xs
xsm
sm
md
lg

“อีฮงกี FT Island”จำไม่ลืมคอนเสิร์ตในไทยทำขาเดี้ยง! โชว์สปิริตแสดงต่อจนจบ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


ผ่านพ้นไปแล้วสำหรับคอนเสิร์ตปิดท้ายทัวร์ "2015 FTISLAND LIVE [We Will] IN BANGKOK"ที่จัดขึ้นเมื่อวันที่ 12 ก.ย. ที่ผ่านมา ณ. ธันเดอร์โดม เมืองทองธานี โดยคอนเสิร์ตครั้งนี้นับเป็นการปิดท้ายทัวร์ของ 5 หนุ่ม FT Island ที่ ทำเอานักร้องนำอย่าง “อีฮงกี”ถึงขั้นต้องจดจำไปอีกนาน หลังเจ้าตัวได้รับบาดเจ็บกลางคอนเสิร์ตขาเดี้ยงแต่โชว์สปิริตเล่นต่อจนจบ

เป็นไอดอลเกาหลีที่ยังคงความเป็นตัวของตัวเองได้เหมือนเดิมสำหรับ 5 หนุ่ม FT Island "อีฮงกี", "ชเวจงฮุน", "อีแจจิน", "ซงซึงฮยอน" และ "ชเวมินฮวาน" ที่ล่าสุด ในคอนเสิร์ตที่เมืองไทย หนุ่มๆก็โชว์ลีลาและความเป็นตัวของตัวเองออกมาอย่างเต็มที่ รวมถึงขนเพลงฮิตมาให้แฟนๆได้ฟังกันเช่นเดิม

โดยเริ่มจากเปิดตัวด้วยวีทีอาร์ พร้อมการปรากฏตัวประจำตำแหน่งของหนุ่มๆที่มือกลองอย่างมินฮวาน ที่ไม่ค่อยได้โผล่หน้าโผล่ตามาให้แฟนๆได้เห็นเท่าไหร่นัก ก็ถูกจับให้ขึ้นไปอยู่บนเวทียกสูง ทำให้ใครก็ตามที่เป็นแฟนคลับของหนุ่มคนนี้สามารถเห็นเขาได้จากระยะไกล ส่วนหนุ่มฮงกี นักร้องนำ ก็ใส่แว่นดำสวมผ้าคาดปากสีดำออกมา พร้อมกับเพลงแรก Love Love Love เพลงร็อกบัลลาดจัดหนักที่สามารถอุ่นเครื่องแฟนๆได้เป็นอย่างดี กับแสงสีที่สาดสปอตไลท์สีแดงพ่นควันให้แสบตากันไป

ตามด้วยเพลง Memory ที่สปอตไลท์เปลี่ยนจากแสงสีแดงเป็นสีน้ำเงิน โดยหนุ่มฮงกียอมถอดแว่นดำและลดผ้าคาดปากลง เพื่อโชว์พลังเสียงซึ่งเพลงนี้แฟนๆก็ยังร่วมร้องท่อน Memory กันลั่นฮอล์ด้วย จากนั้นก็สนุกกันต่อกับเพลง Black Chocolate ที่นักร้องนำยังคงแผดเสียงไปกับเพลงนี้ได้สมกับเป็นนักร้องสายร็อก ก่อนจะปิดท้ายเพลงด้วยการโชว์โซโลกลองของหนุ่ม มินฮวาน ที่สาวกพรีมาดอนนากรี๊ดกันไม่หยุดกับลีลาของเขา

ความร้อนแรงของคอนเสิร์ตครั้งนี้ยังคงต่อเนื่องด้วยเพลง Time To และ Be Free ที่บนเวทีมีเอ็ฟเฟ็กต์พ่นไฟแถมยิงสปอตไลท์สีแดงให้เวทีดูลุกเป็นไฟอีก จากที่ฟังบัลลาดร็อกชิลๆมาเจอเพลงนี้เข้าไปก็นั่งกันไม่ติดเก้าอี้กันเลย

จากนั้นหนุ่มๆก็กล่าวทักทายแฟนๆ ซึ่งต่างบอกว่าดีใจที่ได้กลับมาที่เมืองไทยอีกครั้งหลังจากที่ไม่ได้มานานถึง 1 ปีครึ่ง ก่อนจะเริ่มโชว์เพลงฮิตอย่าง Severely, Hey Girl และ Stay

