“บูม กิตตน์ก้อง” เปิดความรู้สึก “ผมรักพ่อหลวง” เผยทั้งช็อกและทรมานหลังทราบข่าวพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เสด็จสวรรคต ขณะเล่นละครเทิดพระเกียรติที่เชียงใหม่ ลั่นจะขอแสดงให้ดีที่สุด กลั้นน้ำตาไม่อยู่ ภูมิใจเป็นทหารของพระราชาทั้งตัวและหัวใจ อาสาทำความดีเพื่อพ่อในหลวง
สมัครเป็นทหารเพราะอยากตอบแทนคุณแผ่นดิน สำหรับนักแสดง 7 สี “บูม กิตตน์ก้อง ขำกฤษ” ซึ่งนอกจากเป็นทหารของพระราชา เจ้าตัวยังแสดงละครเทิดพระเกียรติเรื่องฝายน้ำใจอีกด้วย โดยระหว่างที่กองถ่ายปักหลักถ่ายทำกันที่เชียงใหม่ ทุกคนก็ได้ทราบข่าวร้าย พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เสด็จสวรรคต โดยหนุ่มบูมเปิดใจว่าในเวลานั้นตนทั้งช็อกและทรมานแต่ต้องกลั้นน้ำตา เพราะตนเป็นทหารของพระราชา
“จริง ๆ ผมอยากจะมาตั้งแต่วันแรกแล้วครับ แต่ผมอยู่ที่เชียงใหม่กับทีมงานในกองละครเทิดพระเกียรติเรื่องฝายน้ำใจ เราถ่ายตั้งกันตั้งวันที่ 10 ต.ค. แต่พอถึงวันที่ 13 ต.ค. ช่วงที่เรากำลังถ่ายทำกันอยู่พอจบซีนตรงนั้น คุณอาถั่วแระ เชิญยิ้ม ก็วิ่งเข้ามาในกองทั้งน้ำตา บอกข่าวสวรรคตของพระองค์ท่านกับเรา ตอนนั้นทุกคนในกองช็อกมาก งงกันไปหมด สุดท้ายเมื่อเราถ่ายทำจนเสร็จและได้ออกมาจากป่า โทรศัพท์เราจึงค่อยมีสัญญาณถึงได้ค่อยแน่ใจ”
“วันนั้นผมเชื่อว่าทุกคนร้องไห้ มีแต่ผมนี่แหละที่พยายามกลั้นน้ำตาเอาไว้ เพราะเราเป็นทหาร เป็นผู้ชาย เราจึงไม่อยากร้องไห้และทำให้คนอื่นต้องอ่อนแอตามไปกับเรา ซึ่งผมก็คุยกับทีมงานทุกคนนะครับว่า ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นผมจะตั้งใจถ่ายละครเรื่องนี้จนจบให้ได้ หลังจากนั้น ทุกคนต่างทำงานกันวันหนึ่งตก 15 ชั่วโมง ทุกคนอยากทำให้เสร็จเพื่อพระองค์ท่าน”
“ผมเพิ่งกลับมาจากเชียงใหม่เมื่อวานตอนกลางคืน และวันนี้ผมก็ได้มาอยู่ที่นี่ มาอยู่ใกล้ ๆ พ่อ จริง ๆ แล้วใจผมร้อนมาก ผมอยากมาตั้งแต่วันที่ 13 ต.ค. แล้ว ผมอยากจะบินกลับมาตั้งแต่วันที่รู้ข่าวเลย อยากมาเห็นกับตาว่ามันไม่ใช่เรื่องจริง และผมก็เป็นห่วงพ่อแม่ผม เพราะทุกคนในบ้านรักในหลวงมาก (น้ำตาซึม) แต่ตอนนี้ก็ทำได้แค่กลั้นน้ำตาเอาไว้และทำตามที่เราตั้งใจ อย่างน้อยเราก็ได้ทำละครเรื่องนี้ให้พ่อเพื่อเทิดพระเกียรติแด่ท่านแล้ว”
เข้าใจถึงความทรมาน เป็นช่วงเวลาที่ยากลำบาก คิดไม่ผิดเลือกเป็นทหารตอบแทนคุณแผ่นดิน
“มันเป็นช่วงเวลาที่ยากมากครับ มันแย่ไปหมด อยากให้ลองคิดดูว่าเรากำลังทำสิ่งสำคัญเพื่อใครคนหนึ่ง และเขาต้องมาจากเราไปในขณะที่เรากำลังทำให้อยู่ แค่คิดเราก็เศร้าแล้วครับ และท่านยิ่งเป็นพ่อหลวงของเรา คือ คนที่ประชาชนทุกคนรัก ทุกอย่างมันอธิบายลำบากครับ แต่ผมเชื่อว่าทุกคนคงเข้าใจดีว่าความทรมานเป็นยังไง (น้ำตาคลอ)”
“ผมเลือกเป็นทหาร เพราะมันเป็นความตั้งใจตั้งแต่แรกของผมอยู่แล้วครับ ผมตั้งใจเป็นทหารเพื่อตอบแทนแผ่นดินนี้แผ่นดินของพ่อ เป็นเกียรติแก่ชีวิตผมมาก พลทหารกิตตน์ก้อง ขำกฤษ สังกัดกองพันทหารอากาศโยธิน 1 กรมอากาศโยธินรักษาพระองค์ มีคำว่ารักษาพระองค์อยู่ผมก็ภูมิใจที่สุดในชีวิตแล้วที่ครั้งหนึ่งได้เคยเป็นทหารของพระราชา”
“คำ ๆ นี้ (น้ำตาซึม) ที่สุดในชีวิตของผมแล้วครับ ผมขออะไรก็แล้วแต่ที่ทำให้ผมมีโอกาสได้เป็นทหาร มันเป็นสิ่งที่มีคุณค่าและเป็นเกียรติที่สุดในชีวิตสำหรับนักแสดงคนนี้ ถึงในอนาคตผมต้องปลดออกจากการเป็นทหารแต่ผมก็ปลดแค่ตัว หัวใจผมยังคงเป็นทหารของพระราชาต่อไป ผมสัญญาว่าผมจะทำดีต่อไปเรื่อยๆ ชีวิตที่เหลืออยู่ผมจะทำความดีอย่างไม่อายใคร ถ้าหากใครมาถามว่าผมทำเพื่ออะไร ผมจะตอบอย่างภาคภูมิใจว่าทำเพื่อพ่อครับ ผมรักพ่อครับ”
“ทุกคืนที่อยู่ที่เชียงใหม่ แต่ช่วงที่ถ่ายละครผมก็พยายามมีสมาธิ ไม่นึกถึงเหตุการณ์เหล่านั้น แต่พอต้องมาอยู่ในห้องคนเดียวมันก็อดไม่ได้ ผมเชื่อว่าทุกคนก็ต้องร้องไห้เหมือนที่ผมร้อง”
“"ถ้าหากไม่มีใครก็จะมีผมนี่แหละครับที่จะดำเนินตามรอยเท้าพ่อ ทำตามคำสอนของพ่อ ทำตามที่ท่านเคยทำเอาไว้ อย่างน้อยก็เป็นการตอบแทนที่ผมได้เกิดในแผ่นดินรัชกาลที่ ๙ อย่างน้อยก็ได้ให้คนรุ่นหลังเขาได้รู้ว่าท่านรักเรามากแค่ไหน ผมจะอาสาเป็นคนทำดีต่อไปเพื่อพ่อครับ”