“ฮาน่า ทัศนาวลัย” พูดขำ ๆ ใครอยู่ใต้เตียง หลังถูกเมาท์หึ่งทะเลาะ “ฮิวโก้” จนเตียงหัก ลั่นต่อให้เลื่อยขาเตียงยังไม่สะเทือนเพราะเหนียวแน่น ฟุ้งสามีติดเมียติดลูกมาก ไม่เข้าใจทำไมถูกลือรักร้าว
รักหวานหนักมาก แต่ไม่วายถูกเมาท์ว่า “ฮาน่า ทัศนาวลัย” ทะเลาะกับสามีสุดหล่อ “ฮิวโก้ จุลจักร จักพงษ์” ถึงขั้นเตียงหัก ล่าสุด ฮาน่าออกมาเปิดใจถึงกระแสดังกล่าวโดยยอมรับว่างงมาก ย้ำทะเลาะกันเป็นเรื่องปกติชีวิตคู่ แต่ยืนยันสามีติดเมียติดลูกมาก
“ทะเลาะเรื่องอะไรใครมาอยู่ใต้เตียงเหรอ (หัวเราะ) จริง ๆ ก็ทะเลาะวันเว้น 10 วันอยู่แล้ว คือไม่ได้เป็นการทะเลาะเนอะ จริง ๆ งงเหมือนกันทะเลาะกันเรื่องอะไร ๆ (ถึงขั้นเตียงหัก?) โอ้โห ช่วยมาเลื่อยเตียงเถอะค่ะ ตอนนี้เหนียวแน่นมากค่ะ (หัวเราะ)”
“จริง ๆ ไม่เคยทะเลาะกันเรื่องแบบใหญ่ ๆ อะไร อาจจะมีทะเลาะกันเรื่องลูกว่าทำไมเธอพาลูกออกไปนอกบ้าน กลับบ้านดึกจังอะไรอย่างนี้ เพราะเขาจะชอบอยู่บ้านแล้วรอเจอเรากับลูก จะมีแบบนั้นมากกว่าค่ะ นอกนั้นก็ไม่มีอะไรเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ ในบ้าน ส่วนใหญ่ก็ไม่เรียกว่าทะเลาะ จะมีบอกว่ารีบกลับบ้านนะเขาก็จะอยากให้เราพาลูกกลับมา บางทีเรียนพิเศษเสร็จเราก็พาทานข้าวต่อโดยที่ไม่มีเขา เขาก็แบบทำไมล่ะรีบกลับมาสิ รออยู่ นอกนั้นก็ไม่ได้มีอะไรค่ะ”
“งอนกันก็ไม่เคยนะคะ เลยงง งงมากว่าเกิดอะไรขึ้น เพราะเราไม่ได้ทะเลาะกันนะ เลยไม่เข้าใจว่าเรื่องอะไรใครมาอยู่ใต้เตียงหรือหลบตรงฝาตู้ตรงไหน แล้วมันทะเลาะกันเรื่องอะไร (หัวเราะ)”
บอกมีลูก 2 คนเกินคาดหวังแล้ว เพราะตอนแรกคิดว่าตนคงไม่มีลูก
“โอ้ย ใจเย็น ๆ ก่อนค่ะ เพราะว่าคนที่ 2 เพิ่ง 2 ขวบไปอาทิตย์ที่แล้วเอง จริง ๆ เลี้ยงลูกไม่ได้ง่ายนะ ต้องมีเวลาให้มาก ๆ แล้วก็ต้องใส่ใจ กว่าเด็กจะโตมันไม่ใช่เรื่องง่าย ๆ ไหนจะเรียนอีก กว่าจะเรียนจบกว่าจะมีครอบครัวมีอะไรอย่างนี้ ก็คิดว่าทีละคนดีกว่า ตอนนี้ก็เกินคาดแล้วตอนแรกกะว่าจะไม่มีลูกเลย ตอนนี้ก็ 2 เกินความคาดหวังแล้วค่ะ”
“เขาก็ไม่อยากมีนะ เขาก็รู้สึกว่าเขาเห็นเราทุกข์ทรมานกับการแพ้ท้องมากทั้ง 2 คนแพ้ 9 เดือนเต็ม เขาก็เลยบอกว่าเขาไม่อยากเห็นเราสภาพแบบนั้น ถ้าจะมีก็ปล่อยให้เป็นเรื่องของธรรมชาติแต่ถ้าไม่มีก็ไม่เป็นไรเลย แต่คงไม่ทำหมัน”
“ไม่ได้คิดเรื่องวิธีวิทยาศาสตร์เลยค่ะ เพราะว่าไม่ได้คิดจะมีค่ะ (หัวเราะ) เพราะฉะนั้นก็ถ้ามีต้องคิดหนักว่าต้องทำยังไงดีลูก3 อะไรอย่างนี้ แต่ว่าตอนนี้มี 2 คนก็ถือว่าเหนื่อยพอสมควร ยังดีที่เวลาเราออกมาทำงานพี่ฮิวโก้ก็อยู่บ้านเลี้ยงลูกให้ ก็พยายามจะสลับกันค่ะ”
