“ฝ้าย” ร่ำไห้! กลัวตายที่สุดในชีวิต ครรภ์เป็นพิษ-ลูกสำลักเลือด “หนุ่ม” ไม่ไหว! ประกาศปิดอู่

“ฝ้าย อริญรดา” เล่าวินาทีเป็นวินาทีตาย แอดมิดด่วนเหตุครรภ์เป็นพิษ เผย “แม่ - ลูก” เป็นตายเท่ากัน ลูกสำลักเลือดในครรภ์ ส่วนตนความดันพุ่งพร้อมตายทุกเมื่อ “หนุ่ม อรรถพร” ประกาศปิดอู่ ไม่เอาแล้วลูกคนที่ 3 ลั่นสงสารเมีย เล็งทำหมันทั้งคู่

ใจหายใจคว่ำไปเลยทีเดียว สำหรับ “หนุ่ม อรรถพร ธีมากร” กับภรรยา “ฝ้าย อริญรดา ธีมากร” หลังจากเมียเกิดอาการครรภ์เป็นพิษ แอดมิดที่ รพ. หลายวัน ก่อนตัดสินใจผ่าคลอด “น้องอดัม” ลูกชายคนที่ 2 เมื่อวันที่ 2 พ.ย. ล่าสุด ทั้งคู่ได้เผยว่าวินาทีนั้นแม่ลูกเป็นตายเท่ากัน

ฝ้าย : “คลอดเมื่อวันที่ 2 พ.ย. ถือว่าดีขึ้น จากตอนแรกแอดมิดบ่อยๆ ตอนแรกกลัวตั้งแต่วันที่โดน เพราะอยู่ดีๆ ความดันขึ้น ไม่รู้เกิดขึ้นเมื่อไหร่ เป็นอะไร ร่างกายปกติ ทุกอย่างปกติ แต่มันบวม ซึ่งเป็นปกติของคนท้อง ไม่น่าอันตราย แต่พอมาถึงโรงพยาบาลโดนแอดมิดก็ตกใจ ทำอะไรไม่ถูก เพราะเรามาหาหมอปกติ คุณหมอบอกว่าไม่ให้กลับบ้านแล้วนะ เพราะกลัวลูกจะไม่อยู่ คุณแม่ก็อาจเสียชีวิตก็ได้ เส้นสมองจะแตกได้”

“คุณหมอสันนิษฐานว่าจะเป็นครรภ์เป็นพิษ ซึ่งตอนท้องอันดา (ลูกคนแรก) ก็เป็นมาแล้ว คือ ความดันมันขึ้นแต่มันอยู่ในการดูแลของคุณหมอตั้งแต่ตอนแรกจนมาถึงช่วง 8 เดือน ความดันขึ้นสูง แต่ไม่มีอาการมึนหัว ตาพร่ามัวไม่มีอะไรทั้งสิ้น ซึ่งคุณหมอบอกว่าความดันจะมีตัวล่างกับตัวบน ซึ่งตัวบนจะอยู่ที่ 150 ตัวล่าง 110 มันอันตรายแล้ว ก็เลยให้แอดมิดก่อน”

“ตัดสินใจผ่าคลอดเพราะอยากให้ไวที่สุด จริงๆ กำหนดคลอดคือ 14 พ.ย. ประมาณนั้น แต่เราอยู่โรงพยาบาลนานแล้ว ถ้าลูกแข็งแรงก็รีบให้เขาออกมาดีกว่า เพราะมันลุ้นทุกชั่วโมงจริงๆ”

หนุ่ม : “ก็เครียด เพราะถ้าคนที่รู้มันเป็นเรื่องใหญ่ ตอนนั้นทำงานก็ไม่ได้ สติสตังก็ไม่มี ก็กลัว แต่เราก็ต้องดูแลภรรยา”

เผยลูกสำลักเลือดในครรภ์ แต่อาการโดยรวมแข็งแรงแล้ว
ฝ้าย : “อดัมสุขภาพแข็งแรงดีค่ะ พยาบาลว่าเหมือนสำลักเลือดในครรภ์ เพราะระหว่างตั้งครรภ์ให้ยากินขยายหลอดเลือดให้เลือดไปถึงเด็กและทำให้เด็กโต ก็ทานแล้วน้องคงสำลัก”

