“ภูริ หิรัญพฤกษ์” เตรียมร้องศูนย์ดำรงธรรม เดินหน้าลากไส้คนแอบอ้างกรรมสิทธิ์บนเกาะนาคาน้อย ย้ำเรียกร้องในฐานะพลเมืองดี ทำเพื่อประโยชน์ของชาติ ไร้ผลประโยชน์ส่วนตัว ลั่นไม่หวั่นอำนาจมืด ด้าน “แอน อลิชา” หนุนสามีทำเรื่องที่ถูกต้อง
จากกรณีที่นักแสดงหนุ่ม “ภูริ หิรัญพฤกษ์” ออกมาโพสต์ข้อความในอินสตาแกรม ระบุ มีผู้แอบอ้างกรรมสิทธิ์โดยมิชอบ คุกคามผืนป่าบนเกาะนาคาน้อย จ. ภูเก็ต ซึ่งอยู่ติดกับที่ดินครอบครัวตนเอง เรียกร้องให้ดีเอสไอ และผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ตตรวจสอบเรื่องดังกล่าว
ล่าสุด นักแสดงหนุ่มได้มีโอกาสออกมาเปิดใจถึงกรณีดังกล่าวเป็นครั้งแรกต่อหน้าสื่อมวลชน โดยย้ำการเรียกร้องของตนนั้นกระทำในฐานะพลเมืองดี ไม่เคยเรียกร้องเพื่อผลประโยชน์ส่วนตัว
“จริงๆ ผมเพิ่งกลับจากต่างประเทศก็เลยไม่ได้สอบถามอะไรต่อทางครอบครัวเท่าไหร่ ว่า เรื่องราวความคืบหน้าไปถึงไหนแล้ว แต่จริงๆ เรื่องที่เกาะนาคาน้อย ตัวผมเองกับครอบครัวไม่ได้เป็นคู่กรณีนะครับ เราคือ ประชาชนผู้หวังดี เพราะว่าที่ดินที่เขามาออกเอกสารสิทธิโดยมิชอบ ผืนป่าข้างหลังเป็นของประเทศไทยนะครับ เป็นของคนไทยทุกคน”
“เพราะฉะนั้น สิ่งที่ผมออกมาพูด ออกมาร้องเรียน ผมต้องการให้ภาครัฐเข้ามาสนใจว่าการออกเอกสารสิทธิมิชอบมันเกิดขึ้นจริงๆ แล้วทำไมเรื่องราวอันนี้มันไม่ถูกถอดถอน โฉนดที่ดินแปลงนั้นยังไม่ถูกถอดถอนเท่านั้นเองครับ ผมทำตัวเป็นพลเมืองดีเฉยๆ”
“จริงๆ เอกสารที่ออกมา ผมมีหลักฐานว่า น.ส.3 (หนังสือรับรองการทำประโยชน์ในที่ดิน) คนที่เซ็นออกได้ไปแจ้งความที่สถานีตำรวจถลางแล้วว่า ตัวเองถูกหลอกจากเจ้าของ ส.ค.1 (เอกสารสิทธิใบแจ้งการครอบครองที่ดิน) ว่าเขาปลอมแปลงเอกสารมา ฉะนั้นมันเป็นการพิสูจน์อย่างชัดเจนแล้วว่า ต้นตอของเอกสารที่เขาบอกว่าถูกต้องมันผิด ใครๆ เขาดูหลักฐานว่ามันเป็น ส.ค.บิน (การโยก ส.ค.1 จากที่หนึ่งไปอีกที่หนึ่ง ที่มีความต้องการมากกว่า) มาจากเกาะพะงัน ฉะนั้นผมมั่นใจว่า หลักฐานที่ผมมีอยู่ และที่ผมมอบให้แก่การทางการแล้ว มอบให้แก่กรมที่ดินไปแล้ว เป็นเอกสารที่ชี้ชัดเจนว่าที่มาของ น.ส.3 ที่เป็นที่ทับป่ามันเป็นแปลงที่ไม่ถูกต้อง”
