“มิน พีชญา” เคลียร์ดราม่าซื้อกระเป๋าแอร์เมส 10 ใบ รับซื้อจริงแต่ทิ้งไว้ที่สิงคโปร์ เผยกรมศุลกากรเรียกชี้แจง ย้ำไร้อภิสิทธิ์ ยินดีเสียภาษีให้ถูกต้องตามกฎหมาย ไม่เสียใจถูกวิจารณ์ถือเป็นของขวัญวันเกิดทำให้เติบโต
เจอดราม่าซื้อกระเป๋าหรูแอร์เมส 10 ใบราคาร่วมล้านที่ประเทศสิงคโปร์ ผ่านกรมศุลกากรมาได้อย่างไร ใช้อภิสิทธิ์ความเป็นดาราเลี่ยงจภาษีหรือไม่ จนต้องแจ้นลบภาพในไอจี สำหรับนางเอก “มิน พีชญา วัฒนามนตรี” ซึ่งที่ผ่านมานางเอกดังยังไม่มีโอกาสชี้แจงถึงกรณีดังกล่าว ล่าสุดสาวมินนัดสื่อมวลชนเคลียร์ในงานเลี้ยงอาหารกลางวันเด็ก บ้านนกขมิ้น ซ.เสรีไทย 17 เนื่องในวันคล้ายวันเกิด ก่อนเปิดใจว่า
“วันนี้เป็นวันดีๆ เป็นวันเกิด ได้มีโอกาสมาทำบุญกับครอบครัว เรียกว่าเป็นวันว่างวันเดียวของเดือนนี้ที่มินล็อกไว้เพื่อที่จะมาทำบุญค่ะ เห็นน้องๆ มีความสุขก็ดีใจ น้องๆ กินอาหารเอร็ดอร่อย จริงๆ เรามีกิจกรรมไว้เยอะกว่านี้ อาจจะมีการเล่นเกมแต่ไม่แน่ใจว่าเวลาจะได้หรือเปล่า แล้วก็มีให้ทุนการศึกษาน้องๆ รวมถึงค่าใช้จ่ายที่จำเป็นต้องใช้ในชีวิตประจำวันด้วยค่ะ”
“ส่วนของขวัญจากป๊าจริงๆ ก็ให้ทุกวันอยู่แล้ว(ยิ้ม) ให้ความรัก จริงๆ ที่บ้านมินจะไม่ค่อยให้ของขวัญในวันพิเศษกันเท่าไหร่เพราะให้ตลอดปีอยู่แล้ว วันเวลาของมินจะผ่านไปเร็วมาก ในแต่ละเดือนในแต่ละปี เพราะฉะนั้นเราจะไม่มานั่งรอว่าจะได้อะไร ส่วนใหญ่มินก็ซื้อเอง มินโตขึ้นทุกปี ซึ่งแต่ละปีก็จะมีเป้าหมายไม่เหมือนกัน อย่างปีนี้ก็จะเป็นมุ่งไปเรื่องธุรกิจมากขึ้น”
รับหวานใจส่งข้อความมาอวยพร ฟุ้งจริงใจเป็นความรักที่ดี
“เพื่อนเหรอคะ(หัวเราะ) ยังไม่มีค่ะ ต้องบอกก่อนว่าวันเกิดปีนี้เป็นปีที่มีอะไรให้มินทำเยอะมาก ไม่ว่าจะเป็นถ่ายละคร ถ่ายโฆษณา แล้วก็ยังมีเรื่องพิเศษที่ปีต้องทำมากขึ้น แต่จะมีข้อความส่งมาอวยพรเยอะค่ะ เนื่องจากข่าวมันดังมากทุกคนเลยรู้ว่าเป็นวันเกิดของมิน(หัวเราะ) ก็เลยมีการอวยพรกันต่อเนื่องในอาทิตย์ที่ผ่านมา คนนี้(หนุ่มคนพิเศษ)ก็มีปกติค่ะ เขาก็จริงใจ มันก็เป็นความรักที่ดีนะ ถามว่าวันนี้จะไปดินเนอร์ด้วยกันไหม วันนี้เป็นวันอยู่กับครอบครัวค่ะ”
บอกต้องฝ่าด่านอีกเยอะ พ่อยังไม่ไฟเขียว
พ่อ : “จริงๆ แล้วแต่ลูกตัดสินใจครับ ลูกว่าคนไหนก็คนนั้นแหละ(หัวเราะ) พ่อเคยเจอเขาแล้วครับ”
มิน : “พ่อเคยเจอค่ะ เขาก็เข้าทางผู้ใหญ่ปกติ พ่อยังไม่ไฟเขียวค่ะ(หัวเราะ) ด่านเยอะค่ะ ปุ๊กลุก (ฝนทิพย์ วัชรตระกูล) ยังไม่รู้เลยว่าจะยังไงเนี่ย ถามว่าพ่อโอเคไหม คือใจเย็นนะคะ ณ จุดนี้ยังไม่มีคำตอบค่ะ”
