ผ่านพ้นไปแล้วสำหรับคอนเสิร์ตวันแรกของ Madonna Rebel Heart Tour Bangkok Presented by Singha Drinking Water กับตัวแม่อย่าง “มาดอนนา” ที่ขนโปรดักชันสุดอลังการมาโชว์แบบเต็มๆ งานนี้ทำเอาสาวกปลื้มปริ่มกันถ้วนหน้า
เรียกได้ว่าคุ้มค่าการรอคอยจริงๆสำหรับคอนเสิร์ต Rebel Heart ของ มาดอนนา ควีนออฟป็อป ที่คอนเสิร์ตครั้งนี้นับเป็นเวิล์ดทัวร์ครั้งที่สิบของเธอ แต่เป็นคอนเสิร์ตแรกของมาดอนนาในเมืองไทย กับทัวร์ที่ถือว่ายิ่งใหญ่ที่สุดทัวร์หนึ่งของวงการเพลง
โดยคอนเสิร์ตมาดอนนาครั้งนี้ สามารถสร้างสถิติเป็นทัวร์ที่ทำรายได้สูงที่สุดซึ่งกว่า 80 โชว์ที่เธอจะเปิดการแสดงจะสามารถทำรายได้มากกว่า 80 ล้านเหรียญ หรือประมาณ 3 พันล้านบาทเลยทีเดียว และแน่นอนว่ากับความอลังการที่การันตีคุณภาพมาแล้วจากแฟนๆทางฝั่งอเมริกาและยุโรป การมาเยือนเอเชียครั้งนี้ของมาดอนนา ก็ไม่ได้ทำให้แฟนๆชาวไทยผิดหวังแต่อย่างใด
โชว์ของมาดอนนาก็เป็นไปตามที่คาดเหมือนทุกครั้งกับการนำเสนอประเด็นอ่อนไหวทั้งเรื่องเซ็กซ์และศาสนา ตามสไตล์ของมาดอนนา เริ่มตั้งแต่เวทีคอนเสิร์ตที่ออกแบบมาด้วยรูปทรงไม้กางเขนแบบโกธิควินเทจ โดยดีไซน์ให้ตรงปลายเวทีเป็นรูปทรงหัวใจให้เข้ากับชื่อคอนเสิร์ต นอกจากนั้นในเรื่องของการแสดงก็ต้องบอกว่าทุกเพลงที่เธอนำมาโชว์จะเต็มไปด้วยเรื่องราวมีความดรามา ทำให้โชว์ของมาดอนนามีกลิ่นไอของความเป็นมิวสิคัลผสมผสานอยู่ด้วย ทำให้การเต้นการแสดงในแต่ละเพลงจึงเต็มไปด้วยความตื่นตาตื่นใจ และเป็นโชว์ 2 ชั่วโมงที่ไม่น่าเบื่อเพราะมีการแสดงเจ๋งๆมาเซอร์ไพร์สได้ตลอด
นอกจากความแข็งแรงทรงพลังของแดนเซอร์นานาชาติที่ออกมาเปิดการแสดงเสมือนมาเล่นกายกรรมให้ทุกคนตะลึงตาค้างแล้ว ความแข็งแกร่งของตัวแม่อย่างมาดอนนา ในวัย 57 ปีเกือบแซยิด ก็ทำให้ผู้ชมตะลึงไปด้วยเช่นกัน กับการห้อยโหนหรือการปีนเสาด้วยมือเปล่า และการเต้นแบบลืมอายุ จนทำให้สาวๆรุ่นลูกอายกันถ้วนหน้า
