“แตงโม ภัทรธิดา” อุบตอบ เอารูปแต่งงานมาใส่ในเอ็มวี “กลับตัวกลับใจ” ขอโทษ ระเบิดอารมณ์ใส่ “โตโน่” บอกแค่อารมณ์ชั่ววูบ ลบโพสต์เพราะไม่ภูมิใจ รับน้อยใจอดีตสามีขอโทษทุกคน แต่ไม่เคยขอโทษตนเลยสักครั้ง เข้าใจหัวอก “แพท ณปภา” บอกเจอเหตุการณ์คล้ายกัน ย้ำไม่ขอตอบข่าวกิ๊ก “เจี๊ยบ” บอกคำตอบอยู่ในคำสัมภาษณ์ของอีกฝ่าย
มีเรื่องมีราวไม่รู้จบจริง ๆ สำหรับม่ายสาว “แตงโม ภัทรธิดา พัชรวีระพงษ์” ที่ล่าสุดทำเอาคนฮือฮากับทีเซอร์เพลง กลับตัวกลับใจ ของ DAX ROCK RIDER ที่มีการเอาภาพบรรยากาศวันแต่งงานกับอดีตสามีอย่าง “โตโน่ ภาคิน คำวิลัยศักดิ์” มาใช้จริง ๆ ที่สำคัญมีฉากกินยาฆ่าตัวตายอีกต่างหาก งานนี้ได้เจอตัวสาวแตงโมในงานเปิดตัวอาหารเสริม โครโมซอลเอส ณ ลานอีเดน ชั้น 1 เซ็นทรัลเวิลด์ เจ้าตัวไม่ขอพูดถึงเรื่องนี้ โดยบอกเพียงว่ารอให้เอ็มวีตัวเต็มได้ฉายให้เห็นพร้อม ๆ กันก่อนค่อยว่ากัน
“สำหรับเรื่องเอ็มวีนะคะ ตัวโมเองยังไม่ได้เห็นค่ะ ก็ได้เห็นทีเซอร์เท่ากับพี่ ๆ ทุกคน ประชาชนทุกคน แต่เดี๋ยวรอให้ถึงเวลาที่เขาเปิดตัว แล้วเดี๋ยวเรารับทราบรายละเอียดพร้อมกันทีเดียวดีกว่าค่ะ (ยิ้ม) ถามว่าตัดสินใจนานมั้ยกว่าจะอนุญาตให้ใช้ภาพ อันนี้โมขอพร้อมกันทีเดียวดีกว่าค่ะ (ยิ้ม) ขอข้ามไปเรื่องอื่นก่อนค่ะ (หัวเราะ)”
รับสิ่งที่ตนโพสต์ก่อนหน้านี้เกิดจากอารมณ์ชั่ววูบ และอัดอั้นในใจมานานร่วมปี
“สำหรับเรื่องน้องแพท (ณปภา ตันตระกูล) นะคะ โมก็ได้ทราบจากพี่ ๆ สื่อว่าเขายืนยันที่เราได้โพสต์ว่าเป็นเรื่องจริง จริง ๆ แล้วอันนี้โมไม่ได้ฟังด้วยหูของโมเองนะคะ ไม่ได้อ่านข่าวน้องด้วยตัวเอง โมก็ยังออกความเห็นอะไรไม่ได้ เดี๋ยวขออนุญาตไปอ่านด้วยตัวเองก่อน โมก็พูดได้ในเฉพาะสิ่งที่โมเป็นคนโพสต์นะคะ อย่างที่โมบอกอย่างที่ได้ให้สัมภาษณ์ไปในคราวที่แล้วก็เป็นไปตามนั้น และขออนุญาตที่จะไม่ต่อความยาวสาวความยืดสำหรับเรื่องนี้แล้วดีกว่าค่ะ เพราะวันนั้นมันเป็นความอัดอั้น เป็นความน้อยใจที่โมทนมาเป็นระยะเวลาเป็นปีหลังจากเลิกรากันไป เงียบอยู่นานมาก”
“ยอมรับว่ามันเป็นอารมณ์ชั่ววูบเหมือนกัน ก็เลยโพสต์ลงไป แต่ตอนนี้ลบโพสต์ออกไปแล้ว เพราะว่ามันไม่มีข้อดีกับใคร รวมถึงตัวโมเองด้วย ไม่ได้มีความภูมิใจอะไรกับตัวโมเลย โมรู้สึกว่าพอแล้วดีกว่า ก็ขอโทษด้วยค่ะที่ทำอะไรแบบนั้นลงไป โมว่าการที่เราระเบิดออกมามันก็ไม่แปลกสำหรับมนุษย์ทั่วไปนะคะ และโมก็เงียบมานานแล้ว ถ้ามันจะมีหลุดออกไปบ้างคนคงเข้าใจได้ว่าโมเก็บอะไรไว้เยอะพอสมควร สิ่งที่โมโดนและรักษาตัวเองจนหาย ถ้าเราคิดว่าโอเคแล้วหายดีแล้วก็พอดีกว่า (ยิ้ม)”
