“หวาย กามิกาเซ่” น้ำตาไหล โชว์ใบรับรองแพทย์เป็นฝ่ายถูกทำร้ายร่างกาย ยอมรับยังช็อก ไม่กล้าออกจากบ้านเจอหน้าผู้คน งงถูกคู่กรณีเอาขวดมาฟาดตรงจุดกะโหลกร้าวแถมตามมาต่อยหน้าซ้ำ ทั้งที่ไม่รู้จักกัน ยันไม่ได้เดินชนนมใครแต่อีกฝ่ายหาเรื่องก่อน เสียใจคำวิจารณ์ บอกเพราะเป็นหวายทุกคนเลยมองหนูแย่ ลังเลแจ้งความ คาดอีกฝ่ายสติไม่ดี มีปมในชีวิต ด้าน ตร.ยันไม่มีแอลกอฮอล์ในร่างกาย
กลายเป็นข่าวฮือฮาเลยทีเดียว หลังจากที่มีการแชร์คลิปที่ระบุว่า เป็น “หวาย กามิกาเซ่” ปัญญริสา เธียร์ประสิทธิ์ เมาอาละวาดโชว์กร่าง จนหวิดโดนคนในพื้นที่ป่าตอง จ. ภูเก็ต รุมกระทืบ โดยเจ้าตัวมาพร้อมแฟนหนุ่ม ซึ่งภายหลังจากที่เจ้าตัวโพสต์อินสตาแกรมยันไม่เป็นความจริงทั้งหมด และอยากให้รอฟังความจริงทั้งสองด้าน
ล่าสุด ช่วงเช้าวันนี้ (21 พ.ย.) หวายได้ออกมาเปิดใจในรายการ “ปากโป้ง” ลาดพร้าว 15 ดำเนินรายการโดย “หนุ่ม กรรชัย กำเนิดพลอย” โดยเจ้าตัวนำใบรับรองแพทย์มายันว่าเป็นฝ่ายที่ถูกกระทำ และยืนยันไม่ได้หาเรื่องใครก่อน ไม่ได้กวนตีนใคร ไม่ได้เดินชนนมใคร ส่วนอีกฝ่ายอยู่ดีๆ ก็เข้ามาถามว่า “มึงกวนตีนกูเหรอ”
“ยังเสียใจมาก โพสต์ดรามาด้วย มันช็อกมาก คือไม่ได้เป็นความจริงทั้งหมด เหตุการณ์เกิดขึ้นที่ภูเก็ต เป็นวันที่ 6 พ.ย. เพิ่งผ่านมาเอง หวายไปเที่ยวภูเก็ตบ้างแต่ที่ไปก็ช่วยครอบครัวมีโน่ด้วย มีโน่เป็นคนที่ดูใจกัน ทางครอบครัวเขามีร้านอาหาร ตอนนี้เขาจะเปิดเกสต์เฮาส์ เราก็ไปช่วยดู อย่างที่ทราบเราไม่มีงานเลย เราเลยตัดสินใจอยากไปพักด้วย”
“คือ ถ้าจะให้เล่าสั้นๆ และตรงประเด็นเลย วันนั้นไปทานข้าวกับครอบครัวมีโน่ คุยกันเรื่องงานแล้วหลังจากนั้นก็บอกว่าอยากไปพักผ่อน เลยไปเดินเล่นเที่ยวกัน เจอเพื่อนด้วย ตอนเจอเพื่อนก็แฮปปี้เฮฮา แต่ถ้าถามว่าได้ดื่มมั้ยยังจะยืนยันและตอบว่าไม่ได้ดื่มจริงๆ ไม่รู้ข่าวออกมาได้ยังไง ไปสามทุ่ม ไม่ได้ดื่มเลยจริงๆ แต่แฟนดื่มแต่ดื่มจากร้านอาหารมาก่อนแล้ว ถามคุณ ตร. ได้ตอนเช็กแอลกอฮอล์เป็นยังไง ไม่ได้สั่งมาบนโต๊ะหรืออะไรเลย มากสุดคือเบียร์ขวดเดียว แต่ตัวหนูกับเขามีสติมาก (ลากเสียง) ในวันนั้น เราค่อนข้างแฮปปี้มากในวันนั้น ออกมาจากในสถานที่นั้นจำเวลาไม่ได้ แต่ที่รู้ถึง รพ. ก็ตีสาม”