ความพิเศษของคอนเสิร์ตครั้งนี้ยังอยู่ตรงที่นอกจากเมนสเตจด้านหน้าแล้ว ยังมีเวทีที่เรียกว่าไอซ์แลนด์สเตจ สร้างเป็นเกาะอยู่ตรงกลาง ที่หนุ่มๆต้องเดินจากเวทีใหญ่ไปด้านล่างเพื่อขึ้นไปเกาะที่ตั้งอยู่กลางคอนเสิร์ต พร้อมกับที่มีเครื่องดนตรีประจำตัวของแต่ละคนวางตั้งอยู่ ซึ่งมีกลองชุดเล็กสำหรับมินฮวาน ส่วนหนุ่มจงฮุนนอกจากจะร่วมดีดกีตาร์แล้วเขายังเล่นคีย์บอร์ดเองด้วย

ซึ่งเวทีนี้หนุ่มๆก็โชว์เพลงช้าๆเบาๆทั้ง Last Love Song, Morning Coffee, BPM69, Do you Know Why โดยช่วงที่พูดคุยทักทายแฟนคลับบนเวทีนี้ หนุ่มๆก็ได้กล่าวว่าการทำเวทีเป็นเกาะตั้งไว้กลางคอนเสิร์ตก็เพื่อให้ได้ใกล้ชิดกับแฟนๆทุกคนมากขึ้น ยิ่งไปกว่านั้นยังบอกด้วยว่าเวลาที่เล่นคอนเสิร์ตก็อยากจะดื่มแอลกอฮอลล์เพื่อเพิ่มความสนุก จึงขออนุญาตเปิดแชมเปญ โดยหนุ่มจงฮุนยังชวนแฟนๆร่วมดื่ม โดยใช้วิธีเขย่าขวดให้แชมเปญพุ่งสาดใส่แฟนคลับโซนยืนด้านหน้า ทำเอาหลายๆคนเปียกปอนมีกลิ่นเหล้าติดตัวกลับบ้านไปตามๆกัน จากนั้นก็รินใส่แก้วให้สมาชิกในวงร่วมดื่มและฉลองไปพร้อมๆกับแฟนคลับในฮอลล์

และดูเหมือนว่า อีฮงกี นักร้องนำจะชื่นชอบบรรยากาศการร่ำสุรา เมื่อเจ้าตัวเอ่ยว่าถ้ามีโอกาสก็อยากจัดคอนเสิร์ตในไลฟ์เฮาส์ หรือในคลับเพื่อร่วมดื่มไปพร้อมกับแฟนๆพร้อมกับร้องเพลงให้ทุกคนได้ฟังในบรรยากาศแบบเป็นกันเอง ก่อนที่เจ้าตัวจะขอให้ทีมงานนำลูกบอลดิสโกเลื่อนลงมาจากเพดาน เพื่อจำลองบรรยากาศไลฟ์เฮาส์ พร้อมกับยังกล่าวติดตลกด้วยว่า คอนเสิร์ตของFT Island ไม่มีลูกเล่นหรือเอฟเฟกต์ห้อยโหนเร้าใจเหมือนไอดอลสายเต้นวงอื่นๆ เพราะพวกเขาเล่นดนตรีสดกันจริงๆ จึงขอร้องทีมงานไปว่าไม่ต้องการอะไรมาก แต่พิเศษแค่ขอให้มีลูกบอลดิสโกนี้ในคอนเสิร์ตด้วยก็พอ พร้อมกับแซววงตนเองกับไอดอลสายเต้นด้วยว่า "พวกผมกระโดดเต้นๆแบบนั้นไม่ได้ เราทำได้แค่เดินครับ” และก็ไม่ผิดหวังทันทีที่เริ่มเพลง BPM69 สปอตไลท์สีเหลืองบนเวทีทั้งสองด้านเมื่อถูกยิงมารวมศูนย์ใส่ลูกบอลดิสโก ก็เกิดประกายวิบวับไปทั่วทั้งฮอลล์ เป็นภาพที่สวยงามทีเดียว

