“แตงโม ภัทรธิดา” เผยโผกอด “โตโน่” ที่สนามบินแค่ทักทาย ช็อตเด็ดฝ่ายชายลูบหัวเป็นโมเมนต์น่ารัก เป็นสัญชาตญาณคนเคยรัก ย้ำไม่โกรธไม่เกลียดไม่เป็นศัตรูกัน วอนอย่าดราม่าเป็นเรื่องราวดีๆ ชี้แววตาเป็นโน่คนเดิมที่เคยรู้จัก ประกาศไม่พร้อมมีรักใหม่ แต่อยากมีลูกเลย
จากกรณีที่แฟนคลับ “แตงโม ภัทรธิดา พัชรวีระพงษ์” และ “โตโน่ ภาคิน คำวิลัยศักดิ์” โพสต์ภาพอดีตคนเคยรักป๊ะหน้ากันโดยบังเอิญที่สนามบิน แถมมีช็อตเด็ดฝ่ายชายลูบหัวจนกลายเป็นกระแสทอล์ก ออฟ เดอะทาวน์ เพราะเป็นการเจอหน้ากันจังๆ เป็นครั้งแรกหลังทั้งคู่แยกทาง ล่าสุดผู้สื่อข่าวมีโอกาสเจอสาวแตงโม เลยถามถึงประเด็นดังกล่าว นางเอกสาวเปิดใจด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม ย้ำเหลือแค่มิตรภาพ โนรีเทิร์น และวอนอย่าดราม่ากันเกินไป
“มันก็เป็นโมเมนต์ที่น่ารักดีค่ะเพราะเราไม่ได้เจอกันนานมากแล้ว บังเอิญเจอกัน บังเอิญโมลงรถตู้มาเป็นประตูเดียวกันที่วงเดอะดัสต์เขาเช็กอินเพื่อไปเล่นคอนเสิร์ตที่ยะลาค่ะ ส่วนตัวโมเองกำลังจะไปเชียงใหม่ ไปเซอร์ไพรส์พี่อ๊อดที่เชียงใหม่ แล้วบังเอิ๊ญเห็นผู้ชายคนหนึ่งผมสีเขียวๆ แล้วคนผมสีเขียวน่าจะมีพี่อี๊ดเดอะดัสต์คนเดียว โมเลยจ้องมองแล้วก็เจอหลายคน งานนี้พี่เมย์ผจก.โมก็ไปด้วย ก็ถามพี่เมย์ว่าไปไหน พี่เมย์ก็บอกว่าเขากำลังมา เราก็เดินไปเช็กอิน พอเห็นพี่เมย์กับเขามาก็เดินเข้าไปทักปกติ”
“ก็ทักทายถามสารทุกข์สุขดิบ ไม่ใช่แค่คุยกับโมนะคะ โน่เองก็คุยกับพ่อด้วยแต่คนไม่ได้จับจ้องตรงนั้น อาจจับแค่ภาพโม กับพ่อเพื่อนโมเพื่อนสนิทโม โน่ก็ทักทายทุกคนค่ะ”
บอกลูบหัวเป็นโมเมนต์ที่น่ารัก ฝ่ายชายทำไปเพราะสัญชาตญาณคนเคยรัก
“ลูบหัวก็เป็นโมเมนต์ที่น่ารักดีค่ะ เราทำไปด้วยสัญชาตญาณของคนที่เคยรักกันนะคะ เพราะเราไม่ได้โกรธเกลียดกัน ไม่ได้เป็นศัตรูกัน ที่บอกว่าเราโผเข้าไปกอดเขา ต่างคนก็ต่างทักทายกันค่ะเหมือนเราไม่เจอใครนานๆ คนทั่วๆ ไปก็คงเป็นอยู่แล้ว กับญาติพี่น้องกับเพื่อนกับแฟน เวลาไม่เจอกันก็จะเป็นแบบนี้ ถ้าเกิดไม่เจอใครนานๆ ก็บอกว่าเป็นยังไงบ้าง ไม่เจอกันนานแล้ว คิดถึงจังเลย อะไรแบบนี้ค่ะ”
“เขาก็ไม่ตกใจนะคะ เพราะว่าเพื่อนๆ เขาเจอโมก่อนอีกค่ะ ถามว่าเราไม่ได้เจอกันนานแค่ไหน โหย โมจำไม่ได้เลยค่ะ นานมากแล้ว จำไม่ได้เลยค่ะ”
โนรีเทิร์น เหลือแค่มิตรภาพ ย้ำเป็นเรื่องราวดีๆ อย่าดราม่า!