แต่ก่อนที่จะเริ่มโชว์อย่างเป็นทางการ มาดอนนา ก็ยังคงรักษามาตรฐานการโชว์เลทของเธอไว้ได้ให้เท่าเทียมกับประเทศอื่นๆที่เธอไปเยือนมาจนกลายเป็นข่าวดังก่อนหน้านี้ โดยคอนเสิร์ตครั้งนี้ที่ประกาศเริ่มโชว์เวลา 20.00 น. ก็เป็นการเริ่มโชว์อุ่นเครื่องของโชว์เปิดจากดีเจ MARYMAC โดยที่มีมาดอนนาเริ่มขึ้นแสดงจริงในเวลา 22.00 น. ทำเอาคอนเสิร์ตเลิกดึกโดยเลิกหลังเที่ยงคืนกันเลยทีเดียว
เข้าสู่ช่วงคอนเสิร์ต เปิดโชว์ครั้งนี้ด้วยความอลังการจากวิดีโอเปิดตัวบนจอขนาดยักษ์ ก่อนตามด้วยบรรดาแดนเซอร์ในชุดเกราะแบบนักรบโบราณพร้อมถือหอกที่ตรงปลายเป็นรูปไม้กางเขน ขณะที่มาดอนนา ที่อยู่ในกรงขังก็ลอยลงมาจากด้านบนเป็นการเปิดตัวอย่างอลังการในธีม Joan of Arc ความพีคของโชว์นี้ยังอยู่ที่การห้อยหัวของมาดอนนาบนด้ามหอกที่ทำเอากรี๊ดกันทั้งฮอลล์ ตามด้วยการแปลงร่างเป็นซามูไรสาวในเพลง Bitch I’m Madonna กับการแสดงต่อสู้และรำพัดร่วมกับเหล่าแดนเซอร์ที่มาในชุดนินจาสาวและซามูไรหนุ่ม
จากนั้นเจ๊มาดอนนาก็แปลงร่างเป็นร็อกสตาร์สาวคล้องกีตาร์ โชว์เพลง Burning Up และก็เข้าสู่ช่วงความฉาวของคอนเสิร์ตกับโชว์ที่แดนเซอร์แต่งเป็นแม่ชีสาวสวมเพียงบราและกางเกงชั้นใน ออกมาเต้นโหนเสาเพื่อเข้าสู่เพลง Holy Water ความพีคกลับมาอีกครั้งเมื่อมาดอนนาปีนเสาด้วยมือเปล่าพร้อมกับหมุนตัวบนเสาไปเรื่อยๆ จนแทบไม่น่าเชื่อว่านี่คือนักร้องที่วัยเกือบหกสิบปีแล้วโดยโชว์นี้ยังมีการมิกซ์นำเพลง Vogue มารีมิกซ์ต่อในช่วงท้ายและการจำลองโต๊ะอาหารยาว Last Supper ของพระเยซู แต่มาในรูปแบบของปาร์ตี้กินดื่มกันแบบยั่วยวนเพื่อเข้าสู่เพลงต่อไปกับ Devil Pray ที่งานนี้มีการมาสารภาพบาปและเต้นยั่วยวนกับบาทหลวง ขณะที่แดนเซอร์เองก็แต่งเป็นนักบวชจากชาติต่างๆด้วย
การแสดงคั่นแต่ละช่วงของโชว์ก็ต้องบอกว่าน่าสนใจไม่แพ้กัน โดยช่วงแรกมีการแสดงเต้นสไตล์คอนเทมป์รโพลารีร่วมกับผ้า โดยอาศัยพัดลมรายล้อมตัวเป่าเพิ่มความพลิ้ว เป็นการแสดงที่สวยงามประกอบเพลง Messiah สลับกับแดนเซอร์อีกคน ที่จอแอลอีดีบนพื้นเวทียกสูงเป็นกระดานสไลด์ให้แดนเซอร์ได้ปีนขึ้นไปเต้นประกอบกับภาพกราฟฟิค เป็นอีกหนึ่งการแสดงที่น่าประทับใจไม่แพ้กัน
