xs
xsm
sm
md
lg

“ใบเตย” ร่ายกลอนแปดเพื่อพ่อ “กระแต” จะขอร้องเพลง “ใต้ร่มพระบารมี” เป็นเพลงแรกบนเวทีคอนเสิร์ต

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


“ใบเตย” แต่งกลอน “พ่อจ๋าพ่อ” ภูมิใจที่ได้เกิดบนแผ่นดิน “ในหลวง รัชกาลที่ ๙” พระเจ้าอยู่หัวที่ครองราชย์ยาวนานและอยู่กับราษฎรนานที่สุด “ฟิล์ม รัฐภูมิ” เผยลูกคนนี้จะนำคำสอนพ่อหลวงมาใช้ “กระแต” สำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ พระราชาผู้ไม่เคยอยู่ในวัง ไม่เคยนั่งบัลลังก์ทอง ต่อไปขอร้องเพลง “ใต้ร่มพระบารมี” บนเวทีคอนเสิร์ตเป็นเพลงแรก ด้าน “ขนมจีน” ร่ำไห้ อยากสอนดนตรีเด็กพิเศษ ยึดพ่อหลวงเป็นแบบอย่าง

เฮียฮ้อ สุรชัย เชษฐโชติศักดิ์” นำทีมนักร้อง - นักแสดงสังกัด ช่อง 8 และอาร์เอส ฟิล์ม รัฐภูมิ, ใบเตย อาร์สยาม, ขนมจีน กุลมาศ, กระแต อาร์สยาม, มด ณปภัช ฯลฯ ร่วมพิธีน้อมรำลึกพระมหากรุณาธิคุณ และร่วมถวายสักการะเบื้องหน้าพระบรมฉายาลักษณ์ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ณ บริษัทอาร์เอส เพื่อถวายความจงรักภักดี

“ใบเตย” แต่งกลอน “พ่อจ๋าพ่อ” ภูมิใจได้เกิดบนแผ่นดิน “ในหลวง รัชกาลที่ ๙”
“คำสอนของพ่อสิ่งแรกที่รู้จักนะคะ ก็คือ เศรษฐกิจพอเพียง เริ่มต้นที่จำได้คือในโรงภาพยนตร์ ทุกครั้งตั้งแต่ดูหนังก็จะมีเศรษฐกิจพอเพียงก็จะมีอยู่หน้าโรงภาพยนตร์ตลอด นี่คือสิ่งที่เราจำได้และรู้สึกว่าใช้ได้จริง พอได้ดูโฆษณาได้ดูตามแบบท่านเราก็นำมาประยุกต์ใช้ ทุกคนก็พูดถึงและได้ใช้ในชีวิตประจำวัน ได้ใช้กับคนรอบข้าง กับครอบครัวได้จริง ๆ”

“อย่างแรกที่ประทับใจมาก ๆ คือ ได้เกิดบนแผ่นดินท่าน ได้เกิดในพระเจ้าอยู่หัวที่ครองราชย์ยาวนานที่สุดและอยู่กับราษฎรนานที่สุด อันนี้คือสิ่งที่ใบเตยรู้สึกว่านี่แหละชาวไทยถึงเศร้ามาก ๆ เพราะท่านอยู่กับเรานานมาก ๆ จริง ๆ และดูแลปวงชนชาวไทยเหมือนกับเป็นลูกหลาน ไม่เคยคิดว่าท่านเป็นพระมหากษัตริย์ คือ หลัก ๆ ที่เห็นท่านไปต่างจังหวัดชนบท ทุกอย่างที่ท่านได้ไปรู้ไปเห็นเวลาเราก้มกราบ อย่างใบเตยตอนนั้นประมาณ 5 - 10 ขวบ ถ้าจำไม่ผิดเคยไปกราบทั้งในหลวง ทั้งพระราชินีที่พระที่นั่งวิมานเมฆ ตอนนั้นเราขึ้นมาเที่ยวกับคุณพ่อคุณแม่ค่ะ ก็ได้มีโอกาสนั่งรอท่านทั้งสองคน เราก็รู้สึกว่ายิ่งใหญ่มาก”