เปิดใจดราม่ากระเป๋าแอร์เมส รับซื้อจริง 10 ใบทิ้งไว้ที่สิงคโปร์ ย้ำถ้าบินไปเอากระเป๋า ตนพร้อมเสียภาษีถูกต้องตามกฎหมายอยู่แล้ว
“จริงๆ แล้วมินต้องเรียนก่อนนะคะว่ามินไม่คิดว่าเรื่องจะมาไกลขนาดนี้ ข่าวมันได้ถูกพัฒนาไปด้วยตัวมันเองโดยที่ไม่มีใครฟังคำพูดจากปากมิน ระหว่างที่เกิดข่าวขึ้นมินอยู่ที่เขาใหญ่ มินถ่ายละครเรื่องลูกไม้ไกลต้นอยู่ มีพยานหลักฐานทุกอย่างว่ามินอยู่ที่โน่น ตั้งแต่ที่เกิดเรื่องมินทำงานทุกวันก็เลยไม่มีโอกาสออกมาชี้แจงเนื่องจากยังต้องรับผิดชอบงานอยู่ เพราะมินต้องถึงกองเจ็ดโมงเช้า นั่นหมายความว่ามินต้องตื่นตีห้าครึ่ง แล้วถ่ายจนดึกทุกวันก็เลยไม่มีเวลาชี้แจง และมินไม่ต้องการออกมาพูดทีละสำนักข่าว เพราะที่ผ่านมาได้พิสูจน์ให้มินเห็นแล้วว่าการพัฒนาของข่าวมันไปโดยที่ไม่ได้ฟังจากคำพูดของมินเลยแม้แต่นิดเดียว”
“มินจะเล่าให้ฟังตั้งแต่แรกนะคะ ว่าจริงๆ แล้วมินไปเที่ยวที่สิงคโปร์ แล้วก็ได้ไปดูงานเกี่ยวกับธุรกิจ ก็ไปหาโอกาสทางธุรกิจ แล้วก็มีผู้ใหญ่หลายท่านและมีเพื่อนไปด้วยหลายคน การเดินทางไปก็ราบรื่นปกติ ไม่ได้มีการเซ็ตว่าจะไปที่ไหนบ้าง แล้วก็มีเวลาประมาณ 2 ชั่วโมงที่ได้ใช้ชีวิตส่วนตัว ก็เลยคิดว่าอยากซื้อของขวัญให้ตัวเองบ้างก็คิดว่าไม่ผิดอะไร”
“อย่างที่มินเขียนแคปชั่นใต้ภาพไป และได้มีการซื้อของจริงทุกอย่างตามที่ได้ลงภาพไป แล้ว 2 วันที่ไปมินเอากระเป๋าไปแค่ใบเดียว และเป็นไปไม่ได้ว่ามินจะเอาของทุกอย่างกลับเข้ามาในประเทศ วันที่บินกลับมินก็เลยไม่ได้เอาของกลับมาด้วยเพราะต้องไปถ่ายละครต่อ รูปทุกอย่างถ่ายที่ต่างประเทศหมดเลย มินไม่สามารถเอากลับมาหมดได้ในจำนวนมากขนาดนั้นในกระเป๋าแค่นั้น แล้ววันนั้นพี่ๆ ที่ไปกับมินยังไม่กลับมา”
“ถามว่าซื้อมากี่ใบ ก็ตามที่เห็นในรูปเลยค่ะ มินคงไม่ต้องมานั่งแจกแจงเพราะในรูปก็ชัดเจนอยู่แล้ว ที่เห็นในรูปเป็นของมินทั้งหมดค่ะ มีการซื้อจริงค่ะ ของทุกอย่างยังอยู่ที่ต่างประเทศค่ะ มินไม่ได้เอากลับมาเลยค่ะ(เน้นเสียง) ตั้งแต่เกิดเรื่องจนตอนนี้ก็ยังไม่ได้เอากลับมา ทุกคนไม่ฟังมินเลย แล้วก็พัฒนาข่าวไปด้วยตัวมันเอง มินก็เซอร์ไพรส์มากนะว่ามันไปไกลมาจริงๆ ค่ะ”
“ตั้งแต่เกิดเรื่องมินก็ไม่ได้เดือดเนื้อร้อนใจใดๆ แต่ในเมื่อต้องออกมาชี้แจงก็ต้องออกมาทำหน้าที่ในฐานะคนของสังคมอยู่แล้ว แล้วในระหว่างนี้ถ้ามินจะนำกระเป๋ากลับเข้ามาก็ไม่ต้องสงสัยค่ะ เพราะมินต้องรอเวลาบินกลับไป เพราะตอนแรกมินตั้งใจว่าถ้ามีเวลาจะบินกลับไปเร็วๆ นี้เนื่องจากว่าวันนั้นต้องรีบบินกลับมาทำงานที่ไทย ซึ่งถ้าเอาของกลับมามินก็ต้องเสียภาษีตามกฎหมายทุกอย่างในฐานะที่เราเป็นคนไทยอยู่แล้ว เรื่องมูลค่าก็ตามที่เห็นเลยค่ะ มันมีมูลค่าของมันอยู่แล้ว”
