xs
xsm
sm
md
lg

(ชมคลิป) “แพท” ประกาศอยากมีลูกแล้ว หวั่นท้องยากเพราะกินยาคุมมานาน 10 ปี

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


“แพท ณปภา” รับไม่ปั๊มหัวใจยื้อชีวิตพ่อรอบที่ 2 บอกยิ่งยื้อพ่อยิ่งเจ็บ ไม่อยากให้จากไปแบบทรมาน รับอนาคตอาจเปลี่ยนศาสนา ประกาศอยากมีทายาท พ่อห่วงไม่มีลูกไม่มีผัว ลั่นถ้าอีก 2 ปีป่องก็ไม่ต้องตกใจ หวั่นใจมีลูกยาก กินยาคุมมานาน 10 ปี ครอบครัวแซวขำ ๆ ถ้าได้ลูกสาวต้องแรดเหมือนแม่



ทำหน้าที่ลูกกตัญญูจนนาทีสุดท้าย สำหรับ “แพท ณปภา ตันตระกูล” ล่าสุด เพิ่งสูญเสียคุณพ่อ “มิตร ตันตระกูล” จากโรคมะเร็งลำไส้ และทำพิธีฝังศพตามประเพณีอิสลามเรียบร้อยแล้ววานนี้ (19 ก.ค.) ล่าสุด เจ้าตัวออกมาเปิดใจถึงความสูญเสียด้วยความสตรอง บอกไม่อยากให้พ่อต้องเจ็บปวดและทรมาน

“ก็ฝังคุณพ่อเมื่อวานนี้ ภายใน 24 ชั่วโมง ตามหลักของศาสนานะคะ ก็อย่างวันนี้เสร็จงานก็ต้องไปที่หลุมศพคุณพ่อค่ะ คือ จริง ๆ มันต้องทำบุญต่ออีก 3 วัน ทำอีกทีหนึ่งก็คือ 40 วัน”

“คือ แพทเศร้ามา 2 อาทิตย์แล้ว คือ มันหนักแล้วสำหรับเรา คุณพ่อป่วยหนักใส่สายโน่นนี่นั่น เราหนักมาแล้ว แล้ววันงานทุกคนก็บอกว่าพยายามอย่าร้องไห้ คือ อยากให้คุณพ่อหมดห่วงสักที แล้วแพทก็เลยรู้สึกว่าใช่ คือ ตอนนี้วันที่คุณพ่ออยู่โรงพยาบาล คือ แกเหนื่อยมากแล้วแกหนักมาก จริง ๆ มันเป็นอะไรที่เราหนักมากแล้วร้องไห้กันเยอะมาก เราก็เลยรู้สึกว่าวันนี้มันเป็นวันที่สวยทั้งทุกอย่างเป็นพิธีที่สวย เราจะต้องทำให้ท่านไปแบบมีความสุข แล้วก็ไม่ต้องห่วงอะไรแล้ว.มันเป็นวันรวมญาติที่ทุกคนมาเพื่อส่งท่านโดยเฉพาะเลยค่ะมันเป็นอะไรที่ดีค่ะ”

รับไม่คิดว่าจะมีวันนี้ ทั้งที่เตรียมห้องรอรับพ่อไว้แล้ว
“ท่านอยากกินข้าวต้มกับไข่ตุ๋น แพทก็บอกว่าป๋าเอาดี ๆ ป๋าแกก็คอแห้งเพราะแกใส่เครื่องช่วยหายใจ ซึ่งเรายังคิดอยู่เลยว่า มันไม่น่าจะมีวันนี้เพราะแพทเตรียมห้องไว้ให้แกแล้วที่บ้าน ทุกอย่างเรียบร้อยหมดแล้วค่ะ ป๋าจะเอาเตียงยังไงแบบไหนจะอยู่ตรงไหนจะติดกับแม่เลยมั้ย เราก็คุยกันตลอด”

“คือ จริง ๆ ที่บ้านเรามีการคุยกันแล้ว ถ้าคุณพ่อเลิกกับฝั่งบ้านโน่นจริง ๆ ให้กลับมาอยู่ที่บ้านนะ รู้สึกว่าเราถึงเวลาแล้ว พ่อไปแฮปปี้ไปลั้ลลามาพอแล้ว ถึงเวลา ให้กลับมาอยู่ด้วยกัน แม่เองก็จะได้ไม่เหงาป๋าเองก็จะได้ไม่เหงา”

