“ยิปซี คีรติ” โต้โพสต์ภาพ “ยิปโซ” สยบข่าวทะเลาะกัน ลั่นถูกสื่อเล่นข่าวถี่ๆ คุณแม่ชักไม่ปลื้มดรามาพี่น้องแตกคอ ยันไม่เหงาชีวิตที่ไร้คู่ อยู่คนเดียวแฮปปี้ ประกาศไม่มีแฟนก็ได้ แต่ถ้ามีผู้ชายดีๆ หลุดเข้ามาถือเป็นโบนัส
จัดทริปเที่ยวญี่ปุ่นแบบพร้อมหน้าพร้อมตาครอบครัว สำหรับ “ยิปซี คีรติ มหาพฤกษ์พงศ์” งานนี้เจ้าตัวเลยขอชี้แจง ยันโพสต์รูป “ยิปโซ อริย์กันตา มหาพฤกษ์พงศ์” ในอินสตาแกรม ไม่ได้ต้องการสยบดรามาพี่น้องแตกคอ เพราะไม่ได้มีปัญหากันตั้งแต่แรกอยู่แล้ว ยอมรับเป็นข่าวถี่ๆ แม่ชักไม่ปลื้ม
“เพิ่งจะไปญี่ปุ่นกันมา ไปกัน 1 อาทิตย์ คือพอดีว่าเราว่างแบบกะทันหันเลยทำให้มีโอกาสได้ไป เพราะปกติคิวแน่นมากทั้งคู่ หาคิวยากมากที่ยิปซีกับยิปโซจะมีเวลาว่างพร้อมกัน เพราะขนาดไปเที่ยวต่างจังหวัดยังยากเลย ซึ่งทริปนี้ถือว่าโชคดีมากกว่า เพราะเราตั้งใจจะพาคุณพ่อไปเที่ยวเนื่องในโอกาสวันเกิดท่านด้วย ก็เลยได้ไปพร้อมกันทั้งครอบครัว”
“เลือกไปญี่ปุ่นเป็นการถามๆ กันมากกว่าว่าคุณพ่ออยากไปไหน เพราะเขาเป็นคนที่ไม่ชอบเวลามีใครให้สิ่งของ ซึ่งตอนแรกก็ถามเขาว่าอยากไปอเมริกามั้ย เพราะเป็นที่ๆ เขาเคยอยู่มาก่อน แต่คุณพ่อบอกว่าไปญี่ปุ่นก็ได้เพราะเขาก็ชอบเหมือนกัน ก็เลยทำให้ได้ไปกันทุกคนอย่างที่เห็นค่ะ เรื่องค่าใช้จ่ายก็เป็นหน้าที่เราสองคนพี่น้องค่ะ แต่จริงๆ ก็ไม่ได้ถึงกับว่าออกทั้งหมด เพราะว่าคุณแม่ไปด้วยท่านก็จะช่วยจัดการ ซึ่งก็นานมากที่มีโอกาสไปเที่ยวกันพร้อมหน้าพร้อมตา นานจนจำไม่ได้แล้วค่ะ ส่วนใหญ่แล้วจะไปกันแค่ต่างจังหวัดมากกว่า จังหวัดใกล้ๆ”
ตลกดรามาพี่น้องแตกคอ ยันไม่เคยทะเลาะ "ยิปโซ" แต่ยอมรับถูกตีข่าวแตกคอถี่ๆ แม่ชักไม่ปลื้ม
“อย่างที่บอกค่ะเราไม่ค่อยได้ไปเที่ยวด้วยกัน แถมปกติเวลาที่เจอด้วยความที่เราเป็นพี่น้อง เราก็จะไม่ค่อยได้ถ่ายรูปด้วยกันอยู่แล้ว มันไม่เหมือนกับเวลาเราเจอเพื่อนหรือนัดกันข้าวกับเพื่อนที่จะต้องถ่ายรูปเก็บไว้ ไม่ได้ลงสยบข่าวค่ะ เราลงเยอะเพราะรูปมันสวยเยอะ แถมยิปซีเป็นคนเอากล้องไปก็เลยได้เป็นช่างภาพประจำทริป เพราะยิปโซเขาไม่มีกล้อง ดังนั้นพอมันมีรูปสวยๆ เยอะเราก็เลยลงแค่นั้นเอง”
“เรื่องดรามาที่บอกว่าเราสองคนทะเลาะกันอันนั้นเป็นข่าวที่ตลกมากค่ะ เรื่องที่บอกว่าเราเหน็บกันเพราะไม่ให้เครดิต คือถ้าคนเราจะด่ากันจริงๆ เราคงไม่ด่าออกสื่อสาธารณะให้คนเห็นหรอกค่ะ มันเป็นแค่การแซวกันเล่นๆ เหมือนเพื่อนเหมือนพี่น้องแซวกัน ถามว่าที่ลงรูปมันเป็นเหมือนการยืนยันว่าเราคืนดีมั้ย (หัวเราะ) ไม่ต้องคืนดีค่ะเราไม่เคยมีปัญหาอะไรกันตั้งแต่แรก”