“มันเป็นเรื่องที่ผ่านไปแล้วนะคะ โมอยากให้เป็นเรื่องของอดีตไป เราอยู่กับปัจจุบันดีกว่า ไม่ว่าตัวละครตัวไหนในเรื่องนี้ทุกคนชัดเจนหมดเลย มันก็มีแต่มิตรภาพดีๆ ความรู้สึกดีๆ ที่เราเลือกจะเก็บมันไว้ ต่างคนต่างตั้งหน้าตั้งตาทำงานกัน มันเป็นเรื่องที่ไม่ควรจะดราม่าด้วยซ้ำ มันเป็นเรื่องดีๆ เราก็หลงเหลือความรู้สึกดีๆ แบบนี้เอาไว้ดีกว่า รักกันดีกว่าเกลียดกันค่ะ ไม่ว่าใครก็ตาม คุณพ่อก็ไม่ได้ว่าอะไรเลยค่ะ”
ฟุ้งสายตาเป็นโน่คนเดิมที่เคยรู้จัก
“ความรู้สึกมันไม่กลับมาหรอกค่ะ แต่เราจะมีความรู้สึกในอีกแง่มุมหนึ่ง ตั้งแต่เราเลิกรากันไป เราไม่ได้เจอกัน เราก็ไม่ได้คิดไม่ได้วาดภาพ เราไม่ได้นึกมาก่อน เราไม่ได้วางแผน แต่พอได้เจอกันปุ๊บมันเหมือนกำแพงที่เราได้เสพจากข่าวถูกทำลายลง เหลือความรู้สึก แววตาที่รู้สึกว่านี่คือโน่ ไม่ใช่คนที่ต้องสวมบทบาทเพชฌฆาตดาวโจร เรารู้สึกว่านี่คือโน่ที่เราเคยรู้จักจริงๆ ส่วนเรื่องที่เขาพูดคำว่าแฟนเก่าเราก็ไม่ได้พูดค่ะ เพราะเราเจอกันมันสั้นมาก ต่างคนต่างต้องรีบขึ้นเครื่อง ต่างคนต่างไปสายค่ะ(หัวเราะ)
ประกาศไม่พร้อมมีรักใหม่ แต่อยากมีลูกเลย
“ตอนนี้โมไม่พร้อมที่จะมีใครนะคะ เอาไว้ก่อนดีกว่าค่ะ ด้วยปัจจัยหลายๆ อย่าง ด้วยทัศนคติของคนสมัยนี้ จะหาคนที่ตรงกับเราค่อนข้างยาก อยากมีลูกแล้วแต่ว่าคนที่พร้อมจะมีเลยต้องเป็นผู้ใหญ่หรือเปล่า หรือต้องเป็นคนที่เคยมีครอบครัวมาแล้วหรือเปล่า หรือว่าจะเป็นวัยรุ่นซึ่งต้องการมีลูกเร็วหรือเปล่า ซึ่งมันหายากค่ะ โมไม่ได้เน้นที่คุณวุฒินะคะ โมเน้นที่วัยวุฒิมากกว่า เพราะต้องยอมรับว่าเด็กบางคนที่อายุน้อย บางคนมีวัยวุฒิสูงกว่าโมอีก มีความเป็นผู้ใหญ่ มีความเป็นผู้นำมากกว่าโมด้วยซ้ำค่ะ”
“อยากมีลูกเพราะแก่แล้วค่ะ(หัวเราะ) คือโมแพลนมีลูกตั้งแต่อายุ 27 ค่ะ ตอนนี้มันเลยมา 5 ปีแล้วค่ะ(หัวเราะ) มีเข้ามาบ้างมั้ยก็ตามที่เห็นนะคะ แต่เราไม่ได้ไปเจาะจงว่าเขาจะเข้ามาแบบไหน ไม่ได้ตั้งใจดูหรือจับผิดว่าจะเข้ามาในเชิงไหน เพราะไม่ว่าใครจะเข้ามาในตอนนี้โมก็ให้ได้แค่เพื่อนพี่น้องเท่านั้นเองค่ะ”
อยากเพิ่มนน. เพราะผอมเกินไป โอดเห็นสภาพแล้วไม่ไหวเหมือนคนป่วย
“น้ำหนักลดเป็นเพราะว่าวันหยุดที่เราไม่ได้ไปกองถ่าย จากที่เรากินสามมื้อ อยู่บ้านเรากินแค่หนึ่งหรือสองมื้อ มันก็เลยผอมลงอัตโนมัติค่ะ มีคนทักค่ะ โมก็รู้สึกว่าตัวเองผอมเกินไป แต่เวลาเราทำงานมันจะพอดี แต่พอเห็นตัวจริงมันไม่ไหว มันดูไม่ได้ เหมือนเราป่วย อยากให้อ้วนกว่านี้อีกสักกิโลสองกิโลก็พอค่ะ(หัวเราะ)”