“เหตุการณ์คือพอเดินออกมาจากสถานที่นั้นแล้วก็เจอแฟนคลับขอถ่ายรูป เราก็ถ่ายรูปอย่างดีเลย แล้วยืนกับมีโน่ด้วย อยู่ดีๆ ก็มีผู้หญิงสองคนนี้ คนหนึ่งมาถามว่าเรากวนเขาเหรอ เขาบอกว่ากวนตีนเหรอ (พิธีกรถามว่าคู่กรณีใช้คำว่ามึงกวนตีนกูเหรอ?) ใช่ ประเด็นคือหนูไม่เคยเห็นหน้าเขา ไม่เคยทำความรู้จักกับเขาเลยมาก่อน (เสียงเครือ) ตัวหนูก็งง ก็บอกว่าเปล่า ตัวหนูไม่ได้เห็น ไม่ได้เจอเขาเลย เท่าที่ทราบตอนนี้ทางเพื่อนของมิโน่บอกว่าได้เห็นเขาแว้บๆ ในผับแล้วเพิ่งทราบเหมือนกันว่าผู้หญิงเป็นเพื่อนกับคนที่รู้จักกับกลุ่มนี้เหมือนกัน แต่ไม่ได้มาด้วยกันหรืออะไร รู้จักกันห่างๆ เขาก็เซย์ไฮกัน”
ยันช็อกถูกฟาดด้วยของแข็งที่ศีรษะจนล้มหน้าฟาด แถมอีกฝ่ายังตามมาชกหน้าตนซ้ำ
“ตอนที่ถ่ายคือเราผ่านคลับไปแล้ว เดินอยู่บนถนนจะข้ามไปเอารถ เขาก็เข้ามาถาม แล้วเขาก็อย่างนั้นเลย มันไม่โอเคเราก็บอกว่าเปล่า หนูก็ออกมาก็กลัวเหมือนกัน เราไม่รู้จัก แฟนก็บอกว่าอย่า เดินถอยออกมา เราก็ยอม ไม่ตอบ ไม่อะไร ไม่อยากยุ่ง นางอยู่ดีๆ ก็มาข้างหลัง รู้สึกโดนฟาดของใส่หัวแต่ไม่รู้โดนอะไรตรงกลางศีรษะ แล้วหนูก็ล้มลงไป ตัวหนูเองตอนโดนฟาดมันมึนมาก มันค่อนข้างตกใจ ช็อก (เสียงสั่น) รู้ตัวอีกทีแฟนช่วยดึงขึ้นมาแล้วก็ถามว่าทำแบบนี้ทำไม เขายังไม่ได้ทำอะไรเลย มีสิทธิ์อะไร เขาก็ไม่ตอบอะไร”
“เท่าที่ได้ฟังมา เขาก็อาละวาด จะมาทำหนูอีก แล้วแฟนหนูเลยรีบพาหนูออกไป พอเดินถึงสุดทาง หนูก็รู้สึกกลับเข้ามาแล้วถามว่าใครทำ หนูช็อกจริงๆ ถามว่าใครทำอะไร เกิดอะไรขึ้น ปวดเจ็บมาก ตัวหนูก็อาจจะกลัวด้วยเพราะเคยตกมอเตอร์ไซค์กะโหลกร้าว ตกใจมาก ตอนนั้นมันปวดมากค่ะ มันก็เลยกลัวไปหมดเลย ตอนเดินไปสุดซอย ก็ถามว่าเกิดอะไร แล้วคู่กรณีก็เดินมาหาอีกทีหนึ่ง ตอนที่หนูเดินออกไป รู้สึกว่าเกิดอะไรขึ้น ถามวาใครทำ ไม่เห็นคู่กรณี เห็นแต่เพื่อนของเขาก็ถามว่าใครทำ ตอนนั้นเราตกใจ ก็โวยวาย ว่าเกิดอะไรขึ้น”