จากนั้นโชว์ของมาดอนนาช่วงต่อไปก็เริ่มขึ้นอีกครั้งกับการนำรถวินเทจขึ้นมาไว้บนเวทีพร้อมกับเต้นยั่วยวนแดนเซอร์เด็กปั๊มไปเรื่อยๆในเพลง Body Shop พอจบเพลงนี้มาดอนนาก็ได้เริ่มกล่าวทักทายแฟนๆชาวไทย โดยพูดภาษาไทยว่า “สวัสดี สวัสดีค่ะ” ก่อนจะขอโทษแฟนๆที่เธอพูดภาษาไทยไม่ได้ พร้อมกับกล่าวขอบคุณที่ต่างรอคอยคอนเสิร์ตเธอและเป็นแฟนเพลงเธอมานานหลายสิบปี ต้องบอกเลยว่าการพูดคุยกับแฟนๆในแต่ละช่วงของมาดอนนา เป็นการแสดงให้เห็นว่าเธอเป็นผู้หญิงที่มีเสน่ห์อย่างแท้จริง เพราะนอกจากจะเอนเตอร์เทนเก่งแล้ว เจ้าตัวยังตลกอีกด้วย แม้ว่าจะมีการปล่อยมุขหยาบคายและพูดคำหยาบแจกฟักแฟงแตงโมไปหลายหนแต่ก็เป็นการพูดคุยที่ทำเอาแฟนๆหัวเราะลั่นได้ทุกครั้ง
ต่อด้วยการขนเพลงเก่ามาร้องอย่างต่อเนื่อง อย่างเพลง True Blue ก็นำมาร้องในเวอร์ชันอคูสติกที่งานนี้เจ้าตัวนำอูคูเลเล่มาดีดสร้างบรรยากาศสบายๆ และแดนซ์ต่อด้วยเพลงเรโทรอย่าง Deeper and Deeper และ Like a Virgin ที่เปลี่ยนเวทีให้เป็นสีชมพูพร้อมกับเสียงร้องใสๆของมาดอนนาเสมือนสาววัยแรกรุ่น
การแสดงที่ควรพูดถึงอีกโชว์ของมาดอนนาคือเพลง HeartBreakCity จากอัลบัมล่าสุดที่เพลงนี้มีการนำบันไดวนโรยลงมาจากด้านบน พร้อมกับที่มาดอนนาแสดงเพลงนี้ร่วมกับแดนเซอร์ที่โหนบันไดสูงขนาด 2 ชั้น ห้อยโหนไปมาด้วยมือเปล่าปราศจากสลิง โชว์ความแข็งแรงของพลังแขนและความแข็งแกร่งของร่างกาย ก่อนที่ช่วงท้ายเขาจะถูกมาดอนนาผลักตกชั้นบนสุดร่วงลงไปยังหลุมด้านล่างเวทีเรียกความหวาดเสียวและเสียงปรบมือจากผู้ชม
เข้าสู่ช่วงการแสดงคั่นเวลาให้มาดอนนากลับเข้าไปเปลี่ยนเสื้อผ้าด้วยโชว์เซ็กซี่สื่อเรื่องทางเพศกับเพลง S.E.X ที่งานนี้มีการนำเตียงมาวางเรียงรายบนพื้นเวทีที่ถูกยกขึ้นเป็นกระดานสไลด์ โดยเหล่าบรรดาแดนเซอร์ที่จับคู่หญิง-ชาย และ ชาย-ชาย ต่างก็เต้นเข้าคู่กันด้วยลีลาเซ็กซี่เหมือนการร่วมรักผ่านศิลปะการเต้นที่น่าดูชวนมองไม่ดูอนาจารจนเกินงาม
และก็เข้าสู่ธีมละตินกับการแสดงในเพลง Living for Love ที่มาดอนนาปรากฏตัวพร้อมผ้าคลุมศีรษะหางยาวสีแดงที่ออกแบบโดย Armani ท่ามกลางเหล่าแดนเซอร์ที่มาพร้อมกับเขากระทิงให้มาดอนนาเป็นมาทาดอร์สาวคอยหลอกล่อ จากนั้นก็เต้นละตินส่ายสะโพกกันต่อกับเพลงภาษาละตินกับ LA ISLA BONITA