“เมื่อมาเป็นศิลปินก็ได้ทำอะไรมากมาย สิ่งที่ใบเตยได้ทำอย่างแรกคือได้เคยเล่นละครเทิดพระเกียรติของท่านด้วย ชื่อเรื่องว่า ธิดาบ้านทุ่ง ก็ได้ร้องเพลงเกี่ยวกับท่าน และครั้งที่สองก็คือ Bike for Dad ล่าสุดที่ได้ไปร้องเพลง และได้ไปศิริราช ได้ถ่ายมิวสิกวิดีโอกับพี่ปอ (ทฤษฎี สหวงษ์) กับอีกหลาย ๆ คน อันนี้คือซาบซึ้งมาก เพราะเหมือนได้ไปใกล้ชิดที่สุดตอนที่ท่านกำลังประชวรอยู่ด้วย เราก็เลยรู้สึกดีใจมาก ครั้งหนึ่งเราเคยร้องเพลงให้ท่าน เคยปั่นจักรยานเพื่อท่าน และสิ่งที่สำคัญมากคือใบเตยมีความรู้สึกว่า ณ วันนี้ใบเตยได้ดำเนินตามรอยท่านอย่างหนึ่ง คือเราขยัน เราซื่อสัตย์ มีอาชีพที่สุจริต เราเลี้ยงดูบิดามารดา เราเลี้ยงดูคนในครอบครัว และเราก็ทำมาหากินทุกบาททุกสตางค์จากอาชีพที่สุจริตของเรา ไม่เดือดร้อนใคร ไม่เดือดร้อนสังคม นี่คือ สิ่งที่เราประทับใจที่ได้ดำเนินตามรอยท่านค่ะ”

“ล่าสุด เพิ่งได้แต่งกลอนให้ท่านด้วย คือตอนเด็กๆ ประกวดแต่งกลอนชนะตลอด ก็เลยลองแต่งดูนิด ๆ หน่อย ๆ จริง ๆ อยากแต่งให้ยาวกว่านั้น แต่ก็ได้แค่นี้เป็นกลอนแปดค่ะ ก็ไม่ยากนะคะ ความจริงคิดไว้เยอะมากนะคะ แต่ก่อนสมัยประถมมัธยมใบเตยก็จะแต่งกลอนวันสุนทรภู่ วันครูประจำอยู่แล้ว ทุกครั้งที่มีวันสำคัญของพระมหากษัตริย์ไทยเราเคยได้แต่งให้โรงเรียนเป็นประจำ พอมาครั้งนี้เรารู้สึกว่ามันสำคัญที่สุดก็เลยแต่งจากใจ ก็ขึ้นพ่อจ๋าพ่อเลย”

“ฟิล์ม รัฐภูมิ” ลูกคนนี้ในฐานะประชาชนคนหนึ่ง จะนำคำสอนของพ่อหลวงมาปรับใช้ทุกอย่าง ทั้งเศรษฐกิจพอเพียง เพียรพยายาม และแบ่งปันให้สังคม
“ผมมีโอกาสถวายงานค่อนข้างที่จะเยอะนะครับ ตั้งแต่อายุ 17 เลย คือ ร้องเพลงให้กับพระที่นั่ง แล้วก็มีเดินแบบให้กับสมเด็จพระราชินีครับ ก็ปฏิบัติรับใช้มาตลอด อาร์เอสเราก็จะส่งไปประจำ เพราะว่าเวลามีเพลงถวายพ่อหรือช่วงของวันที่ 5 ธันวาคม เวลาที่มีใส่เสื้อเหลืองก็จะไปทุกงานครับ คือ ครอบครัวเรารักพระองค์ท่านอยู่แล้ว คือ ผมเกิดมาก็เห็นพระองค์ท่านทำงานตั้งแต่ผมยังเด็กเลย ผมเชื่อว่าคนไทยทุกคนคิดเหมือนกันว่าทำไมพระมหากษัตริย์ทำงานหนักขนาดนี้ แต่พอศึกษาเรื่อย ๆ พอทุก ๆ วันพ่อแห่งชาติก็จะมีประวัติของพระองค์ท่านเอามาให้เด็ก ๆ ดู พอดูเสร็จเราก็เริ่มอินเข้าไปเรื่อย ๆ ก็เลยเข้ามาอยู่ในใจเรา”

“ต้องบอกว่าวันที่สูญเสียพระองค์ท่านไปเกือบ 3 วันมานี่ผมยังไม่ฟื้นเลย รู้สึกไม่รู้จะทำอะไร เหมือนเทวดาที่ปกปักษ์รักษาบ้านเราอยู่ท่านหายไป แล้วเราจะทำอะไรต่อไป มันจะเกิดอันตรายอะไรกับเรามั้ย มันเหมือนเคว้งคว้างไป แต่พอเราได้สติกลับมาเราก็ต้องสู้ต่อไป เพราะพระองค์ท่านก็คงไม่อยากให้คนไทยทั้งประเทศเป็นแบบนี้ พระองค์คงอยากให้คนไทยทั้งประเทศมีความสุข เราก็ต้องยึดหลักต่อไป เอาคำสอนของพระองค์ท่านเป็นหลัก คือเป็นคนดีนั่นเองและทำดีเพื่อสังคมต่อไป”

