จับแล้ว! 191 รวบกะเทยแสบ อายุ 19 ปลอมไอจี “แตงโม” เผยทำมาแล้ว 30 คดี ถูกจับ 7 ครั้งแต่รอด นางเอกดังแขวะสงสัยติดคุกเอาแต้ม ซัดผิดแล้วไม่สำนึก วอนเจ้าทุกข์อย่ายอมความ
เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 26 ก.ย. ที่กองบังคับการสายตรวจและปฏิบัติการพิเศษ (191) พล.ต.ต.ภาณุรัตน์ หลักบุญ ผบก.สปพ. พร้อมด้วย เจ้าหน้าที่สายตรวจ และนางเอกชื่อดัง “แตงโม นิดา พัชรวีระพงษ์” รวมทั้งคุณพ่อ “โสภณ พัชรวีระพงษ์” ร่วมกันแถลงข่าวจับกุมสาวประเภทสอง “นายพงศกร หรือ เหน่ง เครือพิมาย” อายุ 19 ปี ข้อหาฉ้อโกงทรัพย์ ตามหมายจับศาลจังหวัดปัตตานี ที่ จ.222/2559 ลง 14 ก.ค. 2559 ซึ่งก่อนจับกุมเจ้าพนักงานตำรวจกองกำกับการสายตรวจ ได้รับแจ้งจากผู้เสียหายผ่านโครงการ You will never walk alone ว่า มีผู้สร้างอินสตาแกรมปลอม และอ้างตัวเป็นผู้จัดการส่วนตัวแตงโม หลอกขายสินค้าแบรนด์เนมและสินค้าอื่น ๆ ทำให้มีผู้หลงเชื่อโอนเงินไปยังบัญชีดังกล่าว เบื้องต้นพบว่า นายพงศกร ทำมาแล้ว 30 คดี ถูกจับ 7 ครั้ง มีผู้เสียหายกว่า 50 คน แต่รอดทุกครั้ง เพราะผู้เสียหายยอมความ
พล.ต.ต.ภาณุรัตน์ : “ผู้ต้องหาเขาขอใช้สิทธิ์ตามรัฐธรรมนูญไม่ยอมมาแถลงข่าว ผู้ต้องหาชื่อ นายพงศกร หรือ เหน่ง เครือพิมาย อายุ 19 ปี เคยโดนจับคดีฉ้อโกงมา 7 คดี ต่อมามีการยอมความ และปล่อยตัว แต่จากการตรวจสอบประวัติ ผู้ต้องหารายนี้ก่อคดีมาแล้ว 30 คดี มีผู้เสียหายไม่ต่ำกว่า 50 คน ซึ่งลักษณะการฉ้อโกง จะแตกต่างจากน้องแตงโม”
“ณ ขณะนี้ถูกจับมาแล้ว 7 ครั้ง ถามว่า ทำไมเขาถึงออกมาทำผิดได้อีก เรื่องฉ้อโกงเป็นคดียอมความได้ รัฐไม่ได้เป็นผู้เสียหาย ราษฎรเป็นผู้เสียหาย ในเมื่อราษฎรไม่เอาเรื่อง เพระเขายอมความกัน มันก็เป็นเหตุให้เขากลับมากระทำผิดซ้ำ ๆ แต่รายอื่น ๆ ซึ่งมีคดีติดตัวอยู่อีก 30 คดี ส่วนใหญ่เป็นคดีฉ้อโกง แต่ในส่วนของน้องแตงโมจะเป็นคดีแจ้งเท็จ ซึ่งอัตราโทษสูงขึ้น คือจำคุก 5 ปี ปรับ 1 แสนบาท ณ ขณะนี้คดีของน้องแตงโม อยู่ระหว่างการสอบสวนของ ป.อ.ท. ซึ่งผมจะเร่งรัดให้ ส่วนผู้ต้องหาเราจับตามหมายจับของ สภ. เมืองปัตตานี แต่เราไปจับได้ที่บริเวณหน้าโรงเรียนลำปลายมาศ จ.บุรีรัมย์”
