xs
xsm
sm
md
lg

เพื่อนรักสุดอาลัย “ปอ” ขอนอนเฝ้าโลงยันเผา

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

สองเพื่อนสนิท ปั้น-บอย
เพื่อนรัก “ปอ ทฤษฎี” ขนลุก! ไฟดับพรึ่บ! เชื่อพระเอกดังอยากให้นอนเฝ้า ขอนอนเฝ้าโลงยันเผา เผย ลางสังหรณ์แม่เพื่อนที่ปอสนิทดูดวงให้ บอกอยู่ไม่ถึงวันเกิด ร่วมใจหล่อพระถวาย ทำโรงทานอุทิศบุญให้ปออยากให้หาย เชื่อ ตอนนี้พระเอกดังไปสบาย ไปสวรรค์ ยกเป็นคนดีศรีบุรีรัมย์ เป็นตัวอย่างคนรุ่นใหม่ ตื้นตันใจแทนปอและครอบครัว คนแห่มาเคารพศพยันตี 4

เป็นเพื่อนที่สนิทสนมกันมากและมานอนเฝ้าศพพระเอกดัง “ปอ ทฤษฎี สหวงษ์” ตั้งแต่คืนแรกที่เคลื่อนศพมาถึงวัดกลางพระอารามหลวง โดย 2 เพื่อนสนิท “ปั้น ธนกร ทิพย์อักษร” และ “บอย อนุชิต วิกัยพัฒน์” เปิดใจว่า ปอเป็นดาราที่ไม่เหมือนดารา เผยไม่ได้ไปเยี่ยมที่กรุงเทพฯ เพราะไม่อยากไปยืนมองคนป่วย อยากคุยกันตอนที่หายสบายดีแล้ว เผย ลางสังหรณ์ฝันเห็นเพื่อนที่ตายไปแล้วถึง 4 วัน โดย หนุ่มปั้น ธนกร เผยถึงความประทับใจที่มีต่อเพื่อนคนนี้ว่า

“สนิทกับปอมาตั้งแต่สมัยมัธยมที่โรงเรียนบุรีรัมย์พิทยาคม ปอเป็นคนที่รักเพื่อนมาก ไปไหนไปกันมาเคยทิ้งเพื่อน ปอตอนที่ยังไม่เป็นดารากับตอนเป็นดาราเขายังเหมือนเดิม ไม่เปลี่ยนไปเลย บางทีมันลืมว่าตัวเองเป็นดาราด้วยซ้ำ อย่างเวลากลับบ้านปอจะใช้ชีวิตปกติ จะไปไหนจะเดินเข้าเซเว่นก็เข้า คนมองกันเต็ม ส่วนความเป็นเพื่อนมันยังเหมือนเดิม ทุกครั้งที่กลับบ้านปอจะหาเวลามาเจอเพื่อนตลอดทั้งที่ไม่ค่อยมีเวลา เขาไม่หยิ่งไม่เปลี่ยนไปเลย ความประทับใจที่มีต่อปอ สำหรับผมแล้วทำให้เห็นว่าความเป็นดารากับชีวิตสมัยก่อน เขาไม่เคยทำให้รู้สึกว่าเขาเป็นดารา”

“ครั้งสุดท้ายที่เจอปอน่าจะกลางปีที่แล้ว เพื่อนในกลุ่มเราที่สนิท ๆ กันเสียไปแล้วประมาณ 5 คน กลุ่มเรามีประมาณ 50 คน มีทั้งรุ่นเดียวกัน รุ่นพี่ รุ่นน้อง จริง ๆ ก็มีคนเป็นห่วงพวกเราว่าเพื่อนไปกันหลายคนแล้วนะ”