ย้ำตนไม่ได้อยากเป็นเจ้าของที่ดินแปลงดังกล่าว ต่อให้มีใครมาขายตนก็ไม่ซื้อ
“ส่วนตัวผมเองไม่ได้เป็นคู่กรณีกับเขา ผมยังยืนยันเหมือนเดิมว่า เขาเป็นคู่กรณีกับประเทศชาตินะครับ และที่มาของการครอบครองป่ามันไม่ถูกต้อง ผมแค่อยากจะบอกว่าหันมาสนใจกันหน่อยครับ เรื่องของการออกเอกสารสิทธิที่มันไม่ถูกต้องทำให้มันถูกต้องซะ ถอดถอนให้เรียบร้อยซะ”
“ผมไม่ได้อยากจะเป็นเจ้าของที่ดินแปลงนั้นนะ ถ้าทางคนที่เป็นเจ้าของเอกสาร น.ส.3 ก. ฉบับนั้น ได้ติดต่อมาที่ครอบครัวผม มาขายในราคาที่ถูกมาก ไร่ละ 2,000,000 บาท ผมไม่ซื้อครับ เพราะว่ามันไม่ถูกต้อง มันเป็นที่ป่า ครอบครัวผมยืนยันชัดเจนว่าเราไม่ได้อยากเป็นเจ้าของที่ดินป่าผืนนั้น ฉะนั้น อย่าเอาผมไปเป็นคู่กรณี ถ้าเกิดว่าเขาไปฟ้องหมิ่นประมาทผม หรืออะไรก็แล้วแต่ เดี๋ยวเราค่อยไปว่ากันในเรื่องของคดี แต่ว่าผมไม่ได้เป็นคู่พิพาทกับเขา”
ไม่หวั่นอำนาจมืด ยืนกรานเรียกร้องเพื่อผลประโยชน์ประเทศชาติ ไม่เกี่ยวผลประโยชน์ส่วนตัว
“สิ่งที่เกิดขึ้นมีหลายคนโทร.มาหาผม มีคนบอกว่า ให้ผมระวังตัวเพราะเรากำลังต่อสู้กับอำนาจมืด ไม่รู้ว่าใครอยู่ตรงไหน ไม่รู้ว่าใครจะมาทำอะไรเราได้เมื่อไหร่ ผมก็ยอมรับว่าจริงๆ ตัวผมเองก็กลัวเหมือนกัน แถมช่วงนี้กำลังจะมีลูกด้วยถ้าหากผมเป็นอะไรไปชีวิตครอบครัวผมคงไม่เหมือนเดิม แต่ว่าเรื่องนี้มันเป็นเรื่องของความถูกต้อง เราสู้มาตั้งแต่แรกแล้วเราก็คงต้องสู้ให้ถึงที่สุดครับ”
“หลักฐานผมมีทุกอย่างผมก็ไม่แน่ใจว่าจะแถไปทำไม แต่ว่าสุดท้ายแล้วมันจะกลายเป็นคดีพิเศษ เดี๋ยวผมจะไปร้องเรียนต่อทางศูนย์ดำรงธรรม ที่กระทรวงมหาดไทยอีกรอบหนึ่ง ว่าทำไมเรื่องราวที่เกิดขึ้น กรมที่ดินสั่งให้สอบสวนเรื่องนี้ ได้มีการสั่งให้ตรวจสอบตั้งแต่เดือนมกราคม จนถึงวันนี้ยังไม่มีการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบ ศูนย์ดำรงธรรมที่ภูเก็ตรู้เรื่องนี้ตั้งแต่กลางปีที่แล้ว ทำไมนั่งทับเรื่องไว้ ผมจะไปร้องเรียนอีกรอบหนึ่งครับ”
