xs
xsm
sm
md
lg

“พลอย” รับเป็นคนประกาศขายบ้านเอง เอ่ยปากขอซื้อบ้านต่อ “ปีเตอร์” แต่ถ้ายกให้ลูกก็จะเป็นพระคุณ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


“พลอย พลอยพรรณ” รับประกาศขายบ้าน ปี 57 แต่ตัดสินใจร่วมกับ “ปีเตอร์” อ้างท้องลูกคนแรก ขึ้นลงบันไดบ้าน 5 ชั้นไม่ไหว ขอโทษอีกฝ่ายปากไวด่าออกสื่อ ลั่นต่อจากนี้จะเลิกพาดพิง เผยอยากให้อดีตสามียกบ้านให้ลูก พ้อจิตตกถูกด่าตอแหล - อีเชอรี่ อัดเว็บไซต์ขายบ้านทำสิ่งที่ไม่ถูกต้อง

มหากาพย์ดราม่า ที่ยังไม่จบง่าย ๆ กรณี “พลอย พลอยพรรณ ทวีรัตน์” ออกมาฉะ “ปีเตอร์ คอร์ป ไดเรนดัล” ผ่านสื่อ บอกอีกฝ่ายประกาศขายบ้าน ทั้งที่ตนและลูกยังอยู่ ก่อนเรื่องจะหักมุมหลังหนุ่มปีเตอร์โร่ขึ้น สน. แจ้งความเอาเรื่องมือโพสต์ขายบ้าน โดยยืนยันตนไม่รู้เรื่อง ในเวลาต่อมาเจ้าของเว็บไซต์ประกาศขายบ้านได้ออกมาเผยว่า คนที่ฝากขายบ้าน คือ พลอยเอง ซึ่งฝากขายไว้ตั้งแต่ปี 57 ยืนยันไม่ได้ทำโดยพลการแน่นอน

ล่าสุด พลอยได้ออกมาเคลียร์ถึงประเด็นร้อนดังกล่าวในรายการไนน์เอ็นเตอร์เทน ช่องโมเดิร์นไนน์ทีวี หลังถูกชาวเน็ตวิพากษ์วิจารณ์ถึงกระแสดังกล่าวมากมาย ถูกด่าตอแหล หน้าอย่างหลังอย่าง แถมยังเหน็บแรงว่าเป็นเชอรี่ ซึ่งเป็นตัวละครหนึ่งในซีรีส์เพื่อนรักเพื่อนร้าย โดยเจ้าตัวยอมรับว่า ถูกด่าจนทำเอาจิตตก ยอมรับเป็นคนฝากขายบ้าน แต่เป็นการตัดสินใจร่วมกันระหว่างตนและหนุ่มปีเตอร์ ซึ่งปัจจุบันตนไม่ได้ต้องการที่จะขายแล้ว เอ่ยปากขอโทษอดีตสามีที่ทำให้ถูกมองไม่ดี

“จนตอนนี้หนูก็ยังไม่เข้าใจเลยว่าอะไรคืออีเชอรี่ ก็ต้องมานั่งถามคนอื่น เพราะว่าคำด่าสมัยนี้มันพัฒนามาก (หัวเราะ) หนูจะบอกเลยว่าการใช้ชีวิตของหนูในหนึ่งอาทิตย์มีอะไรบ้าง มีบิน มีทำงานข้างนอก มีเลี้ยงลูก ถ้าเผื่อจะถามว่าหนูเอาเวลาไหนไปคิดไม่ดี หรือคิดที่จะตอแหลกับคนอื่น หนูเอาเวลาไปทำงานหาเงินดีกว่า เพราะฉะนั้นถ้าจะบอกว่าหนูเป็นคนที่มีหน้ากับหลังไม่เหมือนกันเนี่ย เอาไว้ลองให้คนที่รู้จักพลอย หรือคนที่ติดตามกันมาตั้งนานแล้วจะรู้เลยว่าการใช้ชีวิตพลอยมันค่อนข้างแน่นมาก ไม่มีเวลาไปเล่นสนุก ไปหาเรื่องใส่คนอื่นมันไม่ได้อยู่ในสารบบพลอยเลย ตลอดเวลาคิดแต่เรื่องลูกกับเรื่องงานตลอดค่ะ”