“อยากจะบอกพระองค์ท่านว่าทุก ๆ คำสอนของพ่อ ลูกคนนี้ในฐานะประชาชนคนไทยคนหนึ่งเอามาใช้ทุกคำครับ ไม่ว่าจะเป็นเศรษฐกิจพอเพียง ไม่ว่าจะเป็นความเพียรพยายาม ทุกสิ่งทุกอย่างผมเอามาใช้หมดเลย เพราะมันใช้ได้จริงทุกอัน การช่วยเหลือสังคม แบ่งปันให้กับสังคมอันนี้จริงมาก เพราะว่าท่านเป็นแบบอย่าง ท่านเป็นพระมหากษัตริย์อยู่สุขสบาย แต่ท่านยังช่วยเหลือประชาชน ท่านเองก็ยังลำบาก เราก็ต้องคืนกลับไปหาสังคมเหมือนกัน นั่นคือแบบอย่างที่ดีที่สุดและเอามาใช้จริง ๆ ครับ”

“กระแต” พระราชาที่ไม่เคยอยู่ในวัง ไม่เคยนั่งบัลลังก์ทอง มีบุญได้เกิดบนแผ่นดิน “ในหลวง รัชกาลที่ ๙” ต่อไปขอร้องเพลง “ใต้ร่มพระบารมี” บนเวทีคอนเสิร์ตเป็นเพลงแรก
“ที่บ้านของหนูที่ห้องพระจะมีรูปท่านที่ทรงผนวชอยู่ หนูเชื่อว่าคนไทยทุกคนเป็น ตั้งแต่รุ่นคุณยายแล้วคือได้เห็นรูปในหลวงในทุกอิริยาบถ สำหรับหนูคิดว่ารูปนี้เหมือนพระผู้ประเสริฐมาก ต้องบอกว่าเป็นในหลวงที่เดินตามรอยธรรมที่รู้สึกน่าจะ 3 พรรษา 9 เดือนเต็มๆ หนูถือว่าเรามีบุญมากที่ได้เกิดมาอยู่ในรัชกาลที่ 9 ค่ะ”

“ตั้งแต่วันที่ 13 ต.ค. ที่ผ่านมา เกิดความเปลี่ยนแปลงในชีวิตหนูเยอะมาก และเชื่อว่าคนไทยทุกคนก็เป็น อันนี้ก็ต้องพูดตรง ๆ ว่าเราเป็นวัยรุ่นและเป็นเด็กตัวเล็กๆ คนหนึ่งที่รู้ว่าในหลวงทรงรักประชาชนมากอยู่แล้ว ทรงเหนื่อยมากอยู่แล้ว แต่พอพระองค์ท่านเสด็จสวรรคต วันแรกพยายามคิดว่าเป็นความฝันค่ะ ก็คุยกับคุณแม่ ร้องไห้กัน เชื่อว่าทุกคนก็เป็นหมด คือ มันเป็นความรู้สึกที่ไม่อยากให้เกิดขึ้น แต่สิ่งหนึ่งที่เห็นได้ไปสนามหลวงคือเห็นชาวไทยรักกัน สามัคคีกัน เก็บขยะ แจกน้ำ กระแตไปกับทีมปอเต็กตึ้งก็ไปช่วยกันค่ะ”

“หนูอยากให้ทุกคนเปลี่ยนความเสียใจมาเป็นความรู้รักสามัคคีกัน หนูเชื่อว่าสิ่งนี้พ่อหลวงอยากเห็น มันก็เป็นทั้งความภูมิใจและเสียใจเลยค่ะ เชื่อว่าทุกคนก็อยากให้พ่อยังอยู่ เหมือนตอนเด็กๆ เรารู้ว่าเรามีพ่อดูแล แต่วันหนึ่งมันขาดไป นอนไม่หลับเลย ดูแต่พระราชกรณียกิจท่าน สิ่งแรกที่เปลี่ยนไปคือไม่ดูอะไรเลย ดูแต่ที่เขาแชร์กัน เซิร์จดูก็เห็นว่าท่านเป็นพระราชาที่ไม่อยู่ในวังเลย ไม่ได้นั่งอยู่ในบัลลังก์ทองเหรอ จนเรารู้สึกว่าในความเป็นกษัตริย์ในโลกนี้ไม่น่าจะมีแบบนี้ ประเสริฐที่สุดแล้วค่ะ เรามีทุกวันนี้เพราะพ่อทำให้พวกเรา”

