“แพท ณปภา” เปิดใจพ่อป่วยเข้าขั้นวิกฤตอยู่ในห้อง ไอ.ซี.ยู. ต้องลุ้นอาการวันต่อวัน รับตัดลำไส้บางส่วนที่อาจเป็นมะเร็ง ขับถ่ายผ่านท่อ มีอาการไตวายเฉียบพลัน ตับทรุด ติดเชื้อในกระแสเลือด กระซิบบอกเตรียมห้องไว้รอ อยากให้กลับมาอยู่พร้อมหน้า ยันไม่ทอดทิ้งพ่อ สถานะ “โตโน่” แค่คู่จิ้น ขอบคุณที่ โทร. มาเคลียร์ เลือกรักษาความรู้สึก
อยู่ดี ๆ คุณพ่อก็ป่วยหนักมีอาการเข้าขั้นวิกฤต แต่ “แพท ณปภา ตันตระกูล” ก็ยังใจสู้ โดยขอดูแลพ่ออย่างไม่มีเหน็ดเหนื่อย ทั้งที่เคยมีคดีเรื่องฟ้องร้องกันมาก่อน โดยเจ้าตัวเปิดใจว่าพ่อก็คือพ่อ ตอนนี้อยู่ห้อง ไอ.ซี.ยู. ตนขอทำหน้าที่ลูกให้ดี ส่วนแพทย์ต้องประเมินอาการวันต่อวัน ชั่วโมงต่อชั่วโมง
“ณ ตอนนี้คุณพ่อเป็นผู้ป่วยขั้นวิกฤตค่ะ คุณหมอบอกอาการวันต่อวัน คุณพ่ออยู่โรงพยาบาลมาได้อาทิตย์หนึ่งแล้วค่ะ อาการตอนนี้ทรุดลงนิดหน่อย ตั้งแต่วันที่มาโรงพยาบาลคุณพ่อก็ต้องอยู่ในห้อง ไอ.ซี.ยู. ตลอด ยังไม่สามารถออกจากห้อง ไอ.ซี.ยู. ได้ ส่วนอาการคุณหมอก็จะประเมินได้วันต่อวัน”
“ตอนนี้ก็จะเป็นเรื่องที่คุณพ่อถูกตัดลำไส้บางส่วนที่คล้ำดำและอาจจะเป็นมะเร็ง แล้วก็ได้มีการเย็บติดกับผนังหน้าท้อง ทำให้ต้องขับถ่ายผ่านถุง ผ่านท่อ นอกจากนี้ ยังมีอาการไตวายเฉียบพลันแต่ว่าได้ทำการฟอกไตเรียบร้อยแล้ว ไตก็กลับมาทำงานปกติ อาการนอกเหนือจากนี้ ก็มีเรื่องของตับที่อาจจะทรุดลงเนื่องจากตัวเหลืองมากขึ้น แล้วก็ยังมีการติดเชื้อในกระแสเลือด แต่ว่าตอนนี้ก็ดีขึ้น”
“โปรตีนในเลือดต่ำ ความดันไม่ปกติ เนื่องจากว่าคุณพ่ออยู่โรงพยาบาลนาน และอยู่ในห้อง ไอ.ซี.ยู. มาตลอด ก็ต้องยอมรับว่าเชื้อโรคก็ค่อนข้างเยอะ แล้วการที่ใส่ท่อช่วยหายใจตลอดเวลา ไม่สามารถถอดออกได้ก็เป็นตัวนำพาเชื้อ ทำให้ตอนนี้คุณพ่อมีอาการทรุดลง เพราะมีการติดเชื้อเพิ่มเติม”
“จากที่ตอนแรกจะหาย หมายถึงอาการดีขึ้นมา แล้วคุณหมอพยายามจะถอดท่อช่วยหายใจออก เพราะกลัวเรื่องของการติดเชื้อเพิ่ม แต่คุณพ่อไม่สามารถหายใจเองได้นานพอที่จะถอดเครื่องช่วยหายใจได้ ทำให้ยังต้องใส่ต่อ พอใส่ต่อทำให้มีอาการเพิ่มเติมของการที่ปอดอักเสบติดเชื้อเพิ่มเติม ทำให้ตอนนี้อาการทรุดลง เรียกว่าต้องเฝ้าระวังกันเป็นชั่วโมงค่ะ”
งงอาการทุดหนักต้องหามส่ง รพ. รับหลายโรครุมเร้า
