xs
xsm
sm
md
lg

เจ้าสาวเฉพาะกิจ ตอนที่ 24

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


เจ้าสาวเฉพาะกิจ ตอนที่ 24

สราญกับภัทรนั่งจิบกาแฟหลังอาหาร นิดเปิดประตูให้ประกายฟ้าลากกระเป๋าใบโต เดินยิ้มร่าเข้ามา
 
ภัทรมองประกายฟ้า ก่อนหันไปมองหน้าสราญมีคำถาม
“นี่ไงคะ เซอร์ไพรส์ ที่พูดไว้ตะกี้”
“มะ หมาย ความว่าไง”
“ก็หมายความว่า หนูฟ้าจะมาอยู่ที่นี่กับเรา”
“หะ แล้วหนูเดือน เมียเขาล่ะ”
“ก็ไม่รู้สินะ ถ้ามันอยากอยู่ก็อยู่ไป อยู่ไม่ได้เดี๋ยวมันก็ไสหัวไปเอง”
“คุณพ่อขา ไหนๆ ฟ้าก็ได้ชื่อว่าเป็นเมียของพี่ภูมิ ได้โปรดเมตตาฟ้า ให้ฟ้าอยู่ที่นี่ด้วยคนนะคะ”
ภัทรน้ำท่วมปาก เห็นรามนรีเดินลงบันไดมาพอดี
“แกมาก็ดีแล้ว ฉันจะขอแจ้งให้ทราบ ว่าหนูฟ้าเขาจะมาอยู่ที่นี่ในฐานะเมียของตาภูมิอีกคน”
รามนรีตกใจมองสราญ
“เรื่องนี้มันเกิดขึ้นได้ยังไง หนูทำไมไม่รู้เรื่องเลย เป็นตายยังไงหนูก็ไม่ยอมค่ะ”
“ไม่ยอมก็ต้องยอม เพราะวันก่อนที่ตาภูมิไม่ได้กลับบ้าน เขาไปนอนบ้านหนูฟ้า”
ประกายฟ้าแสร้งทำน่าสงสารเข้าไปจับมือรามนรีวิงวอน
“เห็นใจหัวอกลูกผู้หญิงด้วยกันเถอะนะคะ ฟ้าไม่ได้ตั้งใจ ฟ้าพลาดไปแล้วจริงๆ”
ประกายฟ้าทำเป็นร้องไห้เสียใจ รามนรีมองรู้ทันว่าประกายฟ้ากำลังเล่นละคร พอนึกถึงเดือนฉายก็ยืนยันเสียงแข็ง
“ไม่ เป็นตายยังไงฉันก็ไม่ยอม”
“ไม่ต้องไปขอความเห็นใจจากใครทั้งนั้น แม่มีสิทธิ์ที่จะทำอะไรก็ได้ในบ้านนี้ ถ้าแม่โอเคก็จบ นังนิดเอากระเป๋าคุณฟ้าไปไว้ข้างบน นั่งลงก่อนนะลูก”
รามนรีมองหน้าประกายฟ้า จำใจเดินออกไป สราญหันไปยิ้มสะใจ ภัทรเซ็ง
“งานเข้าแล้วไอ้ลูกชาย แก ตายแน่”

ไผทกดกริ่งหน้าบ้านเดือนฉาย ภูมิจามออกมาอย่างแรง
“ต้องมีใครคิดถึงฉันอยู่แน่ๆ ภาวนาให้เป็นญาติผู้ใหญ่ของแกละกัน”
“มันใช่เวลาไหมเนี่ย รีบมายืนหลบอยู่หลังฉันเร็วเข้า”
ภูมิพยักหน้าให้ รีบทำตาม เดือนฉายใส่ชุดทำครัว เดินยิ้มร่าถือกุญแจมา
“คุณไทมาได้เหมาะมาก เดือนกำลังทำอาหารจะได้ทานด้วยกันนะคะ”
เดือนฉายเอื้อมมือจะเอากุญแจไปเปิดประตูให้ไผท ภูมิโผล่ออกมา
“เดือน”
เดือนฉายชะงัก มองตำหนิไผท
“เราน่าจะคุยกันรู้เรื่องแล้วนะคะคุณไท ว่าเดือนคิดยังไงกับผู้ชายคนนี้”
ไผทมองเดือนฉายหน้าจ๋อย ภูมิหน้าสลด
“เดือน ขอผมอธิบาย”
“อธิบายไปก็ไม่มีประโยชน์หรอกค่ะ เพราะฉันเจ็บแล้วจำ คุณเคยได้ยินไหม ว่ายิ่งรักมากก็ยิ่งเกลียดมาก ผู้หญิงไม่จำเป็นต้องโง่ซ้ำซากก็ได้ค่ะ ขอตัวนะคะ”
เดือนฉายเดินเชิดหน้าหายเข้าไปในบ้าน
“เห็นไหม ฉันบอกแล้วว่าอย่าเพิ่งมา ไปบ้านด้วยกัน ฉันจะได้หาเรื่องคืนดีกับยัยบ๊องแบบไม่เสียฟอร์ม”
“อ้าว ก็คุณยายเขาเข้าใจแกแล้วนี่นา แล้วไปทะเลาะเรื่องอะไรอีกวะ”
“ก็เรื่องชนักปักหลังฉันอยู่นี่ไง อุ้ย”
“เรื่องอะไร”
“ยังไม่มีอารมณ์เล่า ฉันว่า แกพาฉันไปซื้อของฝากคุณยายกับคุณย่า ดีกว่าไหม”
ภูมิกอดคอไผท พาเดินออกไป

ตอนเย็น ย่ากับเภานั่งอยู่ด้วยกัน รามนรีเดินหน้าเครียดเข้ามา
“เป็นไง จัดการแม่ประกายฟ้าประกายดิน เรียบร้อยแล้วใช่ไหมลูก”
“ทีแรกก็เหมือนจะได้ แต่สุดท้ายก็เอาไม่อยู่ค่ะคุณย่า”
“อ้าว ทำไมล่ะ”
“เขาไม่สนอะไร แล้วตอนนี้คุณนาย ก็ให้เขาขนของมาอยู่ที่นี่แล้ว”
“หะ แม่สราญทำอย่างนี้ได้ยังไง ให้เขามาอยู่ในฐานะอะไรกัน”
“ฐานะเมียคุณภูมิ”
เภาหน้าเหวอ ตาโต
“เมียคุณภูมิ”
“หนูก็เพิ่งรู้เมื่อกี้ ว่าคุณภูมิแอบไปมีอะไรกับคุณฟ้า”
ย่าโมโหมากลุกขึ้นยืน
“ใจเย็นๆ นะคะคุณย่า”
“ไม่ยงไม่เย็นมันแล้ว ไปแม่เดือน ไปกับย่าเดี๋ยวนี้”
“อุตะ คุณท่าน มั่นสุดขีด ปรี๊ดปรอทแตกไปเลย มันแน่งานนี้”
เภาจะย่องตามไป แต่ถวิลเข้ามาดึงตัวไว้
“อย่าไปยุ่งเรื่องเจ้านาย เดี๋ยวก็ตายก่อนกำหนดหรอก”
“แต่เจ้านายฉันกำลังโดนหมู่มารรังแก ฉันทนไม่ได้ ต้องไปช่วย ปล่อยฉันนะพี่หวิน”
“ถ้าคิดว่าตัวเองเป็นซุปเปอร์เกิร์ล ก็ตามใจ”
เภาทำท่าแปลงร่างล้นๆ ก่อนวิ่งออกไป
“ตกลง ฉันได้คนบ้ามาเป็นเมียเหรอวะเนี่ย เฮ้อ”

นักสืบแอบแฝงตัวเข้ามายืนหลบรอเวลาที่ฝั่งตรงข้ามโรงแรมม่านรูดที่กองแก้วมาพัก เกริกเกียรติเปิดประตูออกมา นักสืบรีบยกกล้องมาถ่ายไว้ เกริกเกียรติส่งสายตาหวานเยิ้ม ก่อนจับมือกองแก้ว ขึ้นมาจูบลา
“เรามาเริ่มนับถอยหลัง ที่จะได้ย้ายเข้าไปอยู่บ้านของเรา ด้วยกันนะครับพี่”
กองแก้วพยักหน้าโผกอดหอมเกริกเกียรติสุดรัก ก่อนประคองพากันเดินออกไป นักสืบยิ้มพอใจ