“วิธีการของผู้ต้องหารายได้ จะใช้โซเชียลมีเดียในการทำผิดทุกครั้ง จะแอบอ้างคนมีชื่อเสียง อย่างผู้จัดการของน้องแตงโม และมาทำการหลอกขายกระป๋าแบรนด์เนม อินสตาแกรม ไลน์ เมื่อผู้เสียหายโอนเงินทางคนร้ายจะให้โอนไปที่ร้านที่มีตัวตนจริง และทำการติดต่อมาทางร้านโดยทันที โดยจะขอแคนเซิลทางร้านและให้โอนกลับมาให้เขา ทำให้สับสนว่าผู้ใดหลอกเอาเงินไปกันแน่ ซึ่งตอนนี้อยู่ในกระบวนการค่อนข้างเยอะที่กำลังสอบสวนกันอยู่ เบื้องต้นผู้บังคับบัญชาสั่งการให้สืบสวนหาข่าว และจับกุมได้ที่โรงเรียนลำปลายมาศ จ.บุรีรัมย์”
แตงโม : “ก่อนอื่นต้องขอขอบคุณเจ้าหน้าที่ทุกคน และสารวัตรที่ช่วยดำเนินการให้ ในส่วนของโมอาจไม่ใช่เจ้าทุกข์ที่เสียหายมาก ๆ โดยตรง แต่มีคนที่เขาเสียหายจริง ๆ อย่างคนที่โอนเงินไปแล้วไม่ได้รับเงิน คือ หรือคนที่โอนเงินมัดจำมาแล้ว หลายคนมาปรึกษาโมว่าจะทำยังไง เพราะเขาแอบอ้างว่าเป็นผู้จัดการโม ตัวโมเองพยายามชวยเท่าที่จะทำได้มากที่สุด ได้มาดำเนินการติดตามต่าง ๆ ว่ามันไปถึงไหนแล้ว”
วอนเจ้าทุกข์อย่ายอมความ ชี้โดนจับ 7 ครั้งเยอะเกินไป เป็นการทำผิดที่ไม่มีการสำนึก
แตงโม : “สุดท้ายเราได้ตัวผู้ต้องหามาแล้ว อยากแนะนำสำหรับเจ้าทุกข์ที่มีค่อนข้างเยอะมากไม่ต่ำกว่า 10 ถ้าไปเป็นการส่วนตัวเขาอาจจะมีเทคนิคทำให้น่าสงสาร มีเทคนิคอะไรต่าง ๆ เอาตัวรอดได้ ถ้าไม่อยากให้เกิดคดีแบบนี้อีก หรืออยากช่วยเหลือคนอื่นด้วย แนะนำอย่ายอมความจะดีกว่า เพราะเขาทำมาหลายคดี โดนจับมา 7 ครั้ง มันเยอะเกินไปสำหรับการทำผิดที่ไม่มีการสำนึก มันทำให้คนอื่นเดือดร้อน แนะนำว่าอย่ายอมความง่าย ๆ ไม่งั้นน้องก็ทำในรูปแบบเดิมๆ คือมีคนแจ้งความแล้วยอมความกัน มันเป็นเรื่องง่ายที่จะทำ เพราะโซเชียลมันติดตามกันยาก”
“อันนี้โมมาดำเนินเรื่องให้แล้วในขั้นหนึ่ง สำหรับเจ้าทุกข์ท่านอื่น ๆ อยากให้มาเปิดเผยตัว แล้วถ้าอยากจะให้ทุกสิ่งเหล่านี้หยุดลงและเป็นตัวอย่างสำหรับท่านอื่น เพราะไม่ใช่แค่น้องคนเดียวที่ทำ มีเยอะ อยากให้เป็นตัวอย่างว่าไม่ควรเกิดเรื่องแบบนี้แล้ว”
“มีคนให้ข้อมูลทางโมเยอะมากค่ะ ถ้าโดยส่วนใหญ่จะถามว่าคนนี้ใช่ผู้จัดการจริงหรือเปล่า หนูโอนเงินไปแล้วแต่ไม่ได้ของ ไม่ได้กระเป๋า ไม่ได้โทรศัพท์ พอบอกว่าเขาปลอมเป็นผู้จัดการ มันก็ตันแล้ว โมก็แนะให้ไปแจ้งความ แต่เขาไม่ได้ติดต่อมาว่าแจ้งแล้วหรือยังไม่ได้แจ้ง บางคนก็คิดว่าอาจเป็นเรื่องเล็กน้อยที่ตร.อาจไม่ใส่ใจเลยปล่อย ๆ ไปดีกว่า ขอแนะนำว่าอย่าคิดแบบนี้ เพราะมันเป็นการปล่อยให้เขาลอยนวลไปเรื่อยๆ ซึ่ง 7 ครั้ง ไม่รูทำมากี่ปี ตั้งแต่ผมสั้นยันผมยาว อีกนิดจะมีนมแล้วค่ะ (หัวเราะ)”
