xs
xsm
sm
md
lg

“ปู” เผยครั้งแรก! โหมงานหนักจนปากเบี้ยว-ตาตก รับเป็นโรคที่ไม่มีใครรู้

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


“ปู ไปรยา” ปัด “มิน พีชญา” ขอแยกห้องแต่งตัว ชี้เปิดศึกแย่งห้องแต่งตัวดูเป็นละครไปหน่อย เปิดใจไม่ซดเกาเหลา วอนชาวเน็ตอย่าดรามา โอดโหมงานหนัก 2 เดือนไม่มีเวลาพักผ่อน ทำปากเบี้ยว - ตาตก รับเป็นโรคมือชักเกร็งที่ไม่มีใครรู้ ต้องฝังเข็มรักษา

มีกระแสลือว่าถูก “มิน พีชญา วัฒนามนตรี” รีเควสขอแยกห้องแต่งตัวกับ “ปู ไปรยา สวนดอกไม้ ลุนเบิร์ก” ระหว่างถ่ายทีเซอร์โปรโมตช่อง 7 “ความสุขครบรส” ล่าสุด ปูได้ออกมาเปิดใจในงานเปิดตัวแบรนด์แอมบาสเดอร์คนแรกของ ASUS ย้ำทุกคนมีห้องแต่งตัวเป็นของตัวเอง บอกไม่เปิดศึกแย่งกันเพราะดูเป็นละครไปหน่อย

“พูดกลาง ๆ นะปูว่าเรื่องนี้ปกติ ทุกคนเขาก็แยกห้องแต่งตัวกันอยู่แล้ว บางครั้งการทำงานเวลาที่เจอกันหลายคนก็จะรบกวนสมาธิ แต่ปูเชื่อว่าเขาไม่ได้จงใจจะแยกห้องแต่งตัวกับปูหรอก ช่องคงจะแยกห้องแต่งตัวให้ทุกคนอยู่แล้วให้ทุกคนได้อยู่อย่างสบาย ปูไม่ซีเรียสเลยค่ะ ปูว่าจริง ๆ มันไม่มีอะไร ทุกคนในฐานะดาราก็มีห้องแต่งตัวของตัวเองอยู่แล้ว”

“ถามว่าสนิทมั้ย เจอกันก็ทักทายนะ แต่ก็อย่างที่บอกนางเอกเราก็จะไม่ค่อยได้ร่วมงานกัน ไม่ค่อยมีโอกาสเจอกัน ไม่ต้องตีไปเป็นเรื่องดรามา เพราะเราเจอกันเราก็ทักทายคุยกัน เราคงไม่ถึงขนาดมาแย่งห้องแต่งตัวกัน มันดูเป็นละครไปหน่อยนะ ช่องเองก็คงมีระเบียบพอที่เขาจะแบ่งห้องให้ทุกคน ไม่มีปัญหาอะไรอยู่แล้ว ถูกจับคู่เกาหลีก็ไม่ซีเรียสเลย นี่เบา จิ๊บ ๆ”

ไม่สนชาวเน็ตแคปภาพแล้วบอกว่าตนเด่นกว่า ชี้ช่องให้เกียรตินักแสดงทุกคน
“ปูก็ตอบแทนคนที่เขาแคปชันแบบนี้ไม่ได้นะ (หัวเราะ) ไม่หรอกค่ะ มินเขาก็ปังซะขนาดนั้น กลัวอะไร ที่บอกว่าเราได้ซีนเยอะกว่า ปูว่าโฆษณามีหลายคน ช่องเขาก็ให้เกียรติทุกคน ก็แบ่ง ๆ กันนะ”

“ส่วนที่ให้เราอยู่ตรงกลาง ปูว่าอันนี้ต้องไปถามช่องนะ ปูตอบแทนช่องไม่ได้ วันนั้นปูเพิ่งทำงานกลับจากต่างประเทศแล้วก็ไปถ่ายเลย ก็เลยไม่ค่อยรู้เรื่องคิวอะไรมาก ที่ถ่ายแยกมันเป็นเทคนิคทางโปรดักชั่นมากกว่า ไม่น่าจะใช่ปัญหาคิวนักแสดง เราไม่มีปัญหาต้องแยกห้องค่ะ”

“คงไม่ต้องถามเขา จะถามทำไมเรื่องข่าว ถ้าถามจากที่ไม่มีก็อาจจะมีก็ได้นะ (หัวเราะ) ถ้าเขาไม่ได้จะแยกล่ะ จริง ๆ อย่างที่บอกทุกงานนักแสดงเขาก็แยกห้องให้อยู่แล้วด้วยความที่ถ้าให้รวมกันจะเสียสมาธิ ให้แต่ละคนอยู่ในหน้าที่ของตัวเองดีกว่า แยกห้องนี่เป็นเรื่องปกติ เอาง่ายๆ ปูคิดว่าไม่มีใครไปขอรีเควสจะแยกห้อง ทางบริษัทหรือทางรายการเขาแยกให้อยู่แล้วค่ะ”