ไม่สนกรณีฟ้องร้อง บอกรักเท่าเดิมเพราะพ่อคือพ่อ ทนไม่ได้เห็นพ่อต้องลำบาก
“คือ แพทก็รักเขาเหมือนเดิมรักเขาเท่าเดิมเพราะว่าอย่างแรกเลย เราตัดไม่ขาดคือพ่อก็คือพ่อ ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไรเขาก็คือพ่อเรา แล้วแพทก็ทนไม่ได้ที่เห็นเขาลำบาก ซึ่งจริง ๆ ก่อนที่เขาจะป่วย เขาก็แอบเหงาแต่เขาคงไม่ได้ลำบาก เป็นเพราะว่าหนึ่งเราก็ไม่รู้ว่าครอบครัวเขาทิ้งเขาไปเมื่อไหร่ แล้วยังจะมาเกรงใจแพท คือ เหมือนเขารู้สึกว่าเราดูแล 2 คนแล้ว เขาก็รู้สึกว่าเขายังไหว แล้วเราก็ส่งเงินให้เขา เงินตรงนี้ไปดูแลตัวเองก็ได้ จะได้ไม่ต้องกลับมาเป็นภาระให้เรา ซึ่งไม่มันใช่นะคะ”

เผยอาการผิดปกติ น้ำหนักลด - กินข้าวไม่ได้ ต้องพาตัวไปตรวจที่ รพ. ก่อนเจอข่าวร้ายเป็นมะเร็งลำไส้ ล้างท้อง 3 ครั้งจนติดเชื้อ
“อาการตอนแรกคุณพ่อบอกเราว่าเขาป่วยแค่เป็นความดัน เบาหวาน จริง ๆ แล้วแกเป็นมะเร็งซึ่งตัวแกเองก็ไม่รู้ เป็นมะเร็งที่ลำไส้ระยะที่ 3 แล้วก็ลามไปต่อมน้ำเหลือง มารู้ตอนผ่าตัด ซึ่งในใบประวัติก็ไม่มี แพทก็ไม่เข้าใจสักอย่างเลยเพราะแกได้หาหมอเองอย่างที่แกบอกไว้หรือเปล่า”

“เมื่อคืนเริ่มแรกเลยแกหมดสติ แล้วก็ตัวผอมมากน้ำหนักลดลงที 12 กิโล แล้วแกก็บ่นเรื่องกินข้าวไม่ได้ เราก็ไม่เข้าใจเลยตัดสินใจจะพาไปหาหมอ แกล้มลงซะก่อน พอลมพอเข้าโรงพยาบาล มันหนักไปหมดเลย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของลำไส้ที่มันแตกค่ะ พอลำไส้มันแตก ไอ้ของเสียไม่ว่าจะเป็นพวกอุจจาระ มันทำให้ช่องท้องติดเชื้อ ก็เลยต้องมีการล้างท้องซ้ำถึง 3 ครั้ง แล้วแผลผ่าตัดใหญ่มาก ลำไส้ที่ตัดไปก็ใหญ่แล้วก็ต้องเย็บลำไส้กับผนังหน้าท้อง ซึ่งมันเป็นแผลใหญ่สำหรับคนอายุ 76 ค่ะ ซึ่งร่างกายแกสู้มาก”

“เพราะก่อนที่แกจะเสีย โรงพยาบาลเขาบอกว่าป๋าอยากจะอยู่กับลูกทุกคนมาก เพราะเม็ดเลือดขาวมีไม่ต่ำกว่า 50,000 ซึ่งถ้าคนที่ใกล้จะไปจริง ๆ จะเหลือแค่ 10,000 หรือไม่ถึง 20,000 แต่ของป๋ามันเยอะมาก คือแกอยากสู้แต่ร่างกายแกไม่ไหว แต่ใจแกมาแล้ว เราถึงต้องบอกคุณหมอว่าแพทอยากให้คุณหมอรักษาแบบเต็มที่ เท่าที่คุณหมอจะทำได้ เท่าที่โรงพยาบาลจะทำได้ ถ้าทำไม่ได้ก็แล้วแต่โรงพยาบาล”

คือพอตัดลำไส้ไปก็เอาชิ้นเนื้อไปตรวจ ปรากฏว่า เป็นมะเร็งจริง ๆ แล้วก็ลามไปที่ต่อมน้ำเหลือง บวกกับแผลผ่าตัดค่อนข้างที่จะใหญ่ ทำให้มีการติดเชื้อ คือ แผลไม่แห้งสักที ทั้งต้องให้เกล็ดเลือดเพิ่มเพราะเลือดไม่แข็งตัว มีอาการบวมน้ำเพราะในเลือดไม่มีโปรตีน มันติดเชื้อในกระแสเลือดหลังล้างท้องประมาณ 3 ครั้ง เหมือนว่าร่างกายแกก็ไม่รับยา ไตวาย 2 ครั้ง”