ย่ากับรามนรียืนเผชิญหน้าสราญกับประกายฟ้า ภัทรนั่งหน้าจ๋อยอยู่ นิดกับเภาอยู่คนละมุม จ้องหน้ากันเอาเรื่อง สราญมองหน้ารามนรีเอาเรื่อง
“คงจะไปฟ้องคุณแม่มาแล้วล่ะสิ”
“ก็ผัวเขากำลังจะโดนปล้นไป หล่อนจะให้เขาทำยังไง ถ้าไม่ทำอย่างนี้”
“แล้วคุณแม่จะให้หนูทำยังไง ในเมื่อตาภูมิไปทำอย่างนั้นหนูฟ้า แล้วเขาก็มีพ่อมีแม่ ไม่ได้เป็นเด็กกำพร้าไร้ที่มาที่ไปเหมือนใครบางคน แล้วที่เขาไม่โวยวาย ก็เพราะหนูขอร้องให้ผ่านงานยัยศจีไปก่อน แต่แม่นี่ ดันไปอาละวาดหนูฟ้าที่ทำงาน ทำให้เขาอับอาย จนหนูต้องให้เขามาอยู่ที่นี่”
สราญคว้ามือถือมาเปิดคลิป ยื่นให้ย่ารับไปดู ย่าเพ่งมองหน้าจอสักครู่
“อืม เมาสลบเหมือดขนาดนั้น มันจะทำอะไรใครได้ แล้วทำไมหล่อนไม่บอกฉัน ว่าจะให้แม่ประกายฟ้าไปเป็นเลขาตาภูมิ”
“ก็กะว่าจะบอกแต่ไม่ทัน มันดันมาเกิดเรื่องก่อนนี่คะคุณแม่”
“ตาภัทร แกก็เอาแต่นั่งเบลอ ซื่อบื้ออยู่ได้ ไม่คิดจะพูดจะทำอะไรบ้างเลยหรือไง หะ”
“ก็คิด แต่ทำไม่ได้ครับคุณแม่”
“กลัวเมียเสมอต้นเสมอปลายจริงๆ เลยนะแก แล้วหล่อนได้ถามเจ้าภูมิมันรึยัง ว่ามันจริงหรือมั่ว ฉันกลัวว่าจะเป็นการจัดฉาก”
ประกายฟ้ามองย่าไม่พอใจที่รู้ทัน รีบกลบเกลื่อน
“ไม่จริงนะคะคุณย่า พี่ภูมิเขาบอกว่ารักฟ้า และเบื่อเมียเขา เราถึงได้”

“พอๆ ไม่ต้องเล่าเรื่องบัดสีบัดเถลิงพวกนี้ให้ฉันฟัง ใครทำอะไร จริงหรือไม่ก็รู้ดีอยู่แก่ใจ แต่ถ้าไม่จริง เอาเรื่องแน่”

ประกายฟ้ายิ้มแหยหลบตาย่า
 
“ในเมื่อหล่อนตัดสินใจจะทำอย่างนี้ก็ตามใจ เรียนผูกก็ต้องเรียนแก้เอาเอง แล้วอย่ามาเสียใจทีหลังก็แล้วกัน แล้วนี่ไอ้ตัวดีอยู่ไหน”
“ยังไม่กลับมาเลยครับ คุณแม่มีอะไรรึเปล่า”
“ฉันอยากจะแพ่นกบาลมัน ถ้ามันกลับมา ให้รีบไปหาฉันด่วน ไม่งั้นก็อย่าหวัง ว่าฉันจะยกสมบัติให้ ฉันจะยกให้การกุศลหมดเลยคอยดู”
“อ๊าย ใจเย็นค่ะคุณแม่ ปัญหาทุกอย่างแก้ได้ แล้วจะรีบให้ตาภูมิไปหานะคะ”
“ไปแม่เดือน ไปกับย่า”
ย่าดึงมือรามนรีเดินออกไป สราญหน้าตื่นรีบหยิบโทรศัพท์มากดโทรออกมือไม้สั่น

ผสานมาที่บ้านศจี เดินยิ้มร่าเข้ามานั่งข้างระพี
“พี่พี ผมมีข่าวดีมาบอก”
“ข่าวดีอะไรคะ”
“ก็ผมใกล้จะได้ตัวหนูเล็กแล้วน่ะสิครับ”
ระพีตกใจ ศจีกับเจือจันทร์ หันไปส่งยิ้มยินดีให้กัน ก่อนหันไปมองระพี
“พี ไม่ดีใจ ที่จะได้เจอน้องเหรอลูก”
ระพีแค่นยิ้ม ไม่ให้ทุกคนสงสัย
“ครับๆ ดีใจมากเลยครับ ว่าแต่คุณผสานเจอหนูเล็กที่ไหนเหรอครับ”
ผสานเล่าเรื่องให้ระพีกับทุกคนฟัง

สราญเดินไปกดมือถือไป พาประกายฟ้าเดินมาส่งที่ห้อง นิดผายมือ
“เชิญค่ะคุณฟ้า”
ประกายฟ้ากวาดตามองไปรอบๆ ห้อง ยิ้มพอใจ
“โทรไปตั้งหลายรอบ ทำไมตาภูมิไม่ยอมรับสายนะ”
“พี่ภูมิคงติดงานอยู่มั้งคะคุณแม่”
นิดลากกระเป๋าเข้าไปไว้ในห้อง
“แม่ให้แม่นิด ทำความสะอาดห้องไว้ให้ หวังว่าคงจะพอใจนะจ๊ะ”
“พอใจมากค่ะคุณแม่ ขอบคุณมากนะคะที่เมตตาฟ้า”
“ไม่เป็นไร แม่ยินดีทำทุกอย่างเพื่อลูกสะใภ้คนนี้อยู่แล้วล่ะจ้ะ งั้นพักผ่อนตามสบาย มีอะไรก็บอกแม่นิดได้ แม่จะให้เขาคอยดูแลรับใช้หนูฟ้านะ”
“ค่ะคุณแม่”
ประกายฟ้าเดินไปส่งสราญกับนิด แล้วยืนพิงประตู ยิ้มเจ้าเล่ห์
“นี่แค่ดอกแรกสำหรับแกนังตัวปลอม รอดอกที่สอง เพื่อปิดตำนาน แกต้องคลานออกไปจากบ้านนี้เหมือนหมาตัวหนึ่ง และฉัน ก็จะได้เป็นเจ้าสาวตัวจริงของพี่ภูมิ”
ประกายฟ้ายิ้มมั่น

ผสานเล่าเรื่องที่เจอประกายฟ้าให้ฟัง ศจีตกใจ
“หะ คุณประกายฟ้า รู้จักหนูเล็ก”
ระพีหน้าเจื่อน
“ใครกันลูกประกายฟ้า” เจือจันทร์แปลกใจ
“ก็ผู้หญิงที่คุณป้าสราญบอกว่าเป็นแฟนพี่ภูมิอีกคนไงคะแม่”
“อ๋อๆ จำได้ละ”
“แล้วเขาบอกว่าไงต่อ”
“เขาไม่ได้บอกรายละเอียดอะไร แค่บอกว่าเคยเห็นหนูเล็ก เดี๋ยวเขาจะช่วยจัดการให้ ได้เรื่องยังไง เขาจะโทรมาบอกอีกที”
“เหรอครับ ถ้ามีข่าวคราวความเคลื่อนไหวอะไร ช่วยบอกผมด้วยนะครับ”
“ได้ครับพี่พี”
ระพีฝืนยิ้มให้ ในใจนึกเป็นห่วงรามนรี อยากจะรีบโทรไปหา
“เดี๋ยวเชิญคุณผสานกับคุณจอส อยู่ทานอาหารเย็นด้วยกันเลยนะคะ”
“ด้วยความยินดีเลยครับ”
ระพีเซ็ง

