“ตอง เตลาน” ลูกอดีตนางสาวไทย กลับลำเป็นคนนอกใจ “มะนาว” ชวน “ป๋อมแป๋ม” มาหาที่ห้องทั้งที่รู้จักกันแค่ชั่วโมงเดียว สารภาพโกหกแค่ป้องกันตัวเอง รับโดนด่าไม่แมน เหตุปล่อยให้มะนาวไล่อีกฝ่ายออกจากห้อง ทั้งที่ไม่ใส่เสื้อผ้าแถมยังถ่ายคลิป แจงใครจะกล้าห้าม เพราะตัวเองก็ทำผิดเต็ม ๆ เผย แม่ตนโกรธมากไล่มะนาวออกจากคอนโดไม่ให้อยู่ด้วยกัน ในขณะที่แม่มะนาวดีมากกลับมาขอโทษตนแทนลูกสาว บอกตอนนี้คืนดีกันแล้ว พร้อมโต้มะนาวไม่ได้เป็นเอเยนต์ส่งเด็กให้เสี่ย ยันแค่ส่งพริตตีไปยืนกับสินค้าเท่านั้น โอดตั้งแต่เกิดเรื่องไม่กล้าไปทำงาน รู้สึกเข็ดมากไม่กล้านอกใจแฟนอีกแล้ว
กลายเป็นข่าวอื้อฉาวในโลกโซเชียล หลังจากที่เมียหลวงถ่ายคลิปไล่สาวไซด์ไลน์ออกจากห้องในสภาพเปลือยเปล่า และมีการโพสต์คลิปประจานว่อนเน็ต ทำให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์สนั่น โดยฝ่ายเมียหลวง “มะนาว” ได้ออกมาให้สัมภาษณ์น้ำตานองเปิดใจถึงกรณีดังกล่าวไปแล้วในรายการปากโป้ง ยินดีขอโทษ “ป๋อมแป๋ม” กับเรื่องทั้งหมด
ล่าสุด “หนุ่ม กรรชัย กำเนิดพลอย” และ “หนิง ปณิตา ธรรมวัฒนะ” ได้จับตัวคนกลางอย่าง “หนุ่มตอง เตลาน” ลูกอดีตนางสาวไทยอายุ 33 ทำธุรกิจส่วนตัว มาเปิดอกเคลียร์กลางรายการอีกครั้ง โดยเจ้าตัวยอมรับผิดทุกอย่าง ย้ำเคยโกหกเพื่อป้องกันตัว แต่ล่าสุด กลับมาคืนดีกันและอยู่ด้วยกันเหมือนเดิม
“ห้องนั้นเป็นห้องของผม และชวนมะนาวมาอยู่ด้วยสักระยะหนึ่งแล้ว คืนนั้นประมาณตี 3 ก็อยู่กับผู้หญิงคนนั้นบนโซฟา อยู่ ๆ มะนาวก็ไขกุญแจเข้ามา น้องคนนั้นก็ตกใจ วิ่งเข้าไปหลบในห้องนอน มะนาวตบผมหลายฉาด วันนั้นมะนาวไปทำงานที่พัทยา นึกว่าจะกลับเช้าอีกวัน แต่เขากลับมาก่อน”
“ขอยอมรับผิดที่เคยพูดก่อนหน้านี้ที่บอกว่าเพื่อนพาผู้หญิงคนนี้มา และผมไม่รู้เรื่อง พอตื่นมาก็เจอผู้หญิงคนนี้นอนอยู่ข้าง ๆ แต่จริง ๆ ผมพูดไปเพราะต้องการปกป้องตัวเองมากเกินไป จนทำร้ายคนที่รักตนหลาย ๆ คน จริง ๆ แล้ว มีเพื่อนแนะนำผู้หญิงคนนี้ให้ อีก 1 ชม .ให้หลังจากที่ผมไลน์ไปหา และผู้หญิงคนนี้ก็มาหาที่ห้อง”
ไม่รู้ถ้าคลาดสายตา มะนาวจะทำอะไรอีกฝ่าย ปล่อยให้ถ่ายคลิปเพราะรู้สึกผิด
“วันนั้นเสื้อผ้าน้องอยู่นอกห้อง เนื่องจากมะนาวโยนออกไป แล้วจะให้ผมออกไปนอกห้องเพื่อหยิบเสื้อผ้ามาให้เขา ผมไม่รู้ว่าถ้าคลาดสายตาจากผู้หญิงคนนั้น มะนาวจะทำอะไรเขาหรือเปล่า ผมถึงต้องอยู่ตรงนั้น และตอนนั้นตี 3 กว่าแล้ว ไม่มีใครอยู่นอกห้องแน่นอน”