ทางด้านแดนเซอร์หนุ่มก็แปลงร่างเป็นนักเต้นละตินเท้าไฟพร้อมกับนำแก้วเหล้ามาให้มาดอนนาได้กรี๊บพอกรึ่มๆอีก 2 แก้ว จากนั้นก็ต่อกับเพลง Take a Bow ซึ่งถือเป็นการนำเพลงนี้ขึ้นแสดงสดบนเวทีอีกครั้งนับตั้งแต่ปล่อยออกมาเมื่อปี 1995 กับการนำมาร้องสดให้ได้ฟังอีกรอบในการออกทัวร์ของมาดอนนาครั้งนี้ด้วย จากนั้นเจ้าตัวก็โชว์การดีดกีตาร์อีกครั้งกับเพลง Rebel Heart ปิดท้ายโชว์ช่วงที่3
เข้าสู่ช่วงพักกับการแสดงคั่นของเหล่าแดนเซอร์ที่ทำเอาตื่นตะลึงตาค้างไปตามๆกันกับลีลาห้อยโหนบนเสายางที่ทำให้แดนเซอร์สามารถเต้นเอนหน้าเอนหลังโค้งไปมาบนยอดเสาสร้างความหวาดเสียวให้ผู้ชมกันทั่วทั้งฮอลล์ ซึ่งเป็นการแสดงประกอบเพลง Illuminati ที่ถือเป็นไฮไลท์หนึ่งของคอนเสิร์ตครั้งนี้เลยก็ว่าได้
จากนั้นมาดอนนาก็ปรากฏตัวอีกครั้งกับชุดวิบวับสไตล์ชิคาโก กับเพลง Music ที่มีการมิกซ์เพลง Give It To Me เข้าไว้ในช่วงท้ายด้วย จากนั้นเพลงประจำตัวมาดอนนาอย่าง Meterial Girl ก็ตามมา ซึ่งไฮไลท์ของเพลงนี้ยังมีผ้าคลุมหน้าเจ้าสาวผืนยาวที่เธอเดินบนเวทีเหมือนกำลังเดินเข้าพิธีวิวาห์พร้อมกับที่ในมือมีช่อดอกไม้ ก่อนจะเข้าสู่ช่วงทอล์คที่เจ้าตัวพูดคุยอย่างสุดฮากับแฟนๆที่อยู่ด้านล่างเวที พร้อมกับโยนช่อดอกไม้ในมือเพื่อเลือกผู้โชคดีที่เธอจะพูดคุยและแต่งงานด้วย ซึ่งผู้ที่สามารถรับช่อดอกไม้ของมาดอนนาได้คือสาวมาดทอมชาวสเปน ซึ่งมาดอนนาก็ได้พูดคุยซักถามพร้อมกับปล่อยมุขหยาบโลนเรียกเสียงฮาจากผู้ชมทั้งฮอลล์
จากนั้นเธอก็หยิบอูคูเลเล่ กลับมาอีกครั้งเพื่อโชว์ลูกคอสุดประทับใจในเพลงสุดคลาสสิคอย่าง La Vie En Rose ที่มาในเวอร์ชันอคูสติก ซึ่งผู้ชมต่างก็เปิดแฟลชไลท์จากโทรศัพท์มือถือสร้างความสวยงาม จากนั้นมาดอนนาก็โชว์ลีลาแดนซ์ต่อกับเพลง Unapologetic Bitch ที่งานนี้มีสาวข้ามเพศร่างท้วมชาวไทยที่แต่งเต็มมาพร้อมวิกผมยาวสีขาวก็ได้ขึ้นเวทีเต้นและเดินประกบมาดอนนาและเหล่าแดนเซอร์ ซึ่งงานนี้เจ้าตัวก็แดนซ์เต็มที่ลงไปเต้นแบบสุดตัวจนวิกผมหลุดกระเด็น พอเพลงจบมาดอนนากับเหลาแดนเซอร์จึงช่วยกันยืนล้อมบังให้เธอได้ใส่วิกผมให้เข้าที่เรียกรอยยิ้มและเสียงหัวเราะจากผู้ชม ซึ่งงานนี้แม้เธอจะขอกอดมาดอนนาแต่มาดอนนาปฏิเสธโดยอ้างว่าตัวมาดอนนาตอนนี้มีแต่เหงื่อและเหม็นด้วยแต่ควีนออฟป็อปก็ยอมทำตามคำขอที่เธออยากชูมือของมาดอนนาขึ้นพร้อมให้นักร้องดังพูดภาษาไทยว่า “ฉันรักคนไทย” ซึ่งมาดอนนาก็ทำตามโดยดีไม่มีอิดออด พร้อมกับให้กล้วยหอมเป็นของขวัญ จากนั้นมาดอนนาก็ลาลงเวทีไป
