“ชาคริต” ปัดแยกบ้านอยู่กับ “วุ้นเส้น” เผยยังรักกันดี ชี้ทุกคู่ทุกมีกระทบกระทั่ง มีงี่เง่า แต่รักกันต้องให้อภัยกัน รับมีเวลาให้กันน้อย โหมงานหนักอยากให้ครอบครัวมั่นคง
ถูกเมาท์ว่ารักมีปัญหาเรื่อย ๆ ขาเตียงสั่นสะเทือนตลอดสำหรับคู่พระเอก “ชาคริต แย้มนาม” และ “วุ้นเส้น วิริฒิพา แย้มนาม” ล่าสุด ถูกเมาท์แรงว่าทั้งคู่ทะเลาะกันหนักถึงขั้นแยกบ้านกันอยู่กับภรรยาคนสวยเรียบร้อยแล้ว โดยหนุ่มชาคริตถึงกับหลุดหัวเราะ บอกทุกคู่ต้องมีปัญหา แต่ยืนยันยังรักกันดี
“นั่นนะสิ ก็ออกมาพร้อม ๆ กันกับตอนที่เดินถ่ายรูปเล่นกันอยู่ที่เมืองนอก ไม่มีอะไรจะตอบ (หัวเราะ) เจอแบบนี้ก็ไม่เบื่อหรอก คือ ก็อาจจะเป็นเพราะว่าที่ผ่านมามันมีหลายคนที่เขามีปัญหาแล้วก็เลิก แล้วบางคู่ก็อยู่ได้ ผมว่ามันก็เป็นธรรมดาของคนสองคน ถ้าเกิดแต่งงานกันแล้วอยู่ด้วยกันเรื่องกระทบกระทั่งเถียงกัน ความงี่เง่ามันมีอยู่แล้ว แต่ว่ารักกันก็ต้องให้อภัยซึ่งกันและกันแล้วก็ทำให้มันดีขึ้นตลอดเวลา ถ้าคนเราทำผิดก็ต้องรู้จักรับผิดแล้วก็ต้องทำให้เขาเห็นว่าเราเห็นคุณค่าในตัวเขา แล้วเราก็เป็นคนที่มีคุณค่าสำหรับเขาเหมือนกัน”
“เราไม่ได้ทะเลาะกันบ่อยนะ เพราะว่าต่างคนก็ต่างทำงานหนัก แต่ส่วนใหญ่จะเป็นโหมดเหนื่อยจากงานมากกว่า ถึงบอกไงว่า 3 เดือนนี้อัดงานให้เต็มที่แล้วเสร็จก็ปล่อยเลย ไปเที่ยว เพราะฉะนั้นพอเรื่องงานปุ๊บก็งานเขา งานเรา คือไม่ค่อยอะไรกัน ส่วนใหญ่ก็จะมา ถ้าปรึกษาเรื่องงานก็จะเป็นเรื่องร้านอาหารอะไรแบบนี้มากกว่า เพราะว่าพอในเรื่องละครอย่างนี้เราก็จะให้คำปรึกษาเขาได้บ้าง แต่ว่าอย่างอื่นเขาก็จะไปทำของเขาเราก็ไปทำของเรา ก็ต้องทำหน้าที่ของเราให้ดีที่สุด ตอนนี้ผมเองก็ต้องดูแลแม่ด้วย”
“เราก็คุยกันเรื่องข่าว เฮ้อ คนเขาก็คงอาจจะเห็นว่าช่องมันว่าง (หัวเราะ) ไม่รู้จะลงอะไร เราก็ยังหาเหตุผลไม่ได้ แต่ว่ามันก็เป็นสิ่งที่เป็นเรื่องธรรมดาครับ คนเรามันก็ต้องมีทั้งความสุขแล้วก็มีการปรับความเข้าใจกันบ้าง ทำไมโดนข่าวนี้บ่อย ๆ ก็นั่นน่ะสิ ก็ถือว่าขอบคุณแล้วกัน เขาน่าจะให้ความสนใจ (หัวเราะ)”