“เขาใช้ชีวิตปกติมาก ไม่ได้รู้สึกมีความผิดอะไร เพราะเขามั่นใจมากว่าเขาจะรอดจากตรงนี้ไปได้ อย่างที่บอกค่ะ มันเป็นคดีฉ้อโกง ไม่ได้เป็นคดีรุนแรง แต่สำหรับโม พอมีโมเข้ามาเกี่ยว มีโซเชียลเข้ามาเกี่ยว คดีของโมมันก็จะต่างจากของคนอื่น ซึ่งมันจะยอมความไม่ได้ และอยู่ในขั้นตอนการดำเนินการอยู่ ถ้าตรงนี้ได้เรื่องยังไงก็เดี๋ยวว่ากันอีกที”
“ถามว่า ทำกันเป็นขบวนการมั้ย บางคนบอกโมมาว่าเมื่อไม่กี่เดือนก่อน น้องเขาอยู่ในเรือนจำ แต่ ณ เวลาที่เขาอยู่ในเรือนจำ ก็ยังใช้โทรศัพท์เครื่องนี้อยู่ ใช้วิธีเดิม ๆ อันนี้โมไม่ทราบนะคะ ก็ต้องสอบสวนกัน”
พูดขำ ๆ ถ้าเจอจะขอเซลฟ สงสารผู้เสียหาย อย่าคิดว่าเสียค่าโง่ ย้ำฐานะแต่ละคนไม่เหมือนกัน
แตงโม : “วันนี้ยังไม่เจอค่ะ วันนี้กะมาเซลฟีเลย เขาใช้สิทธิ์ตามรัฐธรรมนูญ เราก็ไม่ได้นี้ดอยากเจอเขาเท่าไหร่เพราะไม่ได้มีความจำเป็นและสำคัญอะไร แค่อยากให้เขาหยุดทำ เพราะผู้เสียหายเยอะเหลือเกิน จริง ๆ ค่ะ แล้วมันหลายครั้ง มันบ่อยเกินไป มันเป็นอะไรที่น่าประหลาดใจ ไม่ธรรมดาค่ะ”
“เขาปลอมเป็นผู้จัดการ ถ้าเขาปลอมเป็นโมโดยตรงจะแรงกว่านี้ เขาแนบเนียนโดยใช้ชื่อเนย เบลล์บ้างก็แล้วแต่เขาค่ะ วิธีการคือสวมรอยเป็นอินสตาแกรมเก่าของเรา ณ ขณะนี้เขาตั้งไพรเวต เมโลนี ฟอร์แฟนแต่ตั้งไพรเวต สังเกตง่าย ๆ คือ ยอดฟอลโลว์ โมรู้เรื่องนี้น่าจะครึ่งปีค่ะ ก่อนหน้านี้ปีที่แล้วเขาเคยทำมาแล้วค่ะ ทำแล้วไม่มีเจ้าทุกข์มาร้องเรียนกับโมเท่าไหร่เขาก็เปลี่ยนไปเป็นดาราท่านอื่นแล้วกลับมาเป็นโมอีกที ใครเปลี่ยนชื่อไอจีก็ปลอมทันที”
“คนเสียหายก็เป็นแสน หลอกขายกระเป๋า รูปเดียวรูปเดิม แล้วขายไม่ออกสักที ก็ใช้รูปนั้นแหละค่ะ ล่าสุดที่ประหลาดคือมีคนติดต่องานโมค่ะ แต่ต้องโอนมัดจำมาก่อน เขาก็ได้ค่ามัดจำงานไป ซึ่งโมก็ไม่รู้ มันทำให้โมเสียงานเหมือนกัน ตัวโมเองอาจกระทบไม่เท่าไหร่นะคะ แต่ตัวผู้จัดการโมก็หงุดหงิดใจ เพราะเขาไม่ใช่คนนั้นที่ขายกระเป๋า ทุกคนก็กระหน่ำถามผู้จัดการว่าตกลงจะติดต่องานได้ที่ไหน จะรับของได้ที่ไหน พี่เป็นตัวจริงหรือตัวปลอม”
“แต่ที่น่าเห็นใจสุดก็เป็นผู้เสียหายเพราะผู้เสียหายแต่ละคนฐานะไม่เหมือนกัน บางคนเขามีฐานะเขาอาจเห็นว่าไม่เป็นไร เสียค่าโง่ไปแล้วกัน แต่สำหรับบางคนที่เขาเก็บเงินเพื่อซื้อกระเป๋าใบเดียว มันค่อนข้างสำคัญกับเขาเหมือนกัน บางคนเป็นนักเรียน นศ. เก็บตังค์ซื้อกระเป๋ากลายเป็นทั้งเดือนไม่มีแล้ว ผู้เสียหายร้องเรียนผ่านโมโดยตรงประมาณ 10 คน นอกนั้นไม่ได้ผ่านโม โมก็ไม่ทราบ”