หลังจากจบโชว์จากเวทีกลาง 5 หนุ่มก็มูฟกลับเวทีหลักเพื่อสนุกกันต่อกับเพลงที่แฟนคลับรู้จักกันเป็นอย่างดีอย่าง I Hope งานนี้ทั้งกระโดดทั้งร่วมร้องกันอย่างสนุกสนาน ก่อนจะตามมาด้วย Falling Star เพลงกระโดดสุดมันส์ แต่ทันทีที่เริ่มเพลงคนที่ไม่มันส์ด้วยก็เห็นจะเป็นหนุ่มฮงกีนักร้องนำ ที่กระโดดลงจากแท่นที่เขายืนหน้าเวทีแบบผิดท่าทำให้เสียหลักล้มลง เกิดอาการข้อเท้าพลิก ต้องกระโดดเป็นกระต่ายขาเดียวตลอดคอนเสิร์ต ซึ่งเจ้าตัวมีสีหน้าเจ็บปวดอย่างเห็นได้ชัดแต่ยังคงแสดงสปิริต ยืนร้องเพลงต่อจนจบ แม้ว่าจะเดินไม่ได้แล้วก็ตาม

โดยช่วงท้ายเพลงก็มีการหยุดพัก ซึ่งแฟนๆต่างตะโกนให้กำลังใจเรียกชื่อ “ฮงกี” กันทั้งฮอลล์ เจ้าตัวก็พยักหน้าพร้อมกล่าวว่า “ผมไม่เป็นไร” ก่อนจะขอให้ทุกคนนั่งลงเพื่อเตรียมตัวกระโดด ส่วนเจ้าตัวก็ทำท่าจะกระโดดไม่ไหวพร้อมกับบ่นใส่ไมค์อย่างน่าสงสารว่า “ทำไงดี เจ็บมากเลย” ก่อนจะตัดสินใจกัดฟันกระโดดขึ้นพร้อมร้องเพลงนี้ต่อจนจบท่ามกลางการร่วมกระโดดของแฟนๆจนพื้นฮอลล์สะเทือน

จากนั้นฮงกี ต้องรีบขอตัวกลับเข้าด้านหลังเวทีเพื่อปฐมพยาบาลข้อเท้าเบื้องต้น พร้อมกับฉีดสเปรย์ยาชา โดยขอให้แจจินพูดคั่นเวลากับแฟนๆไปก่อน ซึ่งหนุ่มแจจินก็กล่าวว่าเข้าสู่ช่วงสุดท้ายของคอนเสิร์ตที่ใกล้เวลาจะต้องกล่าวลากับทุกคนแล้ว

ส่วนทางด้านหนุ่มฮงกีก็กลับขึ้นเวทีอีกครั้งพร้อมกับเก้าอี้ที่มาแทนขาของเขาชั่วคราว โดยกล่าวว่าตอนนี้ตนเองไม่เป็นไรแล้วพร้อมขอโทษแฟนๆที่ตนเองพลาดจนบาดเจ็บ

ก่อนจะลุกมากระโดดต่อกับเพลง Shinin’On, Freedom, To The Light ตามด้วยการโชว์บรรเลงคีย์บอร์ดของจงฮุนในเพลง Pray ช่วงอินโทรลก่อนจะลุกมาโชว์ลีลามันส์ๆดีดกีตาร์ให้ทุกคนได้โดดกัน พอถึงเพลง Light จงฮุนก็กลับมาบรรเลงคีย์บอร์ดกันอีกครั้ง พร้อมกับที่แฟนๆในฮอลล์ร่วมกันทำโปรเจ็คท์ ปิดไฟจากที่คาดผมโบว์สีเหลืองรวมถึงแท่งไฟ พร้อมกับเปิดไฟสีเหลืองและชูป้ายกระดาษที่เขียนข้อความว่าจะเป็นแสงไฟให้กับหนุ่มๆด้วย

จากนั้นหนุ่มๆก็ลาลงเวทีไป ก่อนที่แฟนๆจะส่งเสียงอังกอร์ โดยหลังจากผ่านไปพักใหญ่ๆ หนุ่มๆก็เดินกลับมาขึ้นเวทีอีกครั้งพร้อมกับเปลี่ยนเป็นเสื้อทัวร์ ก่อนจะระเบิดความมันส์ในเพลงใหม่ล่าสุดกับเพลง Puppy ที่ฮงกีออกมาพร้อมตุ๊กตาสุนัขเพื่อโยนให้แฟนๆ และตามด้วย Flower Rock และ First Kiss แฟนๆลุกขึ้นเต้นกันทั้งฮอลล์ตั้งแต่ต้นจนจบ โดยอีฮงกียังกล่าวทิ้งท้ายแบบติดตลกด้วยว่า คอนเสิร์ตครั้งนี้จะเป็นคอนเสิร์ตที่อยู่ในความทรงจำ ทำเอาแฟนๆซาบซึ้งที่เขาชื่นชอบแฟนๆชาวไทย ก่อนที่หนุ่มฮงกีจะเบรกอารมณ์แฟนๆแทบไม่ทันเมื่อเขารีบพูดต่อไปว่า “ไม่ใช่อะไรนะครับ ที่ผมจำได้ไม่ลืมเพราะผมได้รับบาดเจ็บ นี่เป็นครั้งแรกเลยที่ผมบาดเจ็บจากการแสดงคอนเสิร์ต” เรียกเสียงหัวเราะจากแฟนๆ พร้อมกับที่เจ้าตัวกล่าวว่า ล้อเล่น ก่อนยืนยันว่ามีความสุขที่ได้มาแสดงให้แฟนๆชาวไทยได้ดูจริงๆ