“จริง ๆ ตัวแพทเองก็งงเหมือนกันค่ะ เพราะว่าที่ผ่านมาติดต่อกันน้อยมาก ส่วนใหญ่ก็จะเป็นแค่ส่งค่าใช้จ่ายไปให้ท่านอย่างเดียว ล่าสุด เมื่อประมาณ 2 - 3 เดือนที่แล้วคุณพ่อก็ยังขับรถมาหาแพทที่บ้านปกติ มานั่งคุยกับเรา มาเยี่ยมคุณแม่ ตอนนั้นก็ยังดูปกติดูแข็งแรง จนเมื่ออาทิตย์ที่แล้วที่น้องชายของคุณพ่อไปเจอท่านป่วยที่คอนโด จนต้องหามเข้าโรงพยาบาล ซึ่งก็หนักเลย ทรุดลงอย่างหนักเลยค่ะ มีหลายโรครุมเร้า จริง ๆ คุณพ่อก็หาหมอมาตลอดนะคะ ก็แปลกมากที่อยู่ดี ๆ ก็เป็น และก็ป่วยจนหนักเลย”
เผยกังวลทุกวัน รับก่อนหน้านี้หมอบอกให้เตรียมใจ แต่พ่อแข็งแรงสู้จนกลับมาได้
“จริง ๆ ก่อนหน้านี้คุณหมอได้บอกให้เตรียมใจไปแล้วด้วยซ้ำค่ะ แต่ว่าคุณพ่อเก่ง เขาสู้ บวกกับร่างกายเขาค่อนข้างแข็งแรงก็เลยกลับมา อย่างที่บอกว่าตอนนั้นจะถอดท่อช่วยหายใจตั้งนานแล้ว แต่ด้วยความที่คุณพ่อยังเหนื่อยอยู่ คุณหมอเลยไม่กล้าถอด พอใส่ไปนาน ๆ ก็เลยติดเชื้อเพิ่มเติม อาการเลยทรุดหนัก”
“เรากังวลทุกวันอยู่แล้วค่ะ พูดตามตรงว่าก็ไม่อยากเห็นใครป่วยแล้ว พอคุณพ่อป่วยหนักก็สงสาร ยิ่งพอเห็นท่านสู้ก็ยิ่งสงสารและอยากให้ท่านหายไว ๆ ทุกวันนี้แพทไปเยี่ยมบ่อยมาก จนคนที่บ้านก็บอกว่าควรจะต้องพักบ้าง เพราะการไปไอซียูบ่อยๆ มันก็ไม่ค่อยดี แต่แพทก็เป็นห่วง เพราะรู้ว่ากำลังใจของเขาก็คือตัวเรา และครอบครัว ฉะนั้นใครว่างก็จะผลัดกันไป”
ย้ำพ่อก็คือพ่อ ตัดกันไม่ขาด
“อย่างแรกเลยพ่อก็คือพ่อ มันเป็นอะไรที่ตัดกันไม่ขาดอยู่แล้วค่ะ มันไม่ต้องมีคำอื่นที่ต้องมาบรรยายเลย ยังไงแพทก็ไม่มีวันที่จะเลิกรักเขาอยู่แล้ว สิ่งหนึ่งที่อยากทำคืออยากดูแลเขาในวันที่เขาอยากให้เราดูแล แล้ววันนั้นมันก็มาถึง ก็คือวันที่เขาต้องการเราจริง ๆ เราก็ยินดีดูแล้วเขา เราพูดกับเขาตั้งแต่แรกอยู่แล้วว่าวันที่คุณพร้อมจะให้ที่บ้านดูแลจริงๆ เราก็พร้อมเหมือนกัน ซึ่งก่อนหน้านี้อาจจะติดปัญหาเรื่องโน้นเรื่องนี่ของเขาอยู่ ทำให้เขาไม่พร้อม แต่ ณ วันนี้ที่เขาพร้อม เราก็พร้อมเหมือนกันค่ะ”
กระซิบบอกพ่อเตรียมห้องไว้รอ อยากให้กลับมาอยู่ด้วยกันพร้อมหน้า
“ถามว่าท้อมั้ยดูแลทั้งพ่อทั้งแม่ อาจจะเป็นเพราะว่าแพทดูแลคนป่วยจนชินแล้วมั้งคะ อย่างคุณแม่ก็ไม่ใช่ว่าจะเพิ่งป่วย เราก็ดูแลคุณแม่มาสักพักแล้ว เพียงแต่ว่าคุณพ่ออาจจะหนักหน่อย คือตอนนี้คุณพ่อป่วยหนักสุดแล้ว ถ้าถามคือจะกังวลเฉย ๆ แต่ก็คุยกับท่านตลอดว่าตอนนี้ที่บ้านก็เตรียมตัวแล้ว เตรียมห้องไว้ให้ รอรับท่านกลับบ้าน ก็จะพูดกับท่านตลอด เสร็จแล้วนะ เหลือแค่ให้ป๋าย้ายกลับมาเฉยๆ เพื่อให้ท่านสู้อีกครั้งหนึ่ง ถ้าหายจะได้กลับมาอยู่บ้านด้วยกันอย่างพร้อมหน้า ครบเลยค่ะ จะได้ดูแลทีเดียวเลย”