พล.ต.ต.ภาณุรัตน์ : “กรณีเคสน้องแตงโม แม้หมายจับไม่ได้เกี่ยวกับน้องแตงโม แต่ตัวเขารับสารภาพ ก็หมายความว่าตัวบันทึกการแจ้งข้อหาตัวนี้และรายละเอียดต่าง ๆ ต้องประมวลเสนอไปปอท. ออกหมายจับได้เร็วนะครับเพราะผู้ต้องหาสารภาพ ตัวสำนวนอยู่ที่ ป.อ.ท. ครับ”
“เขามีคดีติดตัว 30 คดีอย่างที่ได้เรียนว่า เดี๋ยวจะออกหมายจับ จะมีข้อจำกัดนิดหนึ่งว่าคดีฉ้อโกงอัตราโทษต่ำกว่าศาลแขวง ศาลแขวงนี่จำคุกไม่เกิน 3 ปีปรับไม่เกิน 6 หมื่นบาท ถ้าอัตราโทษต่ำกว่าศาลแขวง ศาลท่านจะไม่ออกหมายจับ อันนี้เป็นระเบียบว่าทำไมบางคนไปร้องทุกข์กล่าวโทษตร.ไม่เร่งรัด ศาลท่านให้ออกหมายเรียกสามครั้ง แต่ละครั้งไม่น้อยกว่า 7 - 15 วัน น้องลองบวกไป 45 วัน จนกระทั่งเห็นว่าผู้ต้องหามีเจตนาหลบหนี ผมพูดตามรัฐธรรมนูญนะครับ ไม่ได้คิดเอาเอง”
“ถ้าแจ้งความฐานฉ้อโกงอย่างน้อยหมายจับอีก 1 เดือนถึงจะออก ตรงนี้ค่อนข้างมีปัญหา ไม่ตอบสนองผู้เสียหาย ว่าทำไม ตร. ล่าช้า แต่กรณีเคสแตงโม มันเป็นความผิดตามพรบ. คอมพิวเตอร์ อัตราโทษ 5 ปี ปรับ 1 แสนบาท นี่เกินศาลแขวงแล้ว ผมจะเอาบันทึกตามข้อหาในคดีฉ้อโกง ในหมายจับของศาลปัตตานี ไปส่งพนักงานสอบสวน ป.อ.ท. น่าจะออกหมายจับได้เลย”
แตงโม : “เขาติดคุกเอาแต้มหรือเปล่าคะ (หัวเราะ)”
พล.ต.ต.ภาณุรัตน์ : “ถ้าให้ประเมิน ถูกจับแล้วไม่หลาบจำ ต้องใช้คำหยาบนิดหนึ่ง อาจเป็นสันดานด้วย แต่ตรงนี้ประเด็นตัวพฤติกรรมของเขา แตงโมพูดถูกคืออัตราโทษ มูลค่าทรัพย์มันน้อย สมมติ 3 หมื่น เอามัดจำแค่ 5 พัน เจอตัวร้องห่มร้องไห้แล้วผู้เสียหายยอมความ หรือเขายอมคืนเงิน 5 พันให้ผู้เสียหาย กรณีอย่างนี้คดีก็ถูกยอมความ ตร. ไม่สามารถควบคุมตัวได้ก็ยุติการสอบสวน ซึ่งก็กระตุ้นให้เขาทำผิดได้บ่อยครั้ง ก็แนะนำว่าอยากให้สื่อมวลชนกระจายข่าว ให้ข้อมูลด้วยว่าถ้าหากตัวผู้เสียหายเห็นว่าคนนี้เป็นผู้ต้องหา ถ้าถูกจับ หรือ ตร. เรียกไปก็อย่าได้ยอมความ ให้คดีมันขึ้นสู่ศาล”
รับกระทบภาพลักษณ์ของสังคม เตือนประชาชนซื้อขายสินค้าผ่านโซเชียลมีเดียให้ระมัดระวัง
พล.ต.ต.ภาณุรัตน์ : “ถามว่า ถ้าเขาประกันตัว มีสิทธิ์ประกันตัวเพราะอัตราโทษมันน้อยแต่ถ้ามีหมายจับหลายคดีก็ถูกอายัดไปเรื่อย ๆ ซึ่งการประกันตัวต้องหาเงินเหมือนกันนะ ถ้าเขาไม่มีเงินประกันตัว เขาก็ต้องอยู่เรือนจำ เดี๋ยวต้องไปช่วยเร่งคดี เพราะเราไม่ได้มีอำนาจสอบสวน 191 ช่วยสนับสนุน ตร.สน.ต่าง ๆ ในการติดตามจับกุมตัว จากคำรับสารภาพของผู้ต้องหา ของศาลปัตตานี มันมีการอ้างอิงถึงคดีของน้องแตงโมด้วย และรับสารภาพด้วย ตอนนี้เป็นประโยชน์ ผมจะส่งสำเนาตัวนี้ให้ป.อ.ท.”