ภูมิกับไผท ยืนรออาหารที่หน้าร้าน ทั้งสองช่วยกันถือกล่องอาหารหลายกล่อง เดินกลับมาที่รถ แล้วขับออกไป
“คิดเสียว่าวันนี้ ฉันจัดปาร์ตี้สมานฉันท์ให้ครอบครัวก็แล้วกันนะ”
“ถามจริง แกกับคุณยายจะอะไรกันนักกันหนา สามวันดีสี่วันไข้ เดี๋ยวดีเดี๋ยวร้าย ทะเลาะกันไปกันมา ไม่เบื่อบ้างรึไงวะ”
“บางทีก็อยากจะเบื่อ แต่ก็ไม่เบื่อ เพราะรักว้อย”
“เอาเข้าไป พูดเพ้ออะไร งงไปหมดแล้วเนี่ย รีบไปได้แล้วไป”
ภูมิพยักหน้ายิ้มให้

ภัทรนั่งเหม่อครุ่นคิดหน้าเครียดอยู่ในห้องรับแขก
“สามคนผัวเมีย แล้วมันจะอยู่กันได้ยังไง วุ่นวายตายเลย”
สราญเดินหน้าหงิก เพราะติดต่อภูมิไม่ได้
“นี่คุณ ผมว่าคุณคิดใหม่เถอะ จะให้เขาเข้ามาอยู่ได้ยังไง คิดถึงใจเมียเขาบ้างสิ”
“ไม่ เพราะฉันไม่เคยคิดว่ามันเป็นเมียตาภูมิตั้งแต่แรก”
“ก็ไหนคุณเคยบอกว่าจะฟังผม แต่คุณไม่เคยทำมันได้เลย”
“เรื่องอื่นฉันจะฟัง แต่เรื่องนี้ฉันขอ เพราะฉันรอไม่ไหวแล้ว”
“คุณกำลังเห็นกงจักรเป็นดอกบัว แล้วคุณจะเสียใจที่ไปทำกับคนดีๆ อย่างหนูเดือน”
“คุณนั่นแหละที่จะเป็นฝ่ายเสียใจ เพราะฉันมั่นใจ ว่าอีนังคนนี้ มันไม่ได้ดีจริง”
ภัทรมองหน้าสราญถอนใจ ก่อนเดินออกไป
“อวยมันเข้าไป หลงมันเข้าไป พอกัน ทั้งแม่ทั้งลูก”

สราญเบ้ปากไม่สนใจ

ย่านั่งหน้าเครียดอยู่ภายในบ้าน มีไม้ตะพดหนึ่งอันวางเตรียมไว้
 
รามนรีคอยนวดไหล่ให้ ภูมิกับไผทถือกล่องอาหารเดินเข้ามา เภารีบบอก
“คุณภูมิมาแล้วค่ะ”
ย่าหันขวับไปมอง ภูมิยิ้มร่า สองมือชูถุงอาหารโชว์
“คุณย่า นี่ผม”
ย่าลุกพรวดคว้าไม้พุ่งเข้าใส่ ภูมิตกใจ เหวี่ยงกล่องอาหารทิ้งแล้ววิ่งหนีตาย ย่าไล่ตาม รามนรีแอบสะใจ สมน้ำหน้าภูมิ ไผทสงสัย
“นี่มันอะไรกันครับคุณยาย
“ถ้าอยากรู้ ก็ตามไปดูสิคะ ฉันรู้สึกปวดหัว ขอตัวก่อนค่ะ”
ไผทมองรามนรีงง ๆ ก่อนนึกได้ ตกใจ รามนรีเดินมานั่งที่เก้าอี้สนาม ครุ่นคิดเรื่องประกายฟ้า
“ฉันจะทำยังไงกับเธอดี เพื่อพี่เดือน เราต้องทำทุกอย่าง”
รามนรีมองเข้าไปในบ้านภูมิ ย่าถือไม่ไล่ตีภูมิ ซึ่งวิ่งหนีตาย ภัทรกับไผท วิ่งไล่ตามเป็นวงกลม พยายามห้ามปราม จนภัทรคว้าตัวย่ามากอดไว้
“คุณแม่ ลืมไปแล้วหรือไง ว่าอายุเท่าไหร่แล้ว”
“อายุเท่าไหร่ก็ช่าง วันนี้ฉันจะขอตีมันให้ตาคามือไปเลย ไอ้เด็กนรกนี่”
“ใจเย็นๆ นะครับคุณย่า มีอะไรค่อยพูดค่อยจากัน” ไผทขอร้อง
“จะให้ค่อยพูดค่อยจาได้ยังไง ก็ดูมันทำกับเมียมันสิ”
“ผมทำอะไร ผมเพิ่งมากับไอ้ไท ยังไม่ได้ทำอะไรเลย ไม่เชื่อถามคุณพ่อดูก็ได้”
“ยังจะมาทำเป็นปากดี คิดว่าเรื่องชั่วๆ ที่แกทำไว้ จะไม่มีใครรู้หรือไง หะ”
“ผมไปทำชั่วอะไร”
“แกไปมีอะไรกับแม่ประกายฟ้า แล้วตอนนี้แม่แกก็ให้เขามาอยู่ที่นี่แล้ว”
ภูมิตกใจสุดขีด
“ทำไมผมไม่เห็นรู้เลย”
“คนอย่างแกจะไปรู้อะไร นอกจากทำเรื่องฉาวโฉ่ไปวันๆ ทีแรกฉันนึกว่าแกจะเปลี่ยนเป็นคนดีได้ แต่ก็ไม่ใช่อยู่ดี ต่อไปฉันจะไม่สนใจแก ฉันเบื่อ”
ย่าเขวี้ยงไม้ทิ้ง ก่อนเดินหน้าหงิกออกไป ภูมิกุมขมับ หน้าสลด

ระพี ศจี เจือจันทร์ เดินมาส่งผสานกับจอสที่รถ
“บ๊ายบาย แล้วเจอกันนะครับ”
“ขับรถดีๆ นะจ๊ะ”
ระพีรีบเดินชิ่งออกไป ศจีมองตามระพี สงสัย
“จะรีบไปไหนของเขา”

รามนรีเปิดประตูเข้ามาที่ห้องรับแขก ยืนตรงหน้าสราญ
“แกจะมายืนค้ำหัวฉันอยู่ทำไม ออกไป ฉันไม่อยากเห็นหน้าแก”
“แต่หนูมีเรื่องสำคัญเรื่องคุณฟ้า อยากจะเรียนให้ทราบ”
“นี่แกจะมาไม้ไหนอีก”
ประกายฟ้ากำลังจะเดินลงบันไดมา รีบหลบแอบฟัง
“มีอะไรก็รีบพูดมา”
“คือ คุณฟ้ากับครอบครัวเขากำลังเดือดร้อนเรื่องเงิน ก่อนแต่งงานหนูเคยเจอพวกเขาที่สปา เขามากับเสี่ย และได้รู้ว่าเขากำลังหลอกเอาเงินผู้ชายคนนั้น”
“เรื่องหลอกๆ ของแกมันตื้นเขินมาก แล้วคนมีสติปัญญาที่ไหนจะไปเชื่อแก”
“แต่หนูพูดจริงๆ นะคะ หนูได้เห็นและได้ยินมาอย่างนั้นจริงๆ”
“นี่ ฉันจะบอกให้แกรู้ ว่าหนูฟ้าเขาเป็นผู้ลากมากดี มีการศึกษา เขามีเจ้าคุณปู่เจ้าคุณย่าที่ร่ำรวย เขาถึงเหมาะที่จะเป็นสะใภ้ฉัน มากกว่าแก เลิกแต่งเรื่องมาใส่ร้ายเขา เพราะฉันจะไม่มีวันเชื่อเรื่องน้ำเน่าของแก”
สราญมองรามนรี เหมือนจะกินเลือดกินเนื้อ รามนรีเดินคอตกออกไป ประกายฟ้ายิ้มร่ายิ่งมั่นใจ รามนรีเดินเหนื่อยหน่าย เปิดประตูห้องเข้ามา หยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาปิดเครื่อง ทิ้งตัวนอน กุมขมับ
“แล้วจะทำยังไง ทำอะไรต่อไปดีค่ะพี่เดือน”
รามนรีนอนหมดแรง สลึมสลือ ตาปรือ จนผลอยหลับไป