“ถ้าอยู่ด้วยกันแพทมีความสุขทุกวันอยู่แล้วค่ะ ไม่ว่าจะอะไรก็แล้วแต่ แพทพยามทำตัวเองให้มีความสุขอยู่แล้ว มันไม่ใช่เรื่องลำบากค่ะ ไม่ว่าเขาจะกลับมา หรือไม่กลับมายังไง เราก็ยังรักเท่าเดิม ณ วันนี้ท่านกลับมาให้เราดูแล เราก็บอกที่บ้านเลยว่าเป็นโอกาสที่เราจะได้ดูแลพวกท่านแล้ว เราต้องทำให้เต็มที่ค่ะ”
“กำลังใจก็มาจากการได้ดูแลพวกเขานี่แหละค่ะ ได้อยู่ใกล้ๆ ได้เห็นว่าทุกคนกินอิ่มนอนหลับ ได้เป็นคนคุยกับคุณหมอเอง ตรงนี้ก็จะทำให้ตัวแพทประเมินสถานการณ์ในทุก ๆ วันได้”
บอกพ่อถูกอดีตภรรยาทิ้ง ส่วนตนพร้อมดูแล
“จริง ๆ ก็ถือว่าเป็นสิ่งที่เขาตัดสินใจไปแล้ว ตามที่คุณอาเล่าให้ฟังก็คือเขาทิ้งคุณพ่อไปได้สักพักหนึ่งแล้วค่ะ ตั้งแต่เมื่อช่วงประมาณตุลาคมปีที่แล้ว และเขาก็ไปมีครอบครัวใหม่เรียบร้อยแล้วด้วย โดยทิ้งให้คุณพ่ออยู่คนเดียว ซึ่งแพทก็ไม่รู้ แต่ที่ผ่านมาคุณพ่อก็แอบมีไปตามเขากลับมาบ้าง”
“จริง ๆ คุณพ่อก็พยายามจะบอกแพทเรื่องนี้แต่ว่าที่บ้านไม่มีใครเชื่อ เนื่องจากที่ผ่านมาคุณพ่อก็ไปตามเขากลับมาตลอด เราก็เลยเฉย ๆ แต่เผอิญอาจจะเป็นดวงหรืออะไรไม่รู้ที่อยู่ดี ๆ ผู้หญิงคนนี้ก็ไปเลย ก็ไม่เป็นไรเพราะแพทก็พร้อมที่จะดูแลคุณพ่ออยู่แล้ว แพทเคยบอกท่านถ้าวันไหนพร้อม แพทก็พร้อม แต่อยากให้ป๋ากลับมาอยู่กับพวกเราจริง ๆ อย่าเอาคนนอกหรือใครที่ไม่โอเคด้วยเข้ามาดีกว่า ซึ่งก่อนเขาจะทรุดเราไม่ค่อยได้คุยกันค่ะ นาน ๆ จะติดต่อกันสักทีหนึ่ง ถ้าขาดเหลืออะไรท่านก็จะติดต่อมา มาเยี่ยมบ้าง แต่น้อยค่ะ”
“เมื่อวานนี้ไม่รู้สึกตัวเลยค่ะ แต่ถ้าเป็นก่อนหน้านี้ก็จะรู้สึกตัวบ้าง เพียงแต่ว่าพูดไม่ได้ เวลาถามอะไรก็จะให้คุณพ่อยักคิ้ว แต่จะไม่ถามให้ท่านต้องตอบอะไรบ่อย ๆ เพราะมันจะทำให้หัวใจเต้นผิดจังหวะได้ค่ะ”
สถานะ “โตโน่” ชัดเจนแค่คู่จิ้น คุยกันสนิทใจเหมือนเดิม เผยใจๆ ที่โทร.มาเคลียร์ รักษาความรู้สึกตนเอาไว้
“จริง ๆ เรื่องของแพทพี่โน่ ก็น่าจะเคลียร์กันหมดแล้ว สถานะของเราสองคนชัดเจนแล้วว่าเป็นพี่น้องกันและเป็นคู่จิ้นทางผลงานเท่านั้น แพทก็ต้องขอบคุณพี่โน่ที่ โทร.มาเคลียร์ จริง ๆ ไม่ได้โกรธพี่โน่ แต่มันเป็นเรื่องของความรู้สึกเฉย ๆ ที่มีอะไรไม่ค่อยเข้าใจในหลายเรื่อง แต่วันหนึ่งเมื่อเขาเลือกที่จะตัดสินใจ โทร.มาเคลียร์มันก็ดีทั้งกับแพทและตัวเขาแล้วก็กับแฟนคลับด้วย ทำให้ตอนนี้ก็เหลือแต่แฟนคลับที่รักแพทกับพี่โน่จริง ๆ”
“ก็ยังสนิทใจเหมือนเดิมค่ะ ก็ต้องยอมรับเลยว่าการ โทร.มาเคลียร์ของเขามันมีผลมาก เพราะตอนแรกทุกคนคงจะรู้ว่าแพทรู้สึกแบบไหน แต่พอเขา โทร.มาเคลียร์ รวมถึงให้กำลังใจแล้วคุณพ่อด้วยก็เลยทำให้แพทรู้สึกโอเค พี่โน่ใจ ๆ ที่จะรักษาความรู้สึกของแพทไว้ เพราะฉะนั้นทุกอย่างก็ปกติเหมือนเดิมค่ะ”