“ตรงนี้ต้องช่วยกันนะครับ โซเชียลมีเดีย มีทั้งคุณและโทษ ฝากถึงประชาชนด้วยการซื้อขายไม่ได้ผิดแต่ต้องระมัดระวัง เช่น ราคาขายต่ำกว่าท้องตลาดก็ไม่ควรซื้อ ตั้งข้อสงสัยไว้ก่อนว่าไม่น่าจะจริง สองสินค้าแบรนด์เนมก็ต้องขอดูของก่อน ถ้าโอนเงินมาอาจน้อยนิดแต่ผู้เสียหายหลายคน ก็กระทบภาพรวมของสังคม อาจไม่ได้เป็นความผิดร้ายแรง แต่ก็น่ากลัว ถ้าสื่อไม่ช่วยกันกระจายข่าว ก็ขอบคุณมากนะครับ”
นอกจากนี้ แตงโมเปิดใจเพิ่มเติมว่าตนขอขอบคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ช่วยเหลือ และไม่อยากให้ผู้เสียหายยอมความเพราะเห็นว่าอีกฝ่ายอายุแค่ 19 ชี้ หากไม่ได้รับบทเรียนก็ยังกลับมาทำซ้ำเหมือนเดิมอีก ไม่มีการเปลี่ยนแปลง
“ความรู้สึกตอนนี้ต้องขอบคุณมากๆ ทั้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ 191 สารวัตรเปียว พี่ ๆ สื่อมวลชนที่ช่วยเป็นปากเป็นเสียงไม่ให้คดีมันเงียบหายไป เพราะพอแจ้งความเสร็จแล้วมันอยู่ในช่วงดำเนินการแล้วมันจะเงียบหายไปเพราะว่าตำรวจต้องใช้เวลา แต่พอทราบข่าวว่าจับน้องเขาได้แล้ว และโมเองก็ไม่ใช่เจ้าทุกข์โดยตรง แต่ของโมมีความเสียหายทางด้านคอมพิวเตอร์แต่ไม่ใช่ผู้เสียหายทางด้านการเงิน ใจโมเองก็อยากจะเป็นผู้เปิดทางให้กับผู้เสียหายทุกคน ว่าโมมาช่วยให้คดีไม่เงียบหายจริงๆ และคนที่เสียหายจริงๆ โมแนะนำว่าอย่ายอมความเพราะอย่างที่ทราบข้อมูลไปว่าถ้ายอมความไปแล้ว น้องเขาก็จะลอยนวลและกลับมาทำใหม่ เพราะน้องเขามีคดีติดตัว 30 คดี โดนหมายจับ 7 ครั้ง และก็ยังทำอยู่โดยไม่คิดว่ามันเป็นเรื่องผิด และยังเด็กอยู่เลยอายุเพิ่ง 19 ปี”
“คนที่แจ้งความไว้อย่าไปหลงกลน้องเขา ถ้าเขาจะมีเทคนิคร้องไห้เพื่อขอให้ยอมความ พยายามดำเนินคดีต่อไปแม้ว่าจะได้เงินคืนแล้วก็ตาม เพราะแม้น้องเขาจะเป็นเด็ก แต่มันก็คาบเกี่ยวกับการที่เขาจะโตเป็นผู้ใหญ่ ซึ่งพฤติกรรมนี้ก็ไม่ได้ปูทางให้เขาเป็นคนดี อยากให้น้องได้มีบทเรียนบ้าง หลายคนอาจจะคิดว่าบางครั้งการไปแจ้งความ อาจจะล่าช้า ไม่ได้รับความสนใจ จริง ๆ ไม่ได้เป็นแบบนั้น เพราะมันมีการดำเนินการหลายวันอย่างต่ำก็เดือนหนึ้ง อย่าเพิ่งท้อใจ และถ้าคุณยอมความปุ๊บ เจ้าหน้าที่ไม่สามารถทำอะไรได้ต่อ และเขาก็ทำต่อไปเรื่อยๆ เจ้าทุกข์เยอะขึ้น เรื่องนี้ก็จะออกสู่สังคม”
