แพทย์ยันอาการ “ใบเตย” หลังตกควายไม่ร้ายแรง พูดไม่ได้ช่วงแรกแค่ช็อก ส่วนพระเอกหนุ่ม “มาร์ติน” ปากฉีก ห่วงอาการชาบริเวณฟัน เหตุกระแทกจนเกิดรอยร้าว - รอเช็กสมอง ด้านผู้บริหารช่อง 8 แอบขำหลังรู้ข่าวใบเตยตกควาย เผยไม่คิดว่าจะหนัก ลูกทุ่งสาวรับทั้งช็อกทั้งหลอน วินาทีเชือกผูกควายรัดคอ บอกถ้าลากนานตนตายแน่ เชื่อแม่นากไม่ชอบฉากนี้ เผยก่อนถ่ายมีสัญญาณไม่ดีบางอย่าง
เจอเรื่องระทึกกันกลางกองถ่ายแม่นาก สำหรับสองนักแสดง “ใบเตย อาร์สยาม” สุธีวัน ทวีสิน และพระเอกหนุ่ม “มาร์ติน มิดาล” หลังต้องเข้าฉากสวีตบนหลังควาย แต่ควายดันตื่นเสียงเพลงงานบวชสะบัดจนร่วง โดยสาวใบเตยถูกเชือกผูกควายรัดคอ พระเอกหนุ่มมีอาการปากฉีก
ล่าสุด เมื่อช่วงบ่ายของวันนี้ (6 เมษายน 2559) แพทย์ รพ.เวชธานี “นาแพทย์ พรอเนก ตาดทอง” ศัลยศาสตร์กระดูกและข้อโรคกระดูกสันหลัง รวมทั้ง “นายแพทย์ วิบูลย์ ชัยยะมงคล” ศัลยแพทย์ทั่วไปแถลงอาการทั้งคู่ โดยเผยสาวใบเตยอาการทั่วไปไม่ร้ายแรง แต่ต้องดามคอ เพราะเป็นพื้นที่อันตราย ส่วนพระเอกหนุ่มปากฉีก ต้องรอเช็กสมองอีก 2 วัน และห่วงอาการชาบริเวณฟัน เหตุเกิดรอยร้าวจากการกระแทก
“อาการของคุณมาร์ตินหลัก ๆ มี 3 ส่วนที่ได้รับอุบัติเหตุ อันที่หนึ่งคือ มีแผลฉีกขาดที่บริเวณปากด้านล่างแผลประมาณ 3 ซม. แต่ค่อนข้างลึกไปจนถึงเยื่อบุผนังด้านใน ซึ่งในเบื้องต้นเขาได้รับการรักษาบาดแผลมาแล้วจาก รพ. ในจังหวัดสุพรรณบุรี อันที่สองมีฟกช้ำที่สะโพกด้านขวา แต่ดูแล้วไม่เป็นอะไรมาก เขาสามารถเดินได้ตามปกติดี อันที่สาม เขามีรอยร้าวจากกระดูกขากรรไกรที่มุมขวา ซึ่งร้าวแต่กระดูกไม่เคลื่อน การรักษาต้องดูก่อนว่าถ้าไม่มีการเคลื่อนของกระดูก คงแค่งดการเคี้ยวที่ใช้แรงเยอะ ๆ รอให้กระดูกสมานไปเอง”
“ส่วนที่พาคุณมาร์ตินไปเอกซเรย์เพิ่มเติมในส่วนของฟัน เพราะคุณมาร์ตินบอกว่ามีอาการชาที่ฟันด้านบน ปรากฏว่า เรายังไม่เห็นรอยร้าวจากฟิล์ม แต่ถ้าดูด้วยตาเปล่า จากการตรวจเราเห็นรอยแตกเล็ก ๆ ที่อาจจะเกิดจากการกระแทก หรือการเคี้ยวอาหารในชีวิตประจำวันก็ได้ ในส่วนของช่องปากของคุณมาร์ติน ตอนนี้เขายังมีอาการชาอยู่บริเวณฟันที่มีรอยร้าว เราต้องดูอาการไปก่อนว่า อนาคตจะมีปัญหาอะไรหรือไม่ อาจจะมีอาการฟันตาย แต่ตอนนี้ยังไม่มี เราพูดเผื่อไว้ก่อน ถ้ามีอย่างนั้น อาจจะต้องให้หมอฟันดูแลเพิ่มเติม”
