“เบิร์ด ธงไชย” ภูมิใจที่สุด ถ่ายทอดเพลงพระราชนิพนธ์แทนทุกคนที่รักในหลวง

“เบิร์ด ธงไชย” ลั่นถึงเวลาแสดงความจงรักภักดี นำทีมศิลปิน - นักร้อง “แกรมมี่” ขับร้องเพลงพระราชนิพนธ์ “ในหลวง ร.๙” ในรายการพิเศษ “สดุดีคีตราชา” เป็นตัวแทนคนไทยทุกคนที่รักในหลวง ภูมิใจที่สุดในชีวิต เหมือนอยู่ใกล้ชิดพ่อที่ใจดี




นักร้อง - นักแสดงช่องวัน ร่วมกับ บริษัท จีเอ็มเอ็มแกรมมี่ จำกัด (มหาชน) น้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณและร่วมถวายความอาลัย พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มาร่วมขับร้องเพลงพระราชนิพนธ์ในรายการพิเศษ “สดุดี คีตราชา” นำทีมโดย เบิร์ด ธงไชย, ตู่ นันทิดา, แอม เสาวลักษณ์, มอส ปฏิภาณ ฯลฯ โดยนักร้องซูเปอร์ตลอดกาลอย่างพี่เบิร์ดเผยความรู้สึกว่าตนถ่ายทอดแทนทุกคนที่รักในหลวง

“วันนี้พวกเรากลุ่มเล็กๆ รวมใจกันมาร้องเพลงสรรเสริญพระราชนิพนธ์ของพระองค์ท่าน เป็นบทเพลงเกี่ยวกับเรื่องราวของพระองค์ท่าน เราไม่เคยร้องเพลงสรรเสริญพระบารมีในบรรยากาศเช่นนี้ สมาธิจดจ่ออยู่กับพระพักตร์ท่าน สิ่งที่เราคิดและมองเห็นเป็นเรื่องเดียวกัน แสดงให้เห็นถึงความรัก ความสามัคคีของพวกเราที่มาแสดงความรักที่มีต่อพระองค์ท่าน”

“ส่วนบทเพลงพระราชนิพนธ์ที่ได้ร้องร่วมกับน้องๆ ศิลปิน เบิร์ดรู้สึกว่าสิ่งเหล่านี้พระองค์เป็นทรัพย์สมบัติของคนไทย โน้ตแต่ละตัวที่พระองค์พระราชนิพนธ์ไพเราะไม่เหมือนใคร ส่วนบทเพลงที่เบิร์ดได้ร้อง ไม่ว่าจะเป็นแผ่นดินของเรา หรือบ้านเรา แสดงให้เห็นว่าคนไทยโชคดีที่สุด มีบ้านเมืองที่น่าอยู่มาก มีทรัพย์สินที่ใช้ยังไงก็ไม่หมด มีธรรมชาติที่สวยงาม สำคัญที่สุดคือ มีความรักของพระองค์ท่าน น้ำไม่มีพ่อก็ทำให้ แต่งเพลงไพเราะให้เรา ทุกครั้งที่ได้ร้องเพลงจะรู้สึกคิดถึงท่าน นั้นไม่ใช่เพลงของเบิร์ด แต่เป็นเพลงของคนไทยทุกคน”

“เบิร์ดเป็นเหมือนตัวแทนที่ถ่ายทอดความรู้สึกของทุกคนที่ไม่มีโอกาสได้แสดงความจงรักภักดี เวลาร้องเพลงรู้สึกเหมือนเป็นตัวแทนทุกคนกราบพระบาทพระองค์ท่าน แล้วทูลพระองค์ว่าเรารักพระองค์ และรู้ว่าพระองค์ก็รักเรา เป็นเส้นบางๆ ระหว่างความภูมิใจและความเศร้า เพราะตาเรามองเห็นสิ่งที่ท่านทำ แล้วเราพูดถึงพระองค์ท่านตลอดเวลาว่าใครจะทำให้พระองค์ท่านทรงงานเบาและหายเหนื่อย นั่นก็คือพวกเรา”