ไม่ปั๊มหัวใจยื้อเป็นครั้งที่ 2 ขอตัดใจปล่อยให้พ่อจากไปแบบไม่เจ็บ - ทรมาน
“จนวันที่แกจะไปก็คือหัวใจหยุดเต้นหนึ่งครั้งแล้วก็ปั๊มขึ้นมา แล้วแพทก็คุยกับที่บ้านว่าเราจะไม่ปั๊มแล้วเพราะว่าแกเจ็บ เหตุผลที่คุณหมอถามแพทว่าให้ปั๊มหัวใจมั้ย คือ แพทยังไม่พร้อมที่จะเสียท่านไป แต่พอจะปั๊มครั้งที่ 2 คุณหมอก็ถามแพทซ้ำแล้วบอกว่าตอนนี้แกเจ็บมาก เราก็เลยตัดสินใจที่จะให้แกไปแบบไม่เจ็บแล้วก็ให้แกไปแบบสบายที่สุด”

“จริง ๆ คือ การดูแลของแพทกับป๋ามันไม่สั้นนะคะ คือ เราดูแลเราอาจจะไม่ได้ใกล้ชิดกัน เพราะแกมีครอบครัวใหม่ แต่ในระหว่างแกอยู่เราก็ส่งเสีย แล้วแกก็แวะเวียนมาบ้าง เราก็ดูแลตลอด เพียงแต่ว่ามันเป็นการตัดสินใจของทางครอบครัวทั้งตัวเขาเองที่เลือกไม่ขอกลับมา อาจเป็นเรื่องภาระทางโน้นด้วย ซึ่งเราบอกแกไปแล้วว่าถ้าแกพร้อมให้แกกลับมาทันที เราขอแค่นี้เอง ที่บ้านไม่ได้มีใครติดปัญหาอะไร ติดแค่ว่าถ้าคุณป๋าคิดว่าคุณป๋าพร้อมที่จะให้ดูแลให้กลับมาทันที เพียงแต่ว่าตัวแกเองก็ติดเรื่องของทางครอบครัวโน้น พอแกตัดได้ แกจะกลับมันก็ไม่ทัน”

รับพาแม่ไปอโหสิกรรมให้ถึง รพ. ไม่อยากให้มีห่วง
“วันแรกที่คุณพ่อเริ่มป่วยก็จะบอกป๋าป่วยนะแม่ แม่ต้องให้อภัยทุกอย่างนะ เราต้องบอกก่อนว่าแกเป็นคู่กัดกันมาเกือบ 35 ปี แม่ป๋าป่วยนะเราจะต้องให้อภัย แม่จะต้องไม่ติดใจอะไรทั้งนั้น แล้วแม่ก็พยักหน้าเพื่อให้แกตอบรับเรา แม่จะต้องให้ป๋าหาย เดี๋ยวคืนนี้มานอนติดคู่กันไปเลยไม่ต้องไปไหน แกก็ยิ้มหัวเราะ จนแพทรู้สึกว่าเราควรจะเอาแกมาเยี่ยมก็เลยตัดสินใจพาคุณแม่ไปห้อง ไอ.ซี.ยู.หนึ่งวัน เป็นวันที่คุณพ่อยังรับรู้อยู่ คือ เราตัดสินใจดีมากพอเราตัดสินใจเราก็ไปพบพ่อ แกโอเค เหมือนว่าห่วงแกมีทั้งหมดมันอยู่กับคนนี้ เราก็รู้สึกเลยนะ”

“หลังจากนั้น คือ แกก็เริ่มทรุดด้วยโรคของแกเอง ด้วยอาการที่ไม่สามารถทําคีโมได้ เนื่องจากว่าร่างกายแกไม่สามารถรับการทำบำบัดได้ ทำให้มะเร็งที่ลามมันก็แย่อยู่แล้ว รวมถึงการฟอกไตความดันแกผิดปกติ คือ ความดันตก อยู่ได้ด้วยยา การจะฟอกไตได้คือจะต้องทำให้ความดันมันเลื่อนกลับเป็นปกติก่อน ต้องรอเวลาอีก พอเราฟอกไตช้า ปัญหามันก็จะเกิดตามมาแบบนี้ ซึ่งพอวันสุดท้ายที่ไปฝังในระหว่างที่คุณพ่อเสียเราต้องทำภายใน 24 ชั่วโมง ทุกคนมาก็อยู่พร้อมกัน ตั้งแต่ 9 โมงจนถึง 3 ทุ่มจนทำทุกอย่างเสร็จก็คือเช้าเราก็กลับมาเพื่อจะมาทำพิธีของเราต่อแล้วก็ฝังตอน 11.15 น.