“ส่วนสิ่งที่ต้องระวัง คือ ในส่วนของกระดูกขากรรไกรที่ร้าว การเคี้ยวอาหารคงออกแรงมากไม่ได้ ต้องใช้เวลาพักฟื้น นอนอยู่โรงพยายาบาลสัก 2 วัน เพราะบริเวณแผลตรงคาง อาจจะสะเทือนไปถึงศีรษะ ฉะนั้น เราต้องรอดูอาการทางสมองด้วยสัก 2 วัน และอาจจะไปพักต่อที่บ้าน ส่วนอื่น ๆ ยังไม่มีผลกระทบ ระวังไม่ให้กระดูกเคลื่อนแค่นั้น ตอนนี้ยังไม่ถึงขนาดต้องทำศัลยกรรม”
ด้าน “นายแพทย์ วิบูลย์ ชัยยะมงคล” ศัลยแพทย์ทั่วไปกล่าวถึงอาการของใบเตย บอกโชคดีไม่มีอะไรแตกหัก ส่วนรอยช้ำที่คอเกิดจากเชือกรัดคอในช่วงสั้น ๆ ต้องดามคอเพราะเป็นพื้นที่อันตราย คาด 2 วันกลับบ้านได้
“หลังจากผมดูคลิปอุบัติเหตุครั้งนี้แล้ว ต้องยอมรับว่า น้องทั้ง 2 คน เขาโชคดีมาก ที่เกิดอุบัติเหตุขนาดนั้น แล้วได้รับบาดเจ็บไม่มาก กรณีของคุณใบเตยได้รับอุบัติเหตุอยู่ 3 จุด อย่างแรก บริเวณคอ คิดว่าคงเป็นเชือกที่ผูกตัวกระบือไปดึงรั้งคอไว้ เลยทำให้มีอาการคอเคล็ด แต่จากภาพเอกซเรย์ที่เราดูอย่างละเอียด ไม่มีอะไรแตกหรือหัก อย่างที่ 2 คือ แผลช้ำรอบบริเวณคอ อันนี้เราคิดว่าเกิดจากรอยเชือกที่กระชาก อย่างที่ 3 คือ บริเวณสะโพกด้านขวา เราคิดว่าตอนที่คุณใบเตยตกลงมา คงได้รับแรงกระแทกบริเวณนี้ เท่าที่ตรวจดูแค่เจ็บเฉย ๆ ไม่มีอาการหัก หรืออะไร ผมคิดว่าโชคดีไม่มีอะไรร้ายแรง”
“แต่ที่เขาไม่สามารถลงมาแถลงข่าวด้วยได้ ผมคิดว่าถ้าเขาจะลงมาจริง ๆ คงลงมาได้ แต่ว่าเขาคงเจ็บกล้ามเนื้อพอสมควร ผมเลยบอกคุณใบเตยว่าถ้ายังไม่สะดวกให้เขานอนพักดีกว่า คุณใบเตยถามว่าเขาควรจะลงมาไหม เขาคงอยากลงมาแถลงเหมือนกัน แต่ถ้าถามความเห็นผมคิดว่าให้เขาพักอยู่ที่ห้องดีกว่า แต่เขาก็ไม่มีอะไรมาก”
“ส่วนการใส่ที่ดามคอ ในการรักษาเบื้องต้น กระดูกคอเป็นพื้นที่อันตราย ไม่ว่าจะได้รับอุบัติเหตุอะไร ต้องเริ่มต้นด้วยการดามคอเสมอ หลังจากเอกซเรย์คอมพิวเตอร์แล้ว ถ้าไม่มีอาการอะไร เราถึงจะเอาออก ถามว่า การโดนเชือกรัดคอจะมีผลต่อการหายใจหรือไม่ ตอนนี้ไม่มีอะไรแล้ว คิดว่าคงเป็นการรัดคอในช่วงสั้น ๆ อาการโดยรวมไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง อยู่โรงพยาบาลสัก 2 วัน คงกลับบ้านได้ ส่วนช่วงแรกที่เกิดเหตุการณ์แล้วคุณใบเตยไม่สามารถสื่อสารได้ คงเป็นเพราะอาการช็อก แต่ก่อนหน้านี้เขาบ่นว่ากลืนน้ำลายแล้วเจ็บคอนิดหน่อย คิดว่าน่าจะเกิดจากรอยเชือก ไม่มีอะไรน่าตกใจแล้ว”