บอกสงสารต้องมานอนป่วยหนัก หล่อพระถวาย ทำโรงทานอุทิศบุญให้ปออยากให้หาย
“(ถอนหายใจ) สงสารครับ ยิ่งเห็นวันที่ส่งเขามาวัดยิ่งสงสาร พวกเราเคยร่าเริงสนุกสนานเขาต้องมาทรมานป่วยหนัก แล้วยิ่งเกิดจากเป็นไข้เลือดออกเอง ใครก็เป็นกัน ไม่คิดว่าจะทำให้เขาเป็นหนักขนาดนี้ เขามีอนาคต อนาคตกำลังรุ่ง ๆ ชีวิตเขาสบายแน่นอน แต่พอมาเจอจุดหักแบบนี้มันก็เปลี่ยนเลย สงสารทั้งมะลิและครอบครัวเขา มะลิกำลังน่ารักด้วย ตอนเขาป่วยผมไม่ได้ไปเยี่ยม เพราะคุยกับเพื่อนไว้ว่าอยากไปเจอมันตอนมันหายแล้ว มาอยู่ห้องปกติแล้ว อยากไปแล้วได้คุย ไม่อยากไปยืนมองเขานอนป่วย ผมสงสารครับเขาสู้มานาน เขาทนมานาน ตอนนั้นพวกเราก็ไปทำบุญให้เขา พอดีช่วงนั้นเป็นวันเกิดหลวงพ่อพวกเราก็เลยหล่อพระถวายหลวงพ่อ แล้วก็ไปทำโรงทานเพื่ออุทิศบุญให้ปออยากให้เขาหาย”

อึ้งจนพูดไม่ออกหลังรู้ข่าวร้าย
“อึ้งครับ พูดอะไรไม่ถูก มีคนมาถามผมก็บอกให้ไปดูในข่าวเอง ผมพูดอะไรไม่ออก วันนั้นผมไม่ร้องครับ แต่มาร้องตอนส่งเขาเข้าโลง ผมมาช่วยยกเขา ก็บอกเขาว่าไปสบายไม่ต้องห่วง เพื่อน ๆ จะช่วยกันดูแลทั้งลูกทั้งเมียและครอบครัวให้ พวกเราจะช่วยเต็มที่”

สะดุ้งไฟดับ! เชื่อเพื่อนอยากให้ปักหลักนอนเฝ้า
“วันแรกที่ศพมาถึงวัด หลังสวดอภิธรรมเสร็จ พวกเราจะกลับเพราะเกรงใจวัดกลัวเปลืองไฟ เผื่อทางวัดจะปิดไฟจะอะไร แต่พอพูดว่าจะกลับแล้ว ไฟดับก็เลยครับ เราก็เลยบอกกันว่า เอ้า! งั้นอยู่ก็อยู่ เพื่อนอีกคนชื่อนุ สะดุ้งเลยครับ (หัวเราะ) ผมแกล้งจับข้างหลังมันสะดุ้งเลย เราก็รู้กันหมดแหละครับว่าเขาคงอยากให้อยู่ด้วย วันนั้นพวกเราก็อยู่ด้วยกัน 3 - 4 คนได้ วันแรกก็ไม่เจออะไรครับ (ยิ้ม) อาจจะเป็นเพื่อนเราเสียไปหลายคนแล้ว เพื่อนคนอื่นพวกเราก็ไปนอนเฝ้าแบบนี้เหมือนกัน ตอนแรกอาจจะทำใจไมได้หรอก มันก็มีเสียวบ้าง อย่างวันที่ครบ 3 วัน ผมก็บอกถ้ามาก็มา เจอก็เจอ พวกเราก็อยู่นี่แหละ (ยิ้ม) แต่ก็ไม่เจออะไรครับ แล้วจากการที่นอนเฝ้าทุกวันทำให้รู้เลยว่ามีแต่คนรักปอทั้งประเทศ ตี 2 ตี 3 ตี 4 ยังมีคนเดินทางมาไหว้ศพเลยครับ ตั้งใจจะนอนเฝ้าจนวันเผาครับ”

เผยลางสังหรณ์ก่อนปอเสียชีวิตฝันเห็นเพื่อนสนิทที่เสียไปแล้วติดกัน 4 วัน ด้านแม่เพื่อนอีกคนที่ปอสนิทด้วย ดูดวงให้ บอกอยู่ไม่ถึงวันเกิด
“ก่อนปอเสียผมฝันเห็นเพื่อนเราที่เสียไปแล้ว 3 - 4 วันติด ทั้งที่ปกติตั้งแต่เขาเสียไม่เคยมาหาผมเลย ถ้าฝันเห็นคนนี้จะมีอะไรผิดปกติแน่นอน เพราะเวลาอยากให้เขามาหาเขาไม่เคยมาหาเลย อยู่ดีๆ เขามาหาในฝันมันคงอยากสื่ออะไร ยอมรับว่าตอนนั้นคิดถึงปอเลยครับ แล้วก็มีแม่เพื่อนอีกคนที่ปอสนิทด้วย ไปดูดวงให้เขาก็บอกว่าปออยู่ไม่ถึงวันเกิดแน่นอน เรื่องนี้ผมเพิ่งมารู้หลังจากที่ปอเสียแล้ว วันเกิดเขาพรุ่งนี้(23 ม.ค.) เพื่อน ๆ ก็คงมาอยู่ด้วยกันที่นี่แหละครับ หลังจากนี้พวกเราจะทำอะไรให้ปอแน่นอนครับ เดี๋ยวรอกำหนดวันกันว่าจะทำอะไรเมื่อไหร่”