ยันครอบครัวไม่เคร่งคลุมฮิญาบ เหตุตนนับถือศาสนาพุทธตามแม่
“คือคุณพ่อกับคุณแม่เขาตกลงกันไว้ตั้งแต่แรก ว่าในเมื่อลูกสาวอยู่กับแม่ ด้วยความที่ตัวเขาเองมันก็ห่าง ต้องบอกว่าไม่ใช่ว่าแต่งชุดแล้วจะบอกว่าเราเป็นมุสลิมได้ มันจะต้องมีอะไรมากกว่านั้น แล้วเราอยู่กับคุณแม่มากกว่า ซึ่งคุณพ่อเขาเข้าใจคือพูดตรง ๆ เขาแบ่งกัน ลูกชายของเขา ลูกสาวของแม่ มันเป็นแบบนี้มาตั้งแต่แรก เพราะฉะนั้นคุณแม่เขาก็ไม่ว่าเพราะคุณพ่อเขาออกมาตั้งแต่แรกตั้งแต่หย่ากัน คุณพ่อเขาเข้าใจ ที่บ้านถึงไม่เคยมีใครบังคับ งานจะต้องเป็นอย่างโน้นเป็นอย่างนี้ วันสุดท้ายในเมื่อเราทำพิธีในแบบมุสลิม เราก็ควรจะทำให้มันครบ แล้วก็ทำให้มันเต็มที่ เราก็สวยที่สุดเท่าที่ลูกหลานทุกคนจะต้องทำ”

รับอนาคตอาจเปลี่ยนศาสนา ตามคำขอของครอบครัว
“เรื่องเปลี่ยนศาสนาในอนาคตอาจไม่แน่ มันเป็นสิ่งที่พี่ ๆ เขาหวังไว้ เขาขอแค่ว่าตอนนี้แม่ยังเป็นพุทธ แพทจำเป็นจะต้องดูแม่ วันหนึ่งถ้าคุณแม่เสียให้กลับมาอยู่กับพี่ ๆ ได้มั้ย คือ ถ้าเราไม่มีใคร แม่เราไปแล้ว เราก็บอกว่าโอเค วันนั้นเรามาคุยกัน ซึ่งต้องบอกก่อนว่าทั้งคุณอา แล้วก็พี่ ๆ ทุกคนที่เป็นมุสลิมเขาเข้าใจว่า ตอนนี้แพทเป็นยังไง ถึงไม่เคยมาบังคับ หรือไม่เคยรังเกียจ ขอแค่ว่ามางานก็อยากให้สวยในแบบที่มันต้องเป็น พอจบงานหนูอยากจะไปทำอะไรหนูก็ไป วันรวมญาติก็มาเจอที่บ้าน แล้วเขาก็ไม่ได้เคร่ง ต้องบอกก่อนว่าบ้านแพทหัวสมัยใหม่ เขาก็เข้าใจว่าแพทต้องทำหน้าที่ลูกให้เต็มที่ เพราะฉะนั้นเขาก็จะไม่บังคับ แต่วันหนึ่งถ้าคุณแม่เสีย แม่ก็ไม่ได้รับรู้แล้วพี่ ๆ ก็ขอ ให้คุณแม่ทำเป็นมุสลิมอีกคนหนึ่งได้มั้ย แพทก็บอกว่ามันไม่ใช่ปัญหาเลย คือ จริง ๆ คุณแม่สั่งเสียไว้ก่อนหน้านี้ ว่า คุณแม่อยากเผา แต่ตอนนี้คุณแม่ก็ไม่รู้เรื่องแล้ว คุณพ่อก็เสียไปแล้ว แล้วพี่ ๆ ก็ขอมา แพทก็บอกว่าได้ค่ะ แพทไม่มีปัญหา”

วันที่ฝังพ่อ แม่ก็ยิ้มตลอดเวลา ปกติถ้าเจอคนเยอะเยอะแกจะหงุดหงิดมาก แต่วันนั้นเป็นวันที่แกแฮปปี้ แกได้เจอคนเยอะ ดูเหมือนแกจะคุ้น ๆ ก็คือ มันญาติที่โตกันมาตั้งแต่ตอนสาว ๆ แกก็แฮปปี้ ไม่มีโวยวายไม่มีด่ามีแต่รอยยิ้ม แพทก็เลยรู้สึกดี ดีแบบมันคงหมดกันแล้วสินะ พ่อแพทก็จะได้ไปสบายสักที แพทเชื่ออย่างหนึ่งแกติดอยู่อย่างเดียวคงเป็นเรื่องของคุณแม่ เพราะลูก ๆ แกไม่ได้ติดปัญหาอะไร วันนี้เราต้องไปที่หลุมฝังศพพ่อ ไปสวดมนต์หน้าหลุม 3 วัน ทำบุญ 3 วัน หลังจากนั้นปุ๊บ 40 วัน ค่อยทำอีกรอบหนึ่ง”