“ที่ไม่ดึงโทรศัพท์ที่มะนาวถ่าย เพราะรู้สึกผิดต่อมะนาวมาก เพราะก่อนหน้านี้ก็โดนตบไปหลายทีแล้ว เลยไม่กล้าที่จะดึงโทรศัพท์ออกมา ยืนยันมะนาวไม่ได้ถือปืน ก่อนที่จะถ่ายคลิป น้องคงได้ยินเสียงมะนาวตบผม เชื่อว่า น้องคงกลัวโดนมะนาวทำร้าย”
เผยครอบครัวโกรธหนักให้ไล่ฝ่ายหญิงออกจากห้องพัก แต่ล่าสุดกลับมาอยู่ด้วยกันเหมือนเดิม ป้องเมียเป็นเอเยนต์ส่งเด็กให้เสี่ย
“ผลกระทบกับผม ตอนแรกคุณแม่โกรธมาก จะไล่มะนาวออกจากห้องพัก แต่ผมกับมะนาวได้อธิบายจนคุณแม่เข้าใจ และทุกวันนี้ก็ยังอยู่กันเหมือนเดิม ครอบครัวมะนาวดีมาก ไม่โกรธผมเลย แต่กลับโกรธมะนาวที่ทำแบบนั้น”
“ข่าวที่ว่ามะนาวเป็นเอเยนต์ส่งเด็กไม่จริงครับ เพราะมะนาวจะมีกลุ่มไลน์ เวลามีเจ้าของธุรกิจต้องการหาพริตตีไปทำงาน หรือนั่งกินข้าวก็จะติดต่อมะนาวให้หาให้ มะนาวก็ทำอาชีพพริตตี ผมเคยเห็นมะนาวหาพริตตีให้ไปทำงาน แต่แค่ไปยืนกับสินค้า ไปได้ส่งหาเสี่ยแน่นอน ยืนยันได้”
“ที่ว่ามะนาวเป็นเมียน้อย เป็นไปไม่ได้เลย ผมคบกับมะนาวคนเดียว และยังไม่เคยแต่งงานมาก่อน เมื่อวันเสาร์ที่ไปขึ้นศาล ผมก็ดูแลเรื่องค่าประกันตัว ค่าทนายให้มะนาว”
ยันรู้จัก “ป๋อมแป๋ม” แค่ ชม. เดียว และไม่ได้เจอกันอีกเลย ไม่แฟร์ถ้าจะให้มะนาวขอโทษอีกครั้ง
“กับน้องคนนั้นไม่ได้เจอ ไม่ได้คุยกันเลย ยืนยันไม่เคยรู้จักกันมาก่อนหน้านั้น รู้จักกันวันนั้นแค่ชั่วโมงเดียว เรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่กว่าที่ผมและหลาย ๆ คนคิด เรื่องนี้ผมเป็นคนก่อ ผมเป็นคนผิดเอง อย่าไปว่ามะนาว หรือน้องคนนั้นเลย ก็เข็ดแล้ว ไม่ทำแล้ว เป็นเรื่องใหญ่และมีผลกระทบกับผมมาก”
“ส่วนที่จะให้มะนาวไปขอโทษน้องคนนั้ย มันก็ไม่แฟร์ เพราะมะนาวเคยมาขอโทษผ่านรายการไปแล้ว ผมขอโทษแทนมะนาวเอง และจะไม่ทำแบบนี้อีก”
นอกจากนี้ “หนุ่มตอง” ยังขอเปิดใจเคลียร์อีกรอบหลังให้สัมภาษณ์สดผ่านรายการปากโป้ง โดยเผยขอฝากบทเรียนเรื่องนี้ไว้เป็นอุทาหรณ์
“เหตุการณ์วันนั้นคือตอนประมาณตี 3 มะนาวเขากลับมาจากทำงาน แล้วเขาก็ไขประตูมาพบผมกับน้องคนนั้นอยู่ที่โซฟาครับ คือเพื่อนแนะนำผู้หญิงคนนั้นให้ผมรู้จักครับ และน้องคนนั้นเขาก็มาหาผมตอนตี 1 เพื่อนเขาแนะนำเฉยๆ ครับ แต่ไม่ได้บอกว่าเป็นใคร ทำงานอะไรครับ”
