xs
xsm
sm
md
lg

ทำใจไม่ได้!! “ต่าย” ไม่พร้อมตัดคำสัญญา “แม่สีดา” เชื่อ “อ๊อฟ” ลูกชายยังอยู่!

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


“ต่าย สายธาร” ย้ำยังลืม “อ๊อฟ อภิชาติ” ไม่ได้ ขอเวลาทำใจตัดคำสัญญาเป็นคนรักทุกภพทุกชาติ รับรู้อยู่ด้วยกันตลอด ด้าน “แม่สีดา” มั่นใจลูกชายยังอยู่ โต้ดรามาเป็นเด็กเสิร์ฟ บอกชีวิตดีขึ้นไม่กัดก้อนเกลือกิน ยืนกรานไม่ขอรับเงินบริจาคเพราะเกรงใจ

ถูก “ริว จิตสัมผัส” ทักว่าวิญญาณ “อ๊อฟ อภิชาติ พัวพิมล” ยังไม่ไปไหน แม้จะจากไปเป็น 10 ปี เพราะยังผูกติดกับคำสัญญา “ต่าย สายธาร นิยมการณ์” อดีตแฟนสาวที่เคยเอ่ยวาจาจะขอเป็นคู่กันทุกภพทุกชาติไป และยังห่วง “แม่สีดา พัวพิมล” ล่าสุด ทั้งคู่ออกมาเปิดใจถึงเรื่องดังกล่าวต่อหน้าสื่อ ก่อนอัดรายการ บันเทิง 8 HOT NEWS ทางช่อง 8 เชื่อทุกวันนี้ยังอยู่ด้วยกันตลอด

ต่าย : จริง ๆ ยังไม่ได้มีการตกลงกันเลยนะคะว่าเราจะทำพิธีตัดคำสัญญา เพราะส่วนตัวต่ายเองก็ไม่อยากมองมันเป็นประเด็นมากมายด้วย เนื่องจากมันเป็นเรื่องของความรู้สึก และต่ายก็ไม่อยากโกหกทุกคน หรือโกหกความรู้สึกตัวเอง ฉะนั้น ต่ายขอชัดเจนในความรู้สึกตัวเองดีกว่า ซึ่งต่ายก็บอกกับแม่แล้วด้วยว่าต่ายยังลืมไม่ได้”

ช่วงที่เราคบกันเราสองคนก็เคยพูดคำว่าทุกภพทุกชาติไป เราจะเป็นคู่กัน ซึ่งเราไม่คิดเหมือนกันว่ามันจะมีผลขนาดนี้ แต่ต่ายก็อยากให้ทุกคนมองอีกมุมด้วยว่าสิ่งที่เราพูดมันไม่ได้ทำร้ายใครเลยนะคะ เพราะจริง ๆ แล้วมันคือความสุขใจ แถมมันยังทำให้ต่ายมีกำลังในการทำงานด้วยซ้ำ เนื่องจากทุกครั้งที่ต่ายท้อต่ายก็ยังมีเขาอยู่ข้าง ๆ ต่ายยอมรับว่าต่ายไม่รู้ว่าสิ่งที่ต่ายทำมันจะไปฉุดรั้งเขาหรือยังไง แต่ถ้าสิ่งไหนที่ทำให้เขาไปอยู่จุดที่ดีได้ต่ายก็ยินดีทำให้ แต่ถามว่าลึก ๆ ต่ายลืมเขาได้มั้ย ต่ายก็ยังไม่ลืมค่ะ”

ยังตัดไม่ขาด ขอเวลาทำใจ รับรู้ได้อีกฝ่ายยังอยู่ตรงนี้
ต่าย : “สิ่งที่ริวพูดมาต่ายเชื่อและต่ายก็รับฟังนะคะ ถึงแม้ต่ายจะสัมผัสไม่ได้มาก แต่ต่ายก็ได้รู้ว่าเขายังรับรู้และยังอยู่กับเราตรงนี้ เรื่องคำแนะนำต่ายทำตามคำแนะนำได้นะคะ แต่เรื่องของจิตใจมันบังคับกันไม่ได้ ดังนั้น ขอเวลาต่ายได้มั้ยคะ อยากให้นึกถึงใจเขาใจเรา ลองมาเป็นต่ายดูบ้าง เพราะต่ายก็ไม่รู้เหมือนกันว่า 10 ปี 20 ปี ต่ายจะลืมมั้ย ทุกวันนี้ก็รู้สึกว่าเขาอยู่กับเราตลอดค่ะ”

