xs
xsm
sm
md
lg

“ใบเตย” ใช้ใจสัมผัส รัก “ปั๊บ โปเตโต้” ไม่ใช่ช่วงโปรโมชัน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


“ใบเตย สุวพิชญ์” ตกใจถูกวิจารณ์ออกตัวแรงเปิดตัวแฟน “ปั๊บ โปเตโต้” บอกต้องหาข่าวมานั่งอ่านย้อนหลังว่าตนตอบอะไรผิดพลาด ย้ำคบหากันด้วยใจบริสุทธิ์ ใช้ใจสัมผัสรัก ไม่ใช่ช่วงโปรโมชัน

ยังถูกจับตามองอยู่ไม่น้อย สำหรับนักแสดงสาว “ใบเตย สุวพิชญ์ ไตรพรวรกิจ” กรณีเปิดตัวคบหาดูใจนักร้องดัง “ปั๊บ โปเตโต้” พัฒน์ชัย ภักดีสู่สุข โดยถูกวิจารณ์ว่าเจ้าตัวนั้นตอบแรงเกินไป ล่าสุด สาวใบเตยเปิดใจว่าตนค่อนข้างตกใจสำหรับกระแสดังกล่าว ต้องหาข่าวมานั่งอ่านย้อนหลังว่าตอบอะไรผิดพลาด

“เตยไม่กดดันที่ถูกคนจับตามอง อย่างมีเวลาก็ไปทานข้าวกับพี่ปั๊บบ้าง เพียงแต่เวลาที่เราจะทำอะไรก็ต้องคิดให้มากขึ้น แล้วก็พยายามเป็นตัวของตัวเอง เราคบหากันด้วยความบริสุทธิ์ใจ แต่ตอนแรกที่เป็นข่าวก็ตกใจเหมือนกัน คนมองว่าออกตัวแรงตอนนั้นทำอะไรไม่ถูกเลย ตอนนั้นเตยอาจจะไม่ได้คิดให้ดีๆ ก่อน ก็พูดในสิ่งที่เราคิดและไม่ได้มองถึงผลที่มันจะตามมา เพราะเราก็ไม่เคยโดนสัมภาษณ์อะไรแบบนี้มาก่อน”

“หลังจากวันนั้นที่เราให้สัมภาษณ์ไป เราก็กลับมาทบทวนกับสิ่งที่ตอบไป ก็กลับไปคุยกับพี่เขาเหมือนกันว่าต่อไปถ้ามีนักข่าวมาถามจะตอบยังไง พี่ปั๊บเขาก็ให้บอกให้เราเป็นตัวของตัวเอง ซึ่งเตยก็ว่าเป็นสิ่งที่ดี เพราะอนาคตเราก็ไม่รู้ว่าจะไปอยู่ส่วนไหนของวงการ ถ้าวันหนึ่งเราจำไม่ได้ว่าเมื่อก่อนเคยเป็นยังไง แล้วต่อไปเราเดินไปได้ไกลกว่านี้ยังไง คนอาจจะมองว่าเราดังแล้วลืมตัวรึเปล่า ฉะนั้นก็มองอะไรให้มันเยอะขึ้น ยอมรับว่าก็มีนอยด์เหมือนกัน เราก็เอาข่าวมานั่งอ่านว่าผิดพลาดตรงไหน ก็บอกตัวเองว่าไม่เป็นไร เอาใหม่”

“ทุกวันนี้เราก็ผ่านอะไรมาเยอะก็เข้มแข็งขึ้น เรื่องข่าวเราก็มองว่าเป็นเรื่องปกติมากกว่า อะไรที่ควรมองข้ามก็มองข้าม แต่ก็เอากลับมาคิดเหมือนกันว่ามีอะไรที่ผิดพลาด”

บอกใช้ใจสัมผัส รัก “ปั๊บ โปเตโต้” ไม่ใช่ช่วงโปรโมชัน แต่เป็นการให้เกียรติ
“ส่วนเรื่องเปิดตัวหนูไม่ได้มองว่าเป็นช่วงโปรโมชัน แต่เป็นการให้เกียรติกันมากกว่า หนูเองก็ยังทำตัวปกติทุกอย่าง เวลาไปไหนกันสองคนเราก็ไม่ปิดบัง บางทีมีคนเข้ามาขอถ่ายรูปบ้าง ส่วนเรื่องของอายุไม่ได้เป็นปัญหา เพราะมีอะไรก็คุยกันให้เคลียร์ หนูว่าสิ่งที่เราสัมผัสได้มันไม่ใช่ช่วงโปรโมชันหรอกค่ะ ถ้ามองให้ดีทุกเรื่องราวในชีวิตเรามีปัญหาหมดอยู่แล้ว ความรักช่วงแรกมันก็ดูหอมหวานหมด เพราะมันอยู่ในช่วงที่กำลังศึกษา ก็ขึ้นอยู่ว่าเราลองที่จะทำความเข้าใจ หรือมองข้ามให้เป็นปัญหาสะสมจนแก้ไขไม่ได้ แต่เราพยายามที่จะไม่ให้เป็นแบบนั้น”