ระพีพยายามโทรศัพท์หารามนรีหลายครั้งแต่ปิดเครื่อง
“ยัยหนูเล็กทำไมปิดเครื่อง เปิดสิเปิด”
ระพีหน้าเครียด เดินไปเดินมาด้วยความร้อนรน ศจีแอบมองสักครู่ก่อนเดินเข้าไปหาระพี
“เราเพิ่งจะหมั้นกัน แต่ดูเหมือนพี มีอะไรที่ยังปิดบังศจีอยู่”
“ไม่ใช่อย่างนั้น”
“แล้วทำไม่ถึงทำอะไรลับๆ ล่อๆ อย่างนี้ หรือว่าพีมีกิ๊กคะ”
“มันไม่ใช่อย่างนั้นเลยนะ”
“แล้วมันคืออะไร ทำไมไม่บอกกันตรงๆ หรือว่า พีไม่ไว้ใจศจีแล้ว”
“ผมไว้ใจคุณเสมอ แต่ที่ผมไม่อยากบอกเพราะผมกลัวคุณจะไม่สบายใจ กลัวไปทำอะไรให้คุณผสานกับ จอสเขาจับได้ว่าเราสงสัยเขา”
ศจีงงๆ
“เมื่อวันงาน หนูเล็กเขามาที่นี่ และผมก็เจอเขา”
“เหรอคะ แล้วทำไมไม่เกลี่ยกล่อมให้แกยอมกลับบ้าน”
“ผมพยายามแล้ว แต่เขาขอร้อง และขอให้ผมช่วยให้เขาหนีไป เพราะกลัวเจอคุณผสาน หนูเล็กยังยืนยัน ว่าผสานไม่ใช่คนดี”
“มันจะเป็นไปได้ยังไง ในเมื่อเราก็เห็นอยู่ ว่าเขาดีแค่ไหน”
“ผมถึงไม่อยากด่วนสรุป ไม่อยากให้ใครรู้ ผมอยากให้ความเป็นธรรมกับเขา”
“เข้าใจ แล้วก็ขอโทษนะคะพี ที่ศจีเข้าใจพีผิดไป ต่อไปไม่ต้องปิดบังอะไร เพราะศจีมั่นใจว่าพีเป็นคนดีทั้งกายและใจ ไม่ว่าจะเกิดอะไรศจีก็ต้องอยู่ข้างพีเสมอค่ะ”
ระพียิ้มให้

ไผทยืนมองภูมิ ซึ่งนั่งหน้าเครียดอยู่กับภัทร
“นี่คือชะนัก ปริศนา ที่ปักหลังแกอยู่ใช่ไหม”
ภูมิพยักหน้า
“ก็พลาดเอง ผู้ชายมักจะพลาดตอนเมา ตอนขาดสติเสมอ”
“ก็วันนั้นผมเครียด ผมเสียใจ ก็เลยดื่มหนักไป ไม่คิดว่าเขาจะกล้าทำกันขนาดนี้ แต่ผมมั่นใจ ว่าผมไม่ได้ทำอะไรเขาเลยนะครับคุณพ่อ”
“พ่อรู้ว่าแกไม่ได้ทำ แต่หลักฐานมันน่าเชื่อว่าเป็นแบบนั้น”
“เฮ้อ ราหูเข้าเยอะไปไหมวะแก มีเรื่องไม่ได้หยุดได้หย่อนเลย”
“ทำใจเถอะ ไม่ว่าจะยังไง เราก็ต้องช่วยกันแก้ปัญหาไปทีละเปราะ”
“แล้วที่นี้พอจะมีอารมณ์ เล่าให้ฉันฟังได้รึยัง”

ภูมิถอนใจ ยอมเล่าเรื่องทุกอย่างให้ภัทรกับไผทฟัง

เจือจันทร์นั่งดูทีวี ศจีกับระพีเดินควงแขนยิ้มแย้มเข้ามา
 
“คงหายสงสัยแล้วสิ ยิ้มหน้าบานมาเชียว”
“ก็นิดนึงค่ะแม่”
ระพียิ้มเขิน ก่อนเสียงสัญญาณไลน์ที่โทรศัพท์ของเขาดัง
“ดูก่อนสิคะพีว่าใครไลน์มา”
ระพีกดดู ตกใจ ศจีมองหน้าระพี ก่อนหันไปดูที่หน้าจอ เห็นภาพกองแก้วกับเกริกเกียติ
“มีอะไรกันเหรอลูก”
ศจีหยิบโทรศัพท์จากระพี ไปยื่นให้แม่ดู
“แม่คิดยังไง”
“ใกล้ชิดกันขนาดนี้ ต้องเป็นคู่รักกันแน่ๆ”
“มันเป็นอย่างที่เขาว่าจริงๆ”
“แล้วพีได้คลิปนี้ มาได้ยังไงคะเนี่ย”
“ผมรู้เรื่องนี้จากเด็กคนหนึ่งที่รีสอร์ท แต่ผมไม่เชื่อ เลยจ้างนักสืบเอกชนไปสืบดูเพื่อความสบายใจ แล้วมันก็ใช่จริงๆ”
“เฮ้อ พระศุกร์เข้าพระเสาร์แทรกจริงๆ”
“แล้วนี่ พีจะทำยังไงต่อ”
“รอฟังข่าวเรื่องหนูเล็กอีกสักอาทิตย์ หลังจากนั้นเราจะกลับบ้านไปเคลียร์ทุกเรื่อง”
“ค่ะพี”
ระพีถอนหายใจหน้าเครียด

วิรัชกินอาหารเย็นเสร็จ เดินออกมาย่อยอาหารที่หน้าบ้าน เห็นป้าผ่องกวาดใบไม้ก็เดินเข้าไปหา
“คุณแก้ว เขายังไม่กลับมาอีกเหรอเนี่ยแม่ผ่อง”
ป้าผ่องอ้าปากจะตอบแต่ไม่ทัน
“แก้วมาแล้วค่ะ"
ป้าผ่องหันไปมองเห็นกองแก้วถือเอกสารวิ่งแถเข้ามากอดแขนหอมแก้มวิรัช ก็เบือนหน้าหนี หันไปเก็บใบไม้ต่อแต่ เงี่ยหูฟัง
“ขอโทษที แก้วไปดูบัญชีที่รีสอร์ท แล้วก็เอาเช็คกับใบสั่งซื้อของมาให้เซ็นค่ะ”
วิรัชหยิบเอกสารไปดู
“รีสอร์ทเราก็ไม่ได้ใหญ่โตอะไร ทำไมซื้อของพวกนี้บ่อยนักล่ะ มันจิ๊กไปใช่กันรึเปล่า”
“เรื่องนี้ไม่ต้องห่วง เพราะคุณเกริกเกียรติฝ่ายบัญชี เขาดูแลดีมาก แต่เพราะช่วงนี้แขกเข้าเยอะก็เลยใช้เยอะน่ะค่ะ”
“มามา เดี๋ยวเซ็นให้ เมื่อวันงานก็ลืมถามเจ้าพี ว่าเมื่อไหร่มันจะมาดูแลสักที เห็นทีต้องโทรตาม”
“อย่าใจร้อนสิคะ เขาเพิ่งเสร็จงาน ให้เขาได้พักได้ผ่อนบ้าง ไม่ต้องรีบขนาดนั้นก็ได้”
วิรัช ครุ่นคิด ป้าผ่องแอบมอง สงสัยกองแก้ว

