xs
xsm
sm
md
lg

ไหนว่ารัก “โตโน่” จนตายแทนกันได้ เผลอหน่อยเดียว “แตงโม” กลับไปนัว “ก้อง-กรุณ” ซะแร้ววววว !!

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


พ.ค. 2558

เริ่มมีข่าวลือออกมาอย่างต่อเนื่องว่า “แตงโม-ภัทรธิดา พัชรวีระพงษ์” มีปัญหาชีวิตคู่กับ “โตโน่-ภาคิน คำวิลัยศักดิ์” ถึงขนาดแยกเตียงกันนอน

ก.ค. 2558

โตโน่ประกาศสถานะ “โสด” บนเวทีคอนเสิร์ต 7 Wonders ยังผลให้แตงโมตัดสินใจกินยาฆ่าตัวตาย เพื่อประชดชีวิต แต่สุดท้ายหมอก็ยื้อชีวิตเอาไว้ได้

หลังจากที่โตโน่แถลงข่าวยอมรับผิดแบบแมนๆ แต่เพียงผู้เดียว ก็ปิดปากเงียบ แทบจะไม่มีความเคลื่อนไหวใดๆ หลุดออกจากฝั่งเขาอีกเลย ตรงกันข้ามกับฝั่งแตงโม ที่เพียรพยายามเหลือเกินที่จะโพสต์รูปของโตโน่ พร้อมลงข้อความร่ำระบาย คร่ำครวญถึงความเศร้าโศก เสียใจ ความคิดถึง ความทุกข์ทรมาน ยามเมื่อต้องเลิกร้างห่างจากอดีตคนเคยรัก

แต่ความเพียรพยายามก็ดูเหมือนจะไม่เป็นผล นอกจากจะไม่สามารถยื้อให้โตโน่กลับไปได้แล้ว แทนที่จะได้รับความเห็นอกเห็นใจจากสังคมรอบข้าง กลับยิ่งทำให้แตงโมแลดูแย่ในสายตาของคนอื่น ที่พิเคราะห์พิจารณ์ว่า สิ่งที่เธอเพียรพยายามนั้น ดูเสแสร้ง และตั้งใจที่จะให้ตัวเอง “ตกเป็นข่าว” และมีกระแสอย่างต่อเนื่องอยู่ในสื่อบันเทิง มากกว่าที่จะรู้สึกอย่างข้อความที่โพสต์จริงๆ

ตลอดทั้งเดือน ที่มีแต่ภาพเก่าเล่าเรื่อง และข้อความพร่ำเพ้อของแตงโม ที่ปรากฏในสื่อต่างๆ ทำให้หลายคนทั้งเอียน ทั้งระอา และเกิดความรู้สึกไปในทิศทางเดียวกันว่า

โตโน่จบ (ไปนาน) แล้ว มีแต่แตงโม ที่ไม่ยอมจบ ซ้ำร้ายยังเวิ่นเว้อต่อไปไม่หยุดว่า ถ้ามีลูกจะตั้งชื่อลูกว่า “น้องเจ้าหยุน” อันเป็นชื่อจีนของโตโน่

บางทีถ้าเธอเลือกจะอยู่นิ่งๆ อาจจะดีกว่าในกรณีนี้

ก.ย. 2558

เมื่อหลายๆ โพสต์ที่ผ่านมา ดูเหมือนจะไม่ได้ทำให้อะไรต่อมิอะไรดีขึ้น ไม้เด็ดต่อมา ก็คือการโพสต์สารภาพถึงสาเหตุที่ทำให้โตโน่เป็นฝ่ายจากไป ก็เพราะเธอไม่ “ซื่อสัตย์” ซึ่งก็ไม่ได้อยู่เหนือความคาดเดาของผู้คนที่ติดตามข่าวนี้มาโดยตลอด เพราะส่วนใหญ่ก็ปักธงไว้ในใจอยู่แล้ว ว่าสาเหตุที่ทำให้ทั้งคู่เลิกกัน ก็หนีไม่พ้นเรื่องนี้

แตงโมอาจจะคาดคะเนผิด คิดว่าการที่เธอยืดอกยอมรับผิด จะทำให้เธอได้รับความเห็นอกเห็นใจกลับคืนมาบ้าง แต่ตรงกันข้าม คือถ้าฝ่ายชายเป็นคนไม่ซื่อสัตย์ แล้วออกมายอมรับผิด ก็ยังพอมองในมุมบวกได้บ้าง ในแง่ที่กล้าทำ ก็กล้ารับ แต่พอเป็นฝ่ายหญิง ยังไงก็เสียทั้งขึ้น ทั้งล่อง เพราะสังคมไทย ต่อให้ยุคไหน สมัยไหน ก็รับไม่ได้กับการที่ฝู้หญิงเป็นฝ่ายซุกกิ๊ก

และนี่ไม่ใช่ครั้งแรก ที่แตงโมสารภาพบาปเกี่ยวกับความไม่ซื่อสัตย์ของตัวเอง ย้อนกลับไปเมื่อรักครั้งเก่า กับ “ก้อง-กรุณ ซอโสตถิกุล” ซึ่งคบหาดูใจกันมาถึง 3 ปี แต่สุดท้ายรักก็อับปางลง เพราะ “เธอปันใจ” โดยครั้งนั้นแตงโมเป็นฝ่ายให้สัมภาษณ์กับสื่อฯ ว่า
“โมเลวเอง...ที่แอบมีกิ๊ก”

