xs
xsm
sm
md
lg

สะเทือนกรมศุลกากร! นางเอกดังขนกระเป๋าหรู อวดรวยจนตัวซวย

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


อวดรวยจนซวย "นางเอกวิก 7 สี" โพสต์ไอจีอวดกระเป๋าหรูหลายใบ บอกซื้อเป็นของขวัญวันเกิดให้ตัวเองล่วงหน้า กลายเป็นปมดรามาลุกลามใหญ่โตในโลกโซเชียลฯ เพราะถูกกระแสทวงถามผ่านด่านศุลกากรมาได้อย่างไร งานนี้สะเทือนไปถึงกรมศุลกากร เช่นเดียวกับตัวนางเอกที่แม้จะยังไม่เปิดปากเรื่องนี้ แต่ก็เป็นบทเรียนสอนใจว่าการโชว์อะไรเกินความจำเป็นก็อาจเป็น "ดาบสองคม" ทิ่มแทงตัวเองได้

อวดรวยจนเป็นเรื่อง!

เป็นเรื่องเป็นราวขึ้นมาทันที หลังเฟซบุ๊กแฟนเพจ To be Cabin Crew ได้แชร์ภาพข่าวนางเอกสาววิก 7 สี "มิน พีชญา" ออกอาการยิ้มร่าดูมีความสุขท่ามกลางกระเป๋าแบรนด์ดัง "แอร์เมส" หลายกล่องที่เจ้าตัวบินลัดฟ้าไปซื้อเพื่อเป็นของขวัญวันเกิดให้ตัวเองล่วงหน้า ก่อนจะโพสต์อวดผ่านอินสตาแกรม โดยระบุข้อความว่า "My birthday present from me!!! #เหนื่อยมาทั้งปีขอซักทีคงจะไม่เป็นไร #ของขวัญวันเกิดล่วงหน้า #2016"

โดยแฟนเพจดังกล่าว ได้โพสต์ชี้เบาะแสไปถึงกรมศุลกากรเพื่อให้จับตาดู และเตรียมดักเก็บภาษีดาราสาว อีกทั้งยังระบุด้วยว่า กระเป๋าแบรนด์ดังแต่ละใบน่าจะได้ภาษีเข้ารัฐจำนวนหลายแสนบาท ก่อนจะเผยว่า "อย่าสองมาตรฐาน ดาราก็คือประชาชน อย่าทำให้แฟนคลับผิดหวังนะคะ"



หลังจากนั้น ดรามาก็มาเยือนหนักมาก โดยเฉพาะการตั้งข้อสงสัยถึงเทคนิคการผ่านด่านศุลการกรมาได้อย่างไร ถูกต้องตามขั้นตอนหรือไม่ ด้านอธิบดีกรมศุลกากรชี้แจงผ่านสื่อว่า ไม่พบมีการขนจำนวนมากตามภาพที่ปรากฏ ก่อนเน้นย้ำเจ้าหน้าที่ไม่ได้ละเลยต่อหน้าที่ ส่วนความเคลื่อนไหวทางฝั่งนางเอกสาว หลังลบภาพ และข้อความเจ้าปัญหาออกไป ยังไม่มีการชี้แจงแถลงไขแต่อย่างใด และนี่คือบางส่วนของความเห็นในกระทู้ของเว็บบอร์ดชื่อดัง

"...กระเป๋า Hermes มีเหรอครับใบละที่ต่ำกว่า 20,000 บาท จะหิ้วมา 1 ใบหรือ 10 ใบ ยังไงก็ต้องเสียภาษีอยู่แล้ว ติ่งทั้งหลายอย่าเพิ่งออกตัวแรงไป (รวมถึงพวกจ้องจะซ้ำด้วย) เด๋วน้องมินจะกลายเป็นดาวดับเพราะติ่งตัวเองไป ให้เจ้าตัวออกมาชี้แจงแสดงหลักฐานเองจะดีกว่า เอาให้คนว่าเงิบไปเลย"

"ถ้าเอาเข้ามาแบบถูกต้อง จะลบรูปใน IG ทำไมครับ แน่จะโชว์ใบเสียภาษี หักหน้าพวกที่ชอบว่าไปเลย"