“หนูเคยได้ร้องเพลงเทิดพระเกียรติอยู่หนึ่งเพลงค่ะ เป็นเกียรติมาก ๆ เลยค่ะ อัลบั้มแรกเลยเพลงใต้ร่มพระบารมี เป็นเพลงที่ อ.ปาน ประกาศิต แต่งไว้ ตอนนั้นอายุแค่ 15 เองค่ะ ดีใจมากที่มีเพลงอันทรงเกียรติและมีค่าขนาดนี้ เป็นเกียรติกับวงศ์ตระกูลมาก และเห็นหลาย ๆ เวทีประกวดเอาไปร้องกัน เป็นเพลงที่ถือว่าร้องยากเหมือนกัน และเพลงนี้เป็นเพลงที่ทุกคนเข้าไปดูกันเยอะมาก กระแตเพิ่งเข้าไปดูเมื่อวันก่อนก็รู้สึกขนลุก และรู้สึกเป็นเกียรติมาก ว่าครั้งหนึ่งในชีวิตมีเพลงที่ได้ร้องถวายเพื่อพ่อ ต่อไปนี้ก็คงจะเป็นคอนเสิร์ตที่กระแตต้องเริ่มด้วยเพลงนี้เพลงแรกเลย เพราะเมื่อก่อนก็จะเปิดด้วยเพลงสนุกๆ แต่ขอเป็นเพลงนี้คงจะเป็นเพลงแรกที่เปิดวง

“ขนมจีน” ร้องไห้ทุกวัน ถ้าย้อนเวลาได้จะร้องเพลงชาติ - เพลงสรรเสริญพระบารมีให้ดีกว่านี้ รับอยากสอนดนตรีเด็กพิเศษ ยึดพ่อหลวงเป็นแบบอย่าง
“ร้องไห้ทุกวันเลย ไม่เปิดทีวี ไม่เปิดเฟซบุ๊กเลยค่ะ (ร้องไห้) ใจหาย รู้สึกเสียศูนย์นะคะ เพราะเราไม่คิดว่าวันนี้จะมาถึงเร็วขนาดนี้ รู้นะคะว่าพระองค์ท่านทำงานหนัก และพระชนมพรรษาของท่านก็เพิ่มมากขึ้นทุก ๆ ปี แต่ไม่ว่าจะอีกสักกี่ปี เราก็ไม่พร้อมอยู่ดี เราไม่มีวันพร้อม”

“ส่วนตัวขนมจีนคิดว่าตัวเองโชคดีมาก ๆ เลย ไม่คิดเลยว่าชีวิตนี้จะโชคดีขนาดนี้ที่ได้ร่วมแสดงละครเวทีเรื่องพระมหาชนก คือ ณ ตอนนั้นเราทำงานกันหนักมาก ได้ทำงานกับพี่ปอ (ทฤษฎี สหวงษ์) ด้วย รอบแรกผ่านไป พอรอบที่สองทางสำนักพระราชวังก็แจ้งมากับทางทีมงานว่าได้อัดเทปการแสดงทูลถวายแด่พระองค์ให้พระองค์ได้ทอดพระเนตร รู้แค่นี้ก็ทำให้ทุกวันนี้ดีใจมากแล้ว (ร้องไห้) บอกไม่ถูกเลยค่ะ เราไม่คิดว่าเด็กตัวเล็ก ๆ ที่อายุไม่เท่าไหร่ ณ ตอนนั้นเราจะสามารถทำอะไรให้กับพระองค์ท่านได้ค่ะ เพราะถึงแม้ว่าเราทำไปเราก็ไม่รู้ว่าพระองค์ท่านจะได้เห็นหรือเปล่า แต่นี่เราได้รับการยืนยันจริง ๆ ว่าพระองค์ท่านได้ดู แค่รู้แค่นี้ก็ดีใจมากแล้ว”

“ขนมจีนเรียนโรงเรียนราชวินิต โรงเรียนอยู่ข้างวังสวนดุสิต เป็นเด็กในโรงเรียนที่ถูกอุปถัมภ์โดยพระองค์ บางทีก็เดินอยู่ในวังสวนจิตรลดา ทำให้เรารู้สึกใกล้ชิดกับพระองค์มาก ๆ ได้เห็นพระราชกรณียกิจต่าง ๆ ตั้งแต่เด็กจนโต ขนมจีนเชื่อว่าวัยรุ่นทุก ๆ คนตอนที่เราเรียนอยู่มัธยมหรือประถม เราได้ยินเพลงชาติว่าเมื่อไหร่จะเสร็จสักที เพลงสรรเสริญเมื่อไหร่จะเสร็จสักที แต่พอมาวันนี้ย้อนกลับไปคิดกลับรู้สึกว่าทำไมวันนั้นเราไม่ทำให้ดีกว่านี้ (ร้องไห้) ทำไมเราไม่ตั้งใจกว่านี้ มันก็เป็นแง่คิดที่ทำให้เรากลับมาคิดว่า พระองค์คงอยากให้เราคิดได้ว่าเราควรจะตั้งใจทำวันนี้ให้ดีที่สุด เพราะมันไม่มีโอกาสให้เรากลับมาแก้ไขได้ พระองค์คงอยากให้เราก้าวไปอย่างแข็งแรงและมั่นคงมากที่สุด”