“ผมพูดเรื่องนี้เพื่อประโยชน์ของส่วนรวม เพื่อประโยชน์ของประเทศชาติ ไม่ใช่เพื่อประโยชน์ของตัวผมเอง ดังนั้น ผมเป็นพลเมืองดี ผมคิดว่าเรื่องนี้ทุกคนคงจะเข้าใจ ถามว่าหนักใจไหมต่อเรื่องนี้ จริงๆ เขาก็นิ่งมาตั้งแต่ 6 เดือนที่แล้ว ผมเชื่อว่า ณ วันนี้ผู้ว่าฯ ท่านก็น่าจะมาให้ความสนใจต่อเรื่องนี้มากขึ้นแล้วนะ เพราะท่านก็ได้ลงมาที่เกาะ มาดูเรื่องราวต่างๆ ผมเชื่อว่าถ้าท่านได้รับข้อมูลที่ถูกต้อง และข้อมูลที่เป็นความจริง รวมไปถึงหลักฐานที่ชัดเจนที่ผมมีอยู่ ผมว่าท่านน่าจะตัดสินใจได้ถูกต้องว่าท่านจะดำเนินการต่อเรื่องนี้ยังไง”
“เพราะเอกสารที่ผมมี ณ ตอนนี้ ผมได้ส่งให้ทุกหน่วยงานแล้ว แม้แต่กรมที่ดินเองก็ได้รับเอกสารนี้แล้วเช่นกัน ซึ่งเขาก็ได้ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบขึ้นมา ส่วนเจ้าหน้าที่ที่ดินที่โดนแอบอ้างลายเซ็นก็ได้ไปแจ้งความแล้วเช่นกัน ว่าเขาถูกหลอก ฉะนั้น มันก็ได้พิสูจน์แล้วว่าที่มาที่ไปของเอกสารมันไม่ถูกต้องแน่นอน”
ลั่นถ้ามัวแต่กลัวจะกลับไปเล่าให้ลูกหลานฟังได้อย่างไร ด้าน “แอน อลิชา” เป็นห่วง
“จริงๆ แล้วเนื้อที่บนเกาะนั้นตามเอกสารสิทธิ ที่คุณปู่เคยไปเดินรังวัดกับนายอำเภอในสมัยนั้น 60 กว่าไร่ และพอปี 2535 เราต้องการออกเอกสารสิทธิ น.ส.3. ก็เลยไปวัดใหม่ ปรากฏว่า ที่ข้างหลังมันเป็นป่า เราก็เลยลดเหลือแค่ 53 ไร่ เพราะที่ๆ เป็นป่าเราต้องการเก็บเป็นป่าไว้อย่างนั้นเพื่อให้นกเงือกอยู่ อีกอย่างเวลามีคนไปเที่ยว เราก็ให้เขาเที่ยวแค่เฉพาะหน้าหาด ไม่ได้มีการปีนป่าย หรือทำลายป่า แต่อาจจะมีบางคนเข้าไปศึกษาระบบนิเวศของป่าบ้าง ซึ่งมันก็ไม่ได้เป็นการทำลายป่า แต่ถ้าหากมีคนเข้าไปถางป่า ตัดไม้ สร้างรีสอร์ต ผมว่ามันอาจจะมีผลกระทบ ซึ่งในส่วนของธุรกิจครอบครัวผมก็อย่างที่บอกไป คือ ให้นักท่องเที่ยวมาเที่ยวแค่ชายหาดเท่านั้นเอง”
“คุณแอนเขาก็ช่วยซัปพอร์ตในหลายๆ อย่าง และก็อยากให้เรื่องนี้จบเร็วๆ แต่หลักๆ คือ เขาอยากให้ผมทำในสิ่งที่ถูกต้อง เพราะถ้าเรามัวแต่กลัว และไม่ได้ทำในสิ่งที่ถูกต้อง ผมคิดว่าเราจะไปเล่าให้ลูกหลานเราฟังได้ยังไง”
ไม่โกหก! ถูกคู่กรณีเอาปืนมาขู่