"ประเด็นคือ มินลบภาพไปแล้วถามว่าถ้าจ่ายภาษีปกติ จะลบทำไมอธิบาย หรือโพสต์รูปใบเสร็จหักหน้าไปเลยไม่ดีกว่ารึ อันนี้ไม่ได้หาเรื่องนะ สงสัยจริงๆ ว่าถ้าจ่ายแล้วนางน่าจะชิลๆ ไม่มีเหตุผลอะไรต้องลบรูปอ่ะ"



"ต้องดูขั้นตอนในการนำเข้าค่ะ ซื้อมาเยอะๆ ได้ แต่ถามว่าจะหอบหิ้วมาด้วยตัวเองหรือใช้บริการจัดส่งโดยบริษัทอะไรอย่างไร แล้วถ้าตามขั้นตอนก็จะต้องสำแดงสินค้า และถูกประเมินภาษีก่อนเคลียร์ออก คิดว่าอีกไม่นานมินคงออกมาให้ข้อมูลเพิ่ม"

"เสียภาษีถูกต้องก็เข้าได้นี่คะ ตกใจอะไรกันคะหรือว่าแค่อิจฉา..."

"แบบนี้โดนภาษี 30% ของราคาสินค้าครับ เค้าอาจจะจ่ายก็ได้ใครจะไปรู้ ไม่งั้นถูกปรับเป็น 4 เท่าของมูลค่าของ บวกค่าภาษีและอากร หรือจำคุกไม่เกิน 10 ปี หรือทั้งจำทั้งปรับ และของที่หลีกเลี่ยงการชำระอากรก็จะถูกริบเป็นของแผ่นดินตามกฎหมายศุลกากรทันที"

เขียนถึงเรื่องนี้ก็ชวนให้นึกถึงกรณี "เอมมี่ มรกต" ที่โพสต์ภาพอวดบัตร 25 ใบ จากคอนเสิร์ต Maroon 5 พร้อมแท็กชื่อเพื่อนดาราในอินสตาแกรม สุดท้ายเจอดรามามาเยือน โดยเฉพาะกลุ่มแฟนคลับวงร็อกอินเตอร์ที่ตั้งข้อสงสัยถึง “บัตรอภิสิทธิ์ชน” ที่จองก่อนแถมยังได้ที่นั่งติดกันเป็นเซต ทั้งๆ ที่คอเพลงทั่วไปลงทุนตื่นตั้งแต่ไก่โห่เพื่อกดจองทางเน็ตและต่อคิวที่เคาน์เตอร์ด้วยตัวเอง แต่กลับได้เพียงคำว่า "sold out" ไม่เหลือบัตรรอดถึงมือให้ได้มีสิทธิเข้าชมแม้สักใบเดียว

ถือเป็นบทเรียนสอนใจ "ปลาหมอตายเพราะปากฉันใด ดาราก็เกือบตายเพราะโพสต์ฉันนั้น" เช่นเดียวกับกรณีนางเอกสาวรายนี้ที่ยังไม่รู้ว่าข้อเท็จจริงคืออะไร แต่การโชว์ หรืออวดเกินความจำเป็นก็อาจเป็นดาบสองคมทิ่มแทงตัวเองได้เหมือนกัน โดยเฉพาะการเป็น "บุคคลสาธารณะ" ที่ถูกจับจ้องจากสังคมอยู่ตลอดเวลา



ล่าสุดมีรายงานข่าวจากสื่อช่องหนึ่งว่า ทางกรมศุลกากรได้ติดต่อไปทางนางเอกสาวแล้ว โดยอยู่ระหว่างรอเจ้าตัวมาให้ข้อมูล ถ้าไม่เสียภาษีจะต้องทำการเสียภาษีตามอัตราที่กำหนดคือ 30 เปอร์เซ็นต์ บวกค่าปรับ หากลักลอบจะต้องเสียค่าปรับอีกเท่าตัวเป็น 60 เปอร์เซ็นต์ และภาษีมูลค่าเพิ่มด้วย

