“ปอย ตรีชฎา” จับมือ “ต่าย นัฐฐพนธ์” ดันละครไทยฉายเมืองจีน กระตุ้นธุรกิจท่องเที่ยว หวังแฟนคลับจีนตามรอยท่องเที่ยวเมืองไทยแบบเกาหลี ยันไม่ได้ค่าตัวเพิ่ม แต่ได้ทำอะไรเพื่อประเทศไทย ดีใจเจอคนที่มีอุดมการณ์เหมือนกัน ปัดเรื่องมากกลางกอง บอกตนใช้กฎเดียวกับ “โจวเหวินฟะ” ถ้าอยู่เมืองนอกต้องนั่งรถเบนซ์ - นอนโรงแรม 5 ดาวเท่านั้น! แต่อยู่เมืองไทยตนจกปลาร้า นั่งวินมอเตอร์ไซค์ได้ชิล ๆ
หลังจากลุยโกอินเตอร์จนโด่งดังที่เมืองจีน ล่าสุด “ปอย ตรีชฎา เพชรรัตน์” กลับมาเมืองไทยรับละครเรื่อง “นางแค้น” โดยร่วมงานกับผู้จัด “ต่าย นัฐฐพนธ์ ลียะวณิช” ซึ่งนอกจากทำหน้าที่แสดงนำแล้ว เจ้าตัวยังจับมือผู้จัดดันละครเรื่องดังกล่าวไปฉายที่เมืองจีน หวังกระตุ้นธุรกิจท่องเที่ยวของเมืองไทย หวังให้คนจีนมาตามรอยการท่องเที่ยวเหมือนเกาหลี
“จริง ๆ ต้องพูดว่าปอยเข้าไปยุ่มย่ามเยอะมากค่ะ พี่ต่ายเป็นผู้จัด ปอยก็เข้าไปช่วยดูกลยุทธ์การตลาดเขา ในเรื่องการวางแพลน เซตติ้ง การทำงานพีอาร์ทั้งหมด เอาแพลนมาคุยกัน คุยกับช่องว่าจะทำยังไงบ้าง ปอยว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องของโอกาส เพราะปอยไม่ค่อยได้รับงานเมืองไทยที่เป็นละคร แฟนคลับชาวจีนคือเขาอยากดูเป็นจำนวนมาก ทำให้เราควรต้องถ่ายอะไรไทน์อินการท่องเที่ยวของประเทศไทยไปด้วย เพื่อกระตุ้นธุรกิจการท่องเที่ยว นักท่องเที่ยวเขาตามรอย เหมือนเกาหลีเราก็กำลังทำแบบนั้นกัน เราได้รับการสนับสนุนจากภาครัฐด้วย”
“จริง ๆ ละครเมืองไทย โดยเฉพาะนักแสดงที่มีคนรู้จักในเมืองจีน ยังไงคนก็ดูอยู่แล้ว ไม่ว่าจะซื้อไปหรือดูออนไลน์ ยังไงเราวินวิน ปอยดูแลเรื่องการวางแพลน วางคอนเซปต์ ช่วยพี่ต่าย และดูการวางกลยุทธ์ทั้งหมด แล้วก็ดูมีเดียแวลู คือ การที่เราใช้คอนเทนต์เข้าไปในตลาดจีน ซึ่งปอยทำงานกับทีมฮ่องกง คือเราไปช่วย”
ยันไม่ได้ค่าตัวเพิ่ม แต่ได้ทำอะไรเพื่อประเทศไทย ดีใจ “ต่าย” มีอุดมการณ์เหมือนกัน
“ไม่ได้ค่าตัวเพิ่ม คือ ปอยทำธุรกิจเฟอร์ฟู แปซิฟิก พี่ต่ายก็ช่วยปอยเยอะมากเหมือนกัน เพราะเป็นโปรดักชันเฮาส์ แลกเปลี่ยนไอเดียกันเยอะมากค่ะ สิ่งที่เราทำทั้งหมดในวันนี้ ในความเป็นจริงเราได้เรื่องความโด่งดังในเรื่องละครเรตติ้ง แต่สิ่งสำคัญคือเราได้ทำอะไรเพื่อประเทศกัน และขอบคุณพี่ต่าย ที่มีอุดมการณ์เหมือนกับที่ปอยมอง”