“คนที่เสียหายที่แจ้งมาทางโมก็ต่างจังหวัดครึ่งหนึ่ง กรุงเทพฯ ครึ่งหนึ่ง ซึ่งเขาก็ไม่ได้ให้เราเป็นแกนนำอะไร แต่เขามาปรึกษาว่าเขาควรจะทำยังไงดี เพราะเขาเห็นว่าเราไปแจ้งความแล้ว เขาก็อยากรู้ว่าจะจับได้หรือเปล่า เขาคงอยากมาขอเคลียร์”
“ผลกระทบต่องานก็อาจจะเกิดความเข้าใจผิดเยอะ ไม่ว่าจะเป็นความสัมพันธ์ของเรากับแฟนคลับ เรากับเพื่อนนักแสดงด้วยกันที่เขาคิดว่าคุยกับเราอยู่ ทั้ง ๆ ที่เขาคือตัวปลอม หรือมีคนติดต่องานเข้ามาแล้วมีการโอนเงินค่ามัดจำไปก่อน ซึ่งก็เสียเปล่าค่ะ โมโชคดีที่ออกมาบอกก่อน เพราะถ้าปล่อยเอาไว้นานกว่านี้อาจจะกลายเป็นเรื่องใหญ่โตไปมากกว่านี้ โมขอย้ำนะคะว่าผู้จัดการโมไม่มีชื่อเนย ไม่มีชื่อเบลล์มีแต่ชื่อคุณกระติก”
“คือถ้าอยากจะบอกอะไรถึงเขา โมอยากจะให้เขาตอบคำถามตัวเอง ว่านี่คือความสุขของเขาตั้งแต่เกิดมาแล้วหรือยัง เงินไม่ใช่คำตอบของชีวิตจริง ๆ ทุกคนต้องการเงิน แต่วิธีการหามันมีวิธีที่หาแล้วได้มาแบบสบายใจกว่านี้ก็มี เชื่อว่าตัวน้องเขาเองเลือกได้อยู่ และด้วยความที่น้องเขาเองมีความฉลาดเขาน่าจะเลือกได้ ไม่ใช่มาใช้ช่องโหว่แบบนี้ในการทำมาหากิน อยากจะให้ใช้ความฉลาดในเรื่องของเทคโนโลยีในเรื่องการขายของ แต่อาจจะต้องขยันขึ้นมาหน่อย อาจจะต้องลงแรงบ้าง โมอยากจะให้เขามีชีวิตที่ดีขึ้นกว่านี้”
“สำหรับความต้องการของโม คือ โมอยากให้เขาได้รับบทเรียนบ้าง แต่ถามใจโมว่าถ้านี่เขาทำเป็นคดีแรก โมก็คงเหมือนคนอื่นที่จะยอมความ ขอโทษกันก็จบเพราะว่าน้องเขายังเด็ก แต่นี่สิ่งที่เขาทำมาและตัวเลขที่มันเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ทำแล้วทำอีก โมว่าน้องเขาต้องได้รับบทเรียนบ้าง เพราะถ้าชีวิตคนเราไม่ได้รับบทเรียนหรือไม่มีการเปลี่ยนแปลง ถ้าเราไม่ไปอยู่ในจุดที่ทุกข์ที่สุด ต่ำที่สุดหรือว่าถ้ามันหาออกไม่ได้จริง ๆ มันก็จะไม่เกิดการเปลี่ยนแปลง โมอยากให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในใจ และให้เขากลับใจด้วยตัวเองอย่างนี้มากกว่า”