ไม่ขอพาดพิงปีเตอร์ เผยก่อนพูดคิดน้อย ยอมรับถูกครอบงำด้วยความเครียดและเหนื่อย
“เพราะที่ผ่านมาพลอยต้องบอกเลยว่าพลอยเหนื่อยมาก เหนื่อยกับการที่มันมีปัญหาต่อเนื่องมานานและไม่ได้รับการมาคุยสักที มันเลยทำให้พลอยรู้สึกอึดอัด และบางทีการให้ข่าวกับสื่อมันเป็นความรู้สึกอึดอัดที่มันอยู่ในใจที่บางทีมันเก็บไม่ไหวแล้ว ก็เลยออกมาพูดบ้าง แต่ว่าพอในจุดหนึ่งพลอยได้คุยกับรุ่นพี่ เขาก็บอกว่าพลอยคิดอะไรตอบดี ๆ ที่ผ่านมาตอบดีมาตลอด ใช้สติมาตลอด แต่หลัง ๆ มันหายไปไหน”

“หนูก็เลยมานั่งคิดว่ามันก็จริงว่าคนนั้นมันหายไปไหน คนที่จะทำเพื่อลูกมันหายไปไหน ตอนนี้มันครอบงำด้วยความเหนื่อย ความเครียดมาตลอด ทำให้บางทีหนูพูดอะไรอาจจะคิดน้อยเกินไป หรือการที่หนูบอกว่าพี่เตอร์จะขายบ้าน อันนั้นหนูต้องขอโทษพี่เตอร์ ณ ตรงนี้เลยนะคะ เพราะพี่เตอร์มีความคิดที่จะขายบ้าน อันนี้เราเคยคุยกันเองค่ะ และพอมาเห็นข่าวว่ามีการประกาศขายบ้าน หนูจะไปคิดว่าคนอื่นจะมาขายบ้านหลังนี้ไม่ได้นอกจากเจ้าของบ้านเขาเอง อันนี้มันเป็นความผิดของหนูเองที่ไม่ได้ดูให้เรียบร้อยว่าตรงนี้มันมาจากใคร”

ยืนยันเป็นการตัดสินใจขายร่วมกันระหว่างตนและอดีตสามี ตั้งแต่ปี 57 ซัดนายหน้าทำสิ่งที่ไม่ถูกต้อง
“ต้องขอเกริ่นเรื่องไปตั้งแต่ 2 ปีที่แล้วนะคะ ตั้งแต่พลอยยังท้องลูกคนแรกอยู่ วันนี้พลอยก็ทำการบ้าน นำหลักฐานมาเยอะมาก (ยิ้ม) คือเมื่อวานนี้ที่พลอยยังเงียบอยู่ เพราะว่าพลอยต้องการว่าสิ่งที่พลอยจะมาออกวันนี้ต้องเป็นสิ่งที่ดีที่สุด และเป็นข้อมูลที่จะมาอธิบายให้ทุกคนฟังได้ดีที่สุดเลยเงียบไป เมื่อวานทุกคนเลยแค่พอเห็นหัวข้อข่าวก็จู่โจมเข้ามาเลย เราอ่านเสร็จก็อึกอัก ๆ แต่ก็รู้ว่าไม่ใช่ช่วงเวลาที่จะมานั่งเศร้า หรือมีเอฟเฟกต์กับข้อความที่มีคนด่าว่าเรา”

“พลอยก็ใช้เวลาตรงนี้ในการหาข้อมูลเลย ก่อนอื่นพลอยต้องบอกก่อนว่าพลอยอยากจะคุยกับคนที่เขาลงประกาศตรงนี้ ซึ่งก่อนหน้านี้พลอยควรทำ แต่พลอยไม่ได้ทำ อันนี้ก็เป็นความผิดของพลอยด้วย และเมื่อวันก่อนพลอยเห็นคุณปีเตอร์ไปฟ้อง พลอยก็เลยสงสัยว่าคือใคร และคุ้น ๆ ว่ารูปนี้เป็นรูปที่หนูเคยใช้ เป็นรูปที่หนูถ่ายเอง ฉะนั้นรูปตรงนี้ต้องมาจากหนูแน่ ๆ หนูก็เลยลอง โทร.ไปถามนายหน้าท่านนี้ คือ เรื่องมันเกิดตั้งแต่ปี 57 ตอนที่พลอยกำลังตั้งท้องลูกคนแรก ตอนที่ยังอยากมีครอบครัวที่ดีกันอยู่ บ้านหลังนี้เป็นบ้าน 5 ชั้น ขึ้นเดินลงบันไดมันยากมากสำหรับคนท้อง ฉะนั้นพลอยกับพี่เตอร์เลยมีความเห็นว่าบ้านหลังนี้ควรจะขาย ไม่ใช่ความคิดของพลอยคนเดียวนะคะ พี่เตอร์ก็เคยให้สัมภาษณ์กับสื่อด้วยว่าจะขาย ซึ่งมูลค่าบ้านคือ 23.5 ล้าน”

