“ดา เอ็นโดรฟิน” แฮปปี้กินเด็ก หลุดปากอยากแต่งงาน แต่แฟนฝรั่งยังไม่พร้อม บอกยังเด็กขอเวลาอีกนิด ขำๆ หวานใจเป็นสเปกหญิงไทยเข้ามาแทะโลมซึ่งหน้า เปิดใจไม่หวง เป็นรุ่นใหญ่ใจต้องนิ่ง รักครั้งนี้เป็นผู้ใหญ่ขึ้น ใช้สติกับหัวใจมากกว่าอารมณ์ ขอเดินไปข้างหน้าเรื่อยๆ ไม่รีบ
เตรียมกลับมาลุยงานเพลงทำซิงเกิลใหม่ สำหรับ “ดา เอ็นโดรฟิน” ธนิดา ธรรมวิมล โดยเจ้าตัวเปิดใจได้แรงบันดาลใจจากนักร้องบนเวที “เดอะวอยซ์” เปิดใจไม่กดดันกับการมาทำหน้าที่โค้ชเสียบแทน “เจนนิเฟอร์ คิ้ม” ก่อนเผยถึงความรักกับหนุ่มตาน้ำข้าวนักดนตรีชาวกรีกนาม “อเล็กซ์” เผยแฮปปี้เวอร์
“คงทำเพลงต่อ พอซิงเกิลล่าสุดเธอมีฉัน ฉันมีใคร กระแสดีบวกกับได้ไอเดียมาจากเดอะวอยซ์ เราได้เด็กๆ ที่มีแรงบันดาลใจกว่าจะเป็นนักร้อง เหมือนเราได้เห็นตัวเอง เพลงต่อไปน่าจะเป็นเพลงที่ให้กำลังใจเด็กๆ ให้พี่นิ่ม สีฟ้า เป็นคนเขียนเพลง เดือนหน้าเริ่มเข้าไปอัดแล้วมาฟังกันดูว่าจะต้องแก้ไขอะไรยังไงหรือเปล่า”
“แนวเพลงเป็นเชิงให้กำลังใจ เหมือนเป็นแรงผลักดัน เพราะตอนถ่ายเดอะวอยซ์ก็ได้เจอกับผู้เข้าแข่งขันที่ภรรยาเขาเสียไปแล้ว สัญญากับภรรยาว่าจะมาประกวดเดอะวอยซ์ บางคนก็เป็นพี่สาวนั่งอยู่บนวีลแชร์แล้วให้น้องสาวขึ้นมาประกวดแทนเพราะเขาทำไม่ได้ เรื่องราวพวกนั้นทำให้เรารู้สึกว่าเป็นพลังมากๆ เลย”
“ยกให้เป็นหน้าที่ของพี่นิ่มเลย เพราะพี่นิ่มเคยเขียนเพลงให้ดานานมากแล้ว และไม่ได้ทำงานร่วมกันเลย ถ้าคนไหนที่อินกับเพลงอีโมชันนอล ต้องเป็นพี่นิ่มเลยค่ะ ดนตรีออกแนวสเตเดี้ยมร็อก ปลุกใจให้ลุยไปด้วยกัน เหมือนสถานการณ์ตอนนี้แหละ ให้กำลังใจทุกคน น่าจะอีกสัก 2 - 3 เดือน ถ้าทุกอย่างกลับมาออนแอร์ตามปกติ เราก็เดินหน้าทำงานต่อเลย”
เผยแฮปปี้ สนุก เป็นโค้ชรายการเดอะวอยซ์ แต่ต้องพัฒนาฝีปากสู้ 3 หนุ่ม “ก้อง-สิงโต-โจอี้ บอย”
“ก็ดีค่ะ สนุก เหมือนเห็นตัวเองในเวทีประกวด เพราะตอนเด็กๆ ก็ซ่า บ้าบิ่น อยากจะประกวด แต่เดอะวอยซ์ดีอย่างตรงที่ใช้เสียงล้วนๆ ไม่เห็นอะไรเลย มากับดวงกับเสียงโดยเฉพาะ”
