เอาโล่ไปเลย ลูกกตัญญู “ตั๊ก-บงกช” สละไตเพื่อแม่

เมื่อแรกเข้าวงการใหม่ๆ เราอาจจะเคยเห็นข่าว และภาพที่ “ตั๊ก-บงกช เบญจรงคกุล” (บงกช คงมาลัย) มีปากเสียงกับ “แม่เล็ก-ธนาภา ชีพนุรัตน์” หลายครั้งหลายคราวตามประสาวัยรุ่น การพูดการจากับแม่ ก็ไม่ได้ไพเราะเสนาะหูเท่าไหร่ ซึ่งก็ต้องไม่ลืมว่าเธอเองก็ไม่ได้เกิดในตระกูลไฮโซแต่อย่างใด ถ้าพูดภาษาบ้านๆ ก็คือเป็นลูกของแมค้าธรรมดาๆ คนหนึ่ง

แต่ในอีกแง่มมุมหนึ่ง ก็เป็นที่รับรู้กันดีว่า....เธอรักแม่มาก

โดยเฉพาะในวันนี้ ที่ตั๊กเอง ก็มีสถานภาพเป็น “แม่” คนแล้ว เธอจึงยิ่งรับรู้ถึงความรัก และความปรารถนาดีที่แม่มีต่อลูกอย่างเต็มอก

การที่ตั๊กได้แต่งงานกับเจ้าสัวหมื่นล้าน อย่าง “บุญชัย เบญจรงคกุล” หลายคนคิดไกลไปถึงขนาดว่า งานนี้ทั้งตั๊ก และแม่เล็กของเธอ คงสบายไปทั้งชาติ ตั๊กอาจจะตอบแทนบุญคุณแม่ด้วยการพาแม่ท่องเที่ยวรอบโลก ซื้อคฤหาสน์หลังโตให้ หรืออะไรต่อมิอะไรก็ได้ เท่าที่เงินจะบันดาลให้ได้

แต่บางทีแม้จะมีเงินทองมากมาย ก็ไม่ใช่คำตอบสุดท้ายของชีวิต เพราะที่สุดแล้ว สุขภาพที่ดีนั้นย่อมสำคัญกว่า
ซึ่งทุกคนก็รับรู้กันมาตลอดว่า แม่เล็กของตั๊กนั้น เจ็บป่วยออดแอดๆ ด้วยสารพัดโรคที่รุมเร้ามานานตามสังขารที่ร่วงโรยลงทุกวัน โดยเฉพาะโรคไต อันเป็นเหตุให้ต้องฟอกไตถึงสัปดาห์ละ 4 ครั้ง ซึ่งการฟอกไตแต่ละครั้งนั้น ใช้เวลาไม่ต่ำกว่า 3 ชั่วโมง ยังไม่นับเรื่องที่จะต้องทนทุกข์ทรมานกับอาการเดินเหินไม่สะดวก ไม่สามารถที่จะใช้ชีวิตเยี่ยงคนปกติได้

ในฐานะของลูก วันนี้ตั๊กจึงได้แสดงความกตัญญูกตเวทีครั้งยิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิต ด้วยการเสียสละไตข้างหนึ่งให้กับแม่ ซึ่งถือว่าเป็นการกระทำที่สมควรอย่างยิ่งที่จะต้องนำมากล่าวชื่นชม ซึ่ง ณ ตอนนี้เธอก็ได้ผ่านขั้นตอนของการตรวจเลือดเรียบร้อยแล้ว ว่าสามารถสละไตให้กับแม่ได้ เหลือเพียงขั้นตอนการนัดผ่าตัดเพื่อเปลี่ยนถ่ายเท่านั้น

"ที่ผ่านมาก็คอยอธิษฐานจิตตลอดเวลา ซึ่งตอนนี้ผลตรวจออกมาแล้วพบว่า สามารถเข้ากันได้ ก่อนหน้านี้แม่ตั๊กเป็นโรคไต ต้องฟอกไตอาทิตย์ละ 4 ครั้ง และก็มีอาการเหนื่อยหอบ ซึ่งในอนาคตก็คาดว่าน่าจะต้องฟอกไตมากกว่าเดิมอีกหลายเท่า และการฟอกเพิ่มขึ้นก็จะทำให้แม่ลำบากมากกว่าเดิม เพราะว่าแม่จะไปไหนไม่ได้ เหมือนกับการจะใช้ชีวิตจะลำบากมากขึ้น และการฟอกไตแต่ละครั้งต้องใช้เวลานานกว่า 3 ชม. แม่ก็เลยไปปรึกษาหมอที่โรงพยาบาลที่แม่ไปฟอกไต หมอแนะนำว่าถ้าแม่เปลี่ยนไตจะดีกว่า แม่จะได้ไม่ต้องฟอกไตอีก และถ้าแม่ดูแลตัวเองดีตลอดและมีไตใหม่มาทดแทนไตเดิม แม่ก็จะไม่ต้องฟอกไต แม่จะไม่ได้เป็นโรคไตแล้ว แม่จะเป็นแค่เบาหวาน และโรคหัวใจเท่านั้น