กลางคืน รามนรีนั่งอ่านหนังสืออยู่ในห้อง ภูมิเดินเข้ามา มองหญิงสาวที่ทำเป็นไม่สนใจ ไม่มองหน้า ไม่พูดจาด้วย เขาหยิบหนังสือออกจากมือรามนรี
“คุยกับผมหน่อยได้ไหม มีอะไรจะถามผมรึเปล่า อย่าทำให้ผมอึดอัดใจนักเลย”
“แล้วใครเป็นคนทำให้คุณอึดอัด ถ้าไม่ใช่เพราะความมักมากของตัวคุณเอง”
“คุณก็มีส่วนที่ทำให้เกิดเรื่องนี้”
“อ๊ะ จะมาโทษฉันได้ไง ฉันไปทำอะไรให้คุณ”
“เพราะคุณ ที่ทำให้ผมเสียใจ เพราะไม่เคยฟังอะไรผมเลย แล้วเรื่องที่เกิดขึ้นมันก็ไม่ใช่เรื่องจริง ผมถูกแบล็คเมล์”
“คนฉลาดอย่างคุณจะถูกแบล็คเมล์ได้ยังไง ถ้าไม่ได้ตั้งใจและสมยอม”
ภูมิอ้าปากจะเถียงแต่ไม่ทัน ประกายฟ้าใส่ชุดนอนสุดเซ็กซี่ ถือวิสาสะเปิดประตูเข้ามา ปรี่เข้าไปกอดภูมิไว้
“คุยอะไรกันอยู่คะ ขอฟ้าคุยด้วยคนนะ”
รามนรีมองประกายฟ้าท้ารบ เข้าไปดึงภูมิออกมา สองสาวต่างดึงมือภูมิคนละข้าง ยื้อกันไปกันมา รามนรีสลัดมือประกายฟ้าออกไปจากภูมิได้ หันไปกอดออดอ้อน
“ภูมิขา เดี๋ยวไปอาบน้ำอาบท่าให้ชื่นใจ แล้วค่อยมาจิ๊จ๊ะกันต่อนะคะ”
ภูมิหน้าตื่นยิ้มดีใจ รามนรีหยิบผ้าเช็ดตัว ประคองภูมิพาไปส่งที่ห้องน้ำก่อนจุ๊บปาก ดันภูมิหายเข้าไปกดล็อคปิดประตู ประกายฟ้าเดินปรี่เข้าไปหา
“จะเก็บไว้กินคนเดียว ไม่ยอมแบ่งกันเลยรึไง เขาก็เป็นสามีฉันเหมือนกันนะ”
“ดูท่าน่าจะหิวมาก แต่ฉันไม่ให้มีไรป่ะ”
“ทำเป็นปากดีไปเถอะ เพราะอีกไม่นานแกก็จะอยู่ที่นี่ไม่ได้”
“เหรอจ๊ะ งั้นก็ต้องวัดกัน ว่าเธอกับฉัน ใครกันที่จะอยู่ไม่ได้”
“งั้นก็คอยดูละกัน ว่าใครจะแน่กว่ากัน”
“ชัวร์”
ประกายฟ้ามองแค้นรามนรี ก่อนเดินกระแทกเท้าออกไป ปิดประตูดังปัง เดินกลับมาที่ห้องตัวเองด้วยความโมโห หยิบข้าวของปากระจายเกลื่อนห้อง หยิบหมอนปาไปที่หน้าประตู จังหวะเดียวกับที่สราญเปิดเข้ามาพอดี เลยโดนหมอนฟาดหน้าอย่างจัง
“โอ๊ย”
“อึ๋ย คุณแม่”
ประกายฟ้ารีบเอาเท้าเตะของที่ตกอยู่เข้าใต้เตียงได้บางส่วน ก่อนโผไปหาสราญ
“ขอโทษทีนะคะคุณแม่ ฟ้ากำลังฝึกขวางหมอนบริหารท้องแขนไม่ให้หย่อนยานค่ะ”
“อูย แรงขนาดนี้ จะมีปัญหากับโบท็อกซ์ไหมเนี่ย”
“ไม่ค่ะไม่ ทุกอย่างยังสมบูรณ์ดี ไม่มีบิดเบี้ยวบวมสักนิดเลยค่ะ คุณแม่ขา”
สราญถอนใจโล่งอก
“แม่ก็แค่จะเข้ามาดู ว่าหนูฟ้าโอเคไหม ขาดเหลืออะไรรึเปล่าลูก”
“ไม่ขาดเหลืออะไร โอเคที่สุดเลยค่ะคุณแม่”
“งั้นก็สบายใจ แม่ไปนะจ๊ะ กู๊ดไนท์จ้ะ”

ทั้งสองเอาแก้มชนแก้มร่ำลากัน

เจ้าสาวเฉพาะกิจ ตอนที่ 24 (ต่อ)

รามนรีนอนหันหลังให้ภูมิอยู่ที่พื้น
ภูมิเดินออกมาชะเง้อมอง ก่อนย่องไปหยิบน้ำหอมฉีดที่ซอกคอ ยิ้มร่า มองรามนรีตาวาว เขยิบเข้าไปใกล้ ทำปูไต่ที่แขน รามนรีตาขวางหายใจแรง พยายามระงับอารมณ์ ภูมิยิ่งได้ใจ
“ผมพร้อมที่จะจิ๊จ๊ะกับคุณแล้วนะที่รัก”
รามนรีหมดความอดทน หันไปยันภูมิจนกระเด็นออกไป
“บอกหลายครั้งแล้วว่าอย่ามาทะลึ่งกับฉัน”
ภูมิร้องโอดโอย ดิ้นขลุกๆ ออกไป จุกและเจ็บแต่ยังเถียง
“ทะลึ่งอะไร ก็คุณพูดเอง ว่าจะจิ๊จ๊ะกันนี่น่า”
“ไม่รู้หรือไงว่าฉันเสแสร้งแกล้งทำ เพื่อให้แม่นั่นออกไปให้ไกลๆ คุณ”
“ถึงว่า ถีบซะแรงเชียว ว่าแต่คุณหึงผมเหรอ”
“ก็เออสิ”
รามนรีหลุดปาก ภูมิดีใจตาโต รามนรีนึกได้รีบเอามือปิดปาก
“อุ้ย ตอบฉันมา ว่าคุณจะเอายังไงกับยัยฟ้าแล่บฟ้าผ่า แล้วเรื่องคุณเดือนฉายเป็นไง ง้อไปถึงไหนแล้ว”
“ประกายฟ้าถ้าเขาอยากจะอยู่ก็อยู่ไป เพราะผมรู้เช่นเห็นชาติว่าเขาเป็นคนยังไง ผมไม่ยุ่งด้วยแน่”
“พูดอะไร ก็จำเอาไว้ให้ดีก็แล้วกัน”
“แน่นอน ผมก็จะไม่ยอมผิดซ้ำสองเหมือนกัน”
รามนรีเบ้ปากใส่
“แล้ววันนี้ผมก็ไปหาเดือนฉายกับไอ้ไท แต่เขาไล่ผมกลับ แล้วคุณจะให้ผมทำยังไง”
“ก็ต้องง้อต่อไปจนกว่าเขาจะใจอ่อน แล้วฉันขอห้าม ไม่ให้คุณเข้าใกล้ยัยฟ้าแล่บ ฟ้าผ่าเด็ดขาด ถ้าไม่เชื่อ โดนแน่”
ภูมิยิ้มแหย ก่อนเดินขาเดี้ยงกลับไปที่เตียงด้วยความชอกช้ำ

ตอนเช้า รามนรีเสิร์ฟอาหารเช้าให้ย่ากับภัทร
“เป็นไง เริ่มชินกับแม่ประกายฟ้ากันรึยังล่ะ พ่อภัทร แม่เดือน”
รามนรียิ้มแหยๆ ไม่ตอบ
“ไม่ชินก็ต้องชินล่ะครับคุณแม่ เพราะคุณสราญเขารักของเขามากมาย”
“เรื่องนี้ เมียแกเขามากมาย มาตั้งแต่ไหนแต่ไรอยู่แล้ว”
“ผมก็ว่างั้น”
“แม่เดือน ถ้าอยู่กับร่วมบ้านกับเขาแล้วไม่สบายใจ อยากจะมาอยู่กับย่า ก็มาได้ทุกเวลาเลยนะลูก”
“ขอบคุณค่ะคุณย่า แต่เดือนทนได้ค่ะ”
ภัทรมองซาบซึ้ง
“ขอบใจมากนะลูก ที่ไม่ทิ้งเจ้าภูมิไปไหน ขอเวลาให้เขาได้สะสางปัญหา แล้วอีกไม่นาน เขาจะกลับมาเป็นสามีที่ดีของหนู เพราะพ่อรู้ว่าเจ้าภูมิมันรักหนูมาก”
รามนรีปวดใจ ฝืนยิ้มให้ภัทร