“เราขายผ่านนายหน้าหลายที่มาก และพลอยได้ลงประกาศในเว็บบางเว็บเองด้วยนะคะ คือ มีช่องทางไหนที่ประกาศขายได้เราก็ไปโพสต์ไว้หมด คือ พลอยไปฝากประกาศขายจริง แต่มันเมื่อ 2 ปีที่แล้ว ไม่ใช่ล่าสุด แต่เป็น 2 ปีที่แล้วที่ไม่ได้คุยกับนายหน้าคนนี้ แต่ที่เขาเอามาโพสต์ใหม่เมื่อประมาณเดือนกว่าที่แล้ว โดยที่เขาบอกว่าเขาติดต่อพลอยแล้ว แต่ติดต่อพลอยไม่ได้ โดยที่เขายังไม่ทราบเลยว่าบ้านหลังนี้ยังอยู่ หรือขายไปหรือยัง ซึ่งตอนนี้มันอาจจะเป็นเจ้าของใหม่ไปแล้วก็ได้ ถ้าให้มองในมุมเขา เขาอาจจะบอกว่า เขาไม่รู้นี่ว่าพลอยเป็นใคร ซึ่งมันก็อาจจะเป็นไปได้”

“เพราะฉะนั้นแต่การที่เขาติดต่อพลอยไม่ได้ ไม่ได้หมายความว่า บ้านหลังนี้ คุณยังขายได้อยู่ (หยิบหลักฐานไลน์ที่คุยกับนายหน้าคนอื่นมาโชว์) อันนี้เป็นตัวอย่างที่พลอยคุยกับนายหน้าที่พลอยคุยอยู่ด้วยตลอด เขามาอัปเดตตลอดว่าคุณพลอยสวัสดี ยังสนใจขายบ้านอยู่มั้ยครับ ซึ่งอันนี้ไม่ใช่เจ้าที่มีปัญหา แต่เป็นตัวอย่างของการติดต่อขายบ้านที่ถูกต้อง พลอยก็จะบอกว่าตอนนี้ยังไม่สะดวกเลยค่ะ ยังไม่ได้บ้านใหม่ อันนี้คือตัวอย่าง พอเดือนเมษายน เขาก็มาถามพลอยอีกว่า มีลูกค้าสนใจนะครับ ซึ่งพลอยก็บอกไปว่าพลอยยังรอคำตอบจากสามีอยู่เลยค่ะ เพราะเขาย้ายออกไปแล้ว ยังไม่ได้ติดต่อกลับมา จนมาครั้งสุดท้ายเขาก็มาถามพลอยอีกว่า ยังสนใจจะขายบ้านอยู่มั้ยครับ มีลูกค้าติดต่อมาอีกแล้วนะครับ พลอยก็บอกว่ายังค่ะ ยังตกลงกับสามีไม่ได้ ซึ่งเป็นวิธีที่นายหน้าปกติต้องทำกัน ซึ่งเขามีการติดต่ออัปเดตค่ะ วันนี้ถ้ามีเวลาพลอยจะมีตัวอย่างบริษัทขายบ้านว่าวิธีที่ทำกันอย่างถูกต้องคือยังไง”

ณ วันนี้พลอยไม่ได้ประกาศขาย พี่ปีเตอร์ก็ไม่ได้ประกาศขาย อันนี้เป็นความตั้งใจที่จะขายบ้านเมื่อ 2 ปีที่แล้ว แต่ว่าเมื่อไม่นานมานี้ พี่เตอร์เองก็ออกมาบอกว่าเขาอยากจะขายบ้าน อันนี้มันอาจจะเป็นเรื่องที่ทำให้เกิดความเข้าใจผิด แต่พลอยไม่ขอโทษใครเลย พลอยต้องโทษตัวเองก่อนเลยที่เราไม่ได้เช็กข้อมูล และไปพูดพาดพิงพี่ปีเตอร์ออกสื่อด้วย มันไม่ใช่สิ่งที่พลอยควรจะทำเลย ในการไปว่าเขาก่อนที่พลอยจะเช็กข้อมูลให้เรียบร้อย แต่พอมานั่งดูตรงนี้แล้วถามทางนายหน้าเอง เขาทำถูกต้องตามหลักวิธีที่ถูกต้องมั้ย ต้องบอกว่า มันยังไม่ใช่”