รับเข้าชี้แจงกรมศุลกากรแล้ว ยืนยันเจ้าหน้าที่ไม่ได้ทำงานบกพร่อง ส่วนตนไม่ได้อภิสิทธิ์เหนือใคร
“มินไม่ได้มีอภิสิทธิ์ชนเหนือผู้ใดในประเทศไทย ตอนที่มินกลับมามินลงสนามบินดอนเมือง และไม่ได้เข้าช่องลึกลับใดๆ ที่สุวรรณภูมิทั้งสิ้น มินเดินออกมาตามระเบียบของสนามบินทุกอย่าง และยืนยันว่ากรมศุลกากรไม่ได้ขาดตกบกพร่องใดๆ เลยแม้แต่นิดเดียว(ยิ้ม) เขาก็ทำหน้าที่ของเขา ในระหว่างที่เกิดเรื่องขึ้นกรมศุลกากรก็มีติดต่อมาค่ะ ในเมื่อข่าวมันออกมาแบบนี้ทุกคนก็อยากได้คำตอบ ซึ่งมินก็ชี้แจงไปปกติ เขาก็ไม่ว่าไง มินก็ชี้แจงแบบนี้เลยค่ะ มินก็มั่นใจว่าจะทำทุกอย่างให้ถูกต้องถึงไม่ได้กังวลตั้งแต่แรกอยู่แล้ว”
“มีข่าวมินก็ไม่เครียดค่ะ เพราะมินไม่ได้ทำอะไรผิด และก็พร้อมออกมาชี้แจงทุกเมื่อแต่ขอให้มีเวลาว่างก่อน เพราะตอนที่เกิดเรื่องมีคิวงานที่แน่นมากทุกวันและมีพยานหลักฐานในทุกๆ พื้นที่ที่มินอยู่”
ไม่ขยาดโพสต์ภาพในไอจีเพราะเป็นความสุข ไม่เสียใจถูกวิจารณ์ถือเป็นของขวัญวันเกิดทำให้ตนเติบโต
“เรื่องไปเอากระเป๋า ตอนแรกมินก็พยายามจะเซ็ตวัน แต่พอเกิดความวุ่นวายขึ้นมันทำให้การทำงานของมินล่าช้าลงเนื่องจากว่าต้องออกไปชี้แจงอะไรแบบนี้ค่ะ ตอนนี้ก็เลยยังไม่มีกำหนดเพราะคิวงานมินก็เยอะขึ้น ตอนนี้คิวต่างๆ ถูกแทรกเข้ามาเยอะมาก แล้วก็ต้องเปลี่ยนตารางงานใหม่หมดเลย”
“หลังจากนี้ก็ไม่ได้รู้สึกขยาดกับการโพสต์รูปอะไรแบบนี้อีกค่ะ มินมองว่ามันเป็นสิทธิของเราแล้วมันก็เป็นความสุขของเรา จริงๆ แล้วมินก็มีความสุขนะคะที่ได้โพสต์(หัวเราะ) มินมองว่ามันเป็นแค่ครั้งเดียวในปีนี้ที่มินได้มีโอกาสซื้อของ ไม่เสียใจเลยค่ะที่มีคนวิจารณ์หนักขนาดนี้ ถือว่าเป็นของขวัญวันเกิดที่ทำให้มินเติบโตขึ้นอีกปีหนึ่ง ไม่ว่ามันจะมาด้วยสิ่งใด ไม่ว่าจะเป็นความเข้าใจผิดหรือใดๆ ก็ตามมันก็ทำให้มินเติบโตขึ้นอีกปีหนึ่ง และเป็นผู้ใหญ่มากขึ้น ก็ต้องขอบคุณสถานการณ์ที่เกิดขึ้นค่ะเพราะมินไม่ได้มองว่ามันเป็นเรื่องเลวร้ายอะไร”
“จริงๆ มันไม่มีอะไรตั้งแต่แรก ต้องขอบคุณทุกคนที่ให้ความสนใจกับเรื่องนี้มาก ขอบคุณแฟนๆ ขอบคุณเพื่อนๆ รวมถึงครอบครัวที่ให้กำลังใจมิน เรียกว่าโทรศัพท์นี่สายไหม้ทีเดียว(หัวเราะ) ตอนนี้ไม่มีอะไรแล้ว ตอนนี้ก็ใช้ชีวิตปกติ”