ออกตัวไม่เข้มแข็ง แต่เสียใจทุกวันมามากพอแล้ว ขออยู่กับความจริง ดูแลคนที่อยู่ข้างหลัง
“คนเรามีเกิดแก่เจ็บตาย ในสิ่งที่คุณพ่อเป็น แพทก็ไม่สามารถห้ามมันได้ คือ เรารักษาเต็มที่ยอมสละงานทุกอย่างดูแลเขา ทุกคนยอมทิ้งงาน ทุกคนเต็มที่แล้วจริงๆ ไม่มีใครทิ้งเขา แต่มันถึงเวลาแล้ว ถ้าแพทยื้อเขาไว้ เขาจะยิ่งเจ็บมันเป็นสิ่งเดียวที่แพททำให้เขาได้คือให้เขาได้ไปสบาย ซึ่งเขาขอตลอดว่าถ้ามีอะไรเกิดขึ้น เขาอยากไปก่อนคุณแม่ แพทก็ไม่รู้นะคือเขาอาจจะห่วงมาก เขากลัวว่าคุณแม่จะต้องมารับภาระเขา คือถ้าเกิดคุณแม่ไปก่อนเขาอาจรับไม่ได้ หรือลูกอาจจะเคว้ง อะไรอย่างนี้ มันก็เป็นสิ่งที่เขาปรารถนาด้วย”

“จริง ๆ แล้วแพทไม่ได้เข้มแข็งหรอก แต่แพทพยายามมองในมุมอีกมุมหนึ่ง คือมันเสียใจมามากแล้ว มันเสียใจทุกวันคิดถึงเขาทุกวัน ว่า เราขาดอะไรไปหรือเปล่า เราทำเต็มที่แล้วหรือยัง โอเคเขาเจ็บมากหรือเปล่า จนคนรอบข้างบอกว่าแพทต้องกับมาอยู่กับโลกของความเป็นจริงได้แล้ว และตอนนี้มันจบแล้ว แพทต้องมีสติแพทต้องดูแลคนข้างหลัง”

“คือ ตอนนี้แพทห้ามเป็นอะไร ความคิดแย่ ๆ ทำให้ตัวเองเป็นไปมากกว่านี้ มันก็เลยทำให้แพทคิดว่าเรายังต้องดูอีกหลายคนเลย แล้วตอนนี้คุณพ่อไปแล้ว เราก็ทำทุกอย่างให้ท่านอย่างเต็มที่แล้ว เพราะฉะนั้นเราควรกลับมาใช้ชีวิตได้แล้ว”

เผยพ่อห่วง หวั่นไม่มีผัว ไม่มีลูก
“เรื่องที่เขาไม่ได้มาอยู่เป็นครอบครัว ก็เสียใจนิดหน่อยค่ะแต่ไม่มาก คือเราก็คาดหวังว่าสักวันเราจะได้อยู่กันพร้อมหน้าอีกครั้งหนึ่ง ไม่ว่าจะในสภาพไหนหรือแบบไหน เรารู้สึกว่ามันใกล้จะได้อยู่ด้วยกันแล้ว ก็บอกตลอดว่าให้รอก่อน คือ เขาจะห่วงแพทเพราะแพทเป็นคนเล็กสุด เขากลัวแพทจะอยู่คนเดียวพูดง่าย ๆ กลัวไม่มีผัว (หัวเราะ) ไม่มีลูกเขาเพราะทุกคนมีครอบครัวไปหมดแล้ว แพทจะทำยังไง แล้วแม่ก็ป่วยคือเขาจะห่วงที่สุด เราจะบอกว่าถ้าห่วงก็อยู่ให้ถึงวันนั้น แต่ใจก็แอบคิดว่าพ่อกลับมาก็ดีเราจะได้อยู่ด้วยกัน รอให้เขาอุ้มหลานก่อน คือ มันเป็นสิ่งที่แพทอยากที่สุดคือให้เขาอุ้มลูกเรา คือตอนนี้ทุกคนมีกันหมดแล้ว แล้วป๋ากับแม่ก็อวยพรกันไปหมดแล้ว แล้วทำไมของเรามันไม่ทัน คือแพทอยากให้เขาเห็นเขาจะได้สบายใจว่าแพทไม่ได้อยู่คนเดียวแล้วนะ”