“ผมยืนยันว่าผมไม่มีการใช้อาวุธไปข่มขู่ เพราะบนเกาะมีแต่ปืนลูกซองเก่าๆ ที่เอาไว้ยิงนก จะเอาไปยิงใครคงไม่ได้ แต่สิ่งที่ลูกน้องผมเจอในวันที่เขาขึ้นมาที่เกาะ ได้มีการเอาอาวุธปืนมาข่มขู่ ผมพูดจริงๆ ผมไม่ได้พูดโกหกอยู่แล้ว ผมถึงได้ออกมาเรียกร้องไม่อย่างนั้นผมก็คงออกมาสู้ด้วยตัวเองแล้ว แต่อันนี้ผมเห็นแล้วว่าผมสู้ด้วยตัวเองไม่ได้จริงๆ ซึ่งพอผมประกาศลงไปในโซเชียล ตกคืนนั้นก็มีเรือมารับคนที่บุกรุกขึ้นเกาะกลับไป”
“ในส่วนของคู่กรณีท่านผู้ว่าฯ ก็มีความเมตตาให้หลังเดือนพฤษภาคม ซึ่งได้มีการพิจารณาแล้วว่าเอกสารสิทธิถูกต้องหรือไม่ถูกต้องยังไงก็ค่อยมาว่ากันอีกมีหนึ่ง”
ฟุ้งรู้เพศลูกแล้ว แต่ “แอน อลิชา” ถือเคล็ดห้ามบอกใคร รับอยากมีทายาทเพิ่ม
“ตอนนี้คุณแอนก็ท้องใหญ่มากแล้ว น่าจะคลอดช่วงเดือนกรกฎาคม ตอนนี้ก็ประมาณ 7 เดือนแล้ว ด้านสุขภาพก็ดีขึ้น หลังจากผมไปต่างประเทศนานๆ สุขภาพเขาก็ดีขึ้น (หัวเราะ) ช่วงไม่ไปก็โทร.ตามตลอดเลย ซึ่งเขาก็อยากให้เราอยู่ด้วยตลอดนั่นแหละ ส่วนเรื่องเพศก็รู้แล้วแต่ภรรยายังไม่ให้บอก เขาน่าจะถือเคล็ด”
“ซึ่งถ้าเขาคลอดแล้วก็คงจะอยู่ดูแลเขา เพราะว่าก่อนหน้านี้ ผมอัดถ่ายรายการต่างประเทศเยอะมากๆ ครับ คิดว่าช่วงที่เขาคลอด 2 เดือนแรกผมจะไม่ไปไหนแล้ว รวมถึงรายละเอียดอื่นๆ เราก็เตรียมพร้อมไว้มากแล้ว ทั้งการปรับปรุงบ้าน ปรับปรุงห้อง อีกอย่างคุณแอนเขาก็ซื้อคอร์สเตรียมตัวเองไว้แล้วด้วย ผมมีหน้าที่รูดบัตรเพียงอย่างเดียว และเย็นนี้ผมเองก็ตั้งใจว่าจะพาเขาไปเที่ยวพักผ่อนด้วยครับ”
“ตอนนี้ก็ดีใจครับ ลุ้นๆ ให้น้องออกมาแข็งแรง เป็นอย่างที่เราหวังไว้แค่นั้นก็โอเคแล้ว ส่วนเรื่องของการตั้งชื่อเรายังไม่ได้คิดไว้ แต่อาจจะเอาชื่อของพ่อแม่มารวมๆ กัน เรื่องการคลอด แอนเขาก็ตั้งในว่าจะคลอดเอง แต่เราก็ต้องดูสถานการณ์ ณ ตอนนั้นด้วยว่าเป็นยังไง ซึ่งก่อนหน้านี้คุณแอนเขาก็ได้มีการเข้าคอร์สว่ายน้ำ คอร์สพิลาทิส รวมถึงออกกำลังกายแบบเบาๆ ส่วนจะมีลูกเพิ่มไหมก็ต้องรอดูอีกทีครับว่าจะมีอีกคนหนึ่งเลยไหม เพราะเราอยากให้คนแรกออกมาดีก่อน จริงๆ แล้วอยากมี 2 คน”