“กับพี่ปั๊บก็ยังต้องมีการปรับตัวเข้าหากันเล็ก ๆ น้อย ๆ อย่างเช่นเวลาไปทานข้าวด้วยกัน หนูเป็นคนทานยาก หนูจะชอบทานรสจัด แต่พี่เขาจะทานเผ็ดไม่ได้ เพราะต้องรักษาเรื่องเสียง สุดท้ายเขาก็ยอมตามใจเราตลอด หลังจากนั้นเลยเลือกไปทานที่มีอาหารหลากหลาย”

แยกหึงออกจากงาน เป็นสิ่งสำคัญของคนรัก
“ซึ่งถามว่าหวงเขาไหม ห่วงมากกว่า เพราะหนูก็เคยไปดูคอนเสิร์ตของพี่เขา เวลาถ่ายรูปกับแฟนคลับ เราก็รู้ว่าเขาวางตัวยังไง เราก็เลยค่อนข้างไว้ใจ หนูว่ามันเป็นสิ่งสำคัญของการรักกัน โดยส่วนตัวหนูก็ขี้หึงนะ แต่ต้องแยกกัน เพราะเป็นเรื่องงาน ก็ต้องเข้าใจ เราก็ทำงานเหมือนกัน

“ถามว่าเขาโรแมนติกมั้ย ไม่นะคะ เขาเป็นคนขี้อาย ช่วงนี้ก็ได้เจอกันบ้าง ว่างก็ไปทานข้าว ดูหนัง ครอบครัวหนูก็บอกว่าให้คุยกันดี ๆ อย่าเอาแต่ใจ พี่เขาเป็นผู้ใหญ่แล้ว เขากลัวเราไปงี่เง่าใส่เขา การเป็นแฟนกับพี่ปั๊บ หนูว่ามันทำให้คนรู้จักหนูมากขึ้น แต่เรื่องงานมันแค่เป็นบังเอิญจังหวะที่ตรงกันมากกว่า”

รับเล่นซีรีส์แทรกธรรมะ อยากส่งสารดี ๆ คืนคนดู ย้ำเป็นคนไม่ชอบเที่ยวไม่ใช้ชีวิตหวือหวา
“ในซีรีส์ส้มตำ แฮมเบอร์เกอร์ ที่หนูเล่นนั้น ท่าน ว.วชิรเมธี เคยเล่าให้หนูฟังว่าตัวละครทุกตัว ท่านก็จะเป็นคนคิดคาแรกเตอร์เอง ตอนแรกที่ติดต่อมาไม่รู้ว่าเป็นของท่าน แต่ก็ตัดสินใจรับเลย อย่างน้อย ๆ เราก็สามารถส่งสารดี ๆ กลับไปให้คนดูรับรู้ได้ ซึ่งหนูว่ามันก็ยากนะคะ”

“เราก็ต้องทำการบ้าน เพราะซีรีส์เรื่องนี้ก็จะเกี่ยวกับการสอดแทรกธรรมะ แต่ก็เป็นอะไรที่ทุกคนเคยเจอมาในชีวิตประจำวันอยู่แล้ว เตยคิดว่าธรรมะไม่ใช่เรื่องไกลตัว ซีรีส์เรื่องนี้ก็เหมือนกัน ถามว่าอินกับธรรมะมั้ย ตอนเด็กๆ คุณแม่ก็จะพาเข้าวัดตลอด ฉะนั้นตอนที่เล่นก็อินพอสมควร คนอาจจะมองว่ามันดูขัดกับลุกส์ของหนู เพราะเขาตัดสินจากภาพภายนอกที่เราแสดงออก แต่จริง ๆ แล้วทุกคนมีหลายด้าน”

“เพราะตัวตนจริง ๆ หนูเป็นคนไม่หวือหวา ไม่ค่อยเที่ยว ไม่ชอบปาร์ตี้เข้าสังคมสักเท่าไหร่ ถ้าว่างหนูชอบอยู่บ้าน อยู่กับอะไรที่แฮปปี้ไม่ต้องฝืนมากเกินไป สบายชิล ๆ”





กำลังโหลดความคิดเห็น