แม่สีดา : “สำหรับเรื่องตรงนี้ใครไม่เป็นเราไม่รู้หรอก เพราะในกรณีของแม่ แม่เองก็ยังรู้สึกว่าเขายังอยู่กับแม่ตลอด แต่ถามว่าสิ่งที่แม่ทำอยู่ทุกวันมันจะเป็นการผูกมัดเขามั้ย เอาจริงๆ เราก็ไม่รู้หรอกนะคะว่าสิ่งที่เราทำอยู่มันคือการผูกมัด เพราะเราก็ทำตามความเคยชินของเรา อย่างเวลาอยู่บ้านคนเดียวเราก็พูดกับรูปเขาไปเรื่อย ๆ”

“แม่สีดา” รับยังเรียกลูกชายให้มาคุ้มครอง มั่นใจยังไม่ไปไหน อยากเห็นแม่สบาย
แม่สีดา : “เราก็ไม่ได้อยากที่จะไปกักขังเขานะ เพราะเราเองก็อยากให้เขาไปอยู่ในภพภูมิที่ดี แต่ด้วยความที่เราเป็นแม่คือต่อให้เป็นรูปเขาอยู่เราก็ยังรู้สึกว่าเป็นตัวเขา พอวันไหนเราทุกข์ใจเราก็จะเรียกให้เขาอยู่เป็นเพื่อนคุ้มครองเรา ซึ่งก็อย่างที่บอกเราไม่รู้หรอกว่าสิ่งที่ทำอยู่มันจะเป็นการดึงเขาไว้”

“เราก็ทำตามมนุษย์ปุถุชนทั่วไป ซึ่งก็คือใส่บาตรอุทิศกุศลให้เขา แต่หลายคนก็บอกนะว่าที่อ๊อฟเขายังไม่ไปไหนเพราะเขาอยากเห็นแม่สบาย เขายังเป็นห่วงเราสองคน และพอคุณริวมาพูดแบบนี้อีกเราก็ยิ่งรู้สึกมั่นใจเพราะว่าบางทีแม่เองก็ยังได้กลิ่นของเขาเวลาที่แม่อยู่คนเดียว”

ไม่ถึงเวลาถอนคำสัญญา ไม่อยากกดดันตัวเอง
ต่าย : “ริวแนะนำให้ต่ายจุดธูปและพูดพร้อม ๆ แม่ ซึ่งต่ายก็บอกกับริวแล้วนะคะว่าต่ายจะพูด แต่ตอนนี้มันยังไม่ถึงเวลา คือเราอยากขอเวลาทำใจกันอีกสักนิดหนึ่ง เพราะต่ายรู้สึกว่าต่ายไม่อยากกดดันตัวเอง และก็ไม่อยากทำอะไรเพื่อให้ถูกใจคนอื่น ดังนั้น ใจเขาใจเราดีกว่าค่ะ”

“เอาตรง ๆ ต่ายมองว่าอย่าไปพูดถึงอดีตหรืออะไรเลยดีกว่าค่ะ เรามองกันที่ปัจจุบันดีกว่า เพราะทุกวันนี้ต่ายเห็นแม่ดามีรอยยิ้มต่ายก็เชื่อว่าอ๊อฟเขาได้คลายความกังวลแล้ว และอีกอย่างคือในวันที่อ๊อฟเสีย ต่ายก็ได้บอกกับเขาไว้ด้วยว่าต่ายจะดูแลแม่ดา ซึ่งทุกวันนี้ต่ายก็ยังทำอยู่ รวมถึงต่ายได้สานต่อความตั้งใจของเขาด้วยการอาสามาช่วยเหลือคนกับมูลนิธิร่วมกตัญญู”

เผยเป็นกำลังใจในการใช้ชีวิต ทุกวันที่นึกถึงมีแต่รอยยิ้มและช่วงเวลาดี ๆ
ต่าย : “ใช่ค่ะ ทุกประเด็นของอ๊อฟเกี่ยวกับกำลังใจล้วนๆ ไม่ได้เกี่ยวข้องกับความทุกข์เลย ทุกวันนี้เราก็ยังยิ้มเวลานึกถึงเขา นึกถึงช่วงเวลาดี ๆ ที่ได้อยู่ด้วยกัน คิดว่าเขาก็คงมานั่งอยู่แถวนี้ เขาก็คงมาฟังด้วย”

แม่สีดา : “วันนี้แม่ก็ยังพูดกับเขาอยู่เลยว่าให้เขามาด้วยก็ได้ ซึ่งแม่ก็พูดเป็นปกติของแม่ แม่ไม่รู้ว่าเขาจะมีตัวตนจริงมั้ย”