เวลาต่อมาสาวใบเตยยอมเปิดใจให้สัมภาษณ์ถึงเหตุการณ์ระทึกที่เกิดขึ้น โดยยอมรับว่า ตนช็อกกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจนร้องไห้ไม่หยุด และเชื่อว่า แม่นากไม่ชอบฉากนี้
“ตกใจมาก ก่อนหน้าจะเกิดเรื่อง เราก็หลอนกับเรื่องพวกนี้อยู่แล้ว เพราะเคยตกม้ามาก่อน หนูคิดเองว่าแม่นากคงไม่ชอบฉากนี้ เพราะตอนที่ตกควาย แล้วเชือกผูกควายมารั้งคอ หนูรู้เลยว่าคนจะตายเป็นยังไง วินาทีที่เกิดเรื่องช็อกมาก เหมือนเมื่อวาน (5 เม.ย.) มันมีสัญญาณอะไรบางอย่างที่ไม่ค่อยดีเลย เพราะว่าก่อนที่จะเกิดเหตุการณ์ หนูขึ้นเฟซบุ๊กว่า want to go home หนูอยากกลับบ้าน พอวางมือถือหนูก็ไปเข้าฉาก ซึ่งฉากในวันนั้น เป็นฉากที่พ่อมากกับแม่นาก กำลังพลอดรักกันเหมือนฟิลน่ารัก ๆ”
“ถามว่าควายตกใจเสียงอะไรหรือเปล่า เท่าที่หนูมีประสบการณ์ หนูคิดว่าควายตกใจคน และสิ่งแวดล้อมรอบตัวเขา เพราะควายตัวนี้เขาเคยออกมาแสดงเป็นครั้งแรก มาเข้าฉากครั้งแรก ถามว่าหนูเข็ดไหม หลังจากนี้ คงขอแยกจากสัตว์ใหญ่ ตอนนี้ทีมงานคงอาจจะไม่ได้ให้ถ่ายแล้ว”
“เราคิดว่าเรื่องอาถรรพ์มีส่วน แต่ถ้าให้เราคิดเอง คิดว่ามันเป็นอุบัติเหตุที่เราไม่คาดคิด เพราะละครหลาย ๆ เรื่องก็มีฉากที่พระเอก นางเอกขึ้นขี่ (ควาย) กันได้ตลอด ไม่เห็นจะมีปัญหา เรารู้สึกว่าควายมันสงบ มันไม่ใช่ม้าที่วิ่งเร็ว แต่กลายเป็นว่าหนักกว่าม้าอีก ก่อนหน้านี้ หนูไปไหว้แม่นากมาแล้ว หลังจากนี้ คงต้องไปไหว้อีก เรื่องอาถรรพ์เป็นความเชื่อส่วนบุคคล แต่หนูสอบถามจากพี่ ๆ ที่เคยเล่นเรื่องแม่นากมาก่อน เขาก็เจออะไรแบบนี้เหมือนกัน”
บอกถ้าถูกควายลากนานตนตายแน่!
“ถามว่าหนูตั้งสติยังไง ณ ตอนที่เกิดเรื่อง ไม่มีสติเลย ร้องไห้ไม่หยุดเลย เพราะเราเคยเจอเรื่องอย่างนี้มาแล้ว มันเหมือนเดจาวู เลยมีความรู้สึกว่าเราต้องเจออีกแน่ ๆ เพราะตอนซ้อมหนูก็ตกลงมา แต่ตกแบบมีคนรับนะ เราร้องตอนซ้อมว่าเราไม่ไหวแล้ว ทีมงานเลยเข้ามาช่วย แล้วมาร์ตินก็เอาควายไปฝึกให้นิ่งขึ้น ผู้กำกับก็มาถามว่าโอเคไหมใบเตย ลองดูอีกสักที ด้วยสปิริตเราก็ต้องทำ ไม่อยากให้ผู้กำกับผิดหวัง”
“ส่วนแผลที่คอหลัก ๆ เราเจ็บคอเพราะโดนเชือกรัด เป็นแผลเชือกบาด เหมือนคนผูกคอตายประมาณนั้น แต่มีรอยถลอกบ้าง เพราะควายวิ่งลากเราไปแล้วปล่อยให้คอเรารั้งไว้กับเชือก หน้าแหงนขึ้นไป หายใจไม่ออก คิดเลยว่าถ้าลากนานกว่านี้ ตายแน่ หนูเห็นคลิปแล้วเสียใจมาก ส่วนเรื่องงาน หนูต้องไปต่อ รับงานไปแล้ว วันที่ 7 เม.ย. จะเริ่มทำงานแล้ว เป็นคอนเสิร์ต เราต้องไหว้ สู้”