“เรื่องน้องเขาเป็นสาวไซด์ไลน์ผมได้ชี้แจงกับตำรวจไปแล้วครับ ยังไงเดี๋ยวให้ทางตำรวจเขาไปดำเนินการต่อดีกว่าครับ (ไม่รู้ว่าน้องเป็นไซด์ไลน์?) ครับ คือเพิ่งจะรู้จักกับน้องคนนั้นเขาเหมือนกันนะครับ ถูกใจหรือเปล่าอันนี้ผมยังไม่สามารถตอบได้ แต่ว่าเพิ่งจะรู้จัก เพิ่งจะได้เจอวันนั้น ผมเป็นคนให้น้องเขาเข้ามาในห้องเอง”
“พอมะนาวมาเจอก็เป็นอย่างในคลิปเลยครับ คือพอน้องเขาได้ยินเสียงไขประตู เขาก็วิ่งไปหลบในห้อง มะนาวเขาก็เข้ามาตบผมหลายทีมาก (แล้วมะนาวก็ไล่น้องคนนั้นออกไปโดนที่ไม่ใส่เสื้อผ้า?) ใช่ครับ เป็นอย่างในคลิปเลยครับ ซึ่งมะนาวไม่มีอาวุธครับ ที่น้องเขากลัวผมเชื่อว่าเพราะเขาได้ยินเสียงมะนาวตบผมน่ะครับ ตอนแรกก่อนที่จะถ่ายคลิป เพราะเสียงที่ผมทะเลาะกับมะนาวค่อนข้างเสียงดังมากเหมือนกัน น้องเขาเลยกลัว”
ออกมาสารภาพเพราะรู้สึกผิดต่อมะนาว ไม่ห้ามถ่ายคลิปเพราะตนไม่กล้า หลังถูกตบไปแล้วหลายฉาด
“ที่บอกว่าทำไมไม่ปกป้อง พูดตามตรงคือผมไม่อยากจะพูดอะไรเลยด้วยซ้ำครับ แต่ว่าคนเอาไปพูดกันต่างๆ นานา ซึ่งมันมีทั้งเรื่องจริงและไม่จริง จนเรื่องวุ่นวายกันไปหมดขนาดนี้ ผมจึงตัดสินใจออกมาพูดในวันนี้ครับ คือ ณ เวลานั้นตัวผมก็รู้สึกผิดมากๆ ต่อแฟนของผม และสาเหตุที่ไม่สามารถปกป้องอะไรทางฝั่งน้องคนนั้นได้เลย เพราะว่าเสื้อของน้องเขาอยู่ด้านนอกห้อง ผมไม่สามารถเดินออกมานอกห้องเพื่อที่จะมาหยิบเสื้อของน้องเขา เพื่อที่จะกลับไปใส่ให้น้องเขาได้ เพราะผมไม่อาจละสายตาจากสองคนนั้นได้เลยแม้แต่แป๊บเดียว”
“เพราะผมไม่แน่ใจจริงๆ ว่าจะเกิดอะไรขึ้นถ้าเกิดไม่ได้อยู่ตรงนั้น ถ้าผมอยู่ก็ยังดีกว่าให้เกิดการทำร้ายร่างกายหรือเกิดอะไรขึ้น ซึ่ง ณ เวลานั้นผมตัดสินใจทำอย่างนั้นครับ ผมเกรงว่าจะเกิดเหตุการณ์แย่กว่านี้หรือเปล่าผมไม่แน่ใจครับ ณ เวลานั้นความรู้สึกผมคืออยากให้น้องเขาออกไปจากบริเวณนั้นให้เร็วที่สุด เพราะมันเป็นเรื่องระหว่างผมกับมะนาวที่จะต้องทะเลาะกันต่อ หรือว่าต้องเคลียร์กันต่อครับ และที่ไม่ห้ามตอนถ่ายคลิป บอกตรงๆ ว่าผมไม่กล้าครับ เพราะตอนนั้นมะนาวเขาโมโหมากๆ และเขาก็ตบผมไปหลายฉาดแล้ว”
“ส่วนที่ผมพูดไปก่อนหน้านั้น จริงๆ แล้วตอนนั้นผมยอมรับว่าผมอาจจะให้สัมภาษณ์ออกไปโดยที่พยายามจะปกป้องตัวเองมากเกินไป แต่ว่าการที่ผมปกป้องตัวเองมันได้ทำร้ายคนที่ผมรัก ผมจึงต้องออกมาพูดความจริงในวันนี้ครับ ตอนแรกผมพยายามจะปกป้องตัวเองว่าไม่เกี่ยวข้องครับ”