“แม่สีดา” โต้ตกอับเป็นเด็กเสิร์ฟ บอกเป็นผู้จัดการร้าน ชีวิตสบายไม่กัดก้อนเกลือกิน ยืนกรานไม่ขอรับเงินบริจาค
แม่สีดา : “แม่ต้องเรียนให้ทราบก่อนว่าแม่ไม่ใช่เด็กเสิร์ฟ แต่ตำแหน่งของแม่คือผู้จัดการร้าน มีหน้าที่ดูแลร้านแทนนายให้ออกมาดีที่สุด ชีวิตแม่ตอนนี้สบายมากกว่าแต่ก่อนแล้ว ไม่ได้กัดก้อนเกลือกินเหมือนช่วงที่เคยออกมาให้สัมภาษณ์ และอีกอย่างหนึ่ง คือ แม่อยากกราบขอบคุณแฟนคลับที่เสนอความช่วยเหลือมาให้”

“แต่สิ่งที่แม่จะพูดตอนนี้ไม่ใช่เพราะแม่เป็นคนหยิ่งยโส เพียงแต่แม่อยากจะต่อสู้เพื่อตัวเอง และอยากจะพิสูจน์ให้ตัวเองได้เห็นว่าเรานั้นยังมีความสามารถ ส่วนเรื่องต้อกระจกที่ตาทั้งสองข้างตอนนี้ก็ยังไม่ถึงขั้นบอดสนิทอะไร ที่ผ่านมา แม่ก็พยายามดูแลตัวเองอยู่ ส่วนเรื่องค่าใช้จ่ายแม่ก็ยังมีบัตรทองติดตัวเหมือนกัน ยังไงก็ต้องขอบคุณสำหรับทุกความเมตตาที่มอบให้แม่นะคะ ก็ไม่ทราบว่าบัตรทองครอบคลุมหรือเปล่า แต่แม่รู้แค่ว่าเดือนหน้าต้องไปดำเนินการแล้ว”

ต่าย : “คือทุกครั้งที่มีคนติดต่อมาอยากให้ความช่วยเหลือต่ายก็นำไปบอกต่อแม่สีดานะคะ เพียงแต่ท่านไม่อยากรับเพราะรู้สึกว่าเกรงใจ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นแล้วต่ายเองกลับมองว่าหากเขาอยากที่จะช่วยจริง ๆ ก็ให้แม่รับเอาไว้เถอะ เพราะถึงแม่จะไม่ได้นำไปรักษาตา แต่แม่ก็สามารถนำไปใช้เพื่อช่วยในการดำรงชีวิต ช่วยในการเริ่มต้นธุรกิจต่างๆ เพื่อดูแลตัวเองได้ ต่ายอยากให้แม่ลองเก็บไปพิจารณาดูในเรื่องนี้”

แม่สีดา : “คือแม่เข้าใจนะคะ และแม่ก็เข้าใจในความปรารถนาดีของทุก ๆ ท่าน แต่แม่ไม่อยากรบกวนใครจริง ๆ สิ่งไหนที่เราเรียนผูกเราก็ต้องเรียนแก้ เรายังมี 1 สมอง 2 มือ เราต้องพิสูจน์ตรงนี้ก่อน นอกเหนือจากว่าเราตาบอดสนิทอันนี้ก็ค่อยว่ากันในอนาคต”

รับกลัวตาบอด ขอดูแลรักษาตัวเอง ไม่หยิ่งยโสแค่ขอสู้ด้วยตัวเอง ไม่อยากให้คนรู้สึกไม่ดี
แม่สีดา : “คิดว่าน่าจะเยอะแล้วนะคะ แต่ก็ยังมองเห็นอยู่ คือ มองไกล ๆ มองตาจะพร่าจะดูไม่รู้ว่าเป็นใครแต่รู้ว่ามีคนเดินอยู่ ซึ่งถ้าเขาเดินมาใกล้ ๆ ก็ถึงจะรู้ว่าอ๋อคือคนนั้นคนนี้ ถามว่าแม่กลัวมั้ยหากปล่อยไว้มันจะยิ่งแย่ เอาจริง ๆ แม่ก็กลัว ดังนั้น แม่ก็ต้องดูแลตัวเองให้มาก ๆ ก่อน ส่วนเรื่องความช่วยเหลือจากแฟน ๆ ที่ส่งมอบมาให้นั้นแม่ขอบอกด้วยความสัตย์จริงเลยว่าแม่เกรงใจ แต่ก็ต้องกราบขอบพระคุณทุกคนด้วยเหมือนกัน แม่ไม่อยากให้คนอ่านข่าวนี้แล้วรู้สึกไม่ดีในตัวแม่ แม่ไม่ได้หยิ่งแม่ไม่ได้อะไร เพียงแต่แม่ยังอยากสู้ด้วยตัวเองก่อนก็เท่านั้นเอง เร็ว ๆ นี้ จะมีละคร ตอนนี้ก็ใกล้ ๆ จะเปิดกล้องแล้ว (ยิ้ม)”





กำลังโหลดความคิดเห็น