รู้ไว้! ระเบียบ "หิ้วของ" เข้าไทย

ความรู้เรื่อง "ภาษี" ที่กรมศุลกากรทำการจัดเก็บคือเรื่องที่จะมองข้ามไม่ได้ ซึ่งเรื่องนี้ ไม่ใช่เรื่องใหม่ แต่การจัดเก็บภาษีมีมานานแล้ว เพียงแต่ประชาชนจำนวนมากยังไม่ทราบว่ามีการจัดเก็บภาษี ทั้งยังคิดไปว่าของที่นำติดตัวเข้ามานั้นถือเป็น "ของใช้ส่วนตัว" ไปทั้งหมด และได้รับยกเว้น ไม่ต้องเสียภาษี

ทั้งๆ ที่ในความจริงแล้ว มีการลงลึกรายละเอียดว่าด้วยเรื่อง "ของนำเข้า" โดยของที่ได้รับการยกเว้น ไม่ต้องเสีย "อากรปากระวาง" และ "ภาษีมูลค่าปากระวาง" ได้แก่ ของใช้ในบ้านเรือนที่ใช้แล้ว เช่น โทรทัศน์ วิทยุ วีดีทัศน์ เครื่องโทรสาร ซึ่งเป็นของที่เจ้าของนำเข้ามาพร้อมกับตัวเองเนื่องจากย้ายภูมิลำเนา และมีจำนวนพอสมควรแก่ฐานะ แต่จะต้องมาผ่านพิธีการศุลกากรที่ช่องตรวจสีแดง เพื่อให้เจ้าหน้าที่ศุลกากรตรวจสอบของ



- ของใช้ส่วนตัวที่เจ้าของนำเข้ามาพร้อมกับตัวเองสำหรับใช้เอง เช่น เครื่องแต่งกาย เครื่องสำอาง เครื่องประดับ รองเท้า นาฬิกา ปากกา แว่นตา น้ำหอม เป็นต้น หรือของใช้ในวิชาชีพและมีจำนวนพอสมควรแก่ฐานะ มูลค่าไม่เกิน 10,000 บาท แต่ต้องมีเอกสารใบเสร็จรับเงินเป็นหลักฐาน หากไม่มี เจ้าหน้าที่จะพิจารณาตามหลักฐานอื่นประกอบ

- สุราไม่เกิน 1 ลิตร, บุหรี่ไม่เกิน 200 ม้วน, ยาสูบอย่างละไม่เกิน 250 กรัม หรือหลายชนิดรวมกันมีน้ำหนักทั้งหมดไม่เกิน 250 กรัม

หากไม่เข้าข้อยกเว้นดังกล่าวแล้ว จะต้องเสียอากรปากระวาง หรือภาษีมูลค่าปากระวาง โดยสามารถชำระอากรให้กับเจ้าหน้าที่ศุลกากร ณ ท่าอากาศยานหรือด่านศุลกากรประจำช่องตรวจมีของต้องสำแดงได้เลย โดยไม่ต้องปฏิบัติตามพิธีการศุลกากรออกใบขนสินค้าอย่างเช่นกรณีนำของเข้าตามปกติ

แต่ถ้าของที่นำเข้า และต้องเสียอากรนั้นมีมูลค่าเกิน 80,000 บาทจะไม่สามารถชำระอากรให้กับเจ้าหน้าที่ศุลกากร ณ ท่าอากาศยานหรือด่านศุลกากรประจำช่องตรวจมีของต้องสำแดงได้เลยทันที แต่ผู้นำของเข้าจะต้องปฏิบัติพิธีการศุลกากรโดยออกใบขนสินค้าตามปกติต่อไป


ขอบคุณข้อมูลบางส่วนจากกรมศุลกากร, สำนักงานคดีภาษีอากร สำนักงานอัยการสูงสุด และขอบคุณภาพประกอบจากอินสตาแกรม @minpechaya




มาตามติด Facebook Fanpage และ Instagram

"MGR Online Live" และ "@manager_live" กันได้ที่นี่!!


และสามารถส่งข่าวสารมาได้ที่: manageronlinelive@gmail.com
หรือ Fax 0-2629-4754



กำลังโหลดความคิดเห็น