รับยังอยู่คอนโดเดียวกันกับเมีย ยัน “ป๋อมแป๋ม” ไม่ได้หวาดกลัวเพราะมีสารเสพติด แค่กลัวโดนตบมากกว่า
“ยังอยู่กับมะนาวที่คอนโดครับ ผมตามง้อเขาอยู่นานมากครับ คือตอนแรกคุณแม่ผมไม่พอใจมาก แล้วก็มีการคุยกันว่าอาจจะให้มะนาวไปอยู่ที่อื่น แต่ตอนนี้ได้คุยกับคุณแม่แล้วและอธิบายให้เขาเข้าใจ และตอนนี้ก็ยังอยู่ที่คอนโดด้วยกันเหมือนเดิมครับ (สถานะคือยังคบกัน?) ครับ”
“ส่วนน้องคนนั้นไม่ได้เจอเลยครับ น้องเขาก็ไม่ได้ติดต่อมาครับ กับเพื่อนที่แนะนำน้องมาให้ก็ไม่ได้คุยกันเลยครับ เพราะว่าเกิดเรื่องขึ้นก็วุ่นวายมากอยู่แล้วครับ ส่วนที่บอกว่าน้องเขาเข้ามาหลบด่านตำรวจก็อย่างที่เล่าเลยครับ ส่วนที่บอกว่าน้องมีอาการหวาดกลัวเพราะมีสารเสพติด อันนี้ไม่ครับ คือน้องเขากลัวโดนตบมากกว่า เพราะมะนาวโมโหมากครับเวลานั้น”
มืดแปดด้านไม่รู้ป๋อมแป๋มจะฟ้องร้องข้อหาอะไร
“ก็ให้เป็นเรื่องของทางกฎหมายดีกว่าครับ เพราะผมก็ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าน้องเขาจะฟ้องข้อหาอะไรเหมือนกัน ส่วนในเรื่องของคดีเรื่องพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ผมก็ยังไม่ทราบเหมือนกันว่าคดีจะออกมาในรูปแบบไหน แต่ว่าในเรื่องของหมิ่นประมาทกับขืนใจให้ออกจากห้อง อันนี้ได้ให้ปากคำกับตำรวจและทางกฎหมายก็ได้ดำเนินการไปในเบื้องต้นบ้างแล้วนะครับ”
“มะนาวเขาไม่ได้รู้สึกสะใจนะครับ อันนี้ต้องเรียนตามตรง คือช็อตนั้นเขาโมโหผมมาก เขาจึงถ่ายคลิปเอาไว้ และไม่ได้มีความตั้งใจที่จะเผยแพร่ใดๆ ทั้งสิ้นด้วย ยังไม่ทราบเลยว่าใครปล่อย เชื่อที่มะนาวยืนยันว่าทำโทรศัพท์หายครับ”
รับทุกฝ่ายได้รับผลกระทบไปหมด แม้แต่ตนไม่สามารถออกไปทำงานได้ตามปกติ
“ก็ไม่เป็นไรครับ คือมันมีผลกระทบอยู่แล้วจากเหตุการณ์ในครั้งนี้ แต่เราก็ไม่อาจจะห้ามสังคมในการที่เขาจะตัดสินใจว่าเขาจะทำกับเราอย่างไรต่อไปได้ แต่ที่เกิดกับผมโดนตรงก็เยอะครับ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องคุณแม่โมโหผม ผมต้องตามง้อมะนาว ผมอาจจะไม่สามารถออกไปทำงานได้ตามปกติ ก็เป็นผลกระทบที่ค่อนข้างหนักมากครับ เพราะไม่แน่ใจว่าลูกค้าจะมองยังไงกับเรื่องนี้ครับ ตั้งแต่เกิดเรื่องยังไม่ได้เข้าไปทำงานเลยครับ ตอนนี้ก็พยายามดำเนินชีวิตปัจจุบันให้ได้ก่อนครับ”
ขอจบที่ตน ไม่อยากให้มีเรื่องฟ้องร้อง
“อยากให้จบที่ผมครับ จริงๆ แล้วไม่มีใครอยากให้มีเรื่องฟ้องร้องหรอกครับ เพราะไม่ว่าจะเป็นทั้งเรื่องค่าใช้จ่าย ทั้งเวลาและการดำเนินชีวิตต่างๆ มันกระทบไปหมดครับ ถ้าเรื่องนี้จบยิ่งเร็วได้มันก็ยิ่งดีครับ ส่วนมะนาวเขาก็ได้รับผลกระทบจากเรื่องนี้ค่อนข้างมากครับ แต่เขาก็ได้กำลังใจที่ดีจากเพื่อนและจากครอบครัวเขาครับ”
เชื่อขอโทษผ่านรายการยิ่งใหญ่กว่าขอโทษกันเอง เพราะคนเห็นทั้งประเทศ
“จริงๆ แล้วการที่พวกผมออกมาขอโทษผ่านทางรายการผมว่าเป็นอะไรที่ยิ่งใหญ่กว่าไปขอโทษกันเอง 2 - 3 คนอีกนะครับ เพราะว่าการออกมาขอโทษผ่านรายการเนี่ยต้องขอโทษผ่านคนตั้งกี่คน ต้องมีตั้งกี่คนที่มารับรู้ในเรื่องนี้ มีตั้งกี่คนที่เห็นถึงความจริงใจ ความตั้งใจของพวกผมครับ ผมว่าต่อหน้ากับผ่านรายการผมยังไม่เห็นว่ามันจะต่างกันอย่างไรนะครับ คือผมขอโทษผ่านรายการก็แสดงถึงความจริงใจมากพอนะครับ ผมมองแบบนั้น”
ป้อง “มะนาว” เป็นแค่พริตตี้ ไม่ใช่เอเย่นต์ส่งเด็กสาวให้เสี่ย ชี้แค่พรีเซนต์สินค้า ยืนถ่ายรูปกับสินค้าเท่านั้น
“เรื่องนี้ผมทราบครับ แต่ต้องเรียนว่าไม่ใช่การส่งเด็กหรือเป็นเอเย่นต์แบบนั้นนะครับ มะนาวเขาจะมีกลุ่มไลน์อยู่กลุ่มหนึ่งที่เป็นกลุ่มเกี่ยวกับพริตตี้ของเขากับเพื่อนๆ ครับ เวลาที่บางทีผู้ใหญ่ของกิจการบางกิจการต้องการที่จะให้พริตตี้ไปยืนเพื่อพรีเซนต์สินค้าให้กับบริษัทเขา เขาก็จะติดต่อผ่านมาทางมะนาวบ้าง และมะนาวก็มีการถามเพื่อนฝูงของเขาเพื่อที่จะถามว่ามีใครสนใจงานนี้ไหม ก็เหมือนแนะนำเพื่อนให้ไปรับงานพรีเซ็นสินค้าให้กับลูกค้ามากกว่าครับ เรื่องนี้ผมทราบดีเพราะว่าผมเองยังเคยให้มะนาวแนะนำเพื่อนๆ เพื่อที่จะมายืนให้กับสินค้าของเพื่อนผมยังมีเลยครับ”
ฝากบทเรียนไว้เป็นอุทาหรณ์ จะไม่ทำแบบนี้อีก
“บทเรียนที่สุดคือจะไม่ทำแบบนั้นอีก คือการสูญเสียความไว้วางใจจากคนที่รัก มันยากที่จะทำให้กลับมาคืนครับ จะไม่ทำแบบนั้นอีกครับ ก็อยากให้เป็นอุทาหรณ์ครับ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเกี่ยวกับการนอกใจคนที่เรารักหรือแม้แต่เรื่องการถ่ายคลิปหรือโซเชียลมีเดียต่างๆ ก็อยากให้เรื่องนี้เป็นอุทาหรณ์ รวมทั้งไม่อยากให้ทุกคนทำสิ่งที่ผมทำลงไปครับ”