“คนรักเขาขนาดนี้ก็ตื้นตันใจแทนครับ ไม่คิดเลยว่าคนจะมาทั้งประเทศขนาดนี้ คนมาไหว้ศพตลอดคืนเลยครับ ผมยังพูดบอกเขาเลยว่ามีคนรักทั้งประเทศกูดีใจแทนจริง ๆ ถ้าจะเรียกว่าคนดีศรีบุรีรัมย์ก็ไม่ผิดหรอกครับ

“สิ่งที่ทำมาไม่เสียหายคนรับรู้สิ่งที่ปอทำดีมาตลอด มันส่งผลจริง ๆ ปอไปแต่ตัวแต่ทุกคนกล่าวขานถึงสิ่งที่เขาทำไว้ ตื้นตันใจแทน สมแล้วล่ะที่เขาเป็นตัวอย่างของคนรุ่นหลังให้ได้พูดถึงตลอด ไม่ต้องห่วงอะไร อะไรที่เพื่อนช่วยได้จะช่วยทุกอย่าง งานอะไรของปอพวกเราจะช่วยดูแลให้ดีที่สุดไม่ให้ขาดตกบกพร่อง”

“บอย อนุชิต วิกัยพัฒน์” เชื่อเพื่อนไปอยู่บนสวรรค์แล้ว บอกทุกวันขอให้อยู่ในภพภูมิที่ดี ไม่ต้องกลับมาเกิดอีกแล้ว
“ตอนนั้นที่ปอเป็นดาราแล้ว เวลาเพื่อนไปกรุงเทพฯ คำถามที่ปอถามตลอดคือเพื่อนเรามากี่คน กินข้าวด้วยกันนะ นอนไหนกัน มานอนบ้านกูนะ นี่คือสิ่งที่เขาจะพูดกับเพื่อนทุกคนเวลาเพื่อนไปกรุงเทพฯ เขาจะใส่ใจเพื่อนทุกครั้ง”

“วันแรกที่ศพมาถึงวัด พอสวดพระอภิธรรมเสร็จพวกเราก็จะกลับบ้าน หลวงตาก็ถามว่าจะมีใครเฝ้ามั้ย พวกผมก็เลยบอกว่าไม่ได้เฝ้าครับ เพราะวันนั้นพวกเราเหนื่อยด้วยและเกรงใจที่วัดด้วย พอพวกเราบอกจะกลับเท่านั้นแหละครับไฟก็ดับเลย ดับยาวด้วย เราก็เลยคุยกันว่าไม่กลับก็ได้วะ (หัวเราะ) วันแรกก็หลับสบายดีครับ ไม่ได้เจออะไร ขนาดวันที่ครบ 3 วันก็ไม่เจออะไรเลยครับ ผมก็บอกว่าถ้าจะเจอก็เจอวันนี้แหละ มาก็มา แต่สุดท้ายเขาก็ไม่ได้มา และไม่ฝันเห็นเขาด้วย แต่ไม่รู้เพื่อนฝันเห็นหรือเปล่านะครับ เขาไปสวรรค์แล้วครับ เขาไม่ลงมาแล้ว”

“ผมบอกกับเขาทุกวันเลย ว่าไม่ต้องกลับลงมาแล้วนะ อยู่ข้างบนให้สบาย ไม่ต้องห่วงเพื่อน ไม่ต้องห่วงพ่อแม่ ไม่ต้องห่วงญาติพี่น้อง ให้ไปอยู่ภพภูมิที่ดี ไม่ต้องกลับลงมาเกิดอีกแล้ว ผมจะพูดกับเขาแบบนี้ทุกวัน”