ประกันกับพวงศรี เริ่มจน เครียด ดื่มเหล้านั่งสลึมสลืออยู่บนโซฟา แหงนหน้าดูทีวี ชายชุดดำถีบประตูดังปัง เสี่ยอุดรใส่แว่นดำเหมือนมาเฟีย เดินเข้ามายืนบังหน้าทีวี ประกันคิดว่าฝัน กระพริบตาถี่ๆ
“นี่ มองดิ คุณเห็นเหมือนที่ผมเห็นไหม รึผมฝันไปว่าไอ้เสี่ยอุดรมันมา”
พวงศรีลืมตาหงุดหงิด
“มันเป็นญาติข้างไหน มันจะมาทำซากอะไร ไม่ม้า”
“แต่ฉันมา มาทวงหนี้พวกแกไง”
สองผัวเมียทะลึ่งพรวดลุกขึ้นมานั่งมองหน้ากัน ก่อนหันไปมองชายชุดดำหน้าเหี้ยมทีละคน
“รู้แล้วใช่ไหม ว่าไม่ได้ฝัน”
ทั้งสองหน้าจ๋อย พยักหน้าให้เสี่ยอุดร
“แล้วรถเบนซ์อีกคันอยู่ไหน”
“เอ่อ อ้า”
“มึงจะเอ่อจะอ้าทำไม รีบตอบเสี่ยเขาไปสิ เดี๋ยวปั๊ด”
พวงศรีหน้าแหยรีบหลบ
“น้องฟ้า เขาขับไปทำธุระอยู่น่ะครับ”
“งั้นก็ไปตามเอารถมาเดี๋ยวนี้ อ้อ แล้วเงินสดอีกห้าล้าน นอกนั้นยกให้ จะถือว่าทำทานไปก็แล้วกัน ชาติหน้าจะได้ไม่ต้องมาเจอกันอีก”
“เงินตั้งห้าล้าน ผมจะเอาที่ไหนมาให้คุณ ขอเวลาผมหน่อยสิครับ”
“ถ้าเรื่องมาก ก็อุ้มมันสองคนไปใส่รองเท้าปูนยืนชมทะเล ก็จบครับนาย”
“เห็นด้วยอย่างยิ่ง เราจะได้มีอาหารสด ให้สัตว์ทะเลได้แทะกินกัน ได้บุญดีออก”
ประกันกับพวงศรี หันไปสบตาตกใจ
“เออ ก็น่าสนใจไม่เบา”
สองผัวเมียเข่าอ่อน ยกมือไหว้วิงวอน
“เสี่ยคะ อย่าทำกันขนาดนั้นเลยนะคะ ขอเวลาให้ฉันสักนิดเถอะค่ะ”
เสี่ยอุดรปรายตามอง ครุ่นคิด
“ก็ได้ จะให้แค่สามเดือนเท่านั้นนะ”
พวงศรีวิ่งลนลานเข้าไปกอดแข้งกอดขาเอาใจ
“ขอบคุณมากนะคะเสี่ย ขอบคุณมากจริงๆ”

เสี่ยอุดรยิ้มสะใจ

ประกายฟ้านอนหลับอยู่ เสียงโทรศัพท์บนหัวเตียงดัง
 
เธอผลุบหัวเข้าไปในผ้าห่ม ไม่ยอมตื่นมารับสาย พวงศรีบ่น
“อ๊าย ทำไมไม่ยอมรับสายล่ะเนี่ย”
สราญเปิดประตูโผล่หน้าเข้ามา เห็นประกายฟ้านอนอยู่ใต้ผ้า ยิ้มปลื้ม
“น่ารักอ่ะ นอนตื่นสาย ทำลายสถิติเราเลย โทรศัพท์ก็ไม่ยอมรับอีกแน่ะ”
สราญกำลังจะเดินออกไป ประกายฟ้าคว่ำหน้าเอามือไปคว้าโทรศัพท์มากดสายรับ
“หะ ไอ้เสี่ยอุดรมาทวงรถ ทวงเงินห้าล้านภายในสามเดือน ใครจะไปหาได้”
สราญกำลังจะปิดประตูออกไปได้ยิน หันกลับมามอง แง้มประตูยืนแอบฟัง
“ถ้าไม่ได้ มันจะอุ้มแม่กับพ่อไปใส่รองเท้าปูนยืนชมทะเลให้ปลากิน”
“ได้ไง แล้วที่มันขมขื่นหนูล่ะ มันจะชดใช้ยังไง”
สราญหน้าซีดตัวชาวาบ รีบเอามือปิดปากตัวเองไว้นิ่งฟัง
“นาทีนี้ใครจะไปกล้าคุยกับมัน แม่ว่าแกไปยืมเงินแม่ผัวแกมาให้มันก่อนเถอะ”
“จะยืมได้ยังไงตั้งห้าล้าน ถ้าเขาสงสัยเขาจับได้ว่าเรารวยไม่จริง ก็ตายน่ะสิ”
“หรือไม่ก็บอกว่าเป็นค่าสินสอดก็ได้ เขารักแกออกจะตาย เขาให้ได้อยู่แล้ว”
“มันไม่ได้หมูนะคะแม่ แล้วอีนังคุณย่ามันก็รู้ทันว่าเราจัดฉาก ส่วนคุณภูมิ เขาก็ไม่เคยสนใจอะไรหนูเลย หนูมาอยู่ที่นี่ หนูไม่เคยมีความสุขเลยนะแม่ แต่หนูก็จะทน”
“นี่มันไม่ใช่เวลาจะมาโอดครวญอะไร ในเมื่อแกเลือกเอง ตกลงแกจะช่วยฉันไหม”
“หนูก็อยากช่วย แต่”
สราญสุดจะทนที่ถูกหลอก เดินหน้าเหี้ยมเข้ามา
“แต่ฉันไม่ช่วย”
ประกายฟ้าหันขวับไปมอง ตกใจ สราญย่างสามขุมเข้ามาคว้าโทรศัพท์จากประกายฟ้าไปแนบหู
“ฟ้า ฟ้า”
“ฉันคือสราญไม่ใช่ฟ้า และฉันก็รู้แล้วว่าพวกแกหลอกฉัน”
พวงศรีเข่าอ่อนจะเป็นลม
“และอย่าหวังว่าจะได้เงินห้าล้าน แค่ห้าร้อยฉันก็ไม่ให้ และรีบมารับลูกแกออกไปจากบ้านฉันเดี๋ยวนี้ ก่อนที่ฉันจะเอาตำรวจมาลากคอมันออกไป”
สราญมองแค้นประกายฟ้า เขวี้ยงโทรศัพท์ทิ้งลงพื้น เดินหน้าเชิดออกไป ประกายฟ้าทั้งตกใจทั้งโมโห สราญเดินออกมาที่หน้าบันได ประกายฟ้าวิ่งตามออกมาดึงแขนสราญ วิงวอน
“แม่คะฟังฟ้าก่อน”
“อย่าเอามือสกปรกของเธอมาแตะต้องตัวฉัน เสียแรงที่ฉันรักเธอด้วยใจ แต่เธอกลับทำกับฉัน ทำกับลูกฉันได้ถึงขนาดนี้ เธอมันเลวทั้งโคตร”
ประกายฟ้าโมโหเลือดขึ้นหน้า มองสราญเขม็ง
“คุณแม่ อย่าบังคับให้หนูต้องทำในสิ่งที่ไม่อยากทำเลย”
“ทำไม แกจะทำอะไรฉัน”
ประกายฟ้าผลักสราญตกบันได สราญตกใจสุดขีด
“ว้าย”
“อย่ามาโทษฉัน เพราะคุณเป็นคนบังคับให้ฉันต้องทำ”
ประกายฟ้ารีบวิ่งหนีเข้าไปในห้อง รามนรีกลับจากบ้านย่า เปิดประตูเข้ามา เห็นสราญกลิ้งตกบันไดลงมา เธอตะโกนสุดเสียง
“คุณนาย”
ประกายฟ้าประสาทเสียเดินร้องไห้ วนไปวนมาเหมือนเสือติดจั่นอยู่ในห้อง
“เอาไงดี ฉันจะทำยังไงดี”
ประกายฟ้าหลับตาเรียกสติสักครู่ ก่อนรีบวิ่งออกไป รามนรีประคองสราญ ที่แน่นิ่งไป มีเลือดไหลที่หัว
“คุณนาย คุณนาย”
ประกายฟ้าวิ่งลงบันไดลงมา ก้าวข้ามรามนรีกับสราญ ออกไป
“คุณฟ้า นั่นคุณจะไปไหน มาช่วยคุณนายก่อนสิ”
ประกายฟ้าไม่สนใจ วิ่งออกไป
“คุณพ่อ ใครก็ได้ช่วยด้วยค่ะ”
รามนรีมองไปไม่เห็นใคร นึกได้ รีบหยิบโทรศัพท์ออกมาโทรเรียกรถรถพยาบาล