อย่างไรก็ตามคอนเสิร์ตครั้งนี้จบลงอย่างราบรื่นไม่มีการตัดเพลง หรือยกเลิกกลางครันแม้ว่า อีฮงกี นักร้องนำจะได้รับบาดเจ็บที่ขา แต่เจ้าตัวก็แสดงสปิริตแสดงต่อไปได้แบบมืออาชีพ และต้องบอกว่าตั้งแต่ต้นจนจบคอนเสิร์ตเจ้าตัวยังแสดงพลังเรื่องการร้องเพลงได้อย่างน่าประทับใจ ร้องสดแบบเสียงดีไม่มีตกแม้ว่าจะเจ็บขาอย่างมาก แต่ก็ไม่ส่งผลกระทบไม่ปล่อยให้มีเสียงหลบหรือหลุดให้เห็นเลย

ส่วนเพื่อนร่วมวงก็ยังคงทำหน้าที่ของตนเองได้อย่างดีเยี่ยม เล่นดนตรีกันจริงๆ และที่สำคัญคือการที่สมาชิกทุกคนในวงนอกจากมีความสามารถเรื่องการเล่นดนตรีแล้วยังสามารถร้องเพลงได้ด้วย โดยทั้งมือกีตาร์ มือเบส มือกลอง ต่างสามารถเป็นเสียงคลอรัสให้กับอีฮงกีได้ โดยเฉพาะหนุ่มแจจิน ที่เสียงของเขามาโทนหวานเข้ากันกับการเป็นคลอรัสให้กับเสียงหนักแน่นของนักร้องนำ หรือการเป็นคลอรัสหรือร่วมแร๊ปของซึงฮยอน มือกีตาร์ก็ผสานรวมกันได้เป็นอย่างดี

แต่น่าเสียดายที่คอนเสิร์ตครั้งนี้อีฮงกีสื่อสารกับแฟนๆได้ไม่ค่อยเข้าใจนัก ทำให้จังหวะที่ขอให้แฟนๆลงไปนั่งเพื่อจะได้กระโดดขึ้นพร้อมกันทั้งฮอลล์ก็ไม่สามารถขอความร่วมมือกับแฟนๆได้ หลายคนยังคงยืนงงกับคำสั่งของเขา โดยส่วนมากต่างคิดไปว่าเขาต้องการให้นั่งลงเพื่อความเป็นระเบียบของคอนเสิร์ตเท่านั้น นอกจากนั้นในเพลงใหม่อย่าง Puppy ก็ไม่สามารถเรียกให้แฟนๆร้อง WOW ตามในเพลงได้ จนเจ้าตัวออกอาการหงุดหงิดแฟนๆแต่ใบหน้ายังเปื้อนยิ้มให้เห็นกันหลายรอบ

อย่างไรก็ตามคอนเสิร์ตครั้งนี้ก็จบลงด้วยความประทับใจของแฟนๆที่ได้เห็นความเป็นมืออาชีพของหนุ่มๆ FT Island ที่นับวันๆฝีมือไม้ลายมือในเรื่องของดนตรีได้พัฒนาเพิ่มมากขึ้นตามอายุและน้ำหนักตัวที่เพิ่มขึ้นของแต่ละคนได้เป็นอย่างดี

“FT Island”อยากแฉกันเองเรื่องสาวๆแอบชวนแฟนคลับใส่บิกินีไปดูคอนเสิร์ต





















ติดตามรับชมช่อง “Super บันเทิง” ได้ที่ Super บันเทิง live

ข่าวบันเทิง, ถูกต้อง, รวดเร็วฉับไว ทั้งไทย และเทศ http://www.superent.co.th

ติดตามความเคลื่อนไหวอินสตาแกรมดาราทั้งไทยและเทศตลอด 24 ชั่วโมงได้ที่ ซูเปอร์สตาแกรม
กำลังโหลดความคิดเห็น