"สิงโต ปราชญา" นักแสดงเลือดใหม่ ขวัญใจวัยใส พี่ว๊ากมาดเข้ม หัวใจโสดสนิท

เป็นนักแสดงสายเลือดใหม่ขวัญใจวัยรุ่นยุคนี้ไม่น้อยทีเดียว สำหรับหนุ่มหน้าใส "สิงโต ปราชญา เรืองโรจน์" ที่ตอนนี้กำลังมีผลงานซีรี่ย์ยอดฮิต Sotus The Series ทางช่อง one31 ซึ่งหนุ่มสิงโตเผยว่า ฟีตแบ็คที่ได้รับถือว่าดีเกินคาด และคาแรคเตอร์ก็คล้ายกับตัวจริงอยู่ไม่น้อยเลยทีเดียว

"ผลงานตอนนี้มี Sotus The Series ครับ ถ่ายเสร็จจบไปแล้ว กำลังออนแอร์อยู่ (ยิ้ม) และกำลังถ่ายเรื่อง U Price ครับ แต่จะเป็นตอนอะไรขออุบไว้ก่อนครับ (ยิ้ม) ในส่วนฟีตแบ็คสำหรับ Sotus ค่อนข้างจะดีกว่าที่คิดพอสมควรเลยครับ เพราะตอนแรกก็กลัวอยู่เหมือนกันว่าฟีตแบ็คที่กลับมาจะโอเคมั้ยกับการแสดงของเรา เพราะเป็นการแสดงเรื่องแรกด้วย"

"แต่พอฟีตแบ็คกลับมาถือว่าดีเลยครับ คนชมเราว่าเล่นโอเค ก็เป็นกำลังใจพอสมควรเลยครับ (ยิ้ม) แต่จริงๆ ก็น้อมรับคำติชมนะครับ เพื่อจะได้ปรับปรุงในการเล่นต่อๆ ไป และที่โชคดีอีกอย่างก็คือในเรื่องก็มีเกี่ยวกับพี่ว๊าก ซึ่งผมเองก็เป็นพี่ว๊ากมาก่อนเหมือนกัน (ยิ้ม) จริงๆ ผมเป็นประธานว๊าก เขาคัดจากบุคลิกและความใจเย็นครับ เพื่อนเลือกเพราะว่าผมใจเย็นที่สุด เพื่อมาคุมเพื่อน คุมน้อง แก้ปัญหาเฉพาะหน้าได้ไวถึงได้เป็นประธานว๊ากครับ"

"ประธานว๊ากค่อนข้างจะเป็นคนมีเหตุผลครับ ทุกอย่างต้องมีเหตุผลในการกระทำ เราจะไม่ใช่นึกอยากจะว๊ากก็ว๊ากครับ เพราะว่าผ่านการคัดเลือกจากอาจารย์ จากเพื่อนและได้รับการยอมรับจากรุ่นน้อง ว๊ากคณะผมจะไม่มีการยิ้มเลยครับ เก็บตัวกันจริงจังมาก ผมเก็บตัว 5 เดือนในการห้ามไปห้าง ห้ามไปเที่ยวไหน ห้ามใส่กางเกงขาสั้น รองเท้าแตะเดินในมหาวิทยาลัย ห้ามยิ้มให้น้องเห็นจนกว่าจะหมดระยะเวลานั้น เป็นการเก็บตัวคีพลุคให้เกิดภาพลักษณ์แบบนั้นครับ ซึ่งมันตรงกับซีรี่ย์พอสมควรเลยครับ ด้วยความที่ผมเล่นเป็นปี1 ซึ่งผมก็ผ่านมา แล้วรู้ว่าเขาคิดยังไง และผมก็ผ่านจุดที่เป็นพี่ว๊ากมาแล้ว ผมก็เข้าใจว่าพี่ว๊ากต้องการจะสื่ออะไร แต่บางทีพี่ว๊ากก็พูดไม่ได้ บางฉากก็เลยจะอินพอสมควร (ยิ้ม)"