“ไม่รู้ทำไมเขาไม่ชอบหนู หรือโกรธหนู เกลียดหนูจากอะไร เขาจะมาทำร้าย เขาไม่ได้ตบมันคือซ้อมเลยก็ว่าได้ ใช้หมัดต่อย หนูก็ล้มอีก ตอนนั้นก็ดึงเขาลงมาด้วย ลุกไม่ขึ้น ตัวเราอยากขึ้น ก็ดึงเขา เขาก็กลายเป็นลงมาแล้วทำเราต่อ เราไม่รู้จะทำยังไง เราปกป้องตัวเอง หนูแค่ปกป้องตัวเอง”
“หนูไม่ได้ตอบโต้กลับ คือ เราแค่แยกจากกัน หนูปกป้องตัวเองแน่นอน ถามว่าได้ตะโกนมั้ยไม่ได้ตะโกนอาละวาดคนอื่นไม่มีเหตุผล ว่าฉันหวายนะ ตอนนั้นมันช็อกมาก มันกลัวไปหมดเลย”
“ตอนนั้นหนูอยากให้ทุกอย่างจบลงด้วยการไปสถานีตำรวจ ทั้งที่ทุกคนบอกว่าอย่าไปเลย เดี๋ยวเป็นเรื่อง แต่ ณ จุดนั้นหนูพูดไปเลยว่าหนูไม่แคร์เพราะหนูโดนฟาดหัว ถามใครได้หนูพูดเอง อยากแจ้งความอย่างเดียวไม่เคยโดนอะไรแบบนี้ ไม่มีเหตุผลเลย แต่พอข่าวออกมาแบบนี้ มันกลายเป็นเราเสียหาย คือเรายินยอมไปด้วยซ้ำ แต่พอข่าวออกมาแบบนี้ก็อยากจะพูดนิดหนึ่ง เพราะทำให้หนูดูเป็นคนไม่โอเคมากๆ หนูอ่านเองแล้วยังรู้สึก”
ยอมรับคำวิจารณ์กระทบจิตใจ น้ำตาไหลพรากเพราะเป็นหวาย ทุกคนเลยมองหนูแย่
“ไม่ชอบที่หาว่าหนูไปมีเรื่องกับชาวบ้าน หนูเป็นคนแรง ภาพพจน์ไม่ได้ดีมาก แต่ทุกอย่างที่ทุกคนพูดมันกระทบใจหนูมาก (ร้องไห้) หนูไม่เคยคิดว่าการที่เราต้องการความยุติธรรมทำให้ทุกคนมองเราแย่อย่างนี้ ไม่คิดว่าทุกคนจะฟังจากฝ่ายเดียวแบบนี้ หนูยอมรับว่าความเป็นหวาย ทำให้คนมองหนูแย่มาก (ร้องไห้น้ำตาไหลพราก)”
“หนูบอกว่าหนูไม่ไหวแล้วไป รพ. เหอะ ไม่ต้องรอแล้ว (พิธีกรเอาใบรับรองแพทย์จาก รพ.กรุงเทพสาขาภูเก็ต มาโชว์ ข้อความระบุถูกทำร้ายร่างกาย ถูกกระแทกของด้วยของแข็งกลางศีรษะ มีรอยฟกช้ำ ถูกชกที่ใบหน้า แต่ไม่สลบ อยากให้แอดมิดที่ รพ. แต่หวายกลับมาดูแลตัวเองที่บ้าน) เรื่องกล้องวงจรปิดต้องรอเขารวบรวมหลักฐาน หนูคิดว่ามี คือ ตอนกลับไปถนนนั้น ก็ได้ไปถ่ายจุดที่เกิดขึ้นและดูว่ามีกล้องวงจรตรงไหนบ้าง มีกล้องวงจรติดอยู่ตรงนั้น อยากดูเหมือนกัน แต่ต้องรอ”
“ทางคู่กรณีเขาไม่ได้ติดต่อ แต่ผู้ชายที่รู้จักเพื่อนของแฟนเราและคู่กรณี เขารู้ว่าผู้หญิงผิด เขายินยอมจะช่วยทุกอย่าง เขาขอไม่ยุ่งเรื่องนี้ เขาบอกผู้หญิงคนนี้ผิด เราก็เห็นแต่ในรูปพยายามหาว่าเป็นใคร ทั้งเพื่อน ทั้งพี่ แฟนคลับช่วย”
ลังเลแจ้งความ ไม่อยากทำให้ใครไม่มีอนาคต คาดอีกฝ่ายสติไม่ดี มีปม!