“เด็กๆ ไม่กดดันหรอก แต่กรรมการน่ะกดดัน พอหันหน้าไปการที่เราจะหันไปคอมเมนต์น้องๆ บางทีก็ไม่รู้จะพูดยังไง เราก็ไม่อยากเป็นคนโดนว่ากลางเวทีเหมือนกัน เธอร้องไม่ดีเลย มาได้ยังไง ไม่อยากให้เกิดอารมณ์นั้นขึ้น เราอยากสร้างพลังงานบวกให้เด็กมากกว่า เดอะวอยซ์มีคนเดียวเท่านั้น ฉะนั้นแล้วถ้าจะเป็นเดอะวอยซ์เรายังขาดอะไรอยู่บ้าง สอนเขา เอาประสบการณ์ที่มีมาแชร์ให้เขาฟัง ตอนเด็กๆ เราเคยทำแบบนี้แล้วมันพลาด เลือกเพลงยากไม่ได้ช่วยอะไร ใช้เพลงที่เราเข้าใจดีกว่า พูดจุดเด่นจุดด้อยให้น้องฟังแล้วให้เขาไปฝึก”
“เราก็ต้องสู้นิดหนึ่งเพราะผู้ชาย 3 คนก็ไม่ธรรมดา เหมือนโดนรังแกเบาๆ ในรายการแต่เราก็ต้องยืนหยัดต่อไปแม้ว่าฝีปากของเราอาจจะต้องการการพัฒนาอยู่บ้าง แต่ไม่มีอะไรนิ่งๆ เชิดๆ แล้วบอกไปว่าได้แล้วนะ อะไรแบบนี้”
ไม่กดดันเสียบแทน “เจนนิเฟอร์ คิ้ม” ขอเป็นโค้ชสไตล์ตัวเอง
“ตอนแรกก็แอบคิดเบาๆ แต่กรรมการแต่ละคนมีสไตล์ไม่เหมือนกัน ลองให้ดาเป็นดาดูก่อน จริงๆ การมาเป็นเดอะวอยซ์เราไม่ได้มาบังคับให้เขาทำตาม เป็นการมาแชร์เรื่องราวตอนเด็กๆ ให้น้องๆ ฟัง เพราะน้องๆ รุ่นนี้มีแต่เด็ก 17 ปีทั้งนั้น เราตั้งใจว่าเราจะมาให้เขาก็เลยไม่รู้สึกกดดันแล้ว”
“เราก็คิดว่าจัดจ้านแล้วสำหรับปีแรก หลายคนก็บอกว่าสนุกดี เหมือนพี่น้องทะเลาะกัน จริงๆ เราก็เป็นพี่น้องกัน ดา พี่โจอี้ บอย พี่สิงโต เราเล่นดนตรีเปิดปิดมิวสิคเฟสด้วยกันหลายปี ฉะนั้นก็จะไม่มีความเกรงใจกันแล้ว สนุกดีค่ะ”
ความรักแฮปปี้ ขอเดินไปข้างหน้าช้าๆ ไม่รีบร้อน
“ก็โอเคนะ อยู่ในสภาวะดี เรื่อยๆ มากกว่า เราโตแล้ว เราขอเดินไปอย่างช้าๆ ไม่รีบร้อน ไม่อารมณ์ร้อนใส่กัน ทะเลาะก็ทะเลาะกันเบาๆ อยู่ในจุดที่เราโตขึ้นเราก็จะเริ่มเบาเอง”