บอกถูกด่าจนจิตตก แต่เข้มแข็งไม่ร้องไห้
จิตตกมาก แต่ถามว่าร้องไห้มั้ย ไม่ร้องไห้นะ ถามว่าหนูเศร้ามั้ย หนูเหนื่อยมาก หลัง ๆ คือ หนูบินเยอะมาก เดือนที่แล้วหนูบิน 5 วันติด 7 วันติด เพราะรายได้ของพลอยส่วนหนึ่งมาจากการเป็นแอร์โฮสเตส แต่หลัก ๆ หนูมีขายคอลลาเจน มียาดม ยาหม่องที่สกัดมาจากใบย่านาง ขายเค้กนำเข้าจากอเมริกา มีทำร้านพิซซ่า ลองดูว่าด้วยเวลาทั้งหมด หนูจะเอาเวลามานั่งหาเรื่องใส่ตัวแบบนี้มั้ย หนูทำงานไปออกรายการ ออกอีเวนต์ ถ่ายโน่น ถ่ายนี่ตลอดเวลา”

“ต้องมาดูรูปตรงนี้นะคะ (ยกหลังฐานรูปอีเมลที่คุยกับนายหน้า) มันบอกว่า ปี 57 เดือนตุลาคม ซึ่งทางนายหน้าด้านโน้นก็มีแบบนี้ เป็นแบบเดียวกันเหมือนกัน ตอนนั้นที่ประกาศขาย เพราะพลอยยังอยู่กับพี่เตอร์ และอยากจะเปลี่ยนบ้าน ถ้าเขาจะบอกว่า เขาติดต่อพลอยทางโทรศัพท์ไม่ได้ เลยโพสต์ไป มันไม่ใช่ เพราะเขาติดต่อกับพลอยผ่านอีเมล์ตลอด ให้ติดต่อมาทางอีเมล์ที่คุยกับพลอยสิคะ และพลอยเคยประกาศขายไว้ในเว็บไซต์ทรีจีไฮโซด้วย ซึ่งเขา (นายหน้า) ได้เข้ามาเจอพลอยในนี้ แสดงว่าเขาต้องรู้วิธีการติดต่อกับพลอย เขาต้องรู้อยู่แล้วว่ามีเฟซบุ๊ก อาจจะไม่รู้ว่าพลอยคือใคร แต่เขาต้องรู้ว่าเฟซบุ๊กนี้สามารถติดต่อกับพลอยได้ ทำไมไม่ติดต่อผ่านเฟซบุ๊ก (เขาออกจดหมายมาและขอโทษที่เข้าใจผิด และเอาประกาศขายบ้านลงเรียบร้อยแล้ว?) ถูกต้องค่ะ”

อัดเข้าใจผิดได้แต่ความรับผิดชอบต้องมี บอกข่าวนี้กระทบภาพลักษณ์ทำให้ตนเสียหาย
“ความเจ้าใจผิดมันเป็นได้ แต่ความรับผิดชอบต่อความเข้าใจผิดที่ทำ อันนี้เป็นเรื่องสำคัญ อันนี้มีผลกระทบหลายฝั่ง สมมติพลอยเข้าใจผิดว่าพี่เตอร์เป็นคนขาย พลอยออกมายอมรับความผิด และพลอยขอโทษ แต่ว่าการที่เขาออกมาพูดตรงนี้ แล้วไม่ได้มีความรู้สึกผิดกับสิ่งที่เกิดขึ้นเลย ถ้าจะถามว่ารับผิดชอบมั้ย อาจจะไม่ได้รับผิดชอบก็ได้ เพราะมันยังไม่มีใครเสียหายเท่าไหร่”