ไม่ห่วงดราม่าแต่งตัวสีสันสดใส บอกแค่ไว้อาลัยส่งพ่อครั้งสุดท้าย
“กำลังใจจากคนรอบข้างก็น่ารักมาก บางคนก็ไม่รู้ เราไม่ได้เชิญใครเพราะมันไม่ใช่พิธีแบบพุทธ แพทก็ไม่กล้าเชิญใครเพราะกลัวเขาทำตัวไม่ถูก เพราะก้าวมาในงานทุกคนก็คลุมหมด แล้วอีกอย่างจะมีปัญหาเรื่องยกมือไหว้ เราต้องเดินเข้าไปเราต้องก้มต้องคลานหรือทำยังไง แพทก็บอกเพื่อนว่าให้ทำปกติ มุสลิมเราไม่ได้ถือเรื่องสีถ้าเห็นให้งานจะเห็นเลยแพทจะโพกเหลืองทองแต่แค่อาจจะไม่สดใสขนาดแดงแปร๊ดหรือว่าชมพูบานเย็น ก็ยังเป็นลายดอกไม้คือมันเป็นพิธีที่เราอยากให้เขาไปสบาย เราไม่ได้มาโศกเศร้ากัน นั่นคือสาเหตุ ทุกคนอย่าร้องไห้นะ เห็นมั้ยเราแต่งชุดสวย แต่งหน้าทาปากกันอย่างกับไปเดินแคตวอล์ก นี้คือสิ่งที่เราเป็น เราแค่ไว้อาลัยเราแค่ส่งเขา”

“กำลังใจจากคนในวงการส่งมาให้ทุกวัน จนเรารู้สึกว่าขอบคุณมาก เราโอเค เราเข้มแข็ง โดยเฉพาะคนรอบข้างมันเป็นอะไรที่ดีมากเลยนะคะ คือไม่ได้หมายถึงว่าพ่อตายแล้วดี แต่หมายถึงว่าการที่แพทได้เจอญาติซึ่งนานๆ มารวมตัวกันทีมันอบอุ่น ฝั่งคุณพ่อมีประมาณ 25 คนลูกหลานอ่ะค่ะ แพทรู้สึกว่าตายแล้ว ญาติเราเยอะจังเลย ทุกคนพอมารวมตัวกันมาแต่งอะไรเหมือน ๆ กัน ทุกคนตั้งใจมาทำเพื่อพ่อเรา แพทดีใจแทนคุณพ่อมาก คุณอาพูดกับแพทว่ารู้มั้ยงานคนอื่นคนอาจจะน้อยกว่านี้ แต่งานเราคนที่มาด้วยใจเยอะมาก แล้วเขามาทำเพื่อพ่อเรา คุณพ่อมีบุญมาก”

“เบนซ์” ไม่ได้ไปร่วมงานด้วย แต่รับรู้ถึงความเสียใจ 
“พี่เบนซ์ก็ให้กำลังใจค่ะ พี่เบนซ์เขาก็เสียใจแต่เขาก็ทำตัวไม่ถูก เขาไม่ว่างไปร่วมงาน พี่เบนซ์ติดธุระจะต้องเอารถไปทำธุระ คือ เราก็เข้าใจมันเป็นเรื่องเหตุฉุกเฉินที่เขาต้องไปทำ แล้วพ่อเราก็เสีย เขาก็พยายามตีรถกับมาให้ทัน ซึ่งเราก็เป็นห่วงเขาด้วยมันก็เป็นเหตุฉุกเฉิน แต่คือในระหว่างทางเขาก็ไลน์หาตลอด ถ้าไม่ไหวให้โทร.ทันทีนะแล้วเขารู้ว่าเราตอบไลน์ไม่ได้เขาก็เลยไลน์หาคนรอบข้าง คือเขารู้เลยว่าเราช็อก เขารู้ว่าแพทไม่น่าจะมีสติ เขาจะโทร.หาคนรอบข้าง คนที่อยู่ใกล้ ๆ”

“แพทไม่เหนื่อยที่ต้องดูแลทุกคน แพทชอบ ชอบให้ทุกคนมาอยู่ใกล้ ๆ คือ ชอบให้ทุกคนรักกัน เวลาเรารักกันใครก็ทำลายเราไม่ได้ จะไม่มีใครทำอะไรเราได้ แต่ถ้าเราแตกกันเมื่อไหร่มันจะยิ่งทำให้เราเป็นจุดอ่อน แพทก็จะชอบให้เขาอยู่ใกล้กัน จะให้เขาดูจากเราเป็นตัวอย่าง คือ แพทจะเป็นคนพูดน้อยมาก แพทจะเป็นคนสอนน้องแพทน้อย คือ แพทจะไม่พูดว่าทำไมไม่ทำอย่างนั้นทำไมถึงอันนี้ แพทจะทำให้เขาดูและให้เขาคิดและสุดท้ายเขาก็คิดได้โดยที่แพทไม่ต้องพูด”