“เขาก็เป็นนักดนตรีเหมือนกัน ส่วนใหญ่เราก็จะคุยกันเรื่องดนตรี เขาเองก็เซ็นสัญญากับต่างประเทศเหมือนกัน เราเจอกันที่งานแต่งลิเดีย (ศรัณย์รัชต์ วิสุทธิธาดา) ดาร้องเพลงตอนตัดเค้ก เขาร้องเพลงตอนปาร์ตี้ เขาโตมากับน้องชายลิเดีย หลังจากงานนั้นก็ไม่ได้คุยกัน 4 - 5เดือน แต่ก็ตามไปดูเขาเล่นดนตรี เขาก็ตามไปดูดาเล่นดนตรี ก็คุยกันไปเรื่อยๆ ผ่านเฟซบุ๊ก เราทักเขาไปก่อน แต่เรามีเหตุผลนะเพราะเฟรนด์เราเต็มอ่ะ(หัวเราะ) ก็เลยต้องคุยก่อน เขาก็เดินทางตลอด ไป-กลับ ไทย ลอนดอน บางทีก็กรีกด้วย ก็เคยเดินทางไปเมืองกรีซกับเขามาเมื่อปีที่แล้ว”
“เขาเดินทางบ่อยก็สบายค่ะ เราเองก็ต้องมีเวลาอยู่กับตัวเองบ้าง ทำงานกับวงเรา อยู่กับเพื่อน ไม่เบื่อค่ะ วัฒนธรรมเขาเหมือนเรา กินข้าวเฮฮาเป็นมื้อใหญ่ อยู่เป็นครอบครัวใหญ่ลุงป้าน้าอา”
หลุดปากแพลนแต่งงาน แต่อีกฝ่ายยังไม่พร้อม บอกยังเด็กขอเวลาอีกหน่อย
“สบายค่ะ รักครั้งนี้มันเป็นเราจริงๆ บวกกับเราโตขึ้นด้วย ความอารมณ์ร้อน ความโมโหก็หายไปเยอะ พอเอาดนตรีมาเชื่อมด้วย ทุกอย่างเลยแฮปปี้ เรื่องทะเลาะกันก็น้อยลง ไม่ใช่เด็กๆ ต้องคอยรายงานไปไหนยังไงแล้ว ก็คบมาปีครึ่งแล้ว เราก็ 30 แล้ว เขา 27 เราก็แพลนแล้วแต่เขายัง เราชอบเด็ก หมอบอก 35 เป็นตัวเลขที่โอเค แต่เขาบอกว่าเขาขอเวลาหน่อย”
ไม่หวงแฟนฝรั่งเป็นสเปกสาวไทย เผยเป็นรุ่นใหญ่ใจต้องนิ่ง
“ไม่แล้วค่ะ เรารุ่นใหญ่ใจต้องนิ่ง(หัวเราะ) เราต้องไม่คิดเยอะ เขาไม่หวงเราหรอกเพราะเราไม่ใช่สเปกชายไทย ไม่มีผู้ชายไทยเคยเข้ามาในชีวิตเลย แต่เขาก็จะมีผู้หญิงมายืนมองเขาต่อหน้าต่อตาเรา เขาเองก็เป็นฝรั่งสเปคสาวไทย ผู้ชายผมบรอนด์ ตาสีฟ้าอ่อน เดี๋ยวนี้ถ้าเห็นใครมองแฟนเรา เราจะหัวเราะ แล้วสะกิดบอกแฟนว่าเฮ้ยๆๆ เขาเช็กเธออ่ะ(หัวเราะ) ขำๆกัน ฉันไม่ร้อนแล้ว ฉันเพลาแล้วเพราะฉันเป็นเจ้าของเขาอยู่ตอนนี้ ถ้าเป็นเมื่อก่อนนะจะเงียบจิกตาใส่ผู้หญิง อย่างที่บอกว่าความรักครั้งนี้เราเป็นผู้ใหญ่ขึ้น ใช้สติกับหัวใจมากกว่าอารมณ์ กับเรื่องไร้สาระ วัยรุ่นที่ผ่านมาแน่นอนมันเป็นช่วงปั๊บปี้เลิฟ มันอารมณ์รักล้วนๆ ใครที่ผ่านช่วงนี้คบกันมาได้ 7 - 8 ปีนี่เป็นอะไรที่เก่งมาก”