ฟุ้งสามีติดเมียติดลูก ขอเลือกงานที่อยากทำเท่านั้น
“เขาติดครอบครัวติดลูก ติดภรรยา เขาก็เลยคิดว่าเหมือนเขาทำงานศิลปะ เขาจะไม่รับดะ ไม่ใช่ใครเอางานมาให้ก็ทำหมด เขาต้องเลือกสิ่งที่เขาทำแล้วเขาได้ดี แล้วเป็นสิ่งที่เขาอยากทำจริง ๆ มากกว่า เขาพูดเลยว่าเงินได้มาเดี๋ยวก็หมด แต่ภาพพจน์หรือสิ่งที่ทำมันติดตัวไปจนวันตาย เพราะฉะนั้นสิ่งที่เขาทำมันต้องเป็นสิ่งที่เขารักแล้วก็อยากทำจริง ๆ ค่ะ”
“เขาหวงมากแล้วก็ใส่ใจลูกมาก ๆ เวลาจะนัดกับใครก็ตามแต่เขาก็จะพยายามนัดหลังลูกหลับแล้ว เขาได้เล่นกับลูก เอาลูกเข้านอนอ่านนิทานก่อนแล้วค่อยนัดไปทานข้าว ก็จะให้เวลากันหลังสามทุ่มเป็นต้นไปเพราะว่าลูกหลับแล้ว”
ไม่กดดันให้เข้าวงการ พูดขำ ๆ ไว้อายุ 10 ขวบค่อยเป่าหูลูก อยากหากินกับลูก
“โอกาสเข้าวงการก็อยู่ที่เขาเลยค่ะถ้าวันหนึ่งเขาเรียกร้องแบบ คุณแม่อยากเล่นละครจังเลย อยากมาถ่ายอะไรก็ตามแต่ก็คงต้องปล่อยเขา แต่ตอนนี้เขา 5 ขวบ ไม่มีเด็กคนไหนอยากทำงานแน่นอนก็คงอยากจะเล่นตามประสาเด็ก ๆ แล้วก็อยากให้เขาเรียนด้วยเหมือนกับครอบครัวคนอื่น ฮิวโก้เขาเน้นเรื่องการศึกษามากเลยว่าอยากจะปูพื้นฐานให้เขา เผื่อวันหนึ่งเขาไม่ได้อยากอยู่ในวงการเขาจะได้มีอาชีพที่เขาอยากทำจริง ๆ”
“ก็มีติดต่อตั้งแต่คลอดนะคะ ก็ไม่ได้รับให้เลยเพราะว่าคุณฮิวโก้เขาอยากให้ลูกอยากทำจริง ๆ แล้วก็เต็มใจที่จะทำไม่อยากบังคับลูก จริง ๆ ก็เป่าหูนะ ลูกอยากทำมั้ยจะได้เงินเป็นทุนการศึกษา แต่ก็ไม่ได้หรอกเด็กก็ต้องสมัครใจเนาะ 5 ขวบ ก็คงไม่พูดได้ขนาดนี้ เดี๋ยวซัก 10 ขวบ ค่อยเป่าหูใหม่ (หัวเราะ)”
“คุณแม่อยากมากเลยอยากจะหากินกับลูก อ้าวไม่ใช่ (หัวเราะ) ไม่ใช่ พูดเล่นก็อยากให้เขาได้ทำในสิ่งที่เขาอยากทำมากกว่าจริง ๆ แล้วคุณฮิวโก้เขาบอกว่าเขาเข้ามาในวงการตั้งแต่ตอนที่เขาเด็ก ๆ แล้วมันก็ได้เงินง่าย ได้เจอสิ่งสวย ๆ งามเจอคนดี ๆ มาเอาใจเขา เขาก็เลยอยากให้ลูกได้ลองทำอย่างอื่น ให้เรียนจบก่อนเผื่อเขาจะไปเป็นอาชีพอื่นที่ไม่ใช่อาชีพตรงนี้ แต่ถ้าเขาอยากทำจริง ๆ ก็ปล่อยเขา”
ไม่ชอบจะไม่บังคับ แต่ถ้าลูกชอบพร้อมส่งเสริม
“ไม่เลยตอนนี้กำลังเป็นช่วงลองผิดลองถูกมากกว่าให้เขาเรียนอย่างที่อยากเรียน บางทีคุณแม่อยากเรียนกีต้าร์ แม่อยากเรียนภาษาจีน แม่อยากเรียนปั้นอยากเรียนเปียโนหรืออะไรก็ตามให้เขาเรียนในสิ่งที่เขาอยาก แล้วถ้าเขาไม่ชอบก็ไม่บังคับแต่ถ้าเขาชอบก็จะส่งเสริมเขาอย่างนี้ค่ะ”