ไม่ต้องแต่งงานแต่อยากมีลูก
“ไม่ทันแล้ว คือ แพลนกันไว้ว่า 32 อีก 2 ปี 32 นี่คือจะมีน้อง คือ ตั้งใจว่าจะไปคุยไปหาคุณหมอ เพราะแพทค่อนข้างที่จะ พูดตรง ๆ นะคะ แพทมีซีสต์แล้วก็มีลูกยาก (แพลนจะแต่งกับเบนซ์?) ยัง ๆ คือ… (หัวเราะ) เขินอ่ะ ไม่ใช่อย่างนั้น คือ เหมือนเราคุยกันมันเป็นการสนทนาที่มันลอยมาก คือ เราแค่คุยกันเฉย ๆ ว่า แพทอยากมีลูก คือ แพทก็แค่พูดว่าแพทอยากมีลูก แพทอยากมีให้ทันต้องทำยังไง อยากมีซัก 31, 32, 33 คือแพทก็รู้สึกว่าพ่อจะอยู่ถึง 80 มั้ย คือ คิดไปหมดแล้วว่าถ้าเราทัน แม่เราก็ยังพอรู้เรื่อง เฮ้ย ดี ทีนี้เราเลยพูดขึ้นมา เขาก็บอกว่า เออ ก็ดี เขาก็อายุเท่าเราไงคะ เขาก็บอกก็น่าจะพร้อมแล้วนะ เราก็บอก เออ กูไม่ได้หมายถึงมึง (หัวเราะ) ไม่ ๆ แพทก็บอกน่าจะพร้อมแล้ว เขาก็พร้อม เลยกลายเป็นข้อคิดที่เราเอากลับมาทำการบ้านเฉย ๆ ทั้งคู่”

“เรื่องแต่งงานยังไม่ได้มอง คือ เอาตรง ๆ นะคะผู้ชายอยากแต่ง อันนี้คือแพทพูดจริง ๆ เรื่องสู่ขอเขาคุยแล้วค่ะ คือจริงๆ ผู้ชายอยากแต่ง จริง ๆ จะบอกว่าเร็วคงไม่เร็วเพราะว่าเรารู้จักกันมานานมาก แล้วบ้านเขาก็ค่อนข้างดีกับเรามาก เราก็เลยแบบไอ้เรื่องตรงนั้นเราตัดทิ้งไปเลย เพราะแพทไม่ได้มีความอยากแต่งงาน แพทว่ามันเปลืองเงิน ถ้าจะแต่งจะจัดงานเอาเงินมาให้แพทเดี๋ยวแพทเอาไปให้แม่ แพทจะต้องใช้มีแพมเพิร์สค่ายาเยอะแยะไปหมดเลย แล้วอีกอย่างหนึ่งพ่อแม่ก็ป่วย แพทไม่มีเหตุผลที่จะต้องแต่งงาน แต่แพทอยากให้เขามาไหว้พ่อไหว้แม่เฉย ๆ ซึ่งเขาทำไปแล้วค่ะ น่าจะมาไหว้ไม่ได้เชิงขอหรอกค่ะ มาไหว้แบบแสดงตัว เขาโชคดีมาก แสดงตัวแล้วก็เจอญาติแพททุกคนเลยค่ะ”

ไม่ต้องมีสามีก็ได้ แค่อยากมีลูก
“ถามว่ามั่นใจในตัวพี่เบนซ์มั้ย ก็ไม่มั่นใจค่ะ (หัวเราะ) คือแพทแค่อยากมีเข้าใจมั้ย อาจไม่มีสามีก็ได้ แค่มันเป็นแพลนของแพท แพทไม่อยากอยู่คนเดียว แพทอยากมีลูกเฉย ๆ ส่วนพ่อจะเป็นพี่เบนซ์มั้ย ถ้าเข้ากันได้ก็ใช่ แต่ถ้าเข้ากันไม่ได้ก็ไม่เป็นไร”

“ตอนนี้ยังได้อยู่บ้าง (หัวเราะ) แพทไม่ใช่ผู้หญิงแบบเรียบร้อย คือแพทต้องบอกก่อน ทุกคนต้องเข้าใจแพท คือแพทเป็นผู้หญิงแบบแมน ๆ แล้วบ้านแพทก็เลี้ยงมาแบบนี้ น้องแพททุกคนไม่แต่งงานเลย แล้วน้องแพททุกคนมีลูกแล้วหมดเลย แม่แพทก็ไม่แต่งงาน พี่สาวแพทก็ไม่แต่งงาน”