หนุ่ม : “คือ เบบี้แอสไพลินเป็นยาสลายลิ่มเลือด กินเข้าไปแล้วถ้ามีแผลหรือบังเอิญเลือดไหล เลือดไหลไม่หยุด ไปถอนฟันก็ไม่ได้ ไม่มีผลกับน้อง มันมีแค่ช่วงแรกๆ ที่เขาปรับร่างกายอยู่ ก็ผ่านไปแล้ว”

ฝ้าย : “ตอนนี้รักษาความดันอยู่ค่ะ เพิ่งคลอดได้ 2 วัน แต่วันนี้ลงมานิดหนึ่ง แต่ยังอยู่ในความอันตราย หมอดูแลใกล้ชิดมาก ระหว่างแอดมิดคุณหมอไม่ให้เดิน ให้นอนบนเตียงเฉยๆ งดอาหารที่มีรสชาติ เพราะเท้าบวมมาก บวมทั้งตัว”

หนุ่ม : “เหมือนเป่าลูกโป่งตึงๆ ไม่ลง เป็นแบบนั้น จริงๆ ตอนนั้นก็เครียดนะเอาไงดี แต่ผมมั่นใจว่าหมอดูแลอย่างดีที่สุด เชื่อว่าคงไม่เกิดเรื่องร้ายๆ เครียดมั้ยก็เครียด ความดัน 170 110 พร้อมตายตลอดเวลา”

ฝ้าย : “ตอนนี้พอคลอดแล้วก็โล่งไปเปราะหนึ่งเพราะลูกปลอดภัย ส่วนแม่ก็ลุ้นเรื่องความดันต่อไป ไม่รู้จะหายหรือเป็นต่อไปเรื่อยๆ เพราะสูงเกินไป”

ฝ้ายร่ำไห้กลัวตาย หนุ่มเปิดใจเห็นสภาพเมียแล้วเข็ด-ไม่เอาลูกคนที่ 3 แล้ว เล็งทำหมันทั้งคู่
หนุ่ม : “วินาทีคลอดเขาก็ดีใจ”

ฝ้าย : “ตอนที่นอนแล้วคุณหมอบอกว่าถ้าความดันขึ้นสูงมากให้สลบไปเลยนะ (เสียงสั่นเครือ) กลัวตายมาก (ร้องไห้) กลัวหลับไปแล้วจะหายไปเลย”

หนุ่ม : “น้องแข็งแรง ปรับอุณหภูมิในตู้อบอยู่สักครู่แต่ไม่มีอะไรผิดปกติร้ายแรง ทุกอย่างอยู่ในความควบคุมของหมอ หมอดูแลอย่างดี น้องอันดาก็โดด ดีใจ เขาก็ไปจับไปเล่นด้วย แต่ยังเล่นไม่เป็น ตอนนี้เริ่มรู้แล้ว เริ่มขออุ้ม น้องหนัก 2.984 กรัม

“จะมีอีกมั้ย พอแล้วครับ ถามว่าอยากมีมั้ย ใครก็อยากมีลูกเยอะๆ แต่ภรรยาลำบาก พอเจอเหตุการณ์นี้แล้ว แต่สำหรับครอบครัวผมมันลำบากแล้วยิ่งต้องมาเจอกับเหตุการณ์แบบนี้ด้วย ซึ่งคุณหมอก็แนะนำว่าไม่อยากให้มีอีก แต่ว่าตอนนี้ฝ้ายทำหมันเรียบร้อยแล้ว เพราะว่าผ่าคลอดคุณหมอก็เลยแนะนำให้ทำเลยทีเดียว ส่วนตัวผมคุณหมอก็บอกให้ทำครับ ก็ตั้งใจว่าจะทำกันทั้งคู่เลยเพียงแต่ว่าผมก็ต้องรอเวลา”

ลูกทั้งสองรู้เรื่องเมื่อไหร่ จะเล่าคำสอนของพ่อหลวง
“ธนพิสิฐ คุณตาดูให้ ร่ำรวยสติปัญญา ร่ำรวยความสุข (น้อมนำคำสอนของพ่อหลวงมาสอนลูก?) ผมเคยคิดเล่นๆ นะพอทั้งคู่เริ่มรู้เรื่องเมื่อไหร่จะเล่าคำสอนของในหลวงให้ฟัง เคยทำหนังสั้นเทิดพระเกียรติในหลวง 2 เรื่อง เมื่อ 2 ปีที่แล้วเรื่องเจ้าชายป้อมกับบ้านของบุญเหม็น แล้วผมเคยได้พากย์เสียงเป็นพระมหาชนกในการ์ตูนอนิเมชัน ถือว่าเป็นบุญในชีวิตผมมากครับ”