“ตอนนี้ก็เอาไปพรีเซนต์เรียบร้อยค่ะ ทุกคนยิ่งกว่าโอเค ถามว่าเป็นเพราะปอยมั้ย ปอยว่าปอยเป็นแค่ปัจจัยหนึ่ง แต่อีกปัจจัยหลัก สิ่งที่ปอยตกใจมาก คือ เรื่องนี้เขาลงทุนมาก เขาเลือกสไตลิสต์ของแฟชั่นวีก ไฮแฟชั่น เสื้อผ้าหน้าผมแม้แต่วันฟิตติ้ง คริสเตียน ลูบูแตง เป็นสปอนเซอร์รองเท้า แม้แต่การแต่งหน้า เมกอัพ ไฟ ตากล้อง ผู้กำกับพี่ต้น ชานนท์ โอ้โห เริดมาก แม้แต่วันที่เราไปเต้นกัน เรามีคนสอนเต้นชื่อพี่บอย ของพี่ใหม่ เจริญปุระ ซึ่งเก่งมาก ทุกอย่าง เสื้อผ้าหน้าผม เรื่องนี้อินเตอร์มาก จนปอยตกใจ เขาตั้งใจมาก เราก็ต้องทำให้เต็มที่มาก ๆ”
บอกแบกความคาดหวัง
“เราก็อยู่ในจุดที่แบกรับด้วย เพราะเราก็ช่วยวางแผน เราคุยกับทางช่องด้วย เมื่อกี้ได้คุยเบื้องต้นเดี๋ยวจะต้องมาประชุมกัน คือ ปอยทั้งแสดงทั้งทำงานเบื้องหลัง ประชุมด้วยนะคะ เรียกว่าเข้าไปสาระแน (หัวเราะ)”
โต้เรื่องมากกลางกองถ่าย ทุกอย่างเป็นไปตามกฎและข้อบังคับของฮ่องกง
“จริง ๆ ไม่ใช่ปอยค่ะ พี่ต่ายเขาคุยงานกับทางฮ่องกงใช่มั้ยคะ ตอนนี้ปอยไซน์คอนแท็กกับฮ่องกง เรื่องกฎระเบียบ ขั้นตอน ข้อบังคับมันอยู่ที่ฮ่องกง พี่ต่ายเขาดีลกับฮ่องกง จึงทำให้กฎเกณฑ์ทุกอย่างอยู่ในสัญญา ถ้าปอยทำผิด ปอยผิดสัญญาเหมือนกัน แต่เวลาเราทำงานจริง ๆ เราอะลุ่มอล่วยได้เหมือนกัน ตอนนี้ปอยซี้กับสวัสดิการ ช่างแต่งหน้าทุกท่าน เสื้อผ้าทุกท่าน ทุกคนบอกว่าปอยเป็นหัวหน้าแก๊ง”
“ไม่ได้เรื่องเยอะค่ะ แต่มันเป็นกฎ แล้วพี่ต่ายก็เข้าใจ แล้วรู้ด้วยว่าปอยทำงานทุกอย่างถ้าเข้าฉากปุ๊บ ปอยทำงานเต็มที่ กับสิ่งที่ต้องแลกในเรื่องเงื่อนไข ทุกคนก็มีเงื่อนไขกันหมด ช่างแต่งหน้าก็มี เกินเวลาก็ไม่ได้ ไม่ใช่แค่ปอยนะ แต่ท้ายที่สุดพอเรารักกันมันหยวนได้นิดหน่อยค่ะ”
บอกใช้กฎเดียวกับ “โจวเหวินฟะ” ต้องนอนโรงแรม 5 ดาว - นั่งรถเบนซ์
“ตอนพี่ต่ายคุยฮ่องกงครั้งแรกเขามาเล่าให้ฟัง ในกฎนะคะ ถ้าเป็นเมืองนอก โรงแรมต้อง 5 ดาวขึ้นไป รถต้องคันใหญ่ เมอร์เซเดส-เบนซ์ ยุโรป เขาจะทำเป็นกฎพวกนี้ มันมีมานานแล้ว ทำมาหลายสิบปี เขาก็ใช้กันอย่างนี้ พี่ต่ายฟังปุ๊บเขาก็บอกว่าน้อง ๆ มันเป็นแบบนี้ เราก็บอกว่าเดี๋ยวค่อยว่ากัน สุดท้ายปอยก็ยังนั่งรถตัวเอง เราไม่ได้คอมเพลน เราแฮปปี้ พอเราเห็นว่าเราแฮปปี้ ครั้งนี้เขาไม่ได้บินมาดู ปกติเขาจะดู แล้วพี่ต่ายคุยกับอเดล คนดูแลปอยตลอด”