โรคไตของแม่เป็นมาเกือบ 2 ปีที่ผ่านมา สาเหตุเกิดมาจากโรคเบาหวานที่แม่เป็นก่อนหน้านี้ แม่ต้องกินยาเยอะมาก หรือบางทีแม่อาจจะเผลอไปกินขนมเลยทำให้เบาหวานขึ้น ความดันขึ้นๆ ลงๆ พอเป็นแบบนี้แล้วทำให้กินยามากขึ้น ไตก็เลยทำงานหนัก แม่ก็มีฉีดยาด้วย เลยกลายเป็นโรคไต อย่างก่อนหน้านี้ที่ทุกคนเจอหน้าแม่ จะรู้สึกว่ายังดูโอเค อยู่ ก็เพราะว่าหลังจากฟอกไตแล้ว จะดูเหมือนสดชื่นขึ้น แต่ก็จะเพียงแค่ 1 วัน และพอวันรุ่งขึ้นก็จะไม่สดใส อารมณ์แปรปรวน อ่อนเพลีย ผิวจะเริ่มคล้ำ

แม่ก็จะมีอารมณ์เหวี่ยงๆ บ้าง โทร มาหาตั๊กก็จะบ่นว่าปวดหัว ปวดตัวตลอด ตั๊กรู้ว่าแม่ทรมาน แต่คนอื่นอาจจะไม่เห็นอารมณ์แบบนี้ ที่ผ่านมาแม่กินยามาตลอด เม็ดละ 500 บาท กินเป็นสิบๆ เม็ด วันละ 3 มื้อ หมอก็เลยให้แม่ไปเจอนักโภชนาการ ซึ่งก็ได้รับคำแนะนำเกี่ยวกับการกินยังไงให้เหมาะสมกับคนเป็นโรคไต”

ส่วนเหตุผลที่ตัดสินใจบริจาคไตให้กับแม่นั้น ตั๊กเล่าว่า

“พอหมอแนะนำให้เปลี่ยนไต แม่ก็เลยมาบอกว่าที่กาชาดเขามีบริจาคไต แม่อยากจะได้ ตั๊กลองติดต่อให้หน่อยนะ หนูก็บอกไปว่าแม่แข็งแรงพอที่จะผ่าตัดหรือเปล่า แม่ก็รีบตอบเลยว่าแม่แข็งแรงพอ หมอบอกว่าโอเค ตั๊กเลยกลับไปปรึกษาหมออีกครั้ง ซึ่งหมอก็บอกว่าแม่แข็งแรงพร้อมที่จะผ่าตัด แต่ถ้าแม่ได้ไตใหม่จะดีมาก

ตั๊กก็มาปรึกษากับสามีว่าการที่เราไปขอไตที่เขามาบริจาคเป็นยังไง สามีเลยแนะนำให้ไปคุยกับหมอเกี่ยวกับไตที่โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ หมอบอกว่าเรื่องการที่คนมาบริจาคไตให้กับคนที่ไม่ใช่ญาติพี่น้อง เนื้อเยื้อจะต่างกัน ดีเอ็นเอจะต่างกัน แม้จะผ่าตัดกันไปแล้วเข้ากันได้บ้าง แต่ก็อาจจะมีการโอกาสติดเชื้อ อาจจะมีผลในเรื่องของไตวายสูง แต่ถ้าคุณตั๊กให้ไตคุณแม่ หมอว่าก็โอเค นะ มีโอกาสเป็นไปได้ เพราะคุณตั๊กเป็นลูก มีดีเอ็นเอที่เหมือนกัน แต่คุณตั๊กต้องตรวจเลือดก่อนว่าเลือดเข้ากันได้ไหม เพราะเลือดคุณแม่เป็นบี ส่วนของตั๊กเป็นโอ และพอไปตรวจกรุ๊ปโอให้ใครก็ได้