ย่า ภัทร เภา ถวิล นิด นั่งหัวเราะร่าคุยกัน ประกายฟ้าวิ่งหน้าตื่นร้องไห้โฮเข้ามา ทุกคนตกใจ หันไปมอง
“มีอะไร เกิดอะไรขึ้นหนูฟ้า”
“นังเดือนฉาย มันทำร้ายคุณแม่ มันผลักคุณแม่ตกบันไดค่ะ”
ภัทรวิ่งพรวดออกไป ถวิลวิ่งตามไปติดๆ ย่ามองสงสัย
“เขารักเธอแทบตายแล้วทำไมเธอไม่ช่วยเขา เธอวิ่งหนีมาทำไม”
ประกายฟ้าหลบตา
“ก็ฟ้าตกใจนี่คะ”
“เธอมักทำให้ฉันสงสัย และไม่ไว้ใจเธอเสมอ เภา ไปกับฉันเร็ว”
ย่าเดินออกไปกับเภา ประกายฟ้ามองแค้น ภัทรกับถวิล วิ่งเข้ามาเห็นรามนรีนั่งประคองสราญไว้แนบอก รีบวิ่งเข้าไปหา
“คุณสราญ คุณเป็นยังไงบ้าง ถวิล เรียกรถพยาบาลเร็ว”
“หนูโทรเรียกแล้วค่ะ”
ภัทรกอดสราญไว้ ใจคอไม่ดี ย่ากับเภาวิ่งเข้ามา มองสราญ ประกายฟ้าเดินเข้ามามองสราญเคียดแค้น คิดในใจ
“ฉันขอแช่งให้แกตาย อย่าได้ฟื้นขึ้นมาเป็นมารขัดขวางความสุขของฉันเลย"
รามนรีมองประกายฟ้าด้วยสายตาแปลกๆ

ไผทกับภูมิ เดินเข้ามาในห้องทำงานพร้อมกัน
“ท่าทางยัยฟ้าจะเป็นโรคประสาท ผู้หญิงบ้าอะไรน่าเบื่อชะมัด วันๆ เอาแต่มากอดแขนเอาหน้าถูไปมา เหมือนจะหาหวยยังไงยังงั้นฉันละเบื่อ”
เหมียวยกกาแฟเข้ามาเสิร์ฟให้ ได้ยินพอดี
“ได้หวยเลขอะไรมาคะคุณภูมิ สามตัวบน รึสามตัวล่างบอกเหมียวหน่อยสิ”
“เอาเชียว เจ๊เหมียวเขาบ้าหวยเป็นทุนเดิน ไปเลยรีบไปทำงานเดี๋ยวนี้เลย”
“ก็ได้ค่ะ”
“ไม่อยากเชื่อ ก่อนหน้าเห็นชมนักหนาว่าน้องฟ้าสวยเหลือเกิน”
“พอเอาเข้าจริงมันเป็นเรื่องฉาบฉวย ความดีต่างหากที่จะมัดใจผู้ชายอย่างเราๆ”
ไผทหันไปมองภูมิ ไม่อยากจะเชื่อ
“โอ้ว บ่าวไม่อยากจะเชื่อ ว่านี่คือคุณภูมิ รัตนบดินทร์ตัวจริง หรือว่าช่วงนี้กินปลามาก เลยฉลาดโคตร”

“ทะลึ่งละ ทะลึ่ง”

เสียงโทรศัพท์ภูมิดัง เชามองหน้าจอ เซ็ง เอาโทรศัพท์วางไว้ไม่รับ
 
“ทำไมไม่รับสาย ใครโทรมาวะ”
“พูดปุ๊บก็โทรมาปั๊บ อายุยืนชะมัดเลยแม่ฟ้าแล่บ แต่ฉันไม่รับไม่อยากคุย”
“อย่างี่เง่าน่า รับๆ ไปเถอะ เผื่อเขาคิดได้ จะโทรมาลากลับไปอยู่บ้านเขา”
ภูมิดีใจ ก่อนรีบกดรับสาย ประกายฟ้าร้องห่มร้องไห้ปิ่มว่าจะขาดใจ
“หยุดร้องไห้ แล้วบอกผมมา ว่าเกิดอะไรขึ้น”
“พี่ภูมิขา เกิดเรื่องใหญ่กับคุณแม่แล้ว”
“อะไร แม่ผมเป็นอะไร”
“เดือนฉายทะเลาะกับคุณแม่ แล้วผลักคุณแม่ตกบันไดไปต่อหน้าต่อตาฟ้าค่ะพี่ภูมิ”
“หะ”
“ตอนนี้คุณแม่อยู่โรงพยาบาล อาการหนักมากค่ะ”
ภูมิยืนอึ้งทำอะไรไม่ถูก

ไผทจับตัวภูมิที่ยืนช็อค เขย่าไปมาเรียกสติ
“ไอ้ภูมิ ตั้งสติ แล้วบอกฉันมาว่าเกิดอะไรขึ้น”
ภูมิมองหน้าไผท น้ำตารื้น
“ผู้หญิงใจร้ายคนนั้น เขาผลักแม่ฉันตกบันได”
“หะ”
ภูมิเอามือปิดหน้า พยายามเรียกสติ
“เป็นไปไม่ได้ ที่คุณยายจะทำอย่างนั้น”
ภูมิไม่สนใจ รีบเดินออกไป

สราญนอนแน่นิ่งอยู่บนรถเข็น เลือดไหลที่หัว พนักงานเข็นรถด้วยความรีบเร่ง ตรงไปที่ห้องฉุกเฉิน ภัทรน้ำตารื้นวิ่งตาม
“คุณสราญ คุณทำใจดีๆ ไว้ คุณอย่าเป็นอะไรนะ”
รามนรี ย่า ประกายฟ้า เภา ถวิล นิด วิ่งตามมา
“รบกวนญาติรอด้านนอกนะคะ”
สราญถูกเข็นหายเข้าไปในห้องฉุกเฉิน ภัทรยืนหน้าเศร้าหมดแรง ย่ารีบเข้าไปประคองไว้
“ทำใจดีๆ ไว้นะลูก”
ประกายฟ้ามองประตูห้องฉุกเฉิน หน้าเหี้ยมเหมือนจะกินเลือดกินเนื้อ เภาสะกิดนิดให้หันไปมอง ประกายฟ้าคิดในใจ
"ฉันขอให้แกตายไปพร้อมๆ กับความลับของฉันเถอะนะ"
รามนรีหันไปมองประกายฟ้าสงสัย

พวงศรีกับประกันนั่งหน้าเครียดเรื่องประกายฟ้า
“ยัยฟ้าไปทำอีท่าไหน ถึงให้เขาจับได้”
“ฉันก็อยากจะรู้เหมือนกัน แล้วนี่โทรเป็นร้อยครั้งก็ยังไม่ยอมรับสาย ฉันว่า เราไปหาลูกกันดีไหม”
“ไปให้เขาถลกหนังหัวเอารึไง นาทีนี้ต้องตัวใครตัวมันไปก่อน”
“แต่ฉันเป็นห่วงลูก กลัวเขาจะเอาลูกเราเช้าคุก”
“ตอนนี้คงต้องปล่อยให้เขาแก้ปัญหาเองบ้าง ถ้ามีอะไรเดี๋ยวเขาก็โทรมาเองแหละ อย่าลืม ว่าตอนนี้เราก็ยังจะเอาตัวเองไม่รอด”
พวงศรีมองประกันหน้าเครียด
ภูมิเดินหน้าเครียดมาตามทาง ประกายฟ้าแอบมาดักรอ โผเข้าไปหา ร้องไห้อย่างหนัก
“พี่ภูมิขา”
“แม่ผมเป็นยังไง แม่ผมอยู่ไหนฟ้า”
“อยู่ในห้องฉุกเฉิน อาการหนักมากค่ะ”
ภูมิใจคอไม่ดี
“ตามฟ้ามาเร็วค่ะ”