“เราก็คุยกันแต่เราสองคนก็เข้าใจถึงธรรมชาติของการอยู่ในวงการ เพราะอะไรก็ตามที่พอจะเป็นข่าวได้พี่ๆ นักข่าวเขาก็คงถามกัน จะเป็นฝ่ายคุณแม่มากกว่าที่งงว่าทำไมสื่อถึงชอบเขียนให้พี่น้องทะเลาะกัน ซึ่งหนูก็ได้อธิบายให้คุณแม่เข้าใจไม่อยากให้เขาคิดมาก เพราะเอาจริงๆ เวลานักข่าวเจอยิปโซเขาก็จะไม่ค่อยมีเรื่องอะไรให้ถาม เนื่องจากยิปโซเขายังไม่มีแฟน แถมข่าวกับผู้ชายก็ไม่มี ดังนั้นเขาก็เลยต้องถามเรื่องครอบครัวแทนเพื่อจะได้มีอะไรมาคุยกับน้อง”
“แต่ว่าตอนนี้คุณแม่ก็เข้าใจแล้วนะคะ เพราะพอมันมีข่าวมาเรื่อยๆ แม่เขาก็เริ่มชิน จะเป็นแค่เพียงช่วงแรกเฉยๆ ที่คุณแม่เขาอาจจะไม่ชอบ เพราะทุกคนในครอบครัวเราสนิทกันมาก คุณแม่เขาก็เลยจะไม่ชอบที่มีการเขียนข่าวให้ดูเหมือนว่าเราแตกแยกหรือมีปัญหากัน แต่ตอนนี้ท่านก็เข้าใจแล้วค่ะว่าเป็นแค่การทำงานปกติของนักข่าว ไม่ได้รุนแรงอะไร”
สุขในความโสด ไม่เหงา ไม่จำเป็นต้องมีแฟน
“ไม่มีอะไรเลยค่ะ เพราะตอนนี้เราก็มีความสุขในการได้อยู่กับเพื่อน อยู่กับที่บ้านและอยู่กับตัวเอง เอาจริงๆ หนูก็รู้สึกว่ามันโอเคนะ เพราะที่ผ่านมาเรามีแฟนมาตลอด และพอได้มาอยู่แบบนี้เราก็เลยรู้สึกว่ามันโอเคแล้วจริงๆ ไม่ได้เหงาไม่ได้อะไรเลย คือไม่จำเป็นต้องมีแฟนก็ได้”
“ส่วนยิปโซเขาอยากมีแฟนมั้ยต้องไปถามเขาเองเลยค่ะรายนั้น หนูไม่สามารถตอบอะไรแทนเขาได้เลยจริงๆ เพราะเขาเป็นเคสที่แบบว่าเฉพาะทางมาก ไลฟ์สไตล์เขาไม่เหมือนใครจริงๆ”
โอเคกับชีวิตที่ไร้คู่ อนาคตจะดูแลยิปโซเอง ถ้ามีผู้ชายที่ดีเข้ามาถือเป็นโบนัส รับพ่อแม่ห่วงน้อง มีความคิดเฉพาะทางไม่เหมือนใคร
“คุณพ่อคุณแม่จะห่วงน้องมากกว่าค่ะ เพราะยิปโซเขาจะมีความคิดที่เป็นแบบเฉพาะของเขาจริงๆ มันก็เลยอาจจะทำให้เขาหาคนที่มีไลฟ์สไตล์มาชนกับเขาได้ยาก ถามว่าหนูเป็นห่วงเขามั้ย เอาจริงๆ ก็ไม่เลยนะ จะเป็นคุณพ่อคุณแม่มากกว่าพี่บ่นว่าทำไมลูกสาวไม่คุยกับใครเลย ซึ่งตรงนี้หนูก็จะคอยบอกกับพวกท่านว่าไม่ต้องเป็นห่วงน้องหรอก เพราะเอาจริงๆ หนูเองก็ค่อนข้างโอเคแล้ว หากในอนาคตหนูจะอยู่โดยที่ไม่ต้องแต่งงานหรือไม่ต้องมีคู่ หนูก็บอกพวกท่านว่าในอนาคตหนูจะช่วยดูแลน้องเอง”
“จริงๆ เขาก็ห่วงกันคนละแบบ แต่หนูก็บอกเขานะว่าเราสองคนเป็นพวกที่ดูแลตัวเองได้อยู่แล้ว ซึ่งมันก็ดีกว่าหากเราต้องไปอยู่กับคนที่ทำให้เราต้องเป็นทุกข์”
“ไม่ได้เตรียมใจที่จะโสด คือถ้าเจอแล้วดีแล้วก็โอเค แต่ถ้าไม่เจอเราก็อยู่ได้ เราไม่ได้ซีเรียสขนาดนั้น คือตอนนี้ขอทำชีวิตของเราให้ดีก่อนหากในอนาคตได้เจอคนดีเราค่อยถือว่านั่นคือโบนัส”