“ส่งเรฟเฟอเรนซ์ให้เขาดูบ้างแต่น้อยมาก คือ อเดลเขารู้ว่าปอยเป็นผู้ใหญ่ เวลาทำงานปอยตั้งใจ ไม่หยุมหยิม แต่ถ้าอยู่เมืองนอกเวลาเขาหยุมหยิมเขาจะทำกันเราไม่รู้เลย เขาจะแอบ ๆ แต่จะหนัก (หัวเราะ) เราจะเห็นสายตาลูกค้า เราจะตกใจ คือ มันเป็นแพตเติลที่เขาทำมานานแล้ว ไม่ว่าจะโจวเหวินฟะ ซึ่งปอยอยู่ไซน์คอนแท็กบริษัทเดียวกัน กฎเดียวกัน”
“อยู่เมืองไทยนั่งวินก็ได้ เราไม่คอมเพลนเลย คอมเพลนอย่างเดียวต้องมีครกทุกวัน ไว้ทำส้มตำ (หัวเราะ) คือ จริง ๆ ปอยหยวนได้อยู่แล้ว แต่ว่าตอนนี้ต้องยอมรับว่าเรื่องเวลาของปอย ปอยไม่รู้ว่าวันจริงจะเหนื่อยขนาดไหน ปอยต้องบินไปกลับกรุงเทพฮ่องกงตลอดเวลา มันก็แอบหนักเหมือนกันนะ ในอนาคตเรื่องละครอีกสักพักคงรับสักเรื่อง ตอนนี้มีละครติดต่อเข้ามาหลายเรื่องแล้วนะ มีหนัง ผู้จัดการบอกว่าเป็นเรื่องดอกฟ้าอะไรสักอย่าง เราเป็นพวกเพอร์แฟชันนิสต์ ทุกอย่างต้องเป๊ะ ต้องดีที่สุด ทุกวันนี้ปอยต้องแบ่งเวลา ปอยเล่นละคร 4 วันต่อสัปดาห์ อีกวันปอยต้องเรียนการแสดง”
บอกทุกอย่างต้องโปร เมืองนอกไม่เล่นมือถือระหว่างทำงาน ส่วนตนนำมาปรับใช้ที่เมืองไทย
“คือพอมาเล่นละครที่นี่ทุกคนจะรู้เลยว่าปอยไม่เล่นมือถือ ทุกคนจะติดต่อปอยไม่ได้ ตอนเด็ก ๆ เล่นกับโพลีพลัสเราเล่นกระจาย เพราะเราไม่รู้ไงคะ แต่พอไปอยู่เมืองนอก เรารู้เลยว่าเขาไม่ทำกัน แล้วเขาตรงเวลา แต่งหน้าเร็ว เปลี่ยนชุดเร็ว ไม่มีเอิงเอย ทุกคนจะรู้ว่าปอยเร็วมาก เวลาปอยไม่เล่นโทรศัพท์ ปอยโฟกัสได้ มีสมาธิ นี่คือสิ่งที่เอามาปรับใช้”
“ทำงานที่โน่นโปรเฟสชันแนล แต่ที่เมืองไทยจะเป็นไทยสไตล์ใช่มั้ย แต่จริง ๆ ละครเรื่องนี้โปรเฟสชันแนลมาก กองปอยโปรเฟสชันแนลมาก ปอยพูดเลย พี่ต่าย ครูอ้อ ผู้กำกับ สุดยอด ปอยมีบุญ ขนลุก โชคดี ปอยโชคดีนะได้ทำงานกับทีมโปรเฟสชันแนล”
“ทีมอื่นจะติดต่อยากมั้ยเหรอ จริง ๆ ปอยไม่ได้เก่งเลย ไม่ได้โปรขนาดนั้น แต่ปอยแค่เคยชิน แล้วที่นี่พอโปรไปด้วยกันมันง่าย มันเร็วมาก มันสะดวกคนอื่น คนมีลูกมีเมีย ท้องกลับบ้านเร็ว การโปรเป็นสิ่งที่ดี แต่ถ้าเรื่องเยอะไม่ดี แต่ไม่เกี่ยวกับเราค่ะ”