"ผมคิดว่าบทเราหรือซีรี่ย์ที่เราเล่นน่าจะช่วยอะไรให้กับระบบ sotus ได้มากขึ้นพอสมควรเลย ถึงแม้ว่าปัจจุบันนี้มันจะค่อยๆ น้อยลงไปทุกทีแล้วก็ตาม สิงว่าระบบ sotus มันขึ้นอยู่กับคนใช้มากกว่า ถ้าเกิดเราเอาไปใช้ในทางที่ดีมันก็ได้ผลดีครับ คนที่เอา sotus ไปใช้รับน้องแบบรุนแรงหรือด่าน้องแล้วตัวเองทำไม่ได้ ต้องพูดก่อนว่าคณะผม มหาวิทยาลัยผมจะไม่มีคำหยาบในการรับน้อง ไม่มีคำหยาบในการว๊าก เราจะใช้ คุณ ผม และภาษาที่เป็นทางการ เราจะไม่แม้แต่แตะตัวน้อง จริงๆ ก็เหมือนในซีรี่ย์เลยครับ พี่ว๊ากจะห่วงน้องปี1 มากพอสมควรเลย แต่ด้วยหน้าที่ของเราต้องทำอย่างนั้น แทบจะแกะเรื่องจริงมาทำซีรี่ย์เลย (หัวเราะ)"

ไม่ห่วงกระแสคู่จิ้นกับ "คริส พีรวัส แสงโพธิรัตน์" จะทำคนติดภาพ
"ถามว่าตกใจไหมคู่จิ้นเราเป็นผู้ชาย ไม่ตกใจครับ พออ่านบทเราก็เข้าใจ แต่จะอ่านก่อนว่ามันหวือหวาขนาดไหน (หัวเราะ) ซึ่งเท่าที่อ่านในนิยายไม่ค่อยมีฉากหวือหวา ไม่มีฉากติดเรทนะครับ เราก็เลยโอเค และรู้สึกว่าบทมันดีมากๆ เลยในมุมมองของเรา ก็เลยลองไปแคสดู แล้วก็ผ่าน ซึ่งหวือหวาสุดก็คงจะเป็นฉากจูบครับ (ยิ้ม) จูบจริงครับ คือแค่จูบผมยังโอเค แต่ถ้าเกินไปกว่านั้นก็อาจจะคิดก่อน (หัวเราะ) แต่เป็นจูบมุ้งมิ้งๆ นะครับ ไม่ดูดดื่มอะไรขนาดนั้น แต่ก่อนเล่นผมจะถามคุณพ่อก่อนครับ พอคุณพ่อโอเค พี่ผู้จัดการโอเคก็เลยไปแคส พอแคสผ่านก็ต้องเตรียมตัวทำการบ้านแล้วครับว่าต้องทำยังไง อ่านบท ทำความเข้าใจตัวละครน่ะครับ"

"โชคดีมากที่คริสเป็นรุ่นน้องของผมที่คณะด้วยครับ ตอนแรกก็ไม่คิดว่าคริสจะเป็นคู่จิ้นเรา แต่บังเอิญไปเจอกันในวันที่แคสวันที่สองคู่กันพอดี รู้สึกดีมากครับที่เป็นน้อง เพราะเรารู้จักกันมาก่อนอยู่แล้วในคณะ เพียงแต่เราอาจจะไม่ได้คุยกันมากขนาดนั้น แล้วผมก็เคยว๊ากเขามาด้วย (หัวเราะ) แต่พอมาเล่นเรื่องนี้ก็เหมือนกับเราสลับบทบาทกัน ถ้าไม่ใช่คริสก็ไม่รู้ว่าจะเล่นได้ไหลลื่นแบบนี้หรือเปล่า อันนี้คือไม่เขินอายกันเลยครับ เพราะค่อนข้างจะสนิทกันพอสมควร"

"กระแสคู่จิ้นก็ดีเกินคาดเหมือนกันครับ (หัวเราะ) ถ้าเกิดว่าเราไม่ได้เจอกับนัอง เราก็จะทักทายกัน คุยกันผ่านโซเชียลอยู่แล้ว ไอจีบ้าง ทวิตเตอร์บ้าง ซึ่งเป็นเรื่องปกติของเรา และทุกคนก็จะจิ้นไปไกลมาก ซึ่งเราก็ไม่ได้ติดปัญหาอะไรครับ (ยิ้ม) แต่ช่วงนี้ไม่ค่อยได้เจอกัน เพราะผมโอนย้ายหน่วยกิจไปม.กรุงเทพแล้ว แต่เวลามีกิจกรรมคณะผมก็ยังเข้าไปอยู่เรื่อยๆ ถ้าเกิดเข้าไปพร้อมกันก็จะโดนเพื่อนแซว น้องแซวบ้าง บางทีก็เลยต้องหลีกเลี่ยงการเข้าไปพร้อมกันบ้าง (หัวเราะ) แต่ยังไงก็ยังเจอกันอยู่ปกติครับ อย่างเวลาน้องเข้าไปตีกลอง ผมก็จะเข้าไปดูครับ"