จากนั้นเข้าสู่ช่วงอังกอร์กับเพลงสุดท้ายอย่าง Holiday ซึ่งเพลงนี้มาดอนนาออกมาเต้น พร้อมกับธรรมเนียมของเพลงนี้ที่นำธงชาติของประเทศนั้นๆมาคลุมตัว พร้อมโบกสะบัดไปมา โดยที่มีแดนเซอร์ห้อยสลิงเต้นประกอบกับกราฟฟิคบนพื้นเวทีที่ยกตัวขึ้นสูงทางด้านหลัง โดยตอนท้ายมาดอนนายังลาแฟนๆกลับด้วยการห้อยสลิงโรยตัวขึ้นเหาะกลับเข้าหลังเวที เรียกได้ว่าทั้งเปิดตัวและปิดตัวไม่ธรรมดาจริงๆสำหรับโชว์สุดอลังของราชินีเพลงป็อปครั้งนี้
ต้องบอกว่าคอนเสิร์ต Madonna Rebel Heart Tour Bangkok Presented by Singha Drinking Water กับการนั่งดูผู้หญิงในวัยเกือบ 60 ปีทั้งร้องทั้งเต้นกว่า 2 ชั่วโมงทำให้เราประทับใจได้ไม่น้อยแม้ว่าเสียงของมาดอนนาจะมีตกๆไปบ้างแต่ถ้าเทียบกับพลังงานที่เธอถ่ายทอดออกมาอย่างเต็มที่ในทุกๆการแสดงก็ต้องนับถือหัวจิตหัวใจเธอเลยทีเดียวและแม้จะเคยเห็นคลิปผ่านตากับบางเพลงบางโชว์ของเธอมาบ้างแล้วตามหน้าสื่อต่างประเทศที่มักมีข่าวและประเด็นให้ได้วิพากษ์วิจารณ์อย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่ออกเดินสายทัวร์ แต่ก็ต้องบอกว่าทัวร์ครั้งนี้ของมาดอนนา การได้มาสัมผัสและเห็นด้วยตาตนเองนับเป็นอะไรที่ตื่นตาตื่นใจกว่าดูผ่านคลิปมากมายหลายเท่านัก ซึ่งใครที่พลาดการแสดงของวันที่ 9 ก.พ. ที่ผ่านมา ก็ยังพอมีเวลาที่จะได้ชมโชว์สุดตื่นตาตื่นใจนี้ในวันที่ 10 ก.พ. ซึ่งเป็นการแสดงรอบที่ 2 ของมาดอนนาในประเทศไทย ก่อนที่เธอจะออกเดินทางไปเปิดการแสดงต่อในประเทศอื่นๆทั้ง ญี่ปุ่น, ฮ่องกง, มาเก๊า, ฟิลิปปินส์, สิงคโปร์ และ ออสเตรเลีย
ติดตามรับชมช่อง “Super บันเทิง” ได้ที่ Super บันเทิง live
ข่าวบันเทิง, ถูกต้อง, รวดเร็วฉับไว ทั้งไทย และเทศ http://www.superent.co.th
ติดตามความเคลื่อนไหวอินสตาแกรมดาราทั้งไทยและเทศตลอด 24 ชั่วโมงได้ที่ ซูเปอร์สตาแกรม