“แต่ว่าการที่ทำให้คนอื่นเข้าใจผิดเยอะ ทำให้ภาพลักษณ์ของหนูเสียหาย เพราะหนูทำงานต้องเจอคนบนเครื่องบิน ไม่ต้องมาบอกว่าหนูเป็นคนก็ได้ เพราะหนูไม่ใช่ ไม่จำเป็นเลย ถ้ามีคนมีคนมาว่าหนูว่าตอแหล หนูจะตอบผู้โดยสารว่ายังไง ที่สำคัญ หนูทำธุรกิจ ภาพลักษณ์ความน่าเชื่อถือ ซึ่งที่หนูต้องรีบออกมาพูดวันนี้ เพราะหนูกลัวว่าประเด็นมันจะจบแล้วทุกคนจะมีภาพจำของหนูแบบนั้น ติดตาครั้งสุดท้ายไป”

“หนูอยากจะบอกว่าหนูเหนื่อยมาก ตอนที่หนูยังไม่ได้บิน หนูยังมีเวลาเลี้ยงลูก มีเลี้ยงอยู่กับลูกมากขึ้น ตอนนี้ลูกก็อยู่กับพี่เลี้ยง เพราะพอหนูกับมาบิน ธุรกิจส่วนตัวกับการเลี้ยงลูกยังต้องมีอยู่ ก่อนหน้านี้หนูเป็นคนที่ยังไม่ต้องมาทำงานเยอะขนาดนี้ แต่ปรากฏว่าพอมันมีลูก 2 คนที่หนูต้องรับผิดชอบ หนูต้องทำงานให้เยอะขึ้นสมกับค่าใช้จ่ายที่จะเกิดขึ้น”

รับอยากให้ปีเตอร์ยกบ้านให้เป็นสมบัติลูก
“ถามว่าบ้านที่อยู่ในเมืองจำเป็นกับหนูมั้ย ไม่จำเป็น เพราะหนูเป็นคนทำงานนอกเมืองอยู่แล้ว หนูสามารถอยู่ที่อื่นได้ แต่ในแง่ของลูก โรงเรียนอนุบาลของลูกที่ดี ๆ หนูอยากให้โรงเรียนอยู่ใกล้บ้านลูก เพราะเมื่อตอนเด็ก ๆ หนูต้องตื่นตี 4 ไปโรงเรียนทุกวัน หนูต้องนอนในรถตลอด บางทีกว่าจะกลับ ถึงบ้านใช้เวลา 3 ชม. หนูไม่อยากให้ลูกมาเจอสภาพเดียวกัน บ้านหลังนี้อาจจะเผื่อให้ลูกเรียนไปอีกสักพักหนึ่ง ถ้าเผื่อว่ามีโรงเรียนที่เหมาะสม เราค่อยว่ากันอีกที ถ้าเขาให้อยู่ก็ขออยู่แล้วกัน”

“ถ้าพี่ขายต่อหนูในราคาที่พี่เอากำไรมั้ยคะ (หัวเราะ) ถ้าเผื่อพี่ไม่เอากำไรมาก หนูซื้อต่อพี่ ถามว่ามีกำลังซื้อมั้ย หนูก็คงต้องผ่อนและทำงานหนัก แต่ตรงจุดนี้หนูยังคิดว่าบ้านจำเป็นสำหรับชีวิตลูกอยู่ ถึงแม้ว่ามันจะอยู่ลำบากก็ตาม ลูกหนูขาสั้นแค่เนี้ย ต้องเดินขึ้นบันได 5 ชั้นไปนอนทุกวัน แต่มันก็ยังดีกว่า ให้ลูกอยู่ใช้ชีวิตอยู่บนรถติด 3 ชม. ไปโรงเรียนทุกวัน อันนั้นไม่ไหว”

“หรือถ้าเขาจะขายให้หนูในราคาถูก อันนี้ไม่ใช่ไอเดียหนูนะ เป็นพี่ (นักข่าว) ถามหนู (หัวเราะ) ก็ถ้าอยู่ได้ก็อยู่ ถ้าเผื่อว่าเขายกเป็นสมบัติให้ลูกก็ถือว่าเป็นพระคุณของลูกที่จะได้ตรงนี้”

ย้ำตนคนเดียวเลี้ยงลูกเองไม่ได้
“ตัวพลอยเองคิดว่าเลี้ยงคนเดียวไม่ได้แน่นอน เรื่องการที่จะต้องทำงานด้วย บินด้วย ให้เวลาลูกด้วย ในส่วนตัวพลอยคนเดียว พลอยรับไม่ได้ แต่พลอยมีเพื่อนที่ดี มีคุณแม่ มีน้องสาว มีพี่สาว สามีพี่สาว ทุกคนรักหลานเหมือนเป็นลูกของตัวเอง ต้องขอบคุณตรงนี้ด้วยและขอบคุณแฟนคลับของเด็ก ๆ ส่วนของพลอยจะเป็นผู้ติดตามที่คอยแชร์เรื่องดี ๆ ให้ฟังว่าเราควรทำอะไรยังไง เลี้ยงลูกแบบไหน”