“อ.ภารดี วงศ์ทองเจริญ” อาจารย์โรงเรียนบุรีรัมย์พิทยาคม เป็นครูที่มีความผูกพันกับปอมาก เผยเสียดายพระเอกดังด่วนมาจากเร็วเกินไป แต่อย่างน้อยฝากสายเลือดอย่าง “น้องมะลิ” เอาไว้ เป็นคนภูธรที่มีชื่อเสียงแต่ไม่เคยลืมบ้านเกิด
“ครูสอนสุขศึกษาตอนปออยู่ ม.1 และสอนลูกเสือตอนเขาอยู่ ม.2 และดูแลกิจกรรมของเด็กทุกระดับชั้น เพราะฉะนั้นเขาจะคลุกคลีกับครู ปอเป็นเด็กสนุกสนานร่าเริง แจ่มใส ยิ้มแย้ม และมีมนุษยสัมพันธ์ และเป็นคนจิตอาสา จะถามครูตลอดว่ามีอะไรให้ผมช่วยมั้ย เขาเป็นเด็กหน้าตาดีตั้งแต่เด็ก กลุ่มเขาหน้าตาดีทั้งกลุ่ม แต่ปอจะเด่นกว่าคนอื่นตรงที่รอยยิ้ม ตอนเรียนเขาจะนั่งแถวหน้าเพราะตอนเด็กเขาจะตัวเล็ก ในกลุ่มเขาเป็นเด็กเรียนดี ชอบเล่นกีฬา และอาศัยว่าอาคารที่ไปเรียนมันเป็นพื้นไม้ บันไดก็เป็นไม้เขาก็นั่งแล้วก็ลื่นไถลลงบันไดทีละขั้นแข่งกันกับเพื่อน บางวันก็เตะฟุตบอลอยู่หน้าอาคาร เขาไม่ใช่เด็กดื้อ เป็นคนกระตือรือร้น ชอบอาสาทำโน่นทำนี่ อย่างเช่นโรงเรียนพาไปออกค่ายอาสาพัฒนา หรือที่โรงเรียนมีงานอะไรเขาก็อาสาตลอด ตอน ม.ปลายเป็นคนขี้อาย”

“พอเขาเติบโตเข้าวงการเราก็ดีใจที่ลูกศิษย์ได้อยู่ในวงการ เขาเป็นคนมีพรสวรรค์ เขาเป็นคนชอบแสดงออกอยู่แล้ว แต่ถึงเขาจะเป็นดาราแต่เขาก็ยังเหมือนเดิม ยังกลับมาสนุกสนานกับเพื่อนฝูง ตอนที่เขาเข้าวงการแล้วเขาก็กลับมาที่โรงเรียนครูก็ได้เจอ ตอนเจอเขาเราก็ได้สัมผัสมือกอดเอวเขา เวลามาเขาก็ใส่ชุดธรรมดานี่แหละ ถึงจะไม่ค่อยได้มาบ่อยแต่เวลาโรงเรียนมีกิจกรรมอะไรทางเราก็จะบอกผ่านกลุ่มเพื่อนปอเขาก็ยินดีช่วยเสมอ อย่างตอนโรงเรียนสร้างโดมเป็นลานอเนกประสงค์ ซึ่งเอาไว้แข่งกีฬาในร่มหรือจัดนิทรรศการ จัดประชุม ซึ่งตอนนั้นปอเขามาร่วมจัดผ้าป่าให้ด้วย วันที่มามอบเงินเขามาไม่ได้แต่เขาได้ส่งครอบครัวมาเป็นตัวแทนมอบ น้องๆ ทุกรุ่นที่โรงเรียนจะรู้ว่าพี่ปอมาเป็นส่วนหนึ่งกับโดมนี้ นอกจากนี้เขายังให้ทุนการศึกษากับน้องๆ ด้วย”

“ทุกคนที่โรงเรียนจะนึกถึงเขาเพราะเขาเป็นต้นแบบของน้องๆ ในแต่ละรุ่น ว่าเขาเป็นติดดิน เขาไม่ลืมบ้านเกิด เขาจะพูดอยู่เสมอว่าเขาภูมิในที่เกิดเป็นคนบุรีรัมย์ และภูมิใจที่ได้เรียนโรงเรียนบุรีรัมย์พิทยาคมที่ทำให้เขาได้มีการศึกษา เขาเป็นคนดีได้ก็เพราะมีครูดี เขาจะพูดเสมอ”