“สำหรับสิ่งที่แพทอาจจะมีบางมุมที่เข้าใจ ถ้าสมมติว่ามันเป็นแบบนั้นจริง ๆ มันก็เข้าใจได้นะคะ เพราะเราก็ถือว่าเป็นคนสนิททั้งคู่ เราอาจจะมีอะไรที่คล้ายกันบ้างมันก็เป็นไปได้ค่ะ ถ้าสมมติมันเป็นเรื่องจริงมันก็ไม่แปลกค่ะ แต่ต่อไปนี้ก็คงไม่มีอีกแล้วค่ะ (ยิ้ม) โมว่าพอคนเรามันได้ระเบิดออกมาทีหนึ่งแปลว่ามันสุดจะทนแล้วจริง ๆ คือขอโทษทุกคนได้ แต่ไม่เคยขอโทษโมเลยอะไรแบบนี้ บางทีมันก็น้อยใจเหมือนกันนะ แต่มันก็สุดแล้วจริง ๆ ก็คงไม่มีอะไรอีกต่อไปแล้วค่ะ”
บอก "โตโน่" ต้องทำใจเพราะยังไงก็คงต้องตอบคำถามเกี่ยวกับตนต่อไป
“ส่วนสำหรับแฮชแท็กที่บอกว่าจะต้องตอบคำถามไปตลอดชีวิต อันนี้มันเป็นเรื่องจริงที่จะต้องยอมรับว่ามันมีผลกระทบ เพราะว่าเราเคยเป็นคนรักกัน เราเคยใช้ชีวิตด้วยกัน ฉะนั้นเวลาอีกฝ่ายหนึ่งทำอะไรหรือเราทำอะไรมักจะต้องถามอีกฝ่ายหนึ่งอยู่แล้ว ตัวโมโดนถาม ตัวเขาเองก็ต้องโดนถามไปตลอดชีวิตเหมือนกันเหมือนคู่อื่น ๆ ที่โดนกันมาค่ะ ส่วนตัวโมเองถามว่ายินดีที่จะตอบมั้ย อะไรตอบได้ก็ตอบค่ะ แต่อะไรที่โมไม่รู้เรื่องจริง ๆ โมก็คงตอบไม่ได้ค่ะ”
“ที่แพทบอกว่าเขาปกป้องผ่านสื่อแต่ไม่ปกป้องส่วนตัว อันนี้มันค่อนข้างละเอียดอ่อนมากจนโมไม่ได้จำในรายละเอียดตรงนั้นแล้วค่ะ โมเองก็เห็นว่าบางเรื่องเขาก็ปกป้องโมนะคะ แต่บางเรื่องก็ไม่นะคะ อันนี้โมก็ไม่ทราบเหมือนกันว่าน้องโดนแบบไหน เพราะโมก็ไม่แน่ใจว่าเรื่องของน้องกับเรื่องของเขามันเป็นยังไงบ้าง ไม่ได้รับทราบรายละเอียดทั้งหมดก็เลยไม่แน่ใจว่าเหมือนกันหรือเปล่า แต่ตัวโมเองไม่ว่าจะปกป้องผ่านสื่อหรือว่าปกป้องส่วนตัว โมคิดว่ามันเท่า ๆ กันค่ะ มันก็คือการปกป้องเหมือนกัน ในส่วนที่ปกป้องโมก็ต้องขอบคุณเขาเหมือนกัน ขอบคุณมากๆ ค่ะ แต่ในส่วนที่ไมปกป้องและมันกระทบถึงจิตใจเราหนักมาก ๆ อันนี้โมก็ขออนุญาตที่จะน้อยใจค่ะ (ยิ้ม)”
“ในคำถามที่ว่าติ่งของเขามาถล่มทั้งโมและแพท โมไม่ค่อยซีเรียสกับเรื่องนี้เท่าไหร่ เพราะโมเข้าใจว่าการที่เรามีคนรัก คนที่เขารักเราจะต้องปกป้องเรา ตรงนี้โมเข้าใจค่ะมันเป็นรักที่ไม่มีเงื่อนไข การปกป้องเป็นเรื่องธรรมชาติของการที่แฟนคลับจะมาถล่มฝ่ายอื่นๆ แต่ยังไงก็ตามความจริงมันประจักษ์อยู่ในใจค่ะ เขาจะออกมาถล่มใครก็ตาม ความจริงไม่มีการเปลี่ยนแปลง”
บอกต่อไปนี้จะไม่ขอพูดถึง “แพท - โตโน่” อีก
