“เอ๋ อัจฉรา” เผย วินาทีประจันหน้าสาวแสบอยู่เบื้องหลังใช้เศรษฐีฝรั่งบังหน้า หลอกตุ๋นเงินผ่านเฟซบุ๊ก สูญ 8 หมื่น ซัดเห็นแล้วอยากถีบหน้า! จวกอีกฝ่ายใช้ชีวิตหรูหรา ในขณะที่ตนต้องเก็บเงินเป็นค่ายาและค่าเรียนลูก ยังหวังได้เงินคืน
เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 16 ก.ย. ที่กองบังคับการสายตรวจและปฏิบัติการพิเศษ (191) พล.ต.ต.ภาณุรัตน์ หลักบุญ ผบก.สปพ. พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่สายตรวจ และอดีตนางเอกละครพื้นบ้านชื่อดัง “เอ๋ อัจฉรา ทองเทพ” ร่วมกันแถลงข่าวจับกุม “น.ส. วิไลพร แจ่มใส” อายุ 22 ปี ข้อหาร่วมกันฉ้อโกงและนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ปลอม ไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน ตามหมายจับศาลจังหวัดนครปฐม ที่ จ.352/2559 ลงวันที่ 28 มิถุนายน 2559
โดย เอ๋ อัจฉรา เผยว่า รู้จักชาวต่างชาติผ่านเฟซบุ๊ก ใช้ชื่อว่า เดวิส ซึ่งเป็นหนึ่งในแก๊งดังกล่าวประมาณ 3 ปี ช่วงเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา นายเดวิสแชตผ่านเฟซบุ๊กอ้างว่าลูกสาวมีอาการป่วยหนัก ต้องการนำตัวมารักษาที่ประเทศไทย ซึ่งมีทรัพย์สินเงินต่างชาติหลายล้านเหรียญและทองจำนวนมาก แต่นำเข้ามาไม่ได้ เนื่องจากต้องผ่านด่านตรวจและเสียภาษีก่อน ถึงจะนำเข้ามาได้ ตนหลงเชื่อโอนเงินให้ไปก่อน ครั้งแรก 60,000 บาท ครั้งที่สอง 20,000 บาท เมื่อมาถึงครั้งที่สามนายเดวิสยังต้องการเงินอีก 250,000 บาท ตนจึงจับพิรุธได้ ตลอดระยะเวลา มี น.ส.วิไลพร เป็นคนกลางคอยประสาน
เมื่อรู้ว่าถูกหลอกจึงแจ้งเจ้าหน้าที่ผ่านโครงการ You will never walk alone ของ 191 กระทั่งมีการจับกุมเกิดขึ้น พร้อมขอบคุณตำรวจที่สามารถจับกุมแก๊งคนร้ายได้ นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจยังเผยว่านอกจาก เอ๋ อัจฉรา ที่ถูกหลอกแล้ว ยังมีผู้เสียหายรายอื่นที่ถูกหลอกด้วย บางรายโดนตุ๋นเงินสูงถึง 3 แสนบาท
“อยากโดดถีบมากเลยค่ะ คุณรู้มั้ยว่าเงินที่คุณเอาไป ค่ายาเอ๋เลยนะ ค่าเรียนของลูกเอ๋เลยนะ เขาได้เงินง่าย พอเข้าไปดูเฟซบุ๊กของเขา เขาใช้ชีวิตลั้ลลามากค่ะ ซื้อทองให้แม่เป็นของขวัญได้ทุกเดือน เขาขายลิปสติก แต่สามารถสร้างบ้านหลังใหญ่มาก ซื้อบ้านราคา 4 ล้านบาทให้แม่ได้ พอมาเห็นตัวจริงแล้วมันหมั่นไส้”
“คุณใช้ชีวิตหรูหราในขณะที่ฉันต้องทำงานหาเงินและประหยัดเพื่อรักษาตัวให้ตัวเองกลับมาเข้าวงการทำงานได้เหมือนเดิม คุณมาทำร้ายฉันขนาดนี้เลยเหรอ ในใจคิดขอสาปแช่งเขา แต่พอเห็นแม่เขา ก็คิดว่าเขาก็ทำเพื่อแม่ของเขานะ พอเห็นเขาถูกตำรวจจับใส่กุญแจมือมา ในใจอยากกระโดดถีบมากเลย มือไม้สั่นไปหมด พี่ที่ไปด้วยกันก็บอกว่าเอ๋ใจเย็น ๆ นะ”
“เงิน 8 หมื่นก็อยากได้คืนค่ะ คิดว่าจะได้มั้ยก็มีความหวังค่ะ ท่านผู้การฯ บอกว่าจะทำให้ดีที่สุด ยังพูดแซวกับท่านว่าถ้าท่านเมตตาก็สำรองจ่ายมาก่อน เราก็เงินเดือนน้อย (หัวเราะ)”
รับระแวงขึ้น ขอบคุณ ตร. 191 จับคนร้ายได้รวดเร็ว
“ใช่ คิดแบบนั้นคงไว้ใจคนยากแล้ว เหมือนจะเข็ดนะ แต่เราว่าจิตใจเราคงไม่เลวร้ายขนาดนั้น แต่ระแวงขึ้นเลยค่ะหลังจากเกิดเรื่องวันนั้น พอใครพูดถึงคนเป็นโรคอะไร ขนาดเพื่อนในเฟซบุ๊กที่บอกว่าเป็นโรคเดียวกันอยู่แล้วที่คุยกันมา ต้องย้อนกลับไปถามอาการเริ่มต้น ขอทราบอาการเพื่้อประมวลพิจารณาว่าคุณโกหกเราหรือเปล่า เพราะเขาคนเดียวทำให้คนอื่นที่รักเรารู้สึกโดนเราหวาดระแวงเหมือนเป็นบาปค่ะ”
“ตอนนี้เจ้าหน้าที่กำลังตามจับเครือข่ายต่างประเทศ ทางเจ้าหน้าที่ 191 แจ้งความเคลื่อนไหวอยู่ตลอด หลังทราบข่าวว่าจับตัวคนร้ายได้รู้สึกประทับใจมากค่ะ ทำงานเร็วมาก”
ฝากให้ดูตนเป็นตัวอย่าง เตือนอย่าไว้ใจคนที่รู้จักผ่านเฟซบุ๊ก
“ฝากเตือนกับเรื่องนี้ดูเป็นตัวอย่าง การที่เราจิตใจดีมากเกินไปมันก็ไม่ได้เป็นผลดีมากมาย อย่าไปไว้ใจเพื่อนที่ไม่ได้รู้จักกันมาก่อนโดยเฉพาะเพื่อนทางเฟซบุ๊ก ทางโซเชียลต่าง ๆ ก็อย่าเพิ่งไว้ใจ ให้ศึกษากันให้ดีว่าเขาเข้ามารูปแบบไหน อย่าไว้ใจใครง่าย ๆ ค่ะ”