“ที่บ้านจะมีกล้องวงจรปิดอยู่ที่บ้าน เราก็จะดูว่าลูกทำอะไรอยู่ บางทีก็จะไลน์คุยกัน แต่พอไลน์คุยกัน พูม่าเขาจะถามหาแม่ เขาเห็นแม่ เขาก็จะร้องไห้ เลยพยายามที่จะไม่ไลน์หา”

เชื่อต่างฝ่ายต่างใช้เวรกรรมร่วมกัน ลั่นอยากให้เข้ามาเคลียร์ ชีวิตจะได้เดินต่อไปในทางที่ดี
“หนูอยากจะบอกว่า ทุกอย่างเป็นเวรกรรมร่วมกันนะพี่ ในการที่หนูจะต้องมานั่งเจออะไรที่มันผิดหวังเสียใจ ทางด้านพี่เตอร์เขาอาจจะเจออะไรที่ไม่ถูกใจกับหนู มันเป็นเวรกรรม ก็ขอให้เราได้ใช้กรรมซึ่งกันและกัน และทางฝั่งเขาทำบุญ ทางฝั่งหนูทำบุญให้กัน และอโหสิกรรมให้กันไป ในทางด้านลูก หนูไม่เคยกีดกันไม่ให้พ่อเจอลูก เด็กจะยังคงเรียกพ่อว่าปะป๊า รู้ว่าใครคือพ่อของเขา ยังไงก็อยากจะให้ทางสามีกลับมาเคลียร์กับพลอยให้เร็วที่สุดนะคะ เรื่องนี้มันจะได้จบ เพราะไม่อย่างนั้นมันจะกลายเป็นว่าทางพี่ปีเตอร์ไปออกงานที่ไหน ก็จะโดนสัมภาษณ์ ทางพลอยก็จะโดนสัมภาษณ์เรื่องครอบครัว ซึ่งมันไม่จบ คนฟังก็เบื่อ คนพูดก็เบื่อ ถ้าเกิดว่าเคลียร์จบเมื่อไหร่ พลอยเชื่อว่า ชีวิตเราจะได้เดินต่อไปในทางที่มันดีขึ้น ก็ฝากตรงนี้นะคะว่าพี่เตอร์ยังเป็นพ่อของลูกอยู่ค่ะ”

ยืนยันไม่อยากให้เรื่องไปจบที่ศาล
“พลอยหวังว่ามันจะไม่ถึงตรงนั้น ถ้าเราได้คุยอะไรกันลงตัว ที่ได้เคยคุยกันมาก็เป็นเรื่องราวดี ๆ ยังไงขอดูเรื่องการกระทำอีกทีหนึ่ง”

น้อมรับทุกคำด่า ปากไวทำให้อดีตสามีกลายเป็นคนไม่ดี
“ก็เสียใจเหมือนกันค่ะ พลอยเหนื่อยมาก พลอยเหนื่อยกับการเลี้ยงลูก เหนื่อยกับการทำงาน เหนื่อยกับการที่เราทำอะไรที่เราสมควรทำ พอเรื่องอะไรแบบนี้มันออกมา พลอยน้อมรับนะกับคำด่าคำว่า เพราะส่วนหนึ่งพลอยยอมรับว่าพลอยผิดที่พูดเร็วเกินไป โดยที่ไม่หาหลักฐานหรือเหตุผลอะไรให้มันเรียบร้อยก่อน ก็อาจจะทำให้พี่เตอร์ดูไม่ดีไป คือมันเหนื่อยจริง ๆ ค่ะกับการที่ต้องทำอะไรทุกอย่างคนเดียวตรงนี้นะคะ”

