xs
xsm
sm
md
lg

คนบันเทิงกับ “ธุรกิจสีเทา”? ล่าสุดกำลังฮิตระดมทุนอ้างไร้ความเสี่ยง แถมดอกเบี้ยสูง

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


ในอดีตอาจจะถูกมองว่าเป็นเพียง “รายได้เสริม” แต่สำหรับปัจจุบันดูเหมือนมันจะกลายเป็นรายได้หลักของเหล่าคนบันเทิงในบ้านเราไปแล้ว สำหรับธุรกิจ - กิจการต่าง ๆ ที่นอกเหนือไปจากงานมายาในแขนงต่าง ๆ

เฉพาะอย่างยิ่งกับหลายคนที่เราแทบจะไม่เคยเห็น “ผลงาน” ในวงการบันเทิงอะไรของพวกเขาหรือเธอเลย นอกเหนือไปจากการทำตัวเองให้เป็นข่าว โผล่ไปตามงานอีเวนต์ งานแจกรางวัล ไม่ก็โพสต์หรือทำอะไรที่มันหวือหวาผ่านโลกโซเชียล เพียงเพื่อให้ตนเองตกเป็นประเด็นมีคนพูดถึง

สำหรับอาชีพยอดฮิตที่คนบันเทิงเข้ามาจับส่วนใหญ่ที่ผ่านมา ก็มักจะเกี่ยวข้องกับความสวยความงามทั้งหลายที่อาจจะอยู่ในรูปของผลิตภัณฑ์อาหารเสริม ครีมหน้าเด้ง คลินิกศัลยกรรม ยาลดความอ้วน อาหารเพื่อสุขภาพ ฯ ซึ่งแม้ตรงนี้อาจจะเรียกไม่ได้ว่าเป็นธุรกิจ “สีเทา” แบบเต็มปากมากนัก แต่กระนั้นในการโฆษณาจากบรรดาดารา - นักร้อง ที่เป็นเจ้าของผลิตภัณฑ์ตัวเอง หรือแม้กระทั่งไปรับหน้าที่เป็นพรีเซ็นเตอร์ให้กับสินค้าประเภทนี้ ด้วยการเอาความหล่อความสวยตลอดจนชื่อเสียงของตัวเองเป็นเครื่องการันตีนั้น มันชวนให้สงสัยจริง ๆ ว่า มีการอวดอ้างที่เกินความเป็นจริงไปหรือไม่?

ที่สำคัญก็คือ คุณภาพ มาตรฐาน ตลอดจนสรรพคุณ - คุณประโยชน์จริง ๆ จากผลิตภัณฑ์ที่ผู้บริโภคได้รับไปนั้นเมื่อเทียบกับราคาที่เสียไปแล้วมันคุ้มค่าจริงหรือ?

ย้อนกลับไปเมื่อช่วงต้นปีที่แล้ว มีข่าวที่เจ้าหน้าที่ดีเอสไอบุกเข้าทลายโรงงานอาหารเสริมชื่อดังแห่งหนึ่งย่าน จ.สมุทรสาคร ที่มีการอวดอ้างสรรพคุณเกินจริง ซึ่งก็ปรากฏว่า โรงงานดังกล่าวนั้นมีการรับผลิตยาลดความอ้วน อาหารเสริมให้กับแบรนด์ของนักร้อง - นักแสดง หลายต่อหลายคนเลยทีเดียว (อ่านรายละเอียด จับยา-โรงงานยาลดอ้วน พบผลิตให้ “เซเลบ-ซุปตาร์” วงการบันเทิงเพียบ!)

ล่าสุด ธุรกิจของคนบันเทิงก็ต้องตกเป็นข่าวครึกโครมอีกครั้ง ว่า อาจจะสุ่มเสี่ยงที่จะขัดต่อกฎหมาย ไล่ไปตั้งแต่ในส่วนของ คลินิก “ฟอกสีฟัน” ย่านสยามสแควร์ซอย 5 ที่เป็นของ “2 ดาราหนุ่มเพื่อนซี้” ซึ่งจากการตรวจสอบโดยกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (สบส.) และ กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) พบว่า แม้ทางร้านจะมีการขออนุญาตเปิดที่ถูกต้อง ทว่า ผู้ประกอบวิชาชีพนั้นหาใช่ทันตแพทย์แต่อย่างใด (สบส.จ่อเรียก 2 ดาราเปิดร้าน “ฟอกสีฟัน” กลางสยามสแควร์ผิด กม.)

อีกรายที่กำลังถูกจับตาเป็นอย่างมากในเรื่องของธุรกิจที่มีการโฆษณา ก็คือ ในส่วนของ “ม่านฟ้า อรปภัตร” หลังบริษัทของเธอที่ชื่อ “บริษัท ม่านฟ้า” ได้มีการประกาศผ่านเฟซบุ๊กแฟนเพจชี้ชวนประชาชนมาฝากเงินลงหุ้น โดยระบุข้อความว่า เป็นการลงทุนที่ “ไร้ความเสี่ยง” และ “ผลตอบแทนสูง” ซึ่งล่าสุด ทางสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ก็เตรียมที่จะเรียกเจ้าตัวเข้ามาสอบถามแล้ว เพราะกรณีนี้อาจจะเข้าข่ายแชร์ลูกโซ่ได้ (“ก.ล.ต.” เร่งสอบกรณีไฮโซ “ม่านฟ้า” ชวนระดมทุนไร้ความเสี่ยง อาจเข้าข่ายแชร์ลูกโซ่)

โดยนอกจากสาวม่านฟ้าแล้ว ก็ยังมีในรายของเจ้าของตำแหน่ง Miss East Asia (Thailand) ปี 2007 และ นางงามผิวสวยจากเวที Miss Thailand World ปี 2012 อย่าง “เก๋ กันยากร ศุภการค้าเจริญ” (กรรณิกา ขันแก้ว) หรือ “เก๋ เลเดอเรอร์” ที่มีการโฆษณาถึงการลงทุนผ่านบริษัท Lederer (Thailand) ของเธอเองในลักษณะที่คล้าย ๆ กัน ซึ่งก็คงต้องดูกันต่อไปว่าธุรกิจนี้ของเธอทั้งสองนั้นจะลงเอยเช่นไร?

ในความเป็นจริงแล้ว การที่คน ๆ หนึ่ง เป็นคนที่มีชื่อเสียง และมีคนในสังคมยอมรับและคอยจับจ้องมองเท่าไหร่ คน ๆ นั้น ก็ควรที่จะยิ่งต้องใส่ใจถึงความรับผิดชอบต่อการกระทำของตนเองที่จะส่งผลกระทบต่อสังคมมากยิ่งขึ้นเท่านั้น แต่ดูเหมือนสำหรับแวดวงคนบันเทิงในบ้านเราแล้ว กลับมีไม่น้อยทีเดียวที่หาได้เป็นเช่นนั้น

แต่ที่เลวร้ายยิ่งไปกว่า ก็คือ การที่คนบางคนนั้นหาได้มีฝีไม้ลายมืออะไรเลย หากแต่กลับเข้าใจว่าตนเองคือคนเด่น คนดัง คนในแวดวงบันเทิง ทั้งที่คนเหล่านี้จริง ๆ แล้วก็เป็นเพียงแค่กาฝากที่มาเกาะอาศัยวงการมายาเพียงเพื่อทำมาหากินเอาผลประโยชน์ใส่ตัวเท่านั้น...


กำลังโหลดความคิดเห็น