xs
xsm
sm
md
lg

“ชาคริต” โต้กลับไปใช้ชีวิตเสเพล! ขอบคุณข่าวช่วยดึงสติ วันนี้ยังรัก “วุ้นเส้น”

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


“ชาคริต” ฟุ้งทุกอย่างกลับมาแฮปปี้ ยกมือไหว้ขอบคุณข่าว ทำให้สถานการณ์ความรักดีขึ้นเรื่อย ๆ โต้กลับไปติดเหล้า - รักสนุก บอกเรื่องเก่า ใช้ชีวิตมาคุ้มแล้ว ยันถอยห่าง “วุ้นเส้น” เพื่อปรับตัว ส่วนชีวิตตนไม่ได้ต้องการอิสระ วอนอย่าวิจารณ์สนุกปาก สงสารแม่จิตใจเปราะบาง รับภูมิใจในตัวเอง แข็งแรง - จัดแจงทุกอย่างได้ ไม่บ้าทำทุกอย่างเละเทะ

เรียกได้ว่าตอนนี้สถานะครอบครัวยังคงง่อนแง่น สำหรับคู่ของพระเอกหนุ่ม “ชาคริต แย้มนาม” กับภรรยาสาวสุดเซ็กซี “วุ้นเส้น วิริฒิพา ภักดีประสงค์ แย้มนาม” ที่ตอนนี้ทั้งคู่ยังคงแยกกันอยู่ จนทำให้เกิดกระแสวิจารณ์มากมาย ล่าสุด หนุ่มคริตเผยว่าความสัมพันธ์ดีขึ้น

“ตอนนี้ดีครับ ไม่มีอะไร เวลามันลงมันก็ต้องขึ้น กระทบกระทั่งมันมีทุกบ้านแหละ พอมันเป็นเรื่องของอารมณ์มันก็ไม่มีทางจะดีขึ้นได้ แต่เราหยุดย้อนกลับมาดูตัวเอง ย้อนมาดูภาพรวมว่าเรารักกัน มันก็ต้องดีขึ้นอยู่แล้ว เราคุยกันตลอดครับ แต่เราแค่พูดในเรื่องของสัจธรรมชีวิต จริง ๆ ต้องขอบคุณข่าวซะมากกว่า พอมีข่าวมีคนเข้ามาคอมเมนต์ เราก็เริ่มคิดว่ามันชักไปกันใหญ่ เราจะทะเลาะกันทำไม เรารักกันดีกว่า ก็เลยจบ ยิ้ม แฮปปี้ ช่วงความสุขมันมีเยอะกว่าเยอะ สถานการณ์มันดีขึ้นเรื่อย ๆ อยู่แล้ว คนเราถ้ามันเหนื่อยจากงาน มันล้า ก็ต้องมีเรื่องเอาแต่ใจกันบ้าง แต่สุดท้ายเรารักกันยังไงก็หนีไม่พ้นอยู่แล้ว”

“ถ้าว่างก็ต้องรีบมาเจอกันแล้วครับ เพราะทำงานหนักทั้งคู่ ถ้าเจอกันก็ถ่ายรูปคู่ตลอดนะ แต่บางทีมันไม่ค่อยได้อัป นอกจากจะไปเที่ยวเมืองนอกจริง ๆ ถึงจะถ่าย เพราะกิจวัตรประจำวันก็อยู่หน้ากล้องทุกวัน มันก็เลยไม่มีอะไรตื่นเต้น แต่ถ้าเกิดเราไปเมืองนอกมีวิวสวย ๆ อาหารอร่อย ๆ ซึ่งเดือนหน้าก็จะมีไปเที่ยวก็คงจะได้อัปรูปแน่ ๆ อยู่แล้ว ถามว่ากดดันมั้ย จริง ๆ มันก็ดีนะ มันเตือนสติให้เราว่าบางทีเราใช้อารมณ์มาก คนเรามันเพื่อตัวเองกันทุกคนแหละไม่มีใครไม่รักตัวเอง ไม่เอาแต่ใจหรอก แต่พอมีคนคอยให้กำลังใจ คอยจับตาดู มันทำให้เราต้องย้อนกลับมาดูตัวเอง และเบรกตัวเองเร็วขึ้น ว่าจริง ๆ แล้วเรารักกันนะ จะทะเลาะกันทำไมวะ ก็ต้องขอบคุณด้วย (ยกมือไหว้)”