เผยเป็นคนดี ไม่เคยลืมถิ่นกำเนิด ไม่เคยลืมว่าเป็นคนอีสาน
“ถ้าเป็นน้องๆ ที่โรงเรียนจะพูดถึงปอในเรื่องที่ปอเป็นคนดี ติดดิน ไม่ถือตัว รักกตัญญูต่อพ่อแม่ ครูอาจารย์ รักบ้านเกิด และรักแผ่นดินไทย น้องๆ จะจดจำคำสัมภาษณ์ที่ปอให้สัมภาษณ์กับสื่อทุกครั้ง และการที่ปอให้สัมภาษณ์กับสื่อน้องๆ ก็จะดูว่าพี่ปอทำจริงหรือเปล่า ซึ่งเขาก็ได้เห็นแล้วว่าปอทำจริงๆ ดูได้จากเวลาที่เห็นปอกลับบ้านหรือมาที่โรงเรียน สิ่งที่น้องๆ เลียบแบบปอคือรอยยิ้มเป็นบุคลิกที่น้องๆ ชอบ ความเรียบง่าย และไม่ลืมถิ่นกำเนิดของตัวเอง เพราะคนมักจะบอกว่าคนภูธรคนอีสาน แต่ปอเขาไม่ลืมตรงนี้ น้องๆ เขาก็จะยึดปอเป็นต้นแบบเรื่องนี้ มีความจริงใจ”

พ้อมาด่วนจากกันเร็วเกินไป แต่อย่างน้อยสายเลือดอย่าง “น้องมะลิ” ก็คงอยู่ ลั่นพระเอกดังจะอยู่ในใจคนไทยตลอดไป
“โดมจะเป็นศูนย์รวมของนักเรียนทุกรุ่นอยู่แล้ว เด็กทุกรุ่นเขาจะพูดต่อๆ กัน เอกลักษณ์ของโรงเรียนบุรีรัมย์พิทยาคมเอกลักษณ์คือต้นสน ทิวสน สมมติอย่างถ้าเกิดพูดถึงปอ ก็จะเรียกต้นสนที่ 80 คือต้นสนรุ่นของเขา แทนคำว่ารุ่น ศิษย์ที่เป็นคนดี ศิษย์ที่สร้างชื่อเสียงให้โรงเรียนเราจะจัดเป็นห้องเกียรติยศเก็บไว้เป็นอนุสรณ์ตั้งแต่รุ่นแรกมาแล้ว และปอก็เป็นส่วนหนึ่ง อย่างตอนนี้ที่โรงเรียนก็ได้มีการจัดบอร์ดไว้อาลัยให้น้องๆ เขียนความรู้สึกถึงปอ เป็นบอร์ดใหญ่หน้าห้องผู้อำนวยการ”

การเสียชีวิตของปอมันเหมือนการสูญเสียสิ่งที่เรารักไป เพราะธรรมชาติของคนเราการเกิดแก่เจ็บตาย พอถึงวาระก็ต้องไป แต่เขาอายุยังน้อย มันเร็วเกินไป เราอยากให้เขาได้อยู่ต่อ ได้เป็นไอดอลของน้องๆ ช่วยพัฒนาในสิ่งที่ดีๆ มันเหมือนขาดอะไรไปสักอย่างหนึ่ง เขาจะอยู่ในหัวใจของน้องๆ และครูทุกคน อยากบอกปอว่าถึงร่างกายจะไม่ได้อยู่แล้ว แต่ปอทำสิ่งดีๆ ไว้ ชื่อเขาก็ยังอยู่ สายเลือดเขาก็ยังอยู่ก็คือน้องมะลิ เขาจะอยู่ในใจของคนไทยทั่วประเทศตลอดไปและตลอดกาล”