“ตัวหนูเองอยากแจ้งความ แต่หนูไม่อยากให้เลยเถิดไปมากกว่านี้ ตอนนี้ยังไม่แจ้งความ เราจะแจ้งแล้ววันนั้นจริงๆ ที่ยอมไปถึงสถานีตำรวจ เพราะอยากจะไปแจ้ง แต่ในเมื่อเขาไม่มา เรื่องนี้อยากปล่อยเขาด้วย อยากให้เรื่องเงียบด้วย ตอนนี้หนูใจจริงก็อยากแจ้งเพราะหนูเจ็บมาก มันกระทบหนูทั้งทางจิตใจ แต่ตัวหนูเองก็มานั่งคิดว่าเขาไม่ปกติหรือเปล่า หรือเขามีปม ขอลองคุยกับผู้ใหญ่ก่อนด้วย แต่ใจหนูอยากแจ้ง แต่ไม่อยากทำให้ใครไม่มีอนาคตเหมือนกัน”
ชี้แจงผู้ใหญ่แล้ว อีกฝ่ายยังไม่คาดโทษ
“คุยชี้แจงแล้ว ทุกคนเข้าใจหมด หนูรู้สึกดีใจเหมือนกันที่ทุกคนรับฟัง บอกตลอดว่าเข้าใจว่าทุกอย่างที่พูดมา บริษัทไม่ได้ไปเชื่อข่าว ยังแฮปปี้ที่มีผู้ใหญ่ช่วยเหลือด้วย ถ้าไม่มีก็คงไม่โอเคจริงๆ ถ้าจะโดนบทลงโทษก็ยอมรับได้ แต่เท่าที่ทราบไม่ได้ถูกลงโทษอะไร ตอนนี้หนูอยากแจ้งเหมือนกัน เริ่มจะไม่สงสารแล้ว”
ขอบคุณทุกฝ่ายที่รับฟัง ยันเป็นคน รู้ต้องเป็นตัวอย่างที่ดี
“ถามว่าหนูกลัวมั้ยหนูไม่กลัวแต่รู้สึกสะเทือนใจมากกว่า เรื่องของหนู อยากให้ฟังฝั่งหนูบ้าง อยากให้ทุกคนแยกแยะว่าหนูก็เป็นคนเหมือนกัน รู้ว่าต้องเป็นตัวอย่างที่ดี แต่ก็เชื่อว่าทุกคนเข้าใจแล้วว่าทำไมหนูตะโกน อาจพูดว่าใครทำ เพราะเราโดนก่อน ยังไงก็ขอบคุณพี่หนุ่ม (กรรชัย) ด้วย ที่ให้หนูมาพูด ระหว่างที่หนูยังช็อก อาจเรียบเรียงไม่ค่อยได้ ขอบคุณทางช่อง ทางผู้ใหญ่ด้วยที่ยอมรับฟังและเปิดใจให้โอกาส และช่วยหนู หนูไม่ได้ผิดจริงๆ”
หลังจากให้สัมภาษณ์ในรายการเสร็จสิ้น หวานก็มาชี้แจงต่อหน้าสื่อมวลชนอีกครั้ง โดยยืนยันคำเดิมว่าไม่รู้จักคู่กรณี ไม่ได้เดินชนนมใคร จนทำให้อีกฝ่ายไม่พอใจ