ยอมรับปัญหาเกิดจากความง้องแง้งกันทั้งคู่ วอนขอให้เพลา ๆ ข่าวกันหน่อย บอกสงสารแม่
“ทุกอย่างที่มันเกิดขึ้นก็เพราะมันง้องแง้ง งอแงจากรักกัน ไม่ใช่เจตนาร้ายใส่กัน แค่บางครั้งง้องแง้งกันมากไป มันก็เหนื่อยเหมือนกัน เพราะเราทำงานกันเยอะทั้งคู่ ก็เหนื่อยทั้งคู่ เพื่อน ๆ ทุกคนก็เป็นกำลังใจให้หมด แต่ด้วยหน้าที่ของผมมันไม่ใช่แค่งาน ไม่ใช่แค่คู่ครองอย่างเดียว มันมีคุณแม่ด้วยซึ่งสำคัญที่สุด ผู้ให้กำเนิดเรา ซึ่งเขาก็ป่วย เขาเลี้ยงเรามาขนาดนี้ก็ถึงเวลาที่เราจะต้องทดแทนบุญคุณ ก็ขอโฟกัสตรงนี้เป็นหลักเหมือนกัน เพราะว่าสุขภาพจิต สุขภาพใจของเขาค่อนข้างเปราะบาง ก็ต้องดูแลตรงนี้ให้ดี”

“ผมก็ทำงานแบบนี้มานานแล้วนะ ผมยืนอยู่ตรงนี้คนที่รักก็มี คนที่อยากจะโจมตีมันก็คงมี เราก็ไม่เคยไปยุ่งอะไรกับเขานะ ก็สุดแล้วแต่ ดูวิถีการทำงานก็รู้อยู่แล้ว ผมทำงาน กลับบ้าน ดูแลแม่ คือ เห็นกันมานาน ผมเองก็โดนอะไรมาเยอะมาก และผมก็เป็นคนไม่ค่อยเอาเรื่องส่วนตัวมาพูด เพราะชีวิตผมมันไม่มีอะไรเลย คนทำงาน ฉะนั้นระยะเวลาก็เป็นสิ่งที่บอกทุกอย่างมาทุกครั้ง แต่ตอนนี้ก็ขอเบรก ๆ บ้าง เพราะมันก็มีผลกระทบต่อครอบครัวกับสิ่งที่มันเปราะบางอยู่ตอนนี้ โดยเฉพาะเรื่องของคุณแม่ สนุกปาก สนุกนิ้วที่จะพิมพ์ที่จะเขียนกัน ก็คิดกลับกันนิดหนึ่งว่าถ้าเกิดเป็นคุณแล้วคุณจะรู้สึกยังไง สนุกได้ แต่ถ้าเกิดยังมีสัจธรรมกันอยู่ก็ขอไว้นิดหนึ่ง เรื่องของคนสองคนมันไม่ได้มีอะไรหรอก อย่ามโนกันไปเยอะ”

“คือบางทีคนเป็นห่วงเราก็ โทร.หาแม่ เขาก็ตอบอะไรไม่ได้เยอะ เพราะเขาอยู่ในช่วงเริ่มหัดพูด เริ่มรื้อฟื้นสมองหลาย ๆ อย่าง บางทีเขาอยากจะพูดก็พูดไม่ได้ บางทีก็เหมือนทำร้ายกันเกินไป ก็ขอไว้ด้วยแล้วกัน เพราะธรรมดาแล้วผมไม่เคยมาอะไรแบบนี้ แต่กว่าจะมาถึงจุดนี้ได้ หัวใจของลูกคนหนึ่งที่ต้องดูแลเขาให้ดีที่สุด”