“ในฐานะที่ขนมจีนเองเป็นศิลปินนักร้อง และพระองค์ท่านก็ทรงเป็นพระอัจฉริยภาพทางด้านดนตรี พระองค์ท่านทรงเป็นทุกอย่าง เป็นกษัตริย์ที่ในโลกนี้ไม่มีใครที่จะมีพระปรีชาสามารถเท่าพระองค์อีกแล้วค่ะ อย่างทางด้านดนตรีก็มีผลกับขนมจีนมาก เพราะเราเรียนจบทางด้านดนตรีที่จุฬาฯ อยู่แล้ว เราอยากที่จะเป็นครู และมีโปรเจกต์หนึ่งที่ขนมจีนเคยคิดว่าจะทำก็คือสอนดนตรีเด็กพิเศษ เพื่อจะนำสิ่งนี้ไปบำบัดเขา ให้เขามีความคิดที่ดีมากขึ้น พอย้อนกลับมาคิดก็คือทำไมเราไม่ทำสักที ทำไมไม่ทำตั้งแต่วันนั้น แล้วยิ่งพอได้เห็นแนวความคิดที่ท่านทำไว้ให้พวกเรา ว่าพระองค์สอนให้เราแบ่งปันให้คนอื่น ทำให้คนอื่นมากกว่าตัวเอง เสียสละให้คนอื่นมากกว่าเรื่องของตัวเอง ก็เลยจะปฏิญาณตนว่าต่อจากนี้ไปเราจะตั้งใจและเสียสละตัวเองเพื่อส่วนรวมและเพื่อสิ่งที่ดีขึ้นของประเทศไทยค่ะ”

“ทุกอย่างทำให้เราฉุกคิดขึ้นมาเลย พระองค์ท่านไม่พูด แต่พระองค์ท่านกระทำ พระองค์ท่านทำทุกอย่างเพื่อพวกเราชาวไทยทุก ๆ อย่าง อดทน ไม่เคยบ่นหรือไม่เคยปฏิเสธความเดือดร้อนของประชาชนเลย เพราะฉะนั้นการกระทำของพระองค์ท่านทำให้เรานึกคิดขึ้นได้ทันที เราเคยได้อยู่ safe zone มาก่อน แต่วันนี้เราไม่ปลอดภัยเหมือนเดิมแล้ว เราจะต้องสู้ และเอาสิ่งที่พระองค์ท่านเคยสอนเรามาต่อยอดและทำให้สำเร็จตามที่พระองค์ท่านได้ตั้งมั่นตั้งหวังไว้กับพวกเราชาวไทยค่ะ”

“ขนมจีนคิดว่า ณ ปัจจุบันโซเชียลมีเดียมันเป็นเครื่องมือที่ดีและกึ่ง ๆ จะเป็นดาบสองคมด้วย มันก็ทำให้เด็กวัยรุ่นสามารถเข้าถึงความรู้สึกนึกคิดของทั้งประชาชนชาวไทย และสิ่งที่พระองค์ท่านเคยได้ทำมา เชื่อว่าอย่างน้อยต้องได้ตระหนักสัก 1 - 2 เรื่อง จากเป็นร้อยล้านเรื่องที่พระองค์ท่านได้ทำมาแน่นอนค่ะ ทุกคนมีหัวใจค่ะ แม้แต่เด็กตัวเล็ก ๆ ยังรู้เรื่องเลยว่าพระองค์ท่านมีความสำคัญและมีความหมายกับคนไทยมากขนาดไหน ฉะนั้น ขนมจีนเชื่อว่าสักนิดหนึ่งในความคิดของเขาต้องตระหนักได้ว่าเราควรที่จะตั้งเป้าหมายอะไรในชีวิต สิ่งที่เขาจะต้องทำต่อไปเพื่อคนอื่นคืออะไร เขาจะต้องเสียสละอะไรบ้าง”



กำลังโหลดความคิดเห็น