ออกตัวไม่เหมาะตำแหน่ง “ขุ่นแม่” ขอยกให้ “ชมพู่ อารยา เอ ฮาร์เก็ต” ยินดีรับช่วงต่อวันที่อีกฝ่ายท้อง
“อย่าเพิ่งเป็นขุ่นแม่ได้มั้ย ยังไม่อยากเป็นขุ่นแม่เลยฉันขอร้อง ตอนนี้ยังอยากจะเป็นหนูปูหรือน้องปูก่อน แต่เอาจริงๆ เราก็เกินน้องเกินหนูแล้วเนอะ เท่าที่ดูก็ยังไม่มีใครมายกอะไรปูมากมายนะ”

“ก็รอแม่ที่เป็นแม่ของปูก็คือพี่ชมไปเป็นแม่จริง ๆ ก่อนแล้วกัน เดี๋ยวรอก่อน ปูว่าแม่ก็คือแม่ศัพท์นี้ปูยกให้เจ๊ชมจริง ๆ ปูยังไม่ถึงจุดนั้น ขอทำงานไปอีกแป๊บหนึ่ง ถ้าพี่ชมมีน้องจะยกตำแหน่งนี้ให้ก็ได้เลย รอวันนั้นก่อนเนอะ ตำแหน่งไม่ต้องสละค่ะ เราแบ่งปันกันได้ (หัวเราะ)”

รับรองแซบแน่ เตรียมกลับมาเล่นละครสัมปทานหัวใจ
“แน่นอนค่ะ อีกเดือนกว่า ๆ ก็น่าจะกลับมาเล่นแล้วค่ะ (เวียร์เป็นพระเอก?) ก็ให้ช่องพูดเองนะ ต้องรอค่ะ แต่รับรองว่าบทแซบแน่นอน กับพระเอกที่ยังไม่เคยร่วมงานด้วย ปูตื่นเต้นมากเพราะอยากร่วมงานกับคนนี้มานานแล้ว แต่ตอนนี้ยังพูดไม่ได้ แซบในที่นี่คือความคู่พระ - นางมากกว่า”

รับตาตก ปากเบี้ยวเหตุโหมงานหนัก 2 เดือน ไม่มีวันหยุด โอดเป็นโรคมือชักเกร็ง แต่ไม่มีใครรู้
“ตาตกค่ะ พูดตรง ๆ 2 เดือนที่ผ่านมาเราทำงานไม่ได้หยุดเลย ปูทำงานมา 48 ชั่วโมง ยังไม่ได้พักผ่อน ลงเครื่องปุ๊บแต่งหน้าออกงานเลย ตอนนั้นปูเหนื่อยจริง ๆ คนจะไม่รู้เพราะปูไม่ได้พูด แล้วช่วงนั้นปูก็ไม่ได้ออกกำลังกายเลย ปูเป็นโรคมือชักเกร็ง ถ้าปูทำงานนาน ๆ ไม่สามารถระบายกับตัวเองได้ว่าปูเหนื่อย ไม่สามารถปลดปล่อยด้วยการออกกำลังกาย ถ้าสังเกตในบางครั้งปูก็จะมีตากระตุกนิดหนึ่ง ปูก็รักษาอยู่ตลอดด้วยการฝังเข็ม”

“ปูเป็นมาตั้งแต่เด็ก ๆ แล้ว เหมือนเวลาปูเครียดหรือรับอะไรมาเยอะ แล้วปูเป็นคนที่ไม่กล้าพูดกับคนอื่นว่าเราไม่ไหว ก็อาจจะมีเก็บไว้นิดหนึ่งแล้วมันก็ส่งผลออกมา คือ ที่ปูไม่พูดออกไปว่าปูเหนื่อยปูไม่ไหวนั้นเพราะตอนนี้ปูคิดว่าการเป็นดารานั้นเป็นบุคคลที่โชคดี ยิ่งมาทำงานการกุศลมันยิ่งทำให้ปูรู้เลยว่าปูไม่ควรจะมาบ่น หาความสงสารว่าตัวเองเป็นเกร็งตัว เครียดกับอาชีพ เพราะจริง ๆ แล้วอาชีพเราเป็นอาชีพที่สบายมาก รู้สึกละอายใจด้วยซ้ำในช่วงที่เราต้องเป็น ก็เลยจะไม่พูด แต่ไม่ได้ต้องกินยาอะไร”
 
“เวลาเป็นก็ให้เวลากับมันหน่อย เพราะจะเกร็ง หายใจติดขัด บางทีจะยากตรงที่ด้วยอาชีพปูเราต้องอยู่หน้ากล้อง พอเป็นขึ้นมาเราก็จะควบคุมตัวเองไม่ได้เหมือนกัน เวลาที่เป็นแล้วต้องอยู่ท่ามกลางผู้คนปูต้องคุมสติดี ๆ หายใจเข้าลึก”