“ที่บ้านก็บอกว่าไม่ต้องแต่งงาน คือ ถ้าที่บ้านเขามองว่าแต่งก็ไม่ได้หมายความว่าชีวิตเราจะรอด เขาก็ยกตัวอย่างให้ดู แพทก็รู้สึกว่าไม่แต่ง เอาสินสอดที่จะแต่งงานมาให้ฉันสิ ที่บ้านแพทไม่ถือเรื่องนี้ บ้านแพทถือแค่ว่าจะต้องมีสัมมาคารวะ จะต้องรู้จักไปลามาไหว้ มาให้เห็นตัว เข้ากับที่บ้านให้ได้ เพราะว่าญาติแพทฝั่งแม่น้อยมาก ส่วนญาติฝั่งพ่อก็เป็นแนวไม่ต้องแต่งก็ได้ เขารู้ว่าแพทสายโหด (หัวเราะ)”

เปิดใจมีลูกยาก ต้องกินยาคุมรักษาซีสต์ คุมระดับฮอร์โมน มาเป็นเวลาถึง 10 ปี ออกตัวถ้าป่องภายใน 2 ปี ไม่ต้องตกใจ
“30 แล้วนะ แล้วมดลูกแพทก็ไม่ค่อยแข็งแรง คือ คุณหมอเขาบอกว่าแพทเป็นคนมีลูกยาก แล้วแพทก็กินยาคุมตั้งแต่แพท 20 แล้ว แพทกินยาคุมมา 10 ปี เพราะว่าต้องรักษาซีสต์ไม่ให้โต แล้วก็คุมระดับฮอร์โมน ถ้าแพทหยุดแสดงว่าแพทจะสร้างฮอร์โมนเองยาก คือ ถ้าหยุดก็ต้องมีการเตรียมตัวอีกปีหนึ่ง คือ แพทก็คิดว่าทำไมมียากจัง เราไม่ได้มองวิธีอื่นไว้เลย อันที่เป็นเรื่องเสียตังค์เราจะต้องคิดไว้ท้าย ๆ ต้องทำเหมือนทุกอย่างมันง่ายไปก่อน เดี๋ยวพอเราไล่สเต็ปไปแล้วค่อยว่ากัน”

“ถามว่า ต้องเป็นคนนี้มั้ย ตอนนี้มันยังเข้ากันได้ (หัวเราะ) แต่อย่าคาดหวังว่าจะต้องไปได้เรื่อย ๆ หลายคู่ที่เขาแต่ง เขาเลิกกันมีเป็นสิบ ๆ คู่ พี่ ๆ ก็ไปทำข่าวกันมาหมดแล้ว มันไม่ได้วัด ถ้าการที่คุณมีงานแต่งใหญ่โตแล้วจะวัดว่าคุณอยู่ด้วยกันได้ บางคนคบกันมา 7 ปีแต่ง 3 วันเลิกวันที่ 4 แต่งสินสอด 100 ล้านอยู่ 3 เดือน เดือนที่ 4 เลิก มันวัดอะไรไม่ได้เลยสำหรับแพท ถ้าเกิด 2 ปี มีลูกก็ไม่ต้องตกใจกันไปนะ แพทแค่อยากมีลูกให้ทันแม่ อยากให้แม่อุ้มแล้วให้เขาอยู่ใกล้ ๆ นอนกับแม่ อยากให้แม่อวยพรเพราะตอนนี้พ่อไม่ทันแล้ว ตอนนี้ที่บ้านหลานเต็มไปหมดแล้ว ทุกคนก็ได้คำอวยพรไปหมดแล้ว”

ขำ ๆ ทุกคนอยากเห็นหน้าลูก บอกถ้าเป็นผู้หญิงต้องแรดเหมือนแม่
“คือ ต้องบอกว่าที่บ้านแพทอยากเห็นลูกแพทมาก เป็นผู้หญิงคนเดียวในบ้านที่ทุกคนอยากเห็นหน้าลูกแพท แล้วแพทก็ไม่รู้เป็นอะไร คือทุกคนบอกว่าถ้าได้ลูกนะ ถ้าเป็นผู้หญิงต้องแรดเหมือนแม่แน่เลย (หัวเราะ) แล้วถ้าเป็นผู้ชายจะต้องโหดเหมือนแกแน่ๆ คือทุกคนอยากเห็น พอพูดถึงลูกทุกคนก็อยากจะเห็นผัวแพท (หัวเราะ) ว่า มันจะได้แบบไหน มันจะได้เด็กแว้น หรือว่ามันจะได้อะไร ซึ่งตอนแรกทุกคนก็คิดว่าหรือจะได้นักร้อง (หัวเราะ) สุดท้ายตัดนักร้องทิ้ง หรือจะเป็นเด็กแว้น คือ คลอดออกมาแล้วใส่หมวกกันน็อกออกมาเลย (หัวเราะ) คือ ด้วยความที่แพทอายุมากแล้ว ขอมีลูกสามีไม่มีไม่เป็นไรค่ะ”




กำลังโหลดความคิดเห็น