เหตุการณ์ดังกล่าว เกิดขึ้นในช่วงก่อนจะถึงวันวาเลนไทน์ ในปี พ.ศ. 2552 หรือเมื่อ 6 ปีก่อน หลังจากนั้นทั้งคู่ก็แยกย้ายกันไปมีรักใหม่ตามเส้นทางของแต่ละคน
แต่ไปๆ มาๆ วังวนของความรัก ก็หมุนกลับมาที่เดิม เพราะจู่ๆ ก็มีช็อตเด็ดคนดังกระหึ่มในโลกออนไลน์ เมื่อคู่รัก- คู่ร้าง ที่ห่างรสเสน่หากันไปนานถึง 6 ปี อย่างแตงโมกับก้อง จู่ๆ ก็กลับมานัวเนียกอดรัดฟัดเหวี่ยงกันอย่างไม่แคร์สายตาประชาชน ภายหลังที่ปรากฏครั้งแรกในแฟนเพจ “จั๊กกะจี้บันเทิง” ซึ่งการันตีว่า เหตุการณ์เพิ่งเกิดสด ๆ ร้อน ๆ เมื่อช่วงค่ำคืนที่ผ่านมา ในงานคอนเสิร์ตเปิดแผ่นร้านตื้ด DND ทั้งนี้ภาพทั้งคู่ทำคนในร้านต่างสะพรึงด้วยความคาดไม่ถึง

พร้อมกันนั้น ก็ยังรายงานเพิ่มเติมว่าแตงโมโชว์สเต็ปท่าเต้นสุดสวิง ชนิดไม่หลงเหลือเค้าลางของความเศร้าโศกปานอยากจะลาโลกแม้แต่น้อย

ภาพชุดดังกล่าว ถูกนำมาตั้งกระทู้ถามทันทีว่า หรืองานนี้ “ถ่านไฟเก่า” ที่มอดดับไปนานแล้ว จะถูกเขี่ยเชื้อไฟขึ้นมาอีกครั้ง ?

งานนี้ฝั่งแตงโมก็ออกมาเคลื่อนไหวทันที ด้วยการโพสต์ข้อความแฝงปรัชญาในไอจีส่วนตัว ทำนองว่า....ความจริงเป็นสิ่งไม่ตาย

“ความจริงเป็นสิ่งไม่ตายเนอะ จงขอบคุณพระเจ้าในทุกกรณี การถูกทดลอง จะทำให้เราเป็นคนที่สมบูรณ์มากยิ่งขึ้น หนักแน่น แข็งแกร่งขึ้น ขอบคุณพระเจ้าที่มอบสติปัญญาแก่มนุษย์เพื่อการพินิจพิจารณาสิ่งต่างๆ เช่นกัน สิ่งดีนี้ที่พระเจ้ายกชูเราให้เหนือกว่าสัตว์ทั่วไป อยู่ที่ใครจะใช้ไปในทางไหนก็แตกต่างกัน”

เมื่อไม่ได้รับความกระจ่างแต่อย่างใดกับจำเลยที่ปรากฏในภาพ จึงเป็นหน้าที่ของสื่อฯ ที่จะต้องตามไปขอความคิดเห็นจากอดีตคนเคยรักของทั้งคู่ ซึ้งแม้ว่าทั้งเกรซ-กาญจน์เกล้าและโตโน่ เลือกที่จะงดแสดงความคิดเห็น แต่ดูเหมือนกระแสการต่อต้านจากสังคมรอบตัว จะถาโถมมาสู่แตงโมไม่ยั้ง ไม่ผิดถ้าแตงโมจะกลับมาคบหากับก้อง เพราะต่างฝ่ายต่างก็ดำรงสถานะโสดทั้งคู่ แต่ที่ดูจะขวางหูขวางตาก็ตรงที่แตงโม ซึ่งที่ผ่านมา (พยายาม) ทำประหนึ่งจะขาดใจตายให้ได้เมื่อต้องสูญเสียโตโน่ แล้วก็พร่ำเพ้อว่าจะรัก จะรอโตโน่อย่างนั้นอย่างนี้ ยังไม่ทันไร ก็กลับมาสโลว์ซบในอ้อมกอดของชายอื่นเสียแล้ว

ประเด็นของเรื่อง ไม่ได้อยู่ที่ว่าอ้อมกอดนั้นจะเป็นของแฟนเก่า หรือผู้ชายคนใหม่ แต่กิริยาอาการ และการกระทำของแตงโมต่างหาก ที่มันดูสวนทางกับสิ่งที่เธอพยายามออกมาเรียกร้องความเห็นอกเห็นใจจากสังคมตลอดเวลา

คือถ้าแตงโมหยุดพูด หยุดเพ้อเสียตั้งแต่ที่หมอยื้อชีวิตไว้ตอนนั้น และถ้าวันนี้เธอจะมีรักใหม่ (กับใครก็ตาม) ก็คงไม่มีใครตำหนิ

ใครจะนึกว่าสุดท้ายคำพูดเพ้อๆ ของแตงโม จะย้อนกลับมาทำร้ายตัวเธอเอง

ที่มานิตยสารASTV สุดสัปดาห์ ฉบับที่ 308 3-9 ตุลาคม 2558














กำลังโหลดความคิดเห็น