"ถามว่ากลัวคนจะติดภาพไหม สิงว่ามันมีอยู่แล้วครับ แต่สิงก็ไม่กลัวนะครับ เพราะถ้าเขาติดภาพเราก็แสดงว่าเราเล่นอินสมบทบาทพอสมควร (ยิ้ม) แต่สิงว่าผู้ชมน่าจะแยกแยะได้ว่าละครกับความจริงมันต่างกัน ซึ่งในเรื่องแรกนี้ถือว่าพอใจพอสมควรครับ แต่ก็เชื่อมั่นว่าเรื่องต่อๆ ไปเราก็จะทำได้ดีมากกว่านี้ครับ ด้วยความที่เรื่องนี้เราเคยผ่านประสบการณ์จากการเป็นพี่ว๊ากจากการเป็นปี1 มาแล้ว เราก็เลยรู้สึกว่ามันเล่นง่ายเพราะเรามีประสบการณ์มาแล้ว แต่ถ้าเกิดเป็นเรื่องถัดๆ ไปผมไม่รู้ว่าผมจะแสดงเป็นยังไง ผมก็แค่ต้องทำการบ้านมากขึ้น พยายามมากขึ้นครับ จริงๆ การได้รับบทบาทใหม่ๆ เป็นอะไรที่ท้าทาย"

รับเป็นคนโลกส่วนตัวสูง ยังไม่พร้อมเปิดใจให้สาวคนไหน เหตุยังไม่มีเวลา
"สิงเป็นคนที่ค่อนข้างจะโลกส่วนตัวสูง ค่อนข้างปลีกวิเวก แต่ถ้าใครที่รู้จักจริงๆ ผมก็จะรั่วใส่ (ยิ้ม) เวลาอยู่คนเดียวก็จะหยิบหูฟังขึ้นมาใส่ อ่านหนังสือ จะหลบมุมอยู่คนเดียว เป็นคนอยู่คนเดียวเก่ง จริงๆ ค่อนข้างเฟรนด์ลี่นะครับ แต่ถ้าไม่มีใครคุยด้วยเราก็จะอยู่นิ่งๆ ของเรา เป็นคนไม่ค่อยทักใครก่อน ยกเว้นรู้จักกันอยู่แล้ว ส่วนใหญ่จะทำกิจกรรมอยู่บ้านครับ สิงไม่ค่อยชอบไปเดินห้าง แทบจะไม่เดินห้างเลย ถ้าเข้าไปก็คือไปตากแอร์หรือไม่ก็ไปนั่งกินข้าวซะมากกว่า ไม่ชอบช๊อบปิ้งครับ ส่วนใหญ่จะอยู่บ้าน นอน หรือไม่ก็พาพ่อไปทานข้าวข้างนอกบ้างเท่านั้นเองครับ"

"เรื่องสาวๆ เหรอ สิงเป็นคนที่มองความรักของตัวเองไม่แน่นอนน่ะครับ ขึ้นอยู่กับว่าใครจะเข้ามาทำให้มุมมองความรักของเราเปลี่ยนไป สิงเป็นคนที่ค่อนข้างจะเปิดให้พื้นที่ส่วนตัวกับคนที่มาใกล้ชิดเรา เรามีพื้นที่ส่วนตัวให้คุณ คุณมีพื้นที่ส่วนตัวให้เรา เราอยากอยู่คนเดียวบ้างบางเวลา อยู่กับครอบครัว อยู่กับเพื่อนบ้าง เราก็จะให้แบบนั้นกับเขาเหมือนกัน ถ้าเกิดว่าเขาไม่เข้าใจจริงๆ เขาอาจจะมองว่าเราห่างเหิน แต่จริงๆ แล้วเราก็เหมือนเดิม เพียงแต่เราให้พื้นที่ส่วนตัวเขา สิงเป็นคนไม่หวานน่ะครับ ไม่มีมุมมุ้งมิ้งเลย"