“ไม่รู้จัก ไม่เคยเห็นหน้า ไม่เคยทักทายกันมาก่อนเลย มันเลยเจ็บใจมากๆ ต้องบอกทุกคนเลยว่าวันนั้นเป็นว่าที่หนูมีความสุขมากๆ หลังจากที่ที่ผ่านมามีเรื่องเครียดหลายอย่าง แต่กำลังมีความสุข พอเจอแบบนี้เลยกระทบกับหนูมาก เพราะว่าจะกลับบ้านแล้ว แต่อยู่ดีๆ มีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้น เราไปเพราะอยากรีแล็กซ์ เพราะตัวหวายเองไม่ได้ออกไปไหนบ่อยและไม่ดื่ม ก็เลยได้ไปเที่ยวที่ผับก่อน ออกมาจะไปขึ้นรถ ก็เกิดเรื่องขึ้นเลย”
“ซึ่งตัวหนูเองไม่ได้สังเกตอะไรเขาเลย ในผับก็ไม่ได้ไปเดินชนนมใครอะไรทั้งสิ้น ไม่มีโวยวาย ในคลับมีสติเต็มร้อย หนูไม่รู้เหมือนกันทำไมทุกคนคิดว่าหนูจะอยู่ดีๆ แล้วไปมีเรื่องกับใคร หรือมีปัญหากับใคร ไม่ได้เป็นคนแบบนั้นอยู่แล้ว เอาจริงๆ แล้วอยากให้ทุกคนตัดเรื่องแอลกอฮอล์ มันไม่เกี่ยวเลย ถ้าอยากจะทราบว่ามีแอลกอฮอล์ในเลือดมั้ย คุยกับสารวัตรได้ เราไม่มีเรื่องกับใครเลย”
เชื่อไม่เกี่ยวกับกรณีที่เคยมีเรื่องกันมาก่อนที่ภูเก็ต ยังงงอีกฝ่ายมาทำรุนแรงกับตนทำไม
“ไม่เกี่ยวแน่นอน เพราะอย่างตอนนั้นเพื่อนหนูเป็นคนโดน หนูไม่ได้โดนอะไรเลย คู่กรณีของเพื่อนก็ไม่ได้แตะเนื้อต้องตัวหนูเลย หนูก็ไม่ได้แตะ มีแต่เขาทำเพื่อนหนู แล้วหนูตกใจและถามว่าทำเพื่อนฉันทำไม ส่วนคราวนี้โดนเอง โดนแบบงงๆ ไม่เข้าใจว่าเขาทำเราทำไม ทางตัวหวายอยากที่จะฟังจากเขาเหมือนกันว่าเขารู้สึกอย่างไร แต่มีแค่ฝ่ายชายที่เขาเป็นเพื่อนของเพื่อนมิโน่ได้มาคุยกับทางมิโน่ว่าทราบว่าผู้หญิงผิดจริง และถ้ามีอะไรต้องการความช่วยเหลือก็บอกได้”
“หลังจากเกิดเหตุจุดที่ 2 หนูบอกกับคุณตำรวจเองว่า อยากที่จะไปสถานีตอนนี้ ไปโรงพักตอนนี้ ตอนนั้นเราคิดว่ามันอาจจะเป็นเรื่องไม่ใหญ่โต แต่เราเจ็บ อยากที่จะเคลียร์กับคู่กรณี ถ้าเคลียร์ไม่ได้จะแจ้งความ แต่ในเมื่อคู่กรณีไม่มา ตอนนั้นเราเจ็บมาก คิดว่าจะตาย คุณตำรวจเลยบอกว่า ไปโรงพยาบาลเถอะ เขาไม่มาแล้ว เขาเลยพาไปโรงพยาบาล หมอบอกว่ามีบวมตรงศีรษะ และมีช้ำบนใบหน้า ดวงตา และมีแผลบนตัว มีรอยช้ำบนตัว ขอให้แอดมิด แต่หวายขอกลับก่อน ก็ยังไม่ได้เอกซเรย์”