“อย่าลืมว่าปูทำงานไปด้วยเรียนไปด้วยมาตั้งแต่อายุ 13 ซึ่งมันต้องมีปฏิกิริยาอะไรสักอย่างที่ทำให้ปูรู้สึกเกร็ง พอปูโตขึ้นปูก็ไม่ได้ค่อยออกไปไหนมาไหนข้างนอก มันก็คงไม่มีอะไรมาระบาย เพื่อให้เราเองสบายขึ้น พอมีอะไรเข้ามาเยอะ ๆ บางครั้งมันก็ทำให้เรารู้สึกตึงเครียดไป ก็เลยเป็น แล้ว 5 เดือนที่ผ่านมาดูสิว่าปูได้เจออะไรมาบ้าง ไหนจะงานที่ปูรับเยอะขึ้น ถึงตอนนี้ปูกับโน้ต (วิเศษ รังษีสิงห์พิพัฒน์) เราจะมีความสัมพันธ์ที่ดีมาก ไม่ได้มีปัญหาอะไรกัน แต่เราอยู่ท่ามกลางการเปลี่ยนแปลง เป็นช่วงชีวิตที่เรากำลังจะเปลี่ยนแปลง ไม่ว่าจะการเดินทางที่เยอะขึ้น อาชีพการงาน มันเป็นธรรมดาที่ร่างกายปูจะตึงเครียด ก็ไม่ต้องลดงาน ต้องผ่อนรถผ่อนบ้าน เราก็ห่วงสุขภาพ ดูในไอจีได้ ท่าน ว.วชิรเมธี ท่านก็บอกว่าปูต้องดูแลตัวเองจะได้มีแรงไปดูแลคนอื่น นี่ก็เดี๋ยวจะไปพักผ่อนแล้ว”

เปิดใจน้ำตาแตก เข้าค่ายช่วยเหลือผู้ลี้ภัย อนาคตอยากตอบแทนคนที่มีความกตัญญูแต่ขาดแคลน ชี้ชีวิตเกิดมาเพื่อสิ่งนี้
“ครั้งที่ 2 แล้วที่ไปเข้าค่ายผู้ลี้ภัย เป็นประสบการณ์ที่ดี ตื่นตี 3 ครึ่ง ไปกับท่าน ว. ด้วย ที่ผ่านมา เราเคยได้เสวนาธรรมกันมาก่อน เรื่องมนุษยธรรม ปูได้พูดคุยกับท่านบ่อยก็เลยเชิญชวนกันไปค่ายผู้ลี้ภัย ใช้ความเมตตาเพื่อที่จะดูแลผู้ลี้ภัย ทริปนีก็มีน้ำตาแตกด้วย มีเด็กอายุ 13 คนหนึ่งที่เลี้ยงดูคุณยายซึ่งเป็นอัมพาต เขาทั้งซักผ้า เก็บของ ช่วยเหลือคุณยายเพราะชีวิตนี้เขาเหลือแต่คุณยาย ปูรู้สึกว่านี่แหละเหตุผลที่ปูต้องทำอะไรแบบนี้ มองย้อนไปเราเคยบ่นว่าเราต้องทำงานตั้งแต่เด็ก แต่จริง ๆ อาชีพปูที่ทำอยู่นี่เป็นอาชีพที่สบายมาก ๆ แล้ว อนาคตปูคิดว่าถ้าปูประสบความสำเร็จได้มากกว่านี้ ปูอยากจะช่วยเหลือให้อนาคตที่ดีกับคนเหล่านี้ คนที่เขามีความกตัญญู ที่เขาขาดแคลน

“เคยคิดเรื่องตั้งมูลนิธิตลอด แต่การก่อตั้งมูลนิธิมันต้องมีความรับผิดชอบสูง คงต้องมีอายุมากกว่านี้ มีวุฒิภาวะมากกว่านี้ มีหลายอย่างที่อยากจะทำไม่ว่าจะเป็นการศึกษา การคุ้มครองเด็ก คนแก่ คนพิการ มีหลายอย่างที่ปูอยากทำ เมื่อก่อนปูไม่เข้าใจ อันนี้พูดจากใจ ปูไม่สนนะว่าใครจะมองว่าปูสร้างภาพหรือว่าอะไร ลองดูนะปูว่าความสุขที่แท้จริงเกิดจากการที่เราได้ให้ผู้อื่นโดยไม่หวังอะไรตอบแทน ปูว่าอันนี้คือความสุขที่จริง ปูมีความสุขแม้ปูจะต้องตื่นตี 3 แต่ปูได้เจอผู้คน ได้พูดคุย ปูคิดว่าชีวิตปูเกิดมาเพื่อสิ่งนี้ ปูไม่พบอะไรที่ทำให้ปูได้มีความสุขมากเท่านี้มาก่อน เรื่องตำแหน่งปูไม่เคยคิดว่าปูจะทำเพื่อที่จะได้ตำแหน่ง ทุกอย่างมันก็มีกระบวนการของมัน ปูก็ทำไปเรื่อย ๆ ค่ะ”



กำลังโหลดความคิดเห็น