ประกายฟ้าจับมือพาภูมิรีบเดินไป ไผทมองตาม

ย่านั่งโอบไหล่คอยปลอบภัทร ด้วยความห่วงใย
 
“นี่ขนาดทะเลาะกันทุกวันก็ยังรักกันขนาดนี้ แม่สราญเป็นผู้หญิงที่โชคดีจริงๆ”
นิดหันมองออกไป
“คุณภูมิ มาแล้วค่ะ”
ภูมิ ไผท ประกายฟ้า เดินไปที่หน้าห้องฉุกเฉิน ภูมิเห็นพยาบาลเปิดประตูเดินออกมา รีบปรี่เข้าไปหา
“ขอโทษนะครับ ไม่ทราบว่าคนไข้ที่ตกบันได อาการเป็นยังไงบ้างครับ”
“ตอนนี้ยังไม่รู้สึกตัว คุณหมอกำลังช่วยอยู่ค่ะ ขอตัวก่อนนะคะ”
ประกายฟ้ายิ้มดีใจ ไผทแอบมองประกายฟ้าด้วยความสงสัย ประกายฟ้าหันไปเห็นไผทมองมา รีบทำหน้าเศร้า ภูมิยืนหลับตาก้มหน้านิ่ง
“คุณแม่ อย่าเป็นอะไรนะครับ”
“เพราะเดือนฉายคนเดียว ที่ทำให้คุณแม่ต้องเป็นอย่างนี้”
ภูมิเงยหน้ามาตากร้าว
“เขาอยู่ไหน”
ไผทเข้าไปเตือนสติ
“ใจเย็นๆ ก่อนไอ้ภูมิ”
“ฉันเย็นไม่ไหว ต่อให้รักยังไง ถ้ามาทำกับแม่ฉันอย่างนี้ฉันรับไม่ได้ ถอยไป”
“ไปค่ะพี่ภูมิ มันอยู่ทางโน้นค่ะ”
ภูมิผลักไผทให้พ้นทาง ก่อนเดินตามประกายฟ้าออกไป รามนรีเห็นภูมิเดินเข้ามา รีบลุกเข้าไปหาด้วยความห่วงใย
“คุณภูมิ”
ภูมิตบหน้ารามนรี ทุกคนอึ้ง ประกายฟ้ายิ้มสะใจ
“ตอบผมมา ว่าคุณทำกับคุณแม่ผมได้ยังไง”
“คุณหมายความว่ายังไง ฉันไปทำอะไรแม่คุณ”
“ยังจะกล้ามาตีหน้าเซ่อ ผมรู้ว่าคุณไม่ชอบท่าน แต่ผมก็เคยขอโทษและคุณรับปากว่าจะไม่โกรธท่าน แล้วมาทำอย่างนี้ทำไม”
“แต่ฉันไม่ได้ทำ”
“อย่าทำตัวเป็นผู้ร้ายปากแข็ง แล้วแสร้งทำเป็นนางฟ้าผู้อารีหน่อยเลย”
รามนรีหันขวับไปมองประกายฟ้า
“ก็ฉันเห็นกับตา ว่าแกทะเลาะกับคุณแม่ แล้วแกก็ผลักเขาตกลงบันได”
รามนรีมองประกายฟ้า คิดทบทวนเรื่องราว เริ่มเข้าใจ ภัทรมองรามนรีด้วยความผิดหวัง
“รู้ไหม ว่าฉันผิดหวังในตัวเธอมากแค่ไหน ต่อให้เกลียดเขายังไงก็ไม่ควรทำ”
“ไม่จริงนะคะคุณพ่อ หนูไม่มีวันทำอะไรอย่างนั้น ผู้หญิงคนนั้นต่างหากที่เป็นคนทำ”
“อย่ามาใส่ร้ายฉัน ใครๆ ก็รู้ว่า คุณแม่รักฉัน เราไม่เคยมีปัญหาอะไรกัน ฉันจะไปทำอย่างนั้นทำไม”
“แต่ฉันเชื่อ ว่าแม่เดือนไม่ได้เป็นคนทำ”
ภูมิโมโห
“เลิกปกป้องเขาเสียทีคุณย่า เขากล้าทำขนาดนี้ ผมจะไม่มีวันให้อภัย”
“ใจเย็นก่อนไอ้ภูมิ แกอย่าฟังความข้างเดียวสิ”
“เหตุผลที่ฟ้าพูด มันก็เพียงพอที่จะทำให้ฉันได้รู้เช่นเห็นชาติผู้หญิงคนนี้ คนที่ฉันคิดว่าเขาดีมาตลอด แต่ต่อไป ฉันจะไม่มีทางเชื่อ ว่าผู้หญิงคนนี้จะดีจริง”
รามนรีมองภูมิน้ำตาไหลด้วยความเสียใจ ก่อนวิ่งหนีไป ประกายฟ้ายิ้มสะใจ ย่าสบตาไผท หนักใจ

ทุกคนแยกตัวออกมาคุยกันตามมุมต่างๆ ในโรงพยาบาล เภา นิด ถวิล จับกลุ่มกัน เภาเริ่มตั้งข้อสังเกต
“ฉันว่าเรื่องนี้มันชักจะยังไงๆ อยู่นา”
“แต่ก็เป็นไปได้นะ เพราะสองคนนี้เขาไม่ถูกกัน ทะเลาะกันบ่อย” นิดบอก
“แต่ตอนเกิดเรื่อง คุณเดือนเพิ่งแยกจากพวกเราไปแป๊บเดียว จู่ๆ คุณประกายฟ้าก็วิ่งหน้าตั้งเข้ามาบอกว่าคุณเดือนผลักคุณสราญตกบันได”
“ใช่ แล้วเขาจะเอาเวลาที่ไหนไปทะเลาะ แล้วผลักตกบันไดได้ มันไวไปไหมแก”
นิดกลอกตาไปมาครุ่นคิดตาม
“แล้วคู่นี้เขาก็เป็นอย่างนี้มาตั้งนาน ถ้าคุณเดือนจะทำ แกคงทำไปนานแล้ว”
“แล้วแกเห็นไหม ที่ฉันสะกิดให้แกดูหน้ายัยประกายฟ้า ที่มองเหมือนจะแช่งชักหักกระดูกใคร มันไม่ใช่แววตาของความห่วงใยคุณสราญเลยสักนิด”
นิดคิดตามก่อนพยักหน้าเห็นด้วย
“ก็จริง”
“ฉันไม่ได้บอกให้แกเชื่อฉันนะนังนิด แต่ฉันอยากให้แกคิดด้วยเหตุและผล ว่าใครคือคนที่น่าสงสัยกันแน่”
นิดพยักหน้าให้ แค้น
“ถ้าฉันรู้ว่าใครทำกับคุณสราญ ฉันจะไม่ปล่อยมันไว้แน่”
นิดหน้าเครียดเพราะเป็นห่วงสราญ

รามนรีวิ่งออกมา ยืนร้องไห้เสียใจ ย่ากับไผทเดินเข้ามาปลอบ
“อย่าถือเจ้าภูมิมันเลยนะ คนมันกำลังสติแตกอยู่น่ะ”
“ใช่ ตาภูมิเขารักแม่มาก แล้วแม่ประกายฟ้าก็เสี้ยมได้ถูกที่ถูกเวลาจริงๆ”
รามนรีเช็ดน้ำตา
“ไม่เป็นไร หนูเข้าใจเขาดี”
“ผมเชื่อ ว่าคุณไม่ได้เป็นคนทำ”
“ย่าก็เชื่ออย่างนั้น”
เภา ถวิล นิด เดินเข้ามา
“เภากับพี่หวินก็เชื่อ”
“หนู ก็เชื่อแล้วค่ะ”
รามนรีมองซาบซึ้ง
“แล้วเรื่องมันเป็นมายังไง ไหนลองเล่าให้พวกเราฟังสิ”

รามนรีเล่าเรื่องให้ทุกคนฟัง
 
จบตอนที่ 24 
กำลังโหลดความคิดเห็น