ด้านผู้บริหารช่อง 8 “โด่ง องอาจ สิงห์ลำพอง” ยอมรับเป็นบทเรียนสำคัญ ต้องทำความเข้าใจธรรมชาติสัตว์ก่อนนำมาเข้าฉาก ปัดใช้แรงงานควายหนักจนควายโมโห ยอมรับครั้งแรกที่รู้ข่าวใบเตยตกควายตนแอบขำ ไม่คิดว่าจะหนัก หวั่นอาถรรพ์แม่นาก
“เราถามน้อง (ใบเตย) เหมือนกันว่าเข็ดไหม หรือกลัวไหม เพราะเราเพิ่งเห็นควายเต็ม ๆ ว่า มันเป็นควายตัวใหญ่มาก เพราะบรรยากาศในฉากสามารถเปลี่ยนได้ เพื่อให้ความปลอดภัยกับนักแสดง น่าจะเปลี่ยนฉากไปเลย เราคงไม่ต้องมีปฏิสัมพันธ์กับควายเยอะ เอาแค่ว่าให้กลิ่นอายของเรื่องว่ามีควายอยู่”
“ถามว่ามีประเด็นดราม่าว่าทางกองถ่ายใช้แรงงานควายหนักไป จนควายโมโห ด้วยความเป็นกองถ่าย อาจจะมีการถ่ายทำเวลาเลตไปบ้าง และอากาศร้อน แต่คิดว่านี่น่าจะเป็นบทเรียนสำคัญสำหรับทุกกองถ่าย ที่จะทำความเข้าใจเกี่ยวกับธรรมชาติของสัตว์ให้ถ้วนถี่ ถ้าเป็นเราอาจจะไม่เข้าใจเหมือนกัน เพราะไม่เคยถ่ายงานกับควาย แต่นี่เป็นตัวอย่างให้เห็นว่าเราต้องคิดเยอะขึ้นเหมือนกัน เราเห็นเหตุการณ์จากคลิป ตอนแรกทีมงานบอกใบเตยตกควาย เราขำก่อน ไม่คิดว่าจะหนัก แต่พอทีมงานบอกว่า น้องเริ่มไม่พูด เขาช็อก เราก็คิดว่ามันผิดปกติ พอดูคลิปเราตกใจเลย เพราะควายวิ่ง”
“ส่วนเรื่องอาถรรพ์ปกติใบเตยจะไหว้ขอขมาแม่นากก่อนทุกครั้ง แต่วันที่เกิดเหตุบังเอิญไม่ได้ไหว้ เราคิดว่าเรื่องแบบนี้อาจต้องเชื่อไว้นิดหนึ่ง บังคับให้ทุกคนต้องทำ ถามว่าโดยส่วนตัวผมเชื่อเรื่องอาถรรพ์แม่นากไหม (เงียบไปสักพัก) เชื่อไหมไม่ทราบ แต่เวลาที่เราทำงาน เราต้องไหว้ก่อน จริง ๆ ก่อนหน้านี้ เรามีการไหว้อย่างถูกต้องทุกอย่าง แต่หลังจากนี้คงต้องให้ทีมงานไปเช็กอีกทีหนึ่ง เพราะนักแสดง และทีมงานยังต้องอยู่กับเรื่องนี้อีกนาน”
“ส่วนเรื่องที่ว่านักแสดงจะกลับมาทำงานได้เมื่อไหร่ เช็กจากสปิริตนักแสดงแล้ว คิดว่าสัปดาห์หน้าคงเริ่มถ่ายทำได้ เพราะละครเรื่องนี้เราวางแผนออกอากาศแล้ว แต่ท้ายที่สุดต้องดูความพร้อมของนักแสดงเป็นหลัก ส่วนอาการของมาร์ติน เขาคงมีอุปสรรคเรื่องการพูดนิดหน่อย เรายังไม่รู้ว่าถ้าเขาหายแล้ว สภาพผิวหน้าจะเป็นยังไง จะต้องทำศัลยกรรมเพิ่มหรือเปล่า คงต้องดูอีกทีหนึ่ง”