุนั้นยืนยันว่าตัวเองไม่ได้เป็นคนนำออกไป และไม่เกี่ยวข้องกับคดีนี้แต่อย่างใดทั้งสิ้น
กำลังโหลดความคิดเห็น