“ทุกครั้งเวลามีเรื่องที่ทำให้พระองค์ไม่สบายใจ เบิร์ดกระซิบบอกทุกคนๆ ว่า แผลหรือโรคร้ายต่างๆ หมอถวายการรักษาได้ แต่การที่เราไม่รักกันรักษาไม่หาย เป็นเรื่องที่อยู่ในพระทัยของพระองค์ท่าน นี่เป็นโอกาสที่พวกเราจะได้ตอบแทนคำสอนต่างๆ ให้พระองค์ท่านได้สบายพระทัยสักที”

"ทุกครั้งที่ได้เฝ้าใกล้ชิดใต้ฝ่าพระบาท ท่านจะทรงตรัสถามด้วยสายพระเนตรแห่งความเมตตา แต่ไม่เคยมีความรู้สึกว่าอยู่ใกล้ชิดพระมหากษัตริย์ รู้สึกเหมือนอยู่ใกล้พ่อที่ใจดีเหลือเกิน เอาใจใส่เรา บอกว่าถ้าตื่นเต้นให้หลับตาและนึกถึงท่าน เป็นเรื่องเล็กๆ น้อยๆ แต่รู้ว่าว่ามันยิ่งใหญ่มาก ส่วนหลักคำสอนที่เบิร์ดนำมาปรับใช้คือหลักความพอเพียง ทำทุกอย่างด้วยความสบายใจ ต่อจากนี้พวกเราควรทำเรื่องที่ทำให้พระองค์สบายพระทัยที่สุด เพราะเราโชคดีที่มีพระองค์ท่านดูแลเราเป็นอย่างดี”

ตู่ นันทิดา กล่าวเสริมว่า “นอกจากบทเพลงพระราชนิพนธ์แล้ว ก็จะมีบทเพลงที่พี่เบิร์ดร้องไว้ คือ ของขวัญจากก้อนดิน ที่จะมาร้องร่วมกับศิลปินอีกหลายๆ ท่าน ถือเป็นช่วงชีวิตหนึ่ง เราเป็นตัวแทนศิลปินมาร้องเพลงให้พระองค์ท่าน”

แอม เสาวลักษณ์ กล่าวสั้นๆ ว่า “ด้วยความที่เป็นลูกนักดนตรี ก็จะได้ยินคุณพ่อคุณแม่แกะเพลงพระราชนิพนธ์มาเล่น เราได้ยินเพลงพระองค์ท่านตั้งแต่เด็กๆ โตมากับเพลงของพระองค์ท่าน มีโอกาสอันเชิญไปร้องในโอกาสต่างๆ แต่ไม่คิดว่าจะได้ร้องเพลงของท่านในวาระแบบนี้ เป็นเรื่องที่ไม่เคยคิดและไม่อยากจะคิดด้วยค่ะ พอร้องแล้วก็คิดถึงท่านเหลือเกิน”

มอส เผยต่อว่า “ก่อนหน้านี้ ภูมิใจทุกครั้งที่ได้ร้องเพลงสรรเสริญพระบารมี แต่วันนี้ร้องแล้วรู้สึกใจหาย คนรุ่นเราโชคดีที่เกิดมาทันได้เห็นพระราชกรณียกิจต่างๆ ของท่าน เห็นท่านทรงงานหนัก ได้ฟังเพลงที่ท่านทรงพระราชนิพนธ์ ผมพยายามถ่ายทอดเพลงของท่านให้ลูกรับรู้ ตอนนี้เขายังเด็กรับรู้แค่ว่าท่านคือในหลวง แต่ยังไม่รู้ว่าท่านทำอะไรบ้าง ผมจะถ่ายทอดให้ลูกๆ รับรู้ด้วยการเปิดเพลง เปิดภาพต่างๆ ที่ท่านทำ และสอนให้รู้ว่าท่านคือกษัตริย์ที่ทำให้พ่อแม่และพวกเราทุกคนรวมถึงลูกด้วยให้อยู่ดีกินดี”