รับยังช็อกไม่กล้าออกจากบ้านไปเจอผู้คน
“ตอนนี้ไม่อยากออกไปไหนเลย ไม่อยากเจอผู้คน อันนี้เป็นครั้งแรกที่ได้ออกไปไหน หลังจากเกิดเรื่องและเจอคนเยอะขนาดนี้ ตอนนี้ก็ยังสะเทือนใจ ยังช็อก แต่หนูก็รู้สึกดีใจที่ได้ออกมาพูด แต่สภาพจิตใจยังไม่ดี ส่วนเรื่องแจ้งความ ตอนนี้ยังไม่ได้แจ้ง อยากดำเนินคดีนะ แต่ต้องรอคุยกับทางผู้ใหญ่ แต่ตัวเราเองอยากที่จะปกป้องตัวเองอยู่แล้ว ต้องรอคุยกับผู้ใหญ่และรวบรวมหลักฐานทั้งหมด ทางคู่กรณีก็ยังไม่ได้คุย ไม่ได้ติดต่อ มีแต่แฟนหวายที่ได้คุยกับเพื่อนของเพื่อนคู่กรณีแค่นั้นเลย ไม่ได้คุยกับผู้หญิงเลย และไม่ได้คิดที่จะเจอเร็วๆ นี้ และไม่อยากคุย เพราะหนูแค่ไม่อยากเอาตัวเองไปเกี่ยวข้อง ช็อกมากและสภาพจิตใจไม่ดีเลย”
“เขามาทำร้ายหวายทำไมก็อยากทราบมากกว่าทุกคนอีก แต่ตอนนี้มันเจ็บมากจริงๆ มันหาเหตุผลไม่ได้จริงๆ ว่าเขาอาจไม่ชอบเราอยู่แล้ว ไม่ชอบผลงานเราอะไรอย่างนี้ถึงมาทำ ไม่เคยเจอมาก่อนจริงๆ หาเหตุผลให้เขาไม่ได้ ถามมิโน่แล้วเขาไม่รู้จัก แต่มีฝ่ายชายที่เป็นเพื่อนของเพื่อนมิโน่รู้จักกันห่างๆ ถามเขาแล้ว เขาบอกไม่รู้หลังจากเกิดเรื่องและเจอคนเยอะขนาดนี้”
ย้ำทั้งชีวิตไม่เคยโดนใครทำแบบนี้
“ก็อยากจะบอกว่า อยากให้ทุกคนเข้าใจหนูและยอมรับฟังหนูบ้าง หนูเป็นคนเหมือนกัน และในคลิปที่ทุกคนได้ดูมันไม่ได้มีภาพเยอะ ไม่ได้เห็นหนู แต่อยากอธิบายว่าที่ได้ยินเสียงหวายตะโกนหรืออะไรมันเป็นเพราะว่าเราโดนทำ เราตกใจมันต้องมีพูดบ้างถามบ้าง จะให้แค่โดนทำและยืนนิ่งๆ เฉยๆ หรือแค่ยืนร้องไห้ มันไม่ใช่ คนเราโดนทำแบบนั้นมันต้องตกใจอยู่แล้ว และในชีวิตนี้พูดเลยหนูไม่เคยโดนใครทำแบบนี้ ไม่เคยโดนใครเอาของมาฟาดหัวเลย ทางครอบครัวก็เป็นห่วง คอยอยู่ข้างๆ ปลอบตลอด คอยบอกอย่าเครียด อย่าคิดมาก เพราะข่าวคือข่าวเรารู้ว่าความจริงคืออะไร”