"ยอมรับนะครับว่าตอนนี้อาจจะยังไม่อยากมีใคร ไม่ค่อยมีเวลาด้วย ฉะนั้นถ้าเราไม่มีเวลาให้ใคร เราก็อย่ามีใครดีกว่า ช่วงนี้ผมก็ทำงาน แล้วก็เรียน แค่เดินทางไปกลับระหว่างหอกับที่เรียนก็กินเวลาพอสมควรแล้วครับ เพราะว่าหออยู่เกษตรไปเรียนม.กรุงเทพ เรียนเสร็จกลับมาถึงก็มืดแล้ว เสาร์-อาทิตย์ถ้าไม่ถ่ายละครผมก็กลับบ้านไปหาพ่อครับ ก็เลยรู้สึกว่าเราไม่ค่อยมีเวลาให้ใคร อาจจะไม่เปิดโอกาสให้ใครด้วย แต่เราก็รู้สึกว่าเราโอเคกับตอนนี้อยู่แล้ว ถ้าเกิดว่าเรามีใครแล้วทำเขาเสียใจก็อยู่คนเดียวดีกว่า (หัวเราะ)"

สเป็กสาวขอคนที่พร้อมจะเข้าใจจริงๆ เพราะอกหักมาเยอะแล้ว
"สาวในสเป็กค่อนข้างจะต้องเป็นคนที่เข้าใจเราพอสมควรครับ เพราะเราเป็นคนที่ไม่ค่อยอธิบายอะไรอยู่แล้ว บางทีเราเหมือนจะไม่ห่วง แต่จริงๆ เรารู้สึกนะ แค่เราไม่ได้พูดออกมา ด้วยความที่สิงเป็นคนแบบนี้ส่วนใหญ่ก็เลยจะเป็นฝ่ายอกหักครับ (ยิ้ม) เพราะผู้หญิงเขาก็ต้องการให้เราเทคแคร์เขา แต่เราเป็นคนที่ไม่มีมุมนั้นเท่าไหร่ หลายๆ คนบอกว่าผมเป็นคนเฉยชา ไม่ว่าจะเป็นพี่ เป็นเพื่อน แต่จริงๆ แล้วก็ไม่ถึงกับเฉยชานะครับ เรียกว่าเราให้ความเป็นส่วนตัวเขาที่บางทีมันดูมากเกินไปมากกว่า จนอาจจะดูว่าไม่สนใจ แต่จริงๆ แล้วเราสนใจ แต่เราแค่ไม่อยากก้าวก่ายเขามากเกินไป ตอนนี้ก็เลยโสดสนิทกริ๊บเลยครับ (หัวเราะ) โสดมาสักพักใหญ่แล้วครับ เพราะตั้งแต่ช่วงทำงานมาก็ไม่ได้มีใครเลย"

"จริงๆ แล้วสิงเป็นคนที่ค่อนข้างพยายามเปลี่ยนตัวเองพอสมควรนะครับ แต่พอถึงเวลาหนึ่งมันก็จะกลับมาเป็นวงจรเดิมของเรา กลับมาเป็นตัวเองอีกครั้ง ซึ่งเขาอาจจะมองว่าเราเปลี่ยนไปจากตอนแรกที่รู้จักกัน จริงๆ เราก็พยายามเปลี่ยนตัวเองเพื่อเขา แต่สุดท้ายก็กลับมาเป็นตัวเรามากกว่า ในมุมความรักของผม ผมมองว่าความรักเป็นเรื่องของคนสองคน เราต้องช่วยๆ กันปรับเข้าหากันมากกว่าครับ อะไรที่มันไม่โอเคก็อยากให้คุยกันโดยตรง ไม่อยากให้เก็บไปคิดแล้วเป็นปัญหาหมักหมม บางทีเราเงียบ เรานิ่ง เขาอาจจะมองว่าเราไม่สนใจเขาก็มีอย่างนั้นบ่อยครับ ทั้งๆ ที่จริงๆ แล้วเราก็แคร์ จนต้องเลิกรากันไป หรือถ้าเขาได้ไปเจอใครที่ดีกว่า ดูแลเขาได้ดีกว่าเราก็โอเคที่จะปล่อย (ยิ้ม)"