“ที่หลายคนมองว่าทำไมโมไม่หยุดสักที เพราะผลกระทบมันยังส่งถึงโมตลอดเวลา หลาย ๆ เรื่องมันส่งผลกระทบถึงใจโม ถึงใจพ่อโมอยู่ตลอดเวลา โมก็เป็นคนหนึ่งที่มีหัวใจเหมือนกันนะคะ ถึงบอกว่ามันเลยระเบิดขึ้นมาในบางวัน ซึ่งปีกว่าแล้วค่ะที่โมเก็บ ทุกคนจะเห็นว่าโมไม่เคยออกมาพูดอะไรเลยสักคำ ไม่ใช่ว่าไม่อยากหยุดนะคะ หยุดมานานแล้ว แต่บางครั้งมันก็ระเบิดและพลาดออกมาบ้าง ก็ต้องขอโทษด้วยค่ะที่อาจจะทำให้บางคนผิดหวัง และได้รับผลกระทบ แต่มันจะไม่มีอีกแล้วค่ะ (ยิ้ม)”
“แต่ว่าจะจบหรือไม่จบมันไม่ได้อยู่ที่เราฝ่ายเดียว มันอยู่ที่ทางเขาทำอะไรและจะส่งผลกระทบถึงเรามั้ย แต่ทางเราเลือกที่จะจบจากตัวเราเองได้ ก็คือ จะไม่พูดถึงอีก ฝากถึงเขามั้ยเหรอ โมเคยฝากไปแล้ว ก็ไม่ขอฝากแล้วดีกว่าค่ะ ถ้าโต ๆ กันแล้วฟังรอบเดียวก็น่าจะเข้าใจ ไม่ใช่แค่คนๆ เดียวเตือนด้วย คนอื่นก็เตือนไปแล้วด้วย (หัวเราะ) หลายคนเตือนค่ะ ถ้ายังมีเรื่องโยงมาอีกก็ยินดีตอบในส่วนที่ตอบได้นะคะ แต่คงไม่ตอบในส่วนที่เราไม่รู้ค่ะ”
ไม่ขอพูดถึงความสัมพันธ์กับ “เจี๊ยบ ลลนา ก้องธรนินท์” แต่ขอให้ฟังคำตอบที่อีกฝ่ายออกมาพูดไปแล้ว
“ในส่วนของโมกับเจี๊ยบนะคะ โมขอพูดครั้งนี้ครั้งเดียวและขออนุญาตที่จะไม่ตอบที่อื่นอีก ขอให้จบภายในวันนี้วันเดียว เพราะตัวโมเองจริง ๆ แล้วไม่ค่อยอยากออกมาพูดเรื่องนี้สักเท่าไหร่ แต่ว่ามันมีคำถามค้างคาใจ โมขออนุญาตไม่ออกความเห็นส่วนตัว โมอยากจะให้กลับไปฟังสิ่งที่เจี๊ยบพูด ลองหลับตาฟัง ใช้ใจฟัง ตั้งใจฟังหลาย ๆ รอบในสิ่งที่เจี๊ยบได้พูด เรื่องราวทุกอย่างอยู่ในคำพูดของเจี๊ยบตั้งแต่ต้นจนจบแล้วค่ะ (ยิ้ม) ก็งงค่ะว่าข่าวมาได้ยังไง แต่ทุกอย่างตั้งแต่ต้นเรื่องยันจบเรื่องอยู่ในคำตอบของเจี๊ยบค่ะ ทุกคนถ้าวิเคราะห์ได้จากคำตอบของเจี๊ยบจะรู้ว่าเรื่องราวเป็นแบบไหน มีโอกาสได้คุยส่วนตัวมั้ยเหรอ ก็เป็นไปตามที่เจี๊ยบบอกค่ะ (ยิ้ม) โมไม่ขอออกความเห็นส่วนตัวค่ะ โมอยากให้ทุกคนฟังเจี๊ยบเลยค่ะ สถานะก็ตามที่เจี๊ยบบอกทุกคำพูดเลยค่ะ”
ยันไม่ได้มีปัญหาแย่งช่างแต่งหน้ากับ “ติช่า เดอะเฟส” บอกตนเป็นฝ่ายติดต่อไปช้าเอง
“เรื่องแย่งช่างแต่งหน้ากับน้องติช่า จริง ๆ แล้วมันไม่ได้เป็นการแย่งกันนะคะ มันเป็นการติดต่อกันก่อนหลังมากกว่า คือ ทางผู้จัดการของน้องติช่าติดต่อช่างแต่งหน้าของโมไว้ก่อน เป็นช่างประจำของโม แล้วโมโทร.ไปช้ากว่า โมก็เลยต้องแต่งหน้ากับช่างท่านอื่นที่เราทั้งหมดก็รู้จักและคุ้นเคยกันดี ไม่ได้มีปัญหาอะไรกันค่ะ โมไม่ได้โกรธ ไม่ได้ถือสาอะไรเลย เพราะโมก็เข้าใจว่าวันนี้เป็นงานของน้อง เราก็อยากให้น้องออกมาดีที่สุดค่ะ (ยิ้ม)”