อัดเจ้าของเว็บไซต์ ไม่เคยบอกให้อีกฝ่ายขอโทษ แค่อยากให้ชี้แจงในส่วนที่ถูกต้อง ซัดจิตใต้สำนึกต้องรู้ว่าทำผิดส่วนไหน
“ถ้าพูดถึงในเรื่องขอโทษ พลอยอยากจะให้เขาลองนั่งคิดดีๆ พลอยไม่ได้บอกให้เขาขอโทษ พลอยต้องการที่จะให้เขาชี้แจงในส่วนที่มันถูกต้อง คือพลอยยังได้คุยไลน์กับเขา แต่วันนี้พลอยไม่ได้เอามาให้ดู พลอยผิด พลอยขอโทษ พลอยยอมรับ แต่ว่าบางส่วนจิตใจในใต้สำนึกของคุณ คุณก็ต้องรู้ด้วยว่าคุณทำผิดตรงไหน วันนี้ที่พลอยจะพานายหน้าของอีกบริษัทหนึ่งมาคุย เพื่อให้รู้ว่าการทำที่ถูกต้องมันเป็นยังไงบ้าง พลอยไม่อยากจะไปเหมานะคะว่าเขาทำผิดทำถูกยังไง สิ่งที่ควรทำคือยังไง อยากจะให้มาชี้แจงตรงนี้ ในส่วนของคำขอโทษ ไม่ได้หลุดออกมาจากปากพลอยนะคะ พลอยแค่บอกว่าอยากให้มาชี้แจง ถ้าเกิดจะขอโทษจริง ๆ ให้ไปขอโทษคุณปีเตอร์เจ้าของบ้านดีกว่า ที่ทำให้คุณปีเตอร์ต้องมาลงบันทึกประจำวันกับทางเขา ไม่เกี่ยวกับพลอยนะคะ”

“ถ้าเขาจะเสียหาย เขาเสียหายมาจากทางคุณปีเตอร์ ซึ่งทีการออกข่าวและแจ้งบอกว่าคนนี้ ส่วนของพลอย พลอยไม่ได้เอ่ยชื่อใครว่าใครเป็นคนทำ ไม่เคยมาออกสื่อว่านายหน้าชื่ออะไร บริษัทชื่ออะไร เพราะฉะนั้นถ้าจะฟ้องคงไม่ได้มาจากทางพลอย ยกเว้นว่าพลอยจะไปฟ้องทางเขาหรือเปล่า เพราะเขาเป็นคนเอาชื่อพลอยมาออกสื่อ ทำให้พลอยเสียหายเสียชื่อเสียงอันนี้ก็อีกเรื่องหนึ่ง”

ปัดใช้สื่อกดดันอีกฝ่าย ต่อจากนี้ไปไม่ขอพาดพิงอีกแล้ว
“สื่อมวลชนจะไม่จำเป็นถ้าเรื่องจบไปนานแล้วค่ะ แต่ถามว่าพลอยใช้กดดันมั้ย เวลาพลอยออกมาให้ข่าว พลอยพยายามพูดถึงเรื่องอะไรที่พลอยเป็นอยู่ ธุรกิจอะไรที่พลอยทำ เรื่องพูดถึงคุณปีเตอร์ พลอยก็ไม่อยากให้มันเป็นเรื่องอะไรอย่างที่เคยบอกแต่แรก ทุกอย่างที่พลอยพูดหรือพลอยทำทุกวันนี้ ลูกมาอ่านลูกมาเห็น ผลกระทบจะเป็นเด็ก ๆ ไม่ใช่พ่อแม่ เพราะฉะนั้นตั้งแต่วันนี้ที่บอกไปคือพลอยจะไม่ให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับคุณปีเตอร์อีกแล้วนะคะ ถ้าเกิดคนที่ยังเข้าใจผิด ถ้าจะอยากจะทราบเกี่ยวกับพลอย อย่ากล่าวหาโดยที่ไม่รู้จักกันเลย พลอยเป็นคนโอเพ่นมาก งานทุกอย่างที่พลอยทำ พลอยตอบไลน์เองทุกคน พลอยขายของเองตลอด ถ้ามีเวลาว่างหรือไม่เข้าใจ ไลน์มาคุยกันเองดีกว่า”

ฝากขอโทษผ่านสื่อ กลัวอีกฝ่ายไม่เข้าใจ
ไม่ได้ โทร.ขอโทษนะคะ ขอโทษผ่านสื่อนะคะ อย่างที่พี่เขาบอกว่าเขาไม่กล้า โทร.มา กลัวพลอยไม่เข้าใจ พลอยก็กลัวไม่เข้าใจเหมือนกัน พลอยขอโทษตรงนี้เลยแล้วกันนะคะ”





กำลังโหลดความคิดเห็น