ตั๊กเลยตัดสินใจบอกแม่กลับไปว่า แม่เอาไตตั๊กนี่แหละ ไม่ต้องขอบริจาคจากไตคนอื่นหรอก แม่ก็ตอบกลับมาว่าไม่เอาหรอก ตั๊กต้องเลี้ยงลูก ต้องอยู่กับลูก เพราะการปลูกถ่ายไต คนที่บริจาคไตให้นั้นต้องดูแลตัวเองดีๆ ถ้าดูแลไม่ดี ไตอาจจะเสื่อมลง เผลอๆ อาจจะถึงขั้นไตวายก็เป็นได้ ตั๊กก็เลยบอกแม่ว่าอย่าคิดมากเลย ไม่อยากให้แม่ต้องมานั่งเครียดนั่งทุกข์ เพราะเวลาที่แม่ต้องไปฟอกไตก็จะมาบ่นว่าปวดหัว ปวดขา ขาบวม เพระต้องเจาะโน่นเจาะนี่ ตอนนี้แม่พรุนไปทั้งตัวแหละ เพราะเจาะทั้งวัน

ตอนตั๊กเด็กๆ แม่ลำบากมาก พอแม่แก่ แม่จะเอาร่างกายที่ดีมาจากไหน เพราะตั้งแต่สาวๆ แม่ก็ทำงานหนักมาโดยตลอด ตั๊กก็เลยคิดว่าอยากให้แม่มีไตใหม่”

ยืนยันไม่กลัวเรื่องผลข้างเคียง เชื่อว่าสั่งสมบุญมามากพอ

“ผลข้างเคียงหลังจากที่ตั๊กเอาไตให้แม่ไปแล้วนั้น ก็ต้องดูแลตัวเองให้ดี เพราะว่าไตมันเป็นอวัยวะที่ใช้ฟอกของเสีย และหมอเขาก็ยังบอกว่าคนที่มีไตเดียวยังสามารถทำงานได้ดีกว่าคนที่มี 2 ไตเลย เหมือนเคสบางคนที่มีไตเดียว มันเหมือนเป็นการทดแทนในส่วนที่ไตไม่มีแล้ว เผลอๆ การทำงานอาจจะทำงานดีถึง 90 เปอร์เซ็นต์เลยก็ได้ เราก็ใจชื้นขึ้นมา

แต่หนูก็เชื่อในเรื่องของบุญไง คือเรื่องความกตัญญูมันเป็นหน้าที่ของลูกอยู่แล้ว มันไม่ใช่การปฏิบัติ แต่มันเป็นหน้าที่ของลูกอยู่นะ เพราะตอนเด็กๆ ตั๊กกับแม่เองก็ฝ่าฟันอะไรมาเยอะ และแม่ก็หยิ่งไม่ได้ไปขอใครกิน ตั้งแต่เลิกกับพ่อหนู”
ขณะที่แม่เล็กก็บอกว่า ในชีวิตที่มีตั๊กเป็นลูกนั้น ยิ่งกว่าถูกหวยรางวัลที่หนึ่ง 100 ใบ

“สำหรับตั๊ก แม่ถูกหวยรางวัลที่หนึ่ง 100 ใบก็ยังไม่ภูมิใจเท่ากับลูกคนนี้เลยนะ เขากตัญญู ก็ขอให้เขาเจริญๆ ทุกวันนี้เขาทำบุญกับแม่ ทำบุญกับพระ ทำทานอีก เวลามีข่าวอะไรเขาไม่ค่อยปรึกษาแม่ แม่ฟังจากคนอื่น เขาเห็นแม่ไม่สบายก็ไม่อยากให้เครียด ลูกเข้าใจเรา เขาเป็นแม่คนนะ ตอนนี้เขาดีกว่าเก่าเยอะมาก ถามว่ายังหวงอะไรลูกคนนี้ เอาจริง ๆ ไม่หวงนะ เขาแต่งงานกับคุณบุญชัยก็เป็นบุญของแม่มากแล้ว คือเราไม่ต้องเป็นห่วงเขา"

จากภาพพจน์ของ “อึ๋มผ่าซาก” ที่ขายความเซ็กซี่ และมีข่าวคราว มีเรื่องราวกระทบกระทั่งกับคนนั้นคนนี้อยู่เนืองๆ เพราะความที่พูดจาตรงไปตรงมา วันนี้ของ “ตั๊ก-บงกช” เธอคือแม่ที่ดีของลูก และในขณะเดียวกัน ก็ลูกที่ดีของแม่

ASTV. ผู้จัดการสุดสัปดาห์ ขอชื่นชมในความกตัญญูของเธอจากใจจริง

ที่มานิตยสารASTV สุดสัปดาห์ ฉบับที่ 304 5-11 กันยายน 2558