“วุฒิ ณัฐิวุฒิ กิจสว่าง” เพื่อนรักปอเผยปอเป็นคนมีเสน่ห์ ไม่เจ้าชู้ บอกครอบครัวไม่อยากให้เข้าวงการ ถึงขนาดปอเคยบอกว่าถ้าเข้าวงการครอบครัวจะตัดพ่อตัดแม่
“รู้จักเขาตอนเรียนม.4 ปอเป็นรุ่นน้องปีหนึ่ง เรียนคนละชั้นแต่สนิทกัน ตอนอยู่ที่โรงเรียนส่วนมากพวกเราจะเตะบอล เล่นบาสเก็ตบอล ทำกิจกรรมร่วมกัน กินนม กินน้ำปั่น กินข้าว เรามีร้านประจำอยู่แถวใจกลางเมืองบุรีรัมย์นี่แหละ เรียกย่านเซียงซือ เราก็ไปนั่งดูสาวตามประสาวัยรุ่นครับ แต่ปอไม่เจ้าชู้ส่วนมากมีแต่ผู้หญิงมากรี๊ดมากกว่า แต่ปอเขาไม่ค่อยสนใจเพราะเขาจะติดเพื่อนมากกว่า ตอนมัธยมเขาแทบจะไม่มีแฟนนะครับ เพราะเขาไม่ค่อยสนในใคร เพื่อนสนิทเขาอีกคนหนึ่งก็เสียไปแล้ว รุ่นเดียวกัน เรียนห้องเดียวกันกับเขาเลยครับ”

“ปอเป็นคนอัธยาศัยดี ขี้เล่น เป็นกันเอง รักเพื่อน อันนี้สำคัญเลยเพื่อนมาก่อน อย่างตอนที่เขาเป็นดารา เวลาเพื่อนไปกรุงเทพฯ เขาก็จะพาไปกินข้าวด้วยกันตลอด ไม่เคยบอกว่าไม่ว่าง ชวนไปไหนไปกัน อย่างตอนที่เขาอยู่กรุงเทพฯ ต่อให้เขายุ่งขนาดไหนเขาก็จะปลีกเวลามาหาเพื่อนตลอด เขาจะถามทุกครั้งว่ามากี่คน มานอนที่บ้านมั้ย เขาจะเป็นห่วงเพื่อนจะถามเพื่อนแบบนี้ทุกครั้ง”

“พ่อแม่ปอค่อนข้างห่วงไม่อยากให้เข้าวงการ อยากให้ปอเรียนจบก่อน ช่วงนั้นพวกผมเรียนมหาวิทยาลัยหอการค้า ส่วนปอจะเรียนที่มหาวิทยาลัยราชภัฏจันทรเกษม แต่เขาจะมาหาพวกผมที่คอนโดบ่อยๆ เขาบอกว่าพ่อกับแม่ไม่อยากให้เขาเป็นดาราหรอก แต่ก็ไม่ได้ห้ามนะแค่อยากให้เรียนจบก่อน แต่ไม่รู้เขาพูดเล่นหรือเปล่าว่าถ้าเป็นดาราจะตัดพ่อตัดแม่เลย งานแรกๆ ที่ปอทำคือเดินแบบเงียบๆ ตามโรงแรมเพราะกลัวพ่อกับแม่รู้ บ้านนี้เขาอยากให้เอาเรียนเป็นหลัก ปอเป็นคนไม่เกเร เขาจะสนิทกับเพื่อนที่บุรีรัมย์มากกว่าที่กรุงเทพฯ”

“ตอนแรกที่รู้ว่าเขาป่วยคือแค่เป็นไข้เลือดออก ก็เลยคิดว่าไม่เป็นอะไรมาก แต่พอมาเห็นข่าวก็ตกใจว่าเขาเป็นหนักขนาดนี้เลยเหรอ ผมก็ไปเยี่ยมที่โรงพยาบาล ผมไปช่วงที่เขาจะต้องตัดขาก็เลยไม่ได้เข้าไปเจอเขา ได้แต่คุยกับพ่อแม่เขาถามอาการว่าเป็นยังไงบ้างแค่นั้นครับ”
อ.ภารดี วงศ์ทองเจริญ อาจารย์ของปอสมัยเรียนม.ต้น
วุฒิ ณัฐิวุฒิ กิจสว่าง บอกปอเจ้าเสน่ห์แต่ไม่เจ้าชู้






ติดตามรับชมช่อง “Super บันเทิง” ได้ที่ Super บันเทิง live

ข่าวบันเทิง, ถูกต้อง, รวดเร็วฉับไว ทั้งไทย และเทศ http://www.superent.co.th

ติดตามความเคลื่อนไหวอินสตาแกรมดาราทั้งไทยและเทศตลอด 24 ชั่วโมงได้ที่ ซูเปอร์สตาแกรม
กำลังโหลดความคิดเห็น