“มันก็สลับกัน เดี๋ยวหวานเดี๋ยวไม่หวาน อีกวันหนึ่งก็แฮปปี้หวานทำให้คนอื่นอิจฉาอย่างนี้ แต่เราก็อยู่กันอย่างนี้ เพราะว่าทุกคนตอนนี้ก็โฟกัสในเรื่องของงานมากกว่า นี่เดือนครึ่งผมก็บินคุยเรื่องงานไม่รู้กี่รอบแล้ว พอกลับมาเขาก็ไปเที่ยวกับเพื่อนอะไรแบบนี้ พอกลับมาจากอเมริกาเขาก็ได้พักผ่อน แต่ว่าเราเองก็กลับมาลุยงานต่อเดี๋ยวพรุ่งนี้ก็กลับแล้ว”
ดี๊ด๊าแม่ป่วยอาการดีขึ้น ถึงเวลารับช่วงงานต่อ
“คุณแม่ป่วยครับตอนนี้ ก็ดูแลสุขภาพครับก็ไม่มีอะไร เขาก็เห็นเวลาไปเยี่ยมคุณแม่ก็ไปด้วยกันครับ ก็คงไม่น่าถามอะไรคนในบ้านก็ไม่มีใครถาม เพื่อน ๆ ก็ไม่ได้มีอะไร”
“คุณแม่อาการดีขึ้นเยอะเลย เดินพูดได้อะไรได้ แต่ว่าต้องระวังคือถ้าเกิดเขาล้มไปหรือว่าอะไรอีก คือเลือดในสมองมันจะมีการกระทบกระเทือนแล้วก็เลือดซึมได้ง่ายกว่าคนปกติหลายเท่า เพราะฉะนั้นมันเป็นเรื่องของการประคบประหงมเขามากกว่า แต่ตอนนี้เขาก็สนุกสบาย เพราะว่าหลังจากนี้ผมเป็นคนทำทุกอย่างที่บ้านแทนเขาหมดแล้ว แม้แต่เซ็นเอกสาร เขาก็ให้เราทำเองทุกอย่าง (หัวเราะ) ก็ดีครับ เขาจะได้ไม่เครียด เมื่อก่อนเขาจะทำไฟแนนซ์อยู่กับการเงินตลอด พอตอนนี้มาปุ๊บถามว่าเครียดมั้ย เขาก็ตอบว่าไม่ แฮปปี้ บางวันก็จะไปเที่ยวโน่นเที่ยวนี่ ก็เห็นว่าได้มอบหมายหน้าที่ให้เราหมดแล้ว ก็ดีเราก็ต้องมาเรียนรู้งานของที่บ้านบ้างแล้วก็จะได้โตซักที (หัวเราะ) มันถึงเวลาแล้ว”
“ก็มาทำตรงนี้เต็มตัวด้วย ๆ เพิ่งรู้ว่าการทำงานเอกสารมันปวดหัว (หัวเราะ) อ่านก็ไม่ค่อยจะคล่องก็ต้องมีผู้ช่วยคอยดูให้ทั้งวันเลย แต่ว่าถึงเวลาเรียบร้อยเราก็เซ็นไป หลายอย่าง แล้วก็ธุรกิจที่ทำอยู่ช่วงนี้ก็เหนื่อยหน่อย”
โอดมีเวลาให้เมียน้อย แต่ขอทำทุกอย่างเพื่อให้ครอบครัวมีความสุข - มั่นคง
“ก็มีเวลาให้วุ้นน้อยด้วย แต่ว่าพอมีเวลาปุ๊บก็เอาเต็มครับ อย่างน้อยก็ดูหนังกินข้าว ก็ยังโชคดีอย่างเวลาที่ผมทำงานมันค่อนข้างจะหลายชั่วโมงนะ อย่างวุ้นเองก็โชคดีที่เพื่อนเขาน่ารัก เวลาเขาเสร็จงานก็ยังไปเจอเพื่อนเจออะไร เพราะกว่าเราจะเสร็จงานบางทีก็เที่ยงคืนตีหนึ่งอะไร”
“เดี๋ยวนี้มีร้านอาหารอีกใช่มั้ย 3 ร้านแล้ว กำลังจะทำร้านที่ 4 ครับ ไม่รู้จะทำไปทำไม (หัวเราะ) มันก็เยอะเกิน แต่ว่าก็เหนื่อยตอนนี้ดีกว่าที่จะไปเหนื่อยตอนแก่ ก็ทำทุกอย่างเพื่อครอบครัวให้มันมีความสุขและมั่นคงครับ”