“ถามว่าน้อยใจมั้ยก็ไม่หรอก เพราะเขาก็ไม่ได้มีผลอะไรกับเรา เพราะผมก็ทำดีที่สุดในแต่ละวันกับการทำงานกับสิ่งที่เราต้องรับผิดชอบ ไอ้เรื่องที่จะรักสนุกอะไรเนี่ย ผมว่ามันเป็นเรื่องเก่าแล้ว เราอายุขนาดนี้แล้ว เราผ่านมาหมดแล้วล่ะ ถ้าจะมาบอกว่ากินเหล้าเมาโน่นนี่ โอ้โห อายุ 38 ใช้ชีวิตมาขนาดนี้ถ้าไม่เคยก็คงตลก แต่มันก็เป็นช่วงหนึ่งของชีวิตที่ต้องผ่าน แต่มาถึงจุดนี้แล้วจะมานั่งรักสนุก ผมว่าผมใช้ชีวิตคุ้มเกินคุ้มมาแล้ว ผมคงไม่ต้องกลับไปคิดถึงมันขนาดนั้น”

“จะอธิบายให้แม่ฟัง ก็ยากนะ เพราะเราต้องทำงาน แต่ตราบใดที่เรายังยิ้มอยู่ มันก็เป็นกำลังใจที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของเขา เพราะเขาเองก็มีเราอยู่คนเดียว เราเองก็มีเขาอยู่แค่คนเดียว มันคือวิถีชีวิต ไม่มีใครอยากให้เป็นแบบนี้หรอก มันไม่ได้สนุกเลย แต่เมื่อมันเป็นแบบนี้แล้ว ด้วยความที่เราเป็นลูกก็ต้องทำทุกวิถีทางที่จะต้องดูแลเขาให้ดีที่สุด ทั้ง ๆ ที่เวลาก็น้อย งานก็หนัก และด้วยความที่สติการรับรู้ของเขามีครบ เขาก็ห่วงเราเหมือนเดิม ไม่ว่ายังไงเราก็ลูกเขา แต่ตอนนี้มันอาจจะมีในเรื่องของการสื่อสารที่มันค่อนข้างลำบาก มันก็ค่อนข้างอึดอัดนะ เวลานึกแล้วคำพูดมันไม่มา มันมาแต่น้ำตา เราเห็นก็ทุกข์นะ จะว่าหนักสุดในชีวิตผมก็ได้ ตั้งแต่ต้นปีมาหลายสิ่งที่มันเกิดขึ้นผมว่าผมก็ภูมิใจในตัวเองระดับหนึ่งนะ ที่ผมแข็งแรงและจัดแจงทุกอย่างได้ ไม่ใช่เป็นบ้าทำทุกอย่างเละเทะไป ก็พิจารณากันก็แล้วกัน (ยิ้ม)”

เผยยังไม่มีกำหนดกลับมาอยู่ด้วยกัน แต่คนรักกันยังไงก็หนีไม่พ้น
“ถามว่ามีกำหนดกลับมาอยู่ด้วยกันหรือยัง ก็ไปเรื่อย ๆ กับชีวิตแหละครับ จะมากำหนดอะไรแบบนี้มันไม่ใช่เกม มันเป็นช่วงจังหวะหนึ่งของชีวิตที่มันก็ต้องมีห่างกันบ้าง ถึงเวลาด้วยความรักมันก็ต้องกลับมาอยู่ด้วยกันอยู่แล้ว ถ้าเกิดเรายังไปได้ คนมันรักกันก็หนีกันไม่พ้นหรอก มันก็ต้องกลับมาดีอยู่แล้ว ทุกอย่างเกิดขึ้นจากความรัก ก็ต้องทำให้มันดี คงไม่ทำอะไรให้มันแย่อยู่แล้วล่ะ”

“ผมว่าทุกคนมีความรักอิสระ ถ้าเราต้องการอิสระในชีวิต แต่ผมไม่ได้ต้องการ และผมก็ไม่มีทางติดสุขกับการที่ผมมีความอิสระ เพราะชีวิตผมเหมือนเดิมเลย ผมทำงานทุกวัน ว่างก็กินข้าว ดูหนังกับภรรยา ฉะนั้น มันก็ไม่ได้เปลี่ยนเยอะ สุดท้ายพอได้ไปเที่ยวมันก็ได้ใช้ชีวิตปกติ เราทำงานกันคนละเวลา ต้องการพักผ่อนกันอย่างเต็มที่ ฉะนั้น เวลามันอะไรขึ้นมาเราก็ถอยกันก่อนดีกว่า เพราะต้องตื่นมารับผิดชอบงานกัน มันก็แค่นี้แหละ ไม่ได้มีอะไร”






กำลังโหลดความคิดเห็น