MGR Online - ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนจำคุก 1 ปี 6 เดือน ปรับ 7.5 หมื่นบาท แม่-ไฮโซน้ำหวาน ให้สัมภาษณ์หมิ่นประมาท “หนิง-ปณิตา” แต่ให้รอลงอาญา 2 ปี
วันนี้ (1 ก.ย.) ที่ห้องพิจารณา 805 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลอ่านคำพิพากษาคดีหมายเลขดำที่ อ.3648/2556 ที่ น.ส.ปณิตา ธรรมวัฒนะ หรือหนิง อายุ 38 ปี นักแสดง เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง น.ส.วรพรรณ พันธุ์คงชื่น หรือไฮโซน้ำหวาน และนางอำไพพรรณ พันธุ์คงชื่น มารดา เป็นจำเลยที่ 1-2 ในความผิดฐานร่วมกันหมิ่นประมาทผู้อื่นด้วยการโฆษณา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 328
ตามฟ้องโจทก์ระบุว่า เมื่อวันที่ 21 ก.ย. 2556 จำเลยทั้งสองซึ่งเป็นแม่-ลูกกันได้ร่วมกันให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนหลายแขนงทำนองว่าโจทก์และน้องสาวกับพวกร่วมกันทำร้ายร่างกายที่ร้านอาหารย่านทองหล่อ โดยใช้โทรศัพท์มือถือตี น.ส.วรพรรณ จำเลยที่ 1 และข้อความอื่นซึ่งล้วนเป็นเท็จ การกระทำของจำเลยทั้งสองทำให้โจทก์ต้องเสื่อมเสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่นเกลียดชัง ทำให้ผู้ได้ยินคำให้สัมภาษณ์ของจำเลยเข้าใจว่าโจทก์เป็นคนไม่ดีรุมทำร้ายจำเลยได้รับบาดเจ็บ จึงให้ศาลพิพากษาลงโทษจำเลย รวมทั้งให้โฆษณาคำพิพากษาและขอขมาในหนังสือพิมพ์รายวันเป็นเวลา 7 วันด้วย
คดีนีศาลชั้นต้นพิเคราะห์แล้วเห็นว่า เมื่อเปรียบเทียบข้อความในเว็บไซต์ข่าว กับบันทึกภาพ-เสียงที่จำเลยทั้งสองให้สัมภาษณ์แล้ว แม้จะมีข้อความบางส่วนที่ไม่ตรงกัน แต่สาระสำคัญยังคงเดิมซึ่งยืนยันข้อเท็จจริงว่าโจทก์เกี่ยวข้องกับการทำร้ายจำเลยที่ 1 เมื่อฟังแล้วทำให้ผู้อื่นเข้าใจได้ว่าโจทก์เป็นคนไม่ดีและทำร้ายจำเลย
ส่วนข้อความให้สัมภาษณ์ของจำเลยที่ 2 แม้เป็นการกล่าวตามคำบอกเล่าก็ถือเป็นการใส่ความแล้ว ฟังได้ว่าโจทก์เป็นคนไม่ดีทำให้คุณค่าของโจทก์ลดลง ซึ่งโจทก์เป็นนักแสดงต้องเป็นแบบอย่างให้สังคม แม้การสัมภาษณ์ของจำเลยที่ 1 ไม่ได้เตรียมตัวมาก่อนแต่จำเลยก็ทราบอยู่แล้วว่าจะส่งผลต่อโจทก์ทำให้โจทก์เสื่อมเสียชื่อเสียง การกระทำของจำเลยทั้งสองเป็นความผิดฐานหมิ่นประมาทฯ ตามมาตรา 328 ให้จำคุกคนละ 2 ปี และปรับคนละ 100,000 บาท โดยทางนำสืบของจำเลยเป็นประโยชน์เห็นควรลดโทษให้ 1 ใน 4 เหลือจำคุกคนละ 1 ปี 6 เดือน และปรับคนละ 75,000 บาท โดยโทษจำคุกให้รอการลงโทษมีกำหนดเวลา 2 ปี และให้ลงโฆษณาคำพิพากษาในหนังสือพิมพ์เป็นเวลา 2 วัน
ต่อมาจำเลยที่ 1 และ 2 ยื่นอุทธรณ์ขอให้ยกฟ้อง อุทธรณ์ยืน จำคุกคนละ 1 ปี 6 เดือน “ไฮโซน้ำหวาน-แม่” หมิ่นประมาท หนิง-ปณิตา โทษจำคุกระลงอาญา 2 ปี ขณะที่โจทก์ยังฟ้องแพ่งเรียกค่าเสียหาย 5 ล้านบาท ศาลนัดสืบพยาน 23 ก.ย.นี้
ที่ห้องพิจารณา 805 ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก เมื่อเวลา 10.40 น. วันที่ 1 ก.ย.59 ศาลอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ คดีหมายเลขดำ อ.3648/2556 ที่ น.ส.ปณิตา ธรรมวัฒนะ หรือหนิง อายุ 38 ปี นักแสดง เป็นโจทก์ ยื่นฟ้อง น.ส.วรพรรณ พันธุ์คงชื่น หรือ ไฮโซน้ำหวาน และนางอำไพพรรณ พันธุ์คงชื่น มารดา เป็นจำเลยที่ 1-2 ในความผิดฐานร่วมกันหมิ่นประมาทผู้อื่นด้วยการโฆษณา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 328
ตามฟ้องโจทก์ ระบุว่า เมื่อวันที่ 21 ก.ย.2556 จำเลยทั้งสองซึ่งเป็นแม่ – ลูกกัน ร่วมกันให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนหลายแขนงทำนองว่าโจทก์ และน้องสาวกับพวก ร่วมกันทำร้ายร่างกาย ที่ร้านอาหารย่านทองหล่อ โดยใช้โทรศัพท์มือถือตี น.ส. วรพรรณ จำเลยที่ 1 และข้อความอื่นซึ่งล้วนเป็นเท็จการกระทำของจำเลยทั้งสองทำให้โจทก์ต้องเสื่อมเสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่นเกลียดชังทำให้ผู้ได้ยินคำให้สัมภาษณ์ของจำเลย เข้าใจว่าโจทก์เป็นคนไม่ดีรุมทำร้ายจำเลยได้รับบาดเจ็บ จึงให้ศาลพิพากษาลงโทษจำเลย รวมทั้งให้โฆษณาคำพิพากษาและขอขมาในหนังสือพิมพ์รายวัน เป็นเวลา 7 วันด้วย
คดีนี้ศาลชั้นต้นพิพากษาเมื่อวันที่ 10 มี.ค.2558 ว่า จำเลยทั้งสองมีความผิดฐานหมิ่นประมาณ ฯ ตาม ม. 328 ให้จำคุกจำเลยคนละ 2 ปี ปรับคนละ 100,000 บาท ทางนำสืบของจำเลยเป็นประโยชน์เห็นควรลดโทษให้ 1 ใน 4 เหลือจำคุกคนละ 1 ปี 6 เดือน และปรับคนละ 75,000 บาท แต่จำเลยทั้งสองไม่เคยต้องโทษมาก่อน โทษจำคุกจึงให้รอการลงโทษเป็นเวลา 2 ปี และให้ลงโฆษณาคำพิพากษาในหนังสือพิมพ์ 2 ฉบับ เป็นเวลา 2 วัน โดยจำเลยออกค่าใช้จ่ายเอง
ศาลอุทธรณ์ตรวจสำนวนประชุมปรึกษาหารือกันแล้วเห็นว่า แม้จำเลยที่ 1 อ้างว่าข้อความที่ให้สัมภาษณ์กับสื่อและมีการเผยแพร่นั้นไม่ตรงกัน แต่จำเลยที่ 1 ก็ไม่มีเพื่อนที่อยู่ในที่เกิดเหตุมาเบิกความยืนยันถึงคำพูดดังกล่าว และเมื่อพิจารณาคำสัมภาษณ์ทั้งหมดของจำเลยที่ 1 แม้จะไม่ได้ระบุชื่อโจทก์ชัดเจน แต่ในสาระคำกล่าวทำให้ผู้อื่นเข้าใจได้ว่าโจทก์และน้องสาวรุมทำร้ายจำเลยด้วยการขวางโทรศัพท์ และเข้าใจว่าโจทก์เป็นคนไม่ดี เป็นอันธพาล แม้จำเลยที่ 2 จะให้สัมภาษณ์ซึ่งเป็นไปตามคำบอกเล่าของจำเลยที่ 1 แต่ก็เป็นการกล่าวใส่ความทำให้โจทก์ได้รับความเสียหาย การกระทำของจำเลยทั้งสองจึงเป็นการหมิ่นประมาทผู้อื่นด้วยการโฆษณา ที่ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษจำเลยทั้งสองมานั้นชอบแล้ว อุทธรณ์จำเลยฟังไม่ขึ้น พิพากษายืน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าวันนี้ นายจรินทร์ ธรรมวัฒนะ หรือ จิน สามีของหนิง ปณิตา เดินทางมาฟังคำพิพากษาแทนภรรยาที่ติดภารกิจ
นายณรงค์ พลมาตร์ ทนายความโจทก์ ระบุว่า เมื่อศาลอุทธรณ์มีคำพิพากษายืนตามโทษของศาลชั้นต้นแล้ว ตามกฎหมายต้องห้ามฎีกา หากจะยื่นจะต้องขออนุญาตฎีกาต่อผู้พิพากษา อย่างไรก็ดี ข้อพิพาทระหว่างโจทก์และจำเลยยังมีคดีแพ่งที่โจทก์ได้ฟ้องเรียกค่าเสียหายจำเลยจำนวน 5 ล้านบาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 ต่อปีที่ศาลจังหวัดพระโขนง ซึ่งศาลรับไว้เป็นคดีหมายเลขดำ 387/2559 และอยู่ระหว่างรอผลคดีอาญา โดยศาลนัดสืบพยานในวันที่ 23 ก.ย.นี้
ด้านนายดาริน ชาญณรงค์ ทนายความจำเลย กล่าวถึงการยื่นฎีกาเช่นเดียวกันว่า หากจะฎีกาก็ต้องขออนุญาตผู้พิพากษา ส่วนคดีแพ่งที่มีการฟ้